Share:
การตรวจ DNA หรือตรวจยีน คือการตรวจการเปลี่ยนแปลงของยีน รวมทั้งตรวจจำนวน การเรียงตัว และโครงสร้างของโครโมโซม โดยใช้ตัวอย่างเนื้อเยื่อ เลือด ปัสสาวะ หรือน้ำลาย การตรวจชนิดนี้มีประโยชน์หลายด้าน เช่น วินิจฉัยปัญหาสุขภาพอันเกี่ยวเนื่องกับลักษณะทางพันธุกรรม ตรวจหาพาหะโรคทางพันธุกรรมของพ่อแม่ก่อนตัดสินใจมีบุตร ตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหาตัวผู้ร้ายที่ก่อคดีอาชญากรรม เป็นต้น DNA (ดีเอ็นเอ) หรือกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก (Deoxyribonucleic Acid) คือสารพันธุกรรมชนิดหนึ่ง โดยเซลล์เกือบทุกเซลล์ในร่างกายแต่ละคนมี DNA ลักษณะเดียวกันอยู่ในนิวเคลียส รูปร่างเป็นเกลียวคู่คล้ายบันได ภายใน DNA มีสารเคมีที่ประกอบกันเป็นรหัสพันธุกรรม ได้แก่ อะดีนีน (Adenine: A) กัวนีน (Guanine: G) ไซโตซีน (Cytosine: C) และไทมีน (Thymine: T) ซึ่งมีหน้าที่จำลองและถ่ายทอดพันธุกรรม ทำไมต้องตรวจ DNA การตรวจ DNA มีวิธีแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ พิสูจน์ความเป็นบิดา ตรวจหาโรคทางพันธุกรรม และตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ มีรายละเอียดดังนี้
ตรวจ DNA ทำได้อย่างไร ขั้นตอนการตรวจ DNA ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การเตรียมตัวก่อนตรวจ และการเข้ารับการตรวจ มีรายละเอียดดังนี้
ผลการตรวจ DNA เป็นอย่างไร ผลการตรวจ DNA ต้องอาศัยการตีความและคำอธิบายที่ชัดเจน ผู้ที่เข้ารับการตรวจจึงควรปรึกษาแพทย์หลังทราบผล โดยซักถามข้อสงสัยหรือปรึกษาปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจความหมายของผลตรวจอย่างชัดเจน ผลตรวจ DNA แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะตามวัตถุประสงค์ในการตรวจ ดังนี้
ความเสี่ยงจากการตรวจ DNA มีอะไรบ้าง การตรวจ DNA หรือตรวจยีนนั้นมีประโยชน์หลายประการ แต่มีความเสี่ยงจากการเข้ารับการตรวจอยู่บ้างได้แก่ ความเสี่ยงจากขั้นตอนการตรวจ และความเสี่ยงที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต ดังนี้
นอกจากนี้ การตรวจ DNA ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้เท่านั้น แต่ไม่อาจระบุอาการป่วย ระดับความรุนแรงของอาการ หรือการแพร่กระจายของโรคได้ ทั้งยังกำหนดวิธีรักษาปัญหาสุขภาพที่ตรวจพบไม่ได้ในทันที ผู้ที่ต้องการตรวจ DNA ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์ ความเสี่ยง และข้อจำกัดของการตรวจ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับการตรวจ Share: |