ตารางนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา 2022

ถ้าคุณอยากไปท่องเที่ยวที่สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Hollywood, California หรือ Las Vegas, Nevada อย่างแรกที่เราจะต้องมีเลยคือวีซ่าท่องเที่ยวที่จะพาเราสามารถเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ แต่ใครๆก็บอกว่าวีซ่าอเมริกานั้นขอยาก จะจริงหรือไม่วันนี้มาทำความรู้จัก-ข้อมูลสำคัญในการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกากันตามหัวข้อด้านล่างนี้กันเลย

Show

เพื่อให้การขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ด้วยนะ

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาปี 2022

Table of Contents

  • 1.คำถามที่พบบ่อย
    • วีซ่าท่องเที่ยวคืออะไร
    • วีซ่าท่องเที่ยวขอยากไหม?
    • ใช้เวลาดำเนินการนานไหมแล้วจะทราบผลได้อย่างไร
    • ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วีซ่าท่องเที่ยวถูกปฏิเสธ
    • มีเงินเก็บไม่พอใช้สปอนเซอร์ได้ไหม
  • 2.ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
  • 3.คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาควรมีอะไรบ้าง
  • 4.ขั้นตอนการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา
    • ยื่นคำร้องออนไลน์
    • การชำระค่าธรรมเนียม
  • 5.เอกสารการขอวีซ่าอเมริกาต้องมีอะไรบ้าง?
    • เอกสารสำคัญในการขอวีซ่า
    • เอกสารอื่นๆ
  • 6.การสัมภาษณ์วีซ่าซึ่งสามารถรู้ผลโดยทันที
  • 7.สถานที่ยื่นวีซ่าอเมริกา
    • กรุงเทพฯ
      • สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย
    • เชียงใหม่
      • สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่
  • 8.บริการของเรา
  • 9.ผลงานการขอวีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาของเรา

1.คำถามที่พบบ่อย

วีซ่าท่องเที่ยวคืออะไร

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา คือวีซ่าที่ใช้เพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อน ในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานมาก ถ้าได้รับการอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกาส่วนมากจะได้แบบ 10 ปี เดินทางได้หลายครั้ง (10 years multiple visa) ซึ่งแต่ละครั้งจะอยู่ได้นานเท่าไรนั้นจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ณ ตอนที่เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาว่าจะแสตมป์ให้เท่าไร โดยมากแล้วถ้าเดินทางเข้าออกครั้งแรก หรือเดินทางเข้าออกไมบ่อยก็จะได้ 3-6 เดือน สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวที่อเมริกานั้นจำเป็นต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวก่อน ซึ่งโดยปกติแล้ววีซ่าท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจนั้นจะจัดอยู่ในประเภทวีซ่าชั่วคราวประเภท B โดยแบ่งเป็น B-1 วีซ่าเพื่อธุรกิจ และ B-2 วีว่าสำหรับการท่องเที่ยว ทั้งนี้วีซ่า 2 แบบนี้จะออกเป็นวีซ่าเดียวกันคือ (B1/B2)

วีซ่าท่องเที่ยวขอยากไหม?

สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกา ถือว่าติดอันดับต้นๆหรืออันดับแรกที่ขอผ่านอยาก แต่ถ้าได้มาครอบครองแล้วส่วนมากจะได้แบบ 10 ปีซึ่งสามารถเดินทางเข้าออกได้หลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่จะค่อนข้างเคร่งครัดมากเป็นพิเศษ ซึ่งวีซ่าจะผ่านหรือไม่จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้สมัครเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่จะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น หน้าที่การงาน การเงิน วัตถุประสงค์ในการเดินทางที่แท้จริง ประวัติการเดินทางไปต่างประเทศก่อนหน้านี้ เป็นต้น เพราะทางการของอเมริกาจะมองด้วยว่า คุณจะไปท่องเที่ยวจริงๆแล้วกลับมาตามเวลาที่กำหนด โดยไม่โดดวีซ่าหรือสร้างความเสียหายให้กับประเทศเขา เนื่องจากมีการโดดวีซ่าเยอะ คือไปแล้วไม่กลับเมืองไทยอีกเลย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นส่วนที่ทำให้วีซ่าอเมริกานั้นขอยากนั้นเอง

ใช้เวลาดำเนินการนานไหมแล้วจะทราบผลได้อย่างไร

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกานั้นจะมีการเข้าไปสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ที่สถานทูติอเมริกา โดยปกติแล้วหากวีซ่าผ่านเจ้าหน้าที่จะเก็บพาสปอร์ตของเราไว้และทำการส่งไปรษณีย์คืนให้ภายหลัง แต่ถ้าโดนปฏิเสธก็จะรู้ผลภายในวันนั้นเลยโดยเจ้าหน้าที่จะปฏิเสธและคืนพาสปอร์ตให้เราหลังจบการสัมภาษณ์

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วีซ่าท่องเที่ยวถูกปฏิเสธ

มีหลายปัจจัยที่ทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธแต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะขึ้นอยู่กับสถานะของผู้สมัครเอง เช่น หน้าที่การงาน ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน เงินสะสมไม่เพียงพอ มีแฟนเป็นคนอเมริกันและต้องการไปเยี่ยมแฟนที่อเมริกา (เนื่องจากประเทศอเมริกาไม่มีวีซ่าประเภทเยี่ยมเยือนเจ้าหน้าที่จึงอาจจะคิดว่าเราจะไปอาศัยอยู่กับแฟนก็เป็นได้ ซึ่งเป็นการใช้ผิดวัตุประสงค์ของวีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะให้คุณเปลี่ยนไปสมัครเป็นวีซ่า K-1 หรือวีซ่าคู่หมั่นแทน สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมวีซ่า K-1 ได้ที่นี่: ลิ้งค์) อ้างอิงญาติที่อยู่ที่อเมริกาที่มีประวัติไม่ดีมาก่อน เช่น ญาติเคยอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด หรืออยู่อย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่

มีเงินเก็บไม่พอใช้สปอนเซอร์ได้ไหม

ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มีเงินเก็บ หรือ มีแต่ไม่เพียงพอ ผู้สมัครสามารถใช้สปอนเซอร์ได้ ซึ่งผู้ที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้ได้นั้นจะต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเดียวกัน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เป็นต้น แต่ในทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้สมัครที่ทำงานแล้วควรที่จะรับรองค่าใช้จ่ายตัวเอง แต่ในกรณีที่ยังเป็นนักศึกษาสามารถให้ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวตามที่กล่าวข้างต้นรับรองได้

2.ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา

ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าท่องเที่ยวนั้นอยู่ที่ 5,440 บาท (อาจผันแปรตามอัตราแลกเปลี่ยนนะคะ)

3.คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาควรมีอะไรบ้าง

  • ไม่จำกัดอายุ เพียงแต่ว่าถ้าอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ปกครอง
  • มีสถานะที่ค่อนข้างมั่นคงในประเทศไทยที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้สมัครจะไปแล้วกลับโดยไม่โดดวีซ่า
  • สถานะการเงินควรที่จะมั่นคงพอที่จะสามารถใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่อเมริกา
  • เคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมาบ้างแล้ว

4.ขั้นตอนการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา

ยื่นคำร้องออนไลน์

1.โดยการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ที่เว็บไซต์ (https://ceac.state.gov/genniv/) โดยเลือกสถานที่ยื่นคำร้องวีซ่า สำหรับประเทศไทยนั้นจะมีให้เลือก 2 ที่คือ กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ จากนั้นสามารถเริ่มต้นการกรอกแบบฟอร์มได้

ตารางนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา 2022

2. ระบบจะมีหมายเลขยืนยันแบบฟอร์ม หรือ Application ID ให้โดยอัตโนมัติ เราต้องจดหมายเลขนี้ไว้เพราะหมายเลขนี้สามารถใช้ยืนยันความปลอดภัยเพื่ออ้างอิงความเป็นเจ้าของแบบฟอร์มในกรณีที่เราต้องการกรอกข้อมูลต่อในภายหลัง ฟอร์มจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจในคำถามและตอบให้ถูกต้อง ตรวจทานทุกครั้งก่อนที่จะยื่น เพราะถ้าเรายื่นไปแล้วนั้นจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก

3.หลังจากที่เรากรอกแบบฟอร์มเรียบร้อย ก็ต้องอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงพื้นหลังสีขาวโดยต้องปรับให้มีขนาดตรงตามที่สถานทูตอเมริกากำหนดไว้

4.เมื่อกรอกฟอร์มและอัพโหลดรูปภาพเสร็จแล้ว ระบบจะแสดงหน้าต่างให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งและจะเข้าสู่หน้ายืนยันเพื่อพิมพ์เอกสารยืนยันไปยื่นในวันสัมภาษณ์

การชำระค่าธรรมเนียม

1.หากไม่เคยยื่นวีซ่าอเมริกามาก่อน คุณจะต้องมีบัญชีโดยการสร้างใหม่ที่ (https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-paymentinfo.asp) โดยเมื่อสร้างบัญชีเสร็จแล้วก็ให้เลือกหัวข้อ “การสมัครขอวีซ่าใหม่/นัดสัมภาษณ์” และกรอกข้อมูลทั้งหมดไปจนถึงการชำระเงิน

ตารางนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา 2022

2.การชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกามีอยู่ 2 วิธี นั่นก็คือ

  1. จ่ายเงินสด สามารถจ่ายได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยใช้ใบนำเงินฝากที่เราพิมพ์จากระบบออนไลน์ที่มีเลขอ้างอิงเพื่อยื่นชำระเงิน และเก็บใบนำฝากส่วนของลูกค้าที่ได้รับตราประทับจากธนาคารไว้เป็นหลักฐานยื่นในวันสัมภาษณ์ด้วย
  2. โอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ EFT ซึ่งทางเราขอไม่แนะนำวิธีนี้เพราะจะยุ่งยากกว่าวิธีแรก เนื่องจากระบบ Internet Banking ของธนาคารไทยบางแห่งยังไม่รองรับ และการจ่ายเงินด้วยวิธี EFT นั้นจะต้องรอ 2 วันทำการเพื่อให้ระบบยืนยันการจ่ายเงินถึงจะนัดทำวีซ่าได้ซึ่งจะนานกว่าวิธีแรก

3.เมื่อเราชำระเงินเสร็จแล้วให้รอจนถึงเที่ยงของวันถัดไป ระบบจะแสดงเลขที่ใบเสร็จรับเงินของเรา จากนั้นเราจึงจะทำการนัดหมายวันสัมภาษณ์ได้ โดยเลือกวันเวลาตามความสะดวก (สามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ถ้าเกินกว่านั้นทางผู้สมัครจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่อีกครั้ง) เมื่อทำการนัดหมายเสร็จเรียบร้อยก็พิมพ์ใบนัดสัมภาษณ์เพื่อยื่นในวันสัมภาษณ์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

5.เอกสารการขอวีซ่าอเมริกาต้องมีอะไรบ้าง?

เอกสารในการขอวีซ่าอเมริกาเบื้องต้นนั้นควรจะต้องเป็นตัวจริงทั้งหมด โดยเราอาจจะแยกเป็นเอกสารสำคัญและเอกสารอื่นๆ ดังนี้

  1. เอกสารสำคัญในการขอวีซ่า

  • หนังสือเดินทาง (Passport) ของเราทุกเล่มที่มี
  • ใบยืนยันของแบบฟอร์ม DS-160 ที่เรากรอกไปก่อนหน้านี้
  • ใบนัดสัมภาษณ์
  • ใบเสร็จค่าธรรมเนียม
  • รูปถ่าย ขนาด 2×2 นิ้ว หน้าตรง พื้นหลังสีขาว ห้ามใส่แว่นตาและควรเปิดหน้า
  1. เอกสารอื่นๆ

  • เอกสารส่วนตัวอื่นๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนสมรส ใบหย่า ใบเกิดและหนังสือยืนยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (ในกรณีที่ผู้สมัครยังเป็นผู้เยาว์)
  • เอกสารการเรียน (ในกรณีที่ยังเป็นนักเรียน/นักศึกษา) เช่น หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ใบเกรด
  • เอกสารการทำงาน (ในกรณีที่ทำงานแล้ว) เช่น หนังสือรับรองการทำงาน (ออกไม่เกิน 1 เดือน) สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน (ถ้ามี) ในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจให้แสดงหนังสือรับรองบริษัทที่คัดมาจาก DBD ไม่เกิน 3 เดือน หรือทะเบียนการค้า
  • เอกสารการเงิน เช่น Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนและ Bank Guarantee ถ้าหากว่ามีสปอนเซอร์ให้ขอ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และ Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เอกสารทั้ง 2 อย่างนี้ควรออกเป็นภาษาอังกฤษ
  • แผนการเดินทาง เช่น ทริปท่องเที่ยวที่เราแพลนไว้คร่าวๆว่าช่วงที่อยู่ในอเมริกานั้นจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง พักที่ใด โดยทั้งหมดต้องเป็นภาษาอังกฤษ

*การขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกานั้นทางสถานทูตไม่ได้ระบุว่าจะต้องใช้ใบยืนยันการจองตั๋วเครื่องบินหรือใบยืนยันในการจองโรงแรมที่พัก เพียงแต่ให้แสดงแผนการเดินทางคร่าวๆ โดยการปริ้นส์รายละเอียดโรงแรมที่วางแผนจะเข้าพักเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นใบจอง ส่วนตั๋วเครื่องบินไม่จำเป็นต้องใช้ ผู้สมัครค่อยซื้อตั๋วเมื่อวีซ่าผ่านเป็นที่เรียบร้อย

6.การสัมภาษณ์วีซ่าซึ่งสามารถรู้ผลโดยทันที

  1. เตรียมหนังสือเดินทาง (Passport) และเอกสารที่เราเตรียมไว้ให้พร้อม โดยการขอวีซ่าอเมริกานั้นจะอยู่ที่การสัมภาษณ์เป็นหลัก และยื่นเอกสารไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่ก็ต้องเตรีมเอกสารๆอื่นๆไปให้พร้อม เนื่องจากเจ้าหน้าที่อาจจะขอเรียกดูได้ หรือเจ้าหน้าที่อาจจะไม่ขอดูเอกสารอะไรเลยก็ได้เช่นกัน
  2. ควรไปให้ถึงสถานทูตก่อนเวลานัดหมาย 30 นาที แบบมีสัมภาระให้น้อยที่สุด เนื่องจากก่อนเข้าสถานทูตจะมีการแสกนร่างกาย และถ้ามีสิ่งของต้องห้ามหรือกระเป๋าขนาดใหญ่ทางสถานทูตจะไม่อนุญาตให้นำเข้าโดยเด็ดขาด ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นจะต้องปิดเครื่องและฝากไว้ขณะที่เข้าสัมภาษณ์
  3. จากนั้นเจ้านั้นที่จะดำเนินการตรวจเอกสารเบื้องต้นและจัดเก็บข้อมูลลายนิ้วมือก่อนเข้าสัมภาษณ์ โดยระหว่างนี้จะมีการแนบตราไปรษณีย์แบบ EMS สำหรับส่งหนังสือเดินทางคืนมา ให้จดเลขสำหรับติดตามเอกสารไว้ ส่วนในกรณีที่นัดหมายเป็นกลุ่มนั้นก็สามารถเข้าสัมภาษณ์ได้พร้อมกัน
  4. การสัมภาษณ์ สามารถเลือกได้ว่าจะสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่ทว่าเจ้าหน้าที่นั้นเป็นชาวต่างชาติดังนั้นอาจจะพบกับคำถามที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็สามารถตอบเป็นภาษาไทยได้เช่นกัน โดยส่วนมากนั้นเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติสามารถพูดไทยได้ แต่ว่าคุณก็ควรที่จะมีพื้นฐานในการสื่อสารภาษาอังกฤษไว้บ้าง ในส่วนของการสัมภาษณ์นั้นเจ้าหน้าที่จะถามเกี่ยวกับการเดินทาง และการทำงานเป็นหลัก ในบางกรณีหากเจ้าหน้าที่มีข้อสงสัยระหว่างการสัมภาษณ์ สามารถขอเจ้าหน้าที่ให้ช่วยพิจารณาเอกสารเพิ่มเติมที่คุณนำมาด้วย แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะรับพิจารณาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
  5. ผลการสัมภาษณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วจะมีอยู่ 2 สถานการณ์ที่คุณจะพบเจอ
  1. ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังสือเดินทางของคุณไป และจะส่งคืนหนังสือเดินทางพร้อมหน้าวีซ่าที่ติดมาอยู่ในเล่มเรียบร้อยผ่านทางไปรษณีย์ EMS ภายใน 3-7 วันทำการ นับจากวันที่เข้าสัมภาษณ์ โดยอายุของวีซ่าที่จะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางสถานทูต ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ 10 ปี เข้าออกได้หลายครั้ง แต่ก็มีบางส่วนที่ได้ตามวันที่ขอไป
  2. ไม่ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะคืนหนังสือเดินทางของคุณหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้ว โดยมากแล้วเจ้าหน้าที่จะไม่แจ้งสาเหตุของการถูกปฏิเสธ ดังนั้น ณ ขณะสัมภาษณ์คุณต้องคอยสังเกตุและจดจำข้อมูลต่างๆที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำมาวิเคราะห์อีกทีหนึ่งว่าทำไมถึงถูกปฏิเสธ โดยจะไม่ได้รับค่าธรรมเนียมวีซ่าคืน ซึ่งหากต้องการจะยื่นขอวีซ่าอีกครั้งนั้นต้องทำการขอใหม่ตั้งแต่ต้น และชำระเงินอีกครั้ง

7.สถานที่ยื่นวีซ่าอเมริกา

สำหรับการขอยื่นวีซ่าอเมริกาที่ประเทศไทยนั้นมีอยู่ 2 ที่นั่นก็คือ

  • กรุงเทพฯ

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย

95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตประทุมวัน กรุงเทพฯ

เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย ปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

  • เชียงใหม่

สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่

387 ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50300

เวลาทำการ: ติดต่อได้เฉพาะช่วงเวลานัดหมาย ปิดทำการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

8.บริการของเรา

ถ้าหากคุณอยากจะบินไปเที่ยวอเมริกา เยี่ยมชมเทพีเสรีภาพหรือเก็บภาพชมวิวที่สะพานโกลเดนเกต แค่มีวีซ่าท่องเที่ยวก็จะไปที่ไหนในอเมริกาก็ได้ แต่ถ้าคุณคิดว่าการขอวีซ่าอเมริกานั้นยากสุดๆ ก็สามารถให้เราช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ได้ เพราะบริษัทบาเบล วีซ่า แอนด์ ทรานสเลชั่น เป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการทำวีซ่ามาแล้วทุกประเภททั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว วีซ่าเพื่อเรียนต่อ วีซ่าสำหรับแต่งงาน วีซ่าคู่หมั้น หรือวีซ่าเยี่ยมเยือน ของหลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ประเทศในกลุ่มเชงเก้ง เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการและสถานทูตต่างๆ และภาคเอกชน รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั้งจากในนามบุคคลและหน่วยงานต่างๆ มาแล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ