กิจกรรมเป็นกลุ่มมีประโยชน์อย่างไร

สำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีมย่อมส่งผลดีต่อองค์กรอยู่แล้ว ซึ่งหากทีมมีขนาดใหญ่และให้ความร่วมมือกันมากแค่ไหน ก็จะช่วยทำให้องค์กรขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง

กิจกรรมเป็นกลุ่มมีประโยชน์อย่างไร

สำหรับวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับคำว่า Team Building ว่าหมายถึงอะไร และมีประโยชน์ในการทำงานร่วมกันอย่างไร

กิจกรรมเป็นกลุ่มมีประโยชน์อย่างไร

Team Building คืออะไร

  • Team Building หรือ การสร้างทีมสัมพันธ์ หมายถึง กระบวนการที่ทำให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทั้งในระดับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความสัมพันธ์ร่วมกันทั้งกลุ่ม ซึ่งจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้นจนเกิดการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

ลักษณะของ Team Building ควรเป็นอย่างไร

  1. สร้างเป้าหมายในอนาคตร่วมกัน การสร้างทีมสัมพันธ์นี้ก็คือการต้องสามารถมองเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน การมีเป้าหมายที่เป็นจุดเดียวกันนี้ก็เพื่อทำให้ทุกคนเห็นทิศทางของตนและขององค์กรที่ชัดเจน รวมถึงขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  2. ฝึกฝนทักษะในการสื่อสาร และแสดงความคิดเห็น การสื่อสารผิดพลาด หรือสื่อสารไม่ตรงกัน มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายได้มาก ดังนั้นกิจกรรมสร้างทีมสัมพันธ์ที่ดีมักจะฝึกทักษะในการสื่อสารไปในตัว ตั้งแต่เนื้อหาที่สื่อสารตลอดจนวิธีสื่อสารระหว่างกัน รวมถึงการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน

  3. ฝึกฝนทักษะในการแก้ปัญหา การทำกิจกรรมควรฝึกฝนการทำงานในระบบทีมและเสริมสร้างความร่วมมือร่วมใจกัน และเมื่อเกิดความสามัคคีขึ้นก็ย่อมทำให้การทำงานนั้นเกิดประสิทธิภาพและสร้างความสำเร็จให้กับองค์กรได้นั่นเอง

  4. ฝึกความสามัคคี และประนีประนอมร่วมกัน ทักษะหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อพนักงานในองค์กรนั้นก็คือทักษะในการแก้ปัญหานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การแก้ปัญหาส่วนบุคคล และการแก้ป้ญหาระบบทีม ก็มีส่วนทำให้องค์กรผ่านพ้นอุปสรรคและวิกฤตไปได้

กิจกรรมเป็นกลุ่มมีประโยชน์อย่างไร

ประโยชน์ของ Team Building

  1. ทำให้ทุกคนในองค์กรรู้จักทำงานร่วมกันเพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย

  2. ทำให้คนในองค์กรมีความมัคคี และเคารพกันมากยิ่งขึ้น

  3. ทำให้สร้างทัศนคติที่ดีในการทำงาน

  4. ทำให้คนในองค์กรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

  5. ทำให้ทุกคนในองค์กรสามารถแก้ไขปัญหาร่วมกันได้

จะเห็นได้ว่าการสร้างทีมสัมพันธ์ (Team Building) เป็นสิ่งที่องค์กรควรนำมาใช้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในองค์กรให้ไปในทิศทางเดียวกัน ร่วมมือกัน สร้างเป้าหมายเดียวกัน เพื่อให้ทุกคนร่วมกันทำให้เกิดความสำเร็จได้นั่นเอง

ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick

Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน

ความแตกต่างของแพ็คเกจ Flare Dash ทั้ง 3 แบบ

หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน

กิจกรรมเป็นกลุ่มมีประโยชน์อย่างไร

          การทำงานอยู่ในองค์กรเดียวกัน ก็เหมือนกับการลงไปอยู่ในเรือลำเดียวกัน เมื่อต้องการไปให้ถึงจุดหมาย สมาชิกทุกคนที่อยู่ในเรือก็ต้องช่วยกันพายเรือ ยิ่งช่วยกันพายมากเท่าไร เราก็ยิ่งไปสู่ความสำเร็จในการทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น ไม่เหมือนกับการต้องทำงานคนเดียว หากอยากจะไปให้เร็วขึ้นก็ต้องยิ่งทำงานให้มากขึ้น

          แม้ว่าการทำงานคนเดียวจะทำให้เราได้รับความสำเร็จอย่างที่ใจเราคิด ไม่ต้องเสียเวลารอใคร ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเป็นตัวถ่วงที่จะทำให้การทำงานของเราช้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าการทำงานคนเดียวนั้น เป็นการทำงานที่เหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังทำให้เราไม่ได้ฝึกทักษะการปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นด้วย

          หลาย ๆ องค์กรเล็งเห็นว่าการทำงานเพียงคนเดียวนั้น ทำให้การทำงานสำเร็จผลช้า หากยังมัวมานั่งทำงานโดยใช้กำลังคนเพียงไม่กี่คนในการทำงานหลาย ๆ อย่าง เราคงไปถึงความสำเร็จได้ไม่ทันใจอย่างแน่นอน แต่หลายคนก็ยังคงเกิดคำถามขึ้นภายในใจว่า จริงหรือไม่ที่การทำงานเป็นทีมจะให้ผลสำเร็จของงานดีกว่าการทำงานเพียงคนเดียว แล้วมีจุดใดบ้างที่การทำงานคนเดียวให้ผลดีกว่าการทำงานเป็นทีม ลองมาดูการเปรียบเทียบที่ทำให้เห็นข้อแตกต่างของการทำงานทั้ง 2 แบบ ดังนี้

          1. ความรวดเร็วในการทำงาน

  • ทำงานคนเดียว: การทำงานทุกอย่างโดยอาศัยคนเพียงคน ๆ เดียว ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ใจเราคิด เรียกได้ว่างานเสร็จเร็ว แต่เหนื่อย เพราะงานแต่ละอย่างต้องอาศัยทักษะในการทำงานที่ต่างกัน หากเราต้องทำงานที่ไม่เคยทำมาก่อน เราจะรู้สึกว่าการทำงานของเราไม่ราบรื่น ติดขัด
  • ทำงานเป็นทีม: หากมีงานหนึ่งงานใดที่เราไม่เคยทำมาก่อน เราสามารถให้คนที่เชี่ยวชาญกว่าทำแทนเราได้ อีกทั้งการทำงานแบบส่งต่อกันเป็นทอด ๆ ยังช่วยให้การทำงานของเรารวดเร็วขึ้น เราเพียงแค่ทำงานส่วนของเราให้ดีที่สุด จากนั้น ให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นช่วยทำงานส่วนของเขาต่อ การทำงานก็จะเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว

          2. ความร่วมมือในการตัดสินใจ

  • ทำงานคนเดียว: การทำงานเพียงคนเดียว ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องรอการตัดสินใจของคนอื่น เพียงแต่เราต้องมั่นใจในความสามารถของตัวเราเอง เราต้องรู้ว่าการตัดสินใจของเราจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่
  • ทำงานเป็นทีม: อาจจะเสียเวลาในการรอความคิดเห็นจากคนอื่น แต่ทุกคนในทีมได้มีส่วนร่วม ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเราได้ทำตามความคิดเห็นของส่วนรวม ไม่ใช่ความคิดของคนใดคนหนึ่ง หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เราก็ไม่ต้องมาโทษว่าเป็นความผิดของใคร เพราะทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ทำให้เกิดความผูกพันธ์ในทีมมากขึ้น

          3. ความคิดสร้างสรรค์

  • ทำงานคนเดียว: การทำงานเพียงคนเดียวทำให้ความคิดสร้างสรรค์ไม่หลากหลายเท่าที่ควร หรือหากจะต้องคิดให้หลากหลาย เราก็ต้องคิดให้เหมือนว่ามีคนหลายคนช่วยกันคิดอยู่ ซึ่งค่อนข้างใช้พลังงานในการทำงานมากกว่าเดิม ทำให้เหนื่อยมากกว่าเดิม
  • ทำงานเป็นทีม: การทำงานเป็นทีมทำให้เราได้ความคิดเห็นที่หลากหลาย การที่มีคนหลาย ๆ คนช่วยกันคิด จะทำให้เราได้แนวคิดที่หลากหลาย สามารถนำไปปรับใช้ได้มากขึ้น และทุกคนยังมีส่วนร่วมในการทำงาน ในการออกความคิดเห็นเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดด้วย

          4. การสร้างความสัมพันธ์

  • ทำงานคนเดียว: เมื่อเราต้องทำงานคนเดียว เราแทบจะไม่ได้มีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับใคร ไม่ได้คุยกับใครเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หากเรากำลังหาคำตอบให้กับงานที่กำลังทำอยู่ เราจะต้องคิดเพียงลำพัง ไม่มีคนคอยให้คำปรึกษา อาจจะทำให้เราเกิดความเครียดได้
  • ทำงานเป็นทีม: เมื่อต้องทำงานเป็นกลุ่ม อาจจะมีบ้างที่ผิดใจกัน หรือทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราจะกลับมาคุยกันดี ๆ ได้ เพราะความสัมพธ์ที่มาจากการทำงานเป็นทีม จะช่วยให้เราไม่สามารถโกรธกันได้นาน เพราะเรามีความรับผิดชอบที่มีต่อส่วนรวมร่วมกัน

          5. ทำงานที่ตรงกับความสามารถ

  • ทำงานคนเดียว: เมื่อเราต้องทำงานคนเดียว เราต้องเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน ไม่มีสิทธิเลือกว่าจะทำงานส่วนนี้ แต่ไม่ทำงานส่วนนี้ได้ เพราะในทีมมีเราเพียงคนเดียว ไม่สามารถโอนย้ายไปให้คนอื่นทำได้ เรียกได้ว่าคนหนึ่งคนต้องทำงานให้ครบทุกอย่าง
  • ทำงานเป็นทีม: เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะทำงานอะไร เพราะทุกคนต้องแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน หากเราไม่ถนัดที่จะทำงานอีกอย่าง เราสามารถเลือกมาทำงานอีกอย่างได้ เพียงแต่ต้องบอกความจำเป็น และขีดจำกัดของความสามารถของเราให้ทีมได้รับรู้ก่อน การได้ทำงานที่ตรงกับความสามารถ จะช่วยให้เราทำงานออกมาได้ดี

          ก่อนที่เราจะตัดสินว่างานแบบนี้ทำคนเดียวดีกว่า หรือทำแบบเป็นทีมดีกว่านั้น อาจจะต้องดูบริบทของงานให้รอบด้านเสียก่อน เพราะงานบางงานก็เหมาะกับวิธีการบางอย่าง จะเหมารวมว่าต้องใช้วิธีการทำงานแบบทีมโดยตลอดก็คงไม่ได้ เพียงแต่ต้องเลือกให้ถูกวิธี การทำงานก็จะราบรื่น และประสบผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

กิจกรรมเป็นกลุ่มมีประโยชน์อย่างไร

คว้างานที่ใช่ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เทคนิคการสร้างทีมเวิร์คเพื่อขับเคลื่อนองค์กร

เทคนิคการทำงานเป็นทีมให้เกิดประสิทธิภาพ