ผลเสียของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ โรคที่ติดเชื้อ และแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ทั้งจากการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทวารหนัก ปัญหาหลักของโรคเหล่านี้ คือ คนไข้มาทราบว่าตนเองมีความผิดปกติเมื่อเวลาผ่านไปนาน บางคนก็เพิกเฉยต่ออาการเหล่านั้น หรืออายที่จะเข้ารับการรักษากับแพทย์ ทำให้โรคนั้นรุนแรงลุกลามเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ทันเวลา

ผลเสียของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง

เชื้อราในช่องลอด
โรคเชื้อราในช่องคลอด เกิดจากเชื้อรา แคนดิดา อัลบิแคนส์ (Candida Albicans) โดยปกติเป็นเชื้อที่อยู่ในช่องคลอดโดยไม่ทำให้เกิดโรค แต่ถ้าร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ ได้รับยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน หรือมีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคเอดส์ หรือมีภาวะอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้เชื้อรามีปริมาณมากขึ้นจนก่อโรค โดยอาการสำคัญที่ควรต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ ได้แก่

  • ตกขาวผิดปกติ
  • มีกลิ่น
  • ผนังช่องคลอดมีลักษณะบวมแดง
  • มีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศและภายในช่องคลอด อาการดังกล่าวเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ขั้นรุนแรง

เอดส์ (AIDS)
เอดส์ หรือ AIDS (Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์ (HIV) ซึ่งจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นแหล่งสร้างภูมิคุ้มกันโรคทำให้ติดเชื้อโรคอื่นๆ ได้ง่าย และเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต

ผลเสียของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง

หนองใน
เกิดจากเชื้อหนองใน (Neisseria Gonorrhoeae) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เจริญได้ดีในที่ชื้น และที่อบอุ่นของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ตั้งแต่ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ท่อปัสสาวะ (ทั้งหญิง และชาย) นอกจากนี้หนองในยังสามารถเจริญในที่อวัยวะอื่นๆ เช่น เยื่อบุช่องปาก คอ ตา ทวารหนัก เกิดได้จากการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก องคชาต (อวัยวะเพศชาย) โดยอาจมี หรือไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิ และยังสามารถติดจากมารดาสู่ทารกในระหว่างการคลอดได้

ซิฟิลิส
เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้เกิดเฉพาะอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น แต่สามารถเป็นได้ทุกแห่งของร่างกาย เช่น ลิ้น มือ แขน ขา รวมทั้งระบบประสาทหัวใจ เส้นเลือด ตา กระดูก ฯลฯ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ทรีโพนีมา พัลลิดุม (Treponema Pallidum) เป็นแบคทีเรียที่มีขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายเกลียวสว่าน ซิฟิลิสสามารถติดต่อโดยการร่วมเพศ เชื้อจะเข้าทางรอยถลอกหรือบาดแผลเล็กน้อย หรืออาจไชเข้าเยื่อบุผิวของท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องคลอด หรือ ช่องปาก

ผลเสียของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง

เริม
โรคเริมที่อวัยวะเพศเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากเชื้อไวรัส (Herpes Simplex Virus) เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่เป็นโรคเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นโรคเริมครั้งแรก หลังจากนั้นเชื้อไวรัสจะเข้าสะสมในปมเส้นประสาท และเมื่อเกิดปัจจัยกระตุ้นเชื้อจะเคลื่อนจากปมประสาทมาตามเส้นประสาทจนถึงปลายประสาท และเกิดโรคซ้ำที่ผิวหนังหรือเยื่อบุ โดยการเกิดโรคเริมนั้น สามารถพบได้ในหลายตำแหน่ง เช่น ที่ริมฝีปาก หรือบริเวณอวัยวะเพศ

หูดหงอนไก่
หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ยังคงพบได้มาก จากลักษณะนิสัยของไวรัสต้นเหตุที่เรียกว่าฮิวแมน แปปิโลมาไวรัส (เอชพีวี) ชนิดความเสี่ยงต่ำ เมื่อมีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปรบกวนการแบ่งตัวของเซลล์ชั้นล่างสุดของเยื่อบุเซลล์ที่แบ่งตัวจะเปลี่ยนรูปร่าง และหน้าที่จนควบคุมไม่ได้ เกิดเป็นเนื้องอกนูนออกมาลักษณะเป็นติ่งเนื้ออ่อน ๆ สีชมพูคล้ายหงอนไก่ ชอบขึ้นที่อุ่น และอับชื้น ในผู้ชายมักพบที่อวัยวะเพศบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย ตลอดทั้งบริเวณรอบรอยเปิดขอบท่อปัสสาวะ และอัณฑะ ส่วนผู้หญิงจะพบที่ปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด ปากมดลูก ปากทวารหนัก และฝีเย็บหูดมีขนาดโตขึ้นเรื่อย

ต่อให้ความรักจะสุขล้นแค่ไหน เรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าไม่อยากให้รักหวานกลายเป็นขมในชั่วข้ามคืน ทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวคุณและคู่รักของคุณ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 1772 ต่อ สุขภาพสตรี

ผลเสียของโรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง

1. ซิฟิลิส

  • เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการแตกต่างกันตามระยะของโรค เช่น มีแผลที่อวัยวะเพศ มีผื่นขึ้นตามตัว มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต หรือไม่มีอาการใด ๆ
  • ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์และจากมารดาสู่ทารกในครรภ์

2. โรคหนองใน

  • เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
  • ในเพศชายมักจะพบว่ามีปัสสาวะแสบขัดมีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ
  • ในเพศหญิงมักไม่มีอาการหรือมีเพียงตกขาวผิดปกติ ไม่คัน

3. โรคหูดหงอนไก่

  • เกิดจากเชื้อไวรัส
  • อาการคือมีติ่งเนื้อนูนคล้ายดอกกะหล่ำ อาจมีอาการคัน, เจ็บหรือมีเลือดออก
  • มีโอกาสเป็นซ้ำได้บ่อย
  • ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัส

4. โรคไวรัสตับอักเสบบี

  • ผู้เป็นพาหะมักไม่มีอาการ
  • ผู้ติดเชื้ออาจมีตาเหลือง ตัวเหลือง ปัสสาวะเหลืองเข้ม ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย
  • ติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์และจากมารดาสู่ทารกในครรภ์

ข้อมูล ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2565
ที่มา : อ. นพ.ธนภพ บำเพ็ญเกียรติกุล
ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านสุขภาพคนข้ามเพศ

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์ อันตรายไหม

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นความเสี่ยงจากการทำกิจกรรมทางเพศ ผู้หญิงหลายคนที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจไม่มีอาการแสดงให้เห็น ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจนนำไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้น ซึ่งบางโรคร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต บางโรครักษาไม่หาย ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะตระหนักถึงความสำคัญของการมีเพศสำคัญอย่างปลอดภัย ทั้ง ...

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง ว

เชื้อไวรัส ได้แก่ เริม (Herpes Simplex),หูดหงอนไก่ (Papilloma Virus หรือ HPV),เอดส์ (HIV) เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ หนองในแท้ (Gonorrhea),หนองในเทียม (Chlamydia),ซิฟิลิส (Syphilis) เชื้ออื่นๆ ได้แก่ เชื้อพยาธิ (Trichomanas),เชื้อรา (Candida)

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์มีอะไรบ้าง สาเหตุ

โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์.
เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งบางชนิดรักษาหาย บางชนิดไม่มียารักษา บางชนิดจะแฝงตัวและเป็นซ้ำได้อีก เช่น เริมที่อวัยวะเพศ หูดหงอนไก่ ไวรัสตับอักเสบบี ฯลฯ.
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย รักษาหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม ช่องคลอดอักเสบ ฯลฯ.

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์ หายไหม

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แต่ละโรคมีวิธีรักษาที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว โรคเหล่านี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียนั้นรักษาให้หายได้ง่ายกว่า ส่วนโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสทำได้โดยดูแลอาการไม่ให้กำเริบได้ แต่ไม่สามารถรักษาให้หายขาด และสตรีมีครรภ์ที่ได้รับเชื้อกามโรค ...