Show
หลอดเลือดหัวใจตีบ ดูแลตัวเองดี ต่อชีวิตได้อีกไกลโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความรุนแรง และสามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นโรคที่ทำให้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองลงมาจากโรคมะเร็ง หากรู้ตัวว่าเป็นแล้วต้องมีการดูแลตนเองเป็นอย่างดี เพื่อยืดอายุของคนไข้ให้ยาวนานขึ้น ด้วยการปรับพฤติกรรมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากกระทำได้อย่างเหมาะสมก็จะสามารถต่อเวลาชีวิตออกไปได้ อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ1. ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
2. ปัจจัยที่ควบคุมได้
ผลกระทบหลอดเลือดหัวใจตีบโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นโรคที่มีอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้หรือรู้ตัวช้า ทำให้ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมตามเวลา เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีปัจจัยเสี่ยง ไขมันจะเริ่มเกาะที่ผนังหลอดเลือดด้านใน ทำให้หลอดเลือดตีบหรือแคบลง ส่งผลต่อเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการปริแตกของหลอดเลือด เกล็ดเลือดหลุดเข้าไปอุดตันทางเดินของหลอดเลือด และเมื่อมีการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจเกินร้อยละ 50 คนไข้จะเริ่มมีอาการแสดง การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจหากคนไข้พบแพทย์ด้วยอาการแน่นหน้าอก หรืออาการอื่นที่กล่าวมาข้างต้น คนไข้จะได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจภายใน 10 นาที และเจาะเลือดเพื่อดูเอนไซม์ของหัวใจ หากสูงขึ้นแสดงว่ามีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ ร่วมกับซักประวัติคนไข้ สอบถามระยะเวลาที่เจ็บแน่นหน้าอก หากมากกว่า 20 นาที อาจเกี่ยวข้องกับอาการหลอดเลือดหัวใจตีบตัน การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
การดูแลตนเองในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
การดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ข้อมูลโดย คลิกชมคลิปรายการ “การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมีวิธีการอย่างไร : Rama Square ช่วง นัดกับ Nurse” ได้ที่นี่อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจ หมายถึง โรคหลอดเลือดหัวใจโคโรนารีที่ตีบแคบอุดตันทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบแคบลง จากไขมันคอเลสเตอรอลจับบริเวณเซลล์กล้ามเนื้อเรียบในหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน จะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
การควบคุมอาหารประเภทไขมันจะช่วยลดและชะลอการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจได้ 1.1 รับประทานอาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัวลดลง กรดไขมันอิ่มตัวพบมากในไขมันสัตว์ และไขมันจากพืชบางชนิด เช่น ปาล์ม น้ำมันมะพร้าว กะทิ และพบได้ในนม เนยชนิดต่างๆ และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีไขมันสูง เช่น ไส้กรอก เบคอน หมูยอ แฮม กุนเชียง 1.2 รับประทานกรดไขมันไม่อิ่มตัวให้เพียงพอ ควรจะรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด 1.3 รับประทานอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงลดลง อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงมักพบในไขมันสัตว์ ขาหมู ข้าวมันไก่ หนังสัตว์ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารแปรรูป ไข่แดง อาหารทะเลบางชนิด เช่น กุ้ง ปลาหมึก หอยนางรม ยกเว้นปลาทะเล เนื่องจากไขมันต่ำ อาหาร Fast food เช่น พิซซ่า เบอร์เกอร์ รวมถึงเบเกอรี่ต่างๆ เช่น คุ้กกี้ เค้ก
|