เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

เครื่องมือ File Explorer เป็นเครื่องมือบริหารจัดการไฟล์ (File Management Tool) ในระบบปฏิบัติการ Windows อย่างไรก็ตาม บางครั้งมันอาจจะทำงานได้ช้ากว่าปกติ โดยคุณจะรู้สึกว่าเวลาที่เปิดไฟล์, คัดลอกไฟล์ หรือค้นหาไฟล์ มันใช้เวลาในการแสดงผลลัพธ์นานกว่าที่ควรจะเป็น

บทความเกี่ยวกับ Microsoft อื่นๆ

หากคุณประสบปัญหาในการใช้งานเครื่องมือ File Explorer รู้สึกว่าทำไมมันช้าจังนะ ? ในบทความนี้ เราจะมีวิธีการแก้ปัญหาเวลาที่เครื่องมือ File Explorer ทำงานผิดปกติมาแนะนำกัน

1. รีสตาร์ท File Explorer(Restart File Explorer)

มาเริ่มกันที่วิธีแก้แบบพื้นฐานกันก่อน นั่นคือการรีสตาร์ท File Explorer ให้มันเริ่มต้นทำงานใหม่ สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Ctrl + Shift + Esc" บนคีย์บอร์ด เพื่อเปิด "เครื่องมือ Task Manager" ขึ้นมา
  2. คลิกที่ "แท็บ Processes" เลื่อนหาส่วนของ "Windows Explorer"
  3. คลิกขวาที่ "Windows Explorer" แล้วเลือก "เมนู Restart"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

  1. หากยังไม่หาย ให้ลองใช้วิธีปิด File Explorer ไปเลย แล้วเปิดใช้งานใหม่แบบแมนนวลแทน
  2. โดยทำเหมือนเดิม แต่แทนที่จะเลือก "เมนู Restart" ให้เราเลือก "เมนู End task" แทน
  3. คลิกที่ "เมนู File" แล้วเลือก "เมนู Run new task"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

  1. ภายใน "หน้าต่าง Create new task" พิมพ์ลงไปว่า "explorer.exe" แล้วกด "ปุ่ม OK"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

2. ลดจำนวนโปรแกรมที่ถูกใช้งานอยู่(Reduce the number of running apps)

หากคุณเปิดโปรแกรมใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมาก โดยที่สเปคของคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้งานอยู่ไม่แรงพอ ก็จะส่งผลต่อความเร็วในการทำงานของ File Explorer ได้ ซึ่งในความเป็นจริงมันก็จะช้าลงทั้งระบบเลย ไม่ได้ช้าแค่เพียง File Explorer

ดังนั้น หากรู้สึกว่า File Explorer ทำงานได้ช้าลง ให้เราลองลดจำนวนโปรแกรมที่เปิดอยู่ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่มชุด Ctrl + Shift + Esc" บนคีย์บอร์ด เพื่อเปิด "แอป Task Manager" ขึ้นมา
  2. คลิกที่ "แท็บ Processes"
  3. ใต้หัวข้อ Apps ให้เราคลิกขวาที่ชื่อโปรแกรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานในขณะนั้น แล้วเลือก "เมนู End Task"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

3. ปิดคุณสมบัติ Quick Access และล้างประวัติ File Explorer(Disable Quick Access Feature and Clear File Explorer History)

Quick Access เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของ File Explorer โดยเมื่อเราเรียกใช้งานเครื่องมือ File Explorer มันจะแสดงรายชื่อไฟล์ และโฟลเดอร์ล่าสุดที่ถูกใช้งานให้ ถึงแม้มันจะเป็นคุณสมบัติที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้เข้าถึงไฟล์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว แต่หากคอมพิวเตอร์ไม่แรงพอก็จะทำให้ File Explorer ทำงานช้าลงได้เช่นกัน

เราสามารถปิดคุณสมบัติ Quick Access และล้างประวัติ File Explorer ได้ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + e" เพื่อเปิด "แอป File Explorer" ขึ้นมา
  2. คลิกที่ "ปุ่ม..." บนแถบเมนู แล้วเลือก "เมนู Options"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

  1. ในหน้าต่าง Folder Options ให้คลิกที่ "แท็บ General"
  2. ตรงหัวข้อ "Open File Explorer to" ให้เปลี่ยนจาก "Quick access" เป็น "This PC"
  3. ตรงหัวข้อ "Privacy" เอาเครื่องหมาย "☑" หน้า "เมนู Show recently used files in Quick access" และ "เมนู Show frequently used folders in Quick access" ออก
  4. คลิก "ปุ่ม Clear" 
  5. คลิก "ปุ่ม OK"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

4. ตั้งค่าเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานของโฟลเดอร์(Optimize Folder Performance)

หากรู้สึกว่า File Explorer ทำงานได้ปกติ แต่จะมีเฉพาะบางโฟลเดอร์เท่านั้นที่ทำงานช้า กว่าจะแสดงรายชื่อไฟล์ในโฟลเดอร์ได้ต้องใช้เวลานานผิดปกติ หากเจอปัญหาในลักษณะนี้ ให้ลองเข้าไปตั้งค่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโฟลเดอร์ดู ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. คลิกขวาที่โฟลเดอร์ที่พบปัญหา แล้วเลือก "เมนู Properties"
  2. ไปที่ "แท็บ Customize"
  3. ที่หัวข้อ "Optimize this folder for" คลิกเลือกปรับค่าเป็น "General Items"
  4. คลิกเพิ่ม "☑" ที่ "เมนู ☑ Also apply this template to all subfolders"
  5. คลิก "ปุ่ม OK"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

วิธีแก้ปัญหาสุดท้ายที่เราหยิบมาแนะนำ จะเป็นการใช้เครื่องมือช่วยเหลือ Troubleshoot ในการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาใน "Windows search" และ "Indexing service"

โดย  "Windows search" และ "Indexing service" นั้นเป็น Service ที่ทางระบบปฏิบัติการ Windows ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบค้นหา อย่างไรก็ตาม หากทั้งคู่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของ File Explorer ให้ทำงานช้าลงได้เช่นกัน

ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เราสามารถใช้เครื่องมือช่วยเหลือ Troubleshoot ที่มีอยู่แล้วในระบบปฏิบัติการ Windows ด้วยขั้นตอนดังนี้

  1. กด "ปุ่ม Windows + R" เพื่อเปิด "แอป Run"
  2. พิมพ์ลงไปว่า "control" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
  3. และ "หน้าต่าง Control Panel" จะถูกเปิดขึ้นมา
  4. ตรง View by: ปรับเป็น "Small icons"
  5. คลิกที่ "ไอคอน Indexing Options"
  6. คลิกที่ "เมนู Troubleshoot search and indexing"

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด

  1. คลิกเลือกที่หัวข้อ "☑ Search or indexing is slow"
  2. คลิกที่ "ปุ่ม Next" เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และแก้ไข

เราสามารถเปิด File Explorer ได้จากที่ใด


ปัญหา File Explorer ค้าง หรือทำงานช้าเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดเวลาที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์ ก็หวังว่าวิธีการต่าง ๆ ที่เราแนะนำในบทความนี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาให้คุณผู้อ่านได้นะ