สื่อการสอน คอมพิวเตอร์ มัธยม

สื่อการสอน คอมพิวเตอร์เบื้องต้น from Noppakhun Suebloei

• รวบรวม ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอข้อมูลและสำรสนเทศตำมวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบรกิ ำรบนอินเทอรเ์ น็ตท่หี ลำกหลำย

เพราะเหตใุ ดจงึ ต้องนาขอ้ มูลทร่ี วบรวมไดไ้ ปประมวลผลกอ่ นนามาใช้

การซื้อสินคา้ ออนไลนอ์ ย่างปลอดภยั

อุปกรณ์ วธิ ีการ

ไมใ่ ชง้ าน Wi-Fi สาธารณะ
เกบ็ หลักฐานการส่งั ซื้อ
ตรวจสอบการจดทะเบยี นรา้ นค้า
ตรวจสอบประวตั กิ ารฉอ้ โกง

การรวบรวมข้อมูล

กำรรวบรวมข้อมลู เปน็ ข้ันตอนท่ีสำคัญทส่ี ุดของกำรจัดกำรข้อมูลและสำรสนเทศ โดยเมื่อพิจำรณำประเภท
ข้อมูลตำมแหล่งทม่ี ำของขอ้ มลู แลว้ สำมำรถแบ่งได้เป็น 2 กล่มุ ดังน้ี

ขอ้ มลู ปฐมภูมิ การสัมภาษณ์ การสอบถามทางโทรศพั ท์
การใช้แบบสอบถาม การสังเกต
เปน็ ขอ้ มลู ทผี่ ูใ้ ชเ้ กบ็ รวบรวม
ด้วยตนเอง ซึง่ จะทำใหไ้ ด้ข้อมลู
ที่ตรงกับควำมตอ้ งกำรมำกทีส่ ดุ

โดยกำรรวบรวมข้อมลู
แบบปฐมภมู สิ ำมำรถทำได้

หลำยแบบ ดังนี้

การรวบรวมขอ้ มลู

ขอ้ มูลทตุ ยิ ภมู ิ การค้นหาขอ้ มูลจากหนงั สอื ในหอ้ งสมุด
การคน้ หาขอ้ มลู จากความรู้บนอนิ เทอร์เนต็
เปน็ ขอ้ มลู ท่มี ีกำรรวบรวมไวแ้ ล้ว
โดยผอู้ ื่น ซึ่งกอ่ นทจี่ ะนำข้อมลู มำใช้
จะต้องพจิ ำรณำคุณภำพของขอ้ มลู กอ่ นว่ำ
ถกู ตอ้ งตำมควำมต้องกำรและทันสมยั หรือไม่
โดยกำรรวบรวมข้อมลู แบบทตุ ิยภูมิ เชน่

การประมวลผลขอ้ มลู

เปน็ กำรจดั กำรกบั ข้อมลู เพ่ือทีจ่ ะสำมำรถนำข้อมูลนนั้ มำใช้ประโยชนไ์ ด้ โดยกำรประมวลผลข้อมลู สำมำรถ
แบง่ ตำมอปุ กรณท์ ่ีใชง้ ำนได้ 3 ประเภท ดังน้ี

การประมวลผลข้อมูลด้วยมอื การประมวลผลข้อมูลดว้ ยเครอ่ื งจักรกล การประมวลผลขอ้ มูลดว้ ยคอมพิวเตอร์

การประมวลผลขอ้ มลู

การประมวลผลข้อมูลดว้ ยคอมพวิ เตอรม์ ีขั้นตอนในการประมวลผล 3 ขัน้ ตอน ดงั นี้

Process

การประมวลผลขอ้ มูล

กำรประมวลผลข้อมูลของคอมพวิ เตอร์ เพอื่ นำไปใช้ประโยชน์น้ันมีวธิ กี ำรประมวลผลข้อมลู 2 วิธี ดงั นี้

1. การประมวลผลแบบแบตช์

เป็นกำรประมวลผลโดยกำรรวบรวมข้อมลู ไว้ระยะเวลำหนึ่ง แลว้ จึงนำข้อมูลเหล่ำนั้นมำประมวลผล โดยที่
จะต้องมีกำรกำหนดชว่ งเวลำทีใ่ ช้ในกำรประมวลผลอย่ำงชัดเจน เชน่

ระบบการคานวณดอกเบยี้ ของธนาคาร
ท่จี ะคานวณทกุ 6 เดอื น

การประมวลผลขอ้ มลู

2. การประมวลผลแบบอินเทอรแ์ อก็ ทฟิ

เปน็ การประมวลผลท่ีคอมพวิ เตอรจ์ ะประมวลผลและให้ผลลพั ธใ์ นทันที โดยในปัจจบุ ันมี 2 ประเภท ดังน้ี

การประมวลผลออนไลน์ การประมวลผลแบบทนั ที

เปน็ กำรประมวลผลดว้ ยคอมพวิ เตอร์โดยตรง เป็นการประมวลผลเพือ่ ใหไ้ ด้ผลลัพธท์ ันที
โดยทไ่ี มจ่ ำเปน็ ต้องอยู่กบั เคร่อื งประมวลผล เช่น นยิ มใชร้ ่วมกับการประมวลผลแบบออนไลน์ เชน่
กำรทำธุรกรรมกำรเงนิ ดว้ ยเครื่องอตั โนมตั ิ การแสดงความคิดเหน็ บนเฟซบุก๊

การประมวลผลข้อมูล

การประมวลผลข้อมลู ดว้ ยคอมพิวเตอรม์ ีกรรมวิธหี ลายวิธี เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลทตี่ รงตามความต้องการของผใู้ ชง้ านมากทส่ี ดุ
โดยกรรมวิธีในการประมวลผลขอ้ มูลด้วยคอมพวิ เตอร์ มีดงั นี้

การคานวณ การสรปุ ผล การสารองขอ้ มลู

การจัดเรยี งขอ้ มลู การทารายงาน การกู้ขอ้ มลู

การจดั กลมุ่ ขอ้ มูล การบนั ทกึ การสอ่ื สารข้อมลู

การสืบคน้ ขอ้ มูล การปรับปรุงข้อมูล การบีบอดั ข้อมลู

การรวมขอ้ มูล การสาเนาขอ้ มลู

การประมวลผลข้อมูล

การประมวลผลขอ้ มูลดว้ ยคอมพิวเตอร์มีขัน้ ตอนในการประมวลผล 3 ขั้นตอน ดงั นี้

1.การเตรยี มเพอ่ื นาเข้าข้อมลู 2.ประมวลผลข้อมูล 3.การนาข้อมลู ไปใช้
ประโยชนแ์ ละแสดงผลขอ้ มลู
ลงรหัสข้อมลู
ตรวจสอบแกไ้ ขขอ้ มลู

แยกประเภทข้อมูล
บันทึกขอ้ มูลลงส่ือ

การใชซ้ อฟต์แวร์ในการจดั การขอ้ มูลและสารสนเทศ

ซอฟตแ์ วร์ทใี่ ช้ในการรวบรวมขอ้ มลู ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ช้ในการประมวลผลขอ้ มลู

• ซอฟตแ์ วรท์ ตี่ ิดตง้ั อยูบ่ นเคร่อื งคอมพิวเตอร์ • ซอฟตแ์ วร์สำเรจ็ รูป เชน่ Microsoft Excel
เช่น Microsoft Word, Microsoft Access
• ซอฟต์แวรท์ ีพ่ ัฒนาขึ้นมาโดยพาะ
• ซอฟต์แวรท์ ่ใี ช้งานผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ เช่น ซอฟต์แวรป์ ระมวลผลข้อมลู ทางการแพทย์
เช่น Google Docs, Google Sheets

การใช้ซอฟตแ์ วร์ในการจดั การข้อมลู และสารสนเทศ

ซอฟตแ์ วร์ท่ใี ชใ้ นการนาเสนอขอ้ มูล
ซอฟต์แวร์ทใี่ ชใ้ นกำรนำเสนอขอ้ มูลในปจั จบุ ันมใี หเ้ ลอื กใช้จำนวนมำก เชน่

ซอฟต์แวร์เพ่ือใช้ในการสรา้ งภาพ 3 มิติ ซอฟตแ์ วรเ์ พอื่ การสร้างภาพอนิ โฟกราฟกิ

การนาข้อมูลท่รี วบรวมได้ไปประมวลผลก่อนนามาใชง้ านด้วยวิธกี ารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
การประมวลผลดว้ ยมือ การประมวลผลดว้ ยเครื่องจกั รกล หรือการประมวลผลดว้ ยคอมพวิ เตอร์

ลว้ นเป็นวธิ กี ารเพ่ือให้ไดม้ าซงึ่ ขอ้ มลู ที่ตรงตามความตอ้ งการมากทส่ี ุด
และหลงั จากท่ีไดข้ อ้ มูลมา จงึ นาข้อมลู นั้นมานาเสนอ
ดว้ ยซอฟตแ์ วร์นาเสนอต่าง ๆ ตามตอ้ งการ

คอมพิวเตอร์

ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4

Slide PowerPoint_สือ่ ประกอบการสอน

ครูผ้สู อน : นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ (ครดู ฟี )
ตาแหน่ง ครผู ชู้ ่วย

2หน่วยการเรียนรูท้ ่ี

ความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมลู

• ประเมินความน่าเช่อื ถอื ของขอ้ มลู วิเคราะหส์ อ่ื และผลกระทบจากการใชข้ ่าวสารท่ผี ิด เพื่อการใชง้ านอยา่ งร้เู ท่าทนั

การประเมินความน่าเชื่อถอื ของข้อมูล
สามารถทาไดอ้ ย่างไร

การสืบคน้ เพื่อหาแหล่งขอ้ มูล

การสบื ค้นข้อมลู ดว้ ยคอมพิวเตอร์

เปน็ การสบื คน้ ผา่ นเทคโนโลยีสารสนเทศ
หรอื คอมพิวเตอร์ตา่ ง ๆ

การสบื คน้ ขอ้ มูลดว้ ยมือ

เป็นกำรสบื คน้ ตำมเอกสำร หนงั สือ ตำรำ

การสบื ค้นเพอื่ หาแหล่งขอ้ มูล

การสืบคน้ เพอ่ื หาข้อมลู บนอินเทอรเ์ น็ตมีวธิ ีการดาเนนิ การ ดังนี้

1 กำหนดวัตถปุ ระสงคก์ ำรสบื ค้น
2 ดูประเภทของขอ้ มลู ที่สามารถสืบคน้ ได้
3 เตรียมอุปกรณ์และควำมร้ทู ่ีจำเป็นในกำรสืบค้น
4 เลือกบรกิ ารอินเทอร์เนต็ ทีต่ อ้ งการ เช่น อเี มล เว็บไซต์
5 เลือกเคร่ืองมือหรอื โปรแกรมสำหรับคน้ หำ

การสบื คน้ เพอื่ หาแหลง่ ขอ้ มูล

ประโยชน์ของอินเทอรเ์ น็ต

การสบื คน้ เพือ่ หาแหล่งขอ้ มูล

โทษของอนิ เทอรเ์ นต็

การสืบค้นเพอ่ื หาแหลง่ ขอ้ มลู

การใช้งานอินเทอร์เนต็ บนระบบเครือขา่ ยควรใชง้ านอย่างมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมโดยการปฏิบตั ิ ดังนี้

ใช้ถอ้ ยคาสภุ าพ ไมใ่ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ทาลาย
หรอื หลอกลวงผูอ้ ื่น

แจง้ ผู้ปกครองเมือ่ พบ ไมเ่ ผยแพร่ขอ้ มูล
การใชง้ านที่ไม่เหมาะสม ทเ่ี ปน็ เทจ็

ไม่ละเมดิ สทิ ธิของผูอ้ ่นื เคารพกฏและข้อตกลง

ไมเ่ ปดิ เผยข้อมูลส่วนตัว ใชง้ านในทางทีถ่ ูกต้อง

การสืบคน้ เพ่อื หาแหล่งขอ้ มลู

เคร่ืองมือสำหรับสืบค้นข้อมูลผ่ำนอินเทอร์เน็ต เป็นโปรแกรมท่ีใช้ในกำรสืบค้นข้อมูลจำกคำค้นหำต่ำง ๆ ที่ผู้ใช้
ป้อนเข้ำสรู่ ะบบ โดยโปรแกรมท่ีใช้ในกำรสบื คน้ ข้อมูล สำมำรถแบง่ ตำมลกั ษณะกำรทำงำนได้ 3 ประเภท ดงั น้ี

Crawler Based Search Engines Web Directory Meta Search Engines

จะอาศัยการบันทึกข้อมูลและจัดเก็บ เ ป็ น ส ำ ร บั ญ เ ว็ บ ไ ซ ต์ ท่ี มี ก ำ ร เ ป็ น โ ป ร แ ก ร ม ที่ ใ ช้ ห ลั ก ก ำ ร
ขอ้ มลู เป็นหลัก โดยการใชซ้ อฟต์แวร์ขนาดเล็ก จัดเก็บข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่อย่ำง สืบค้นด้วย Meta Tag โดยผลลัพธ์
ในการเก็บขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ เช่น ชัดเจน ทำให้กำรสืบค้นทำได้อย่ำง ของโปรแกรมสืบค้นประเภทนี้ จะมี
www.google.com รวดเร็ว เช่น www.dmoz-odp.org ควำมแม่นยำน้อยกว่ำประเภทอ่ืน
เช่น www.ixquick.com

การสืบค้นเพ่อื หาแหลง่ ข้อมลู

การสบื ค้นข้อมูลบนอินเทอรเ์ น็ต เพ่อื ใหไ้ ด้แหลง่ ข้อมูลท่มี คี ณุ ภาพ มีความนา่ เช่อื ถือ
และตรงตามความต้องการของผสู้ ืบค้นมีขั้นตอน ดงั นี้

กำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดประเภท กำหนดคำสำคญั ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื
และหัวขอ้ ให้ชดั เจน ของข้อมลู ท่จี ะสบื คน้ สำหรบั สืบค้นขอ้ มูล ของข้อมลู ท่ีได้
จากการสบื คน้

การประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของข้อมูล

การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู มีหลักสาคญั 3 ประการ คอื

1. ประเมินว่าข้อมลู ตรงตามต้องการหรอื ไม่ โดยสำมำรถประเมนิ ไดจ้ ำกกำรอำ่ นชือ่ เวบ็ ไซต์ ชอ่ื เวบ็ เพจ
ชื่อหัวเร่ือง คำนำ สำรบัญ หรือเน้ือหำ ซ่ึงโดยส่วนใหญ่จะสำมำรถประเมินได้ตั้งแต่กำรอ่ำนช่ือเว็บไซต์
ชอ่ื เว็บเพจ หรอื ช่ือหวั เร่อื งแล้ว

การประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของขอ้ มลู

2. ประเมนิ ความน่าเช่อื ถอื และความทันสมัยของข้อมูล

ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของแหล่งข้อมลู
พิจารณาว่าขอ้ มลู ไดม้ าจากแหล่งข้อมูลที่นา่ เช่อื ถอื หรอื ไม่

ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของทรพั ยากรข้อมูล
พิจารณาว่าข้อมูลอยใู่ นรปู แบบใด เชน่ หนงั สือทวั่ ไป วารสาร นิตยสาร ขอ้ มลู บนอินเทอร์เน็ต

ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของผเู้ ขียน
พจิ ำรณำวำ่ ผูเ้ ขยี นเปน็ ใคร เปน็ ของสำนักพมิ พ์หรือเวบ็ ไซต์ใด

ประเมนิ ความทนั สมยั ของขอ้ มลู
พจิ ารณาวันเดอื นปีท่ขี อ้ มูลถกู เผยแพร่ หรอื ผลิต

การประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล

3. ประเมนิ ระดบั เน้อื หาของขอ้ มูล โดยข้อมูลสามารถแบง่ ได้ 3 ระดับ ไดแ้ ก่

ขอ้ มูลปฐมภูมิ ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ ข้อมูลตติยภูมิ

เป็นข้อมลู ทีไ่ ด้จากการ เปน็ กำรนำข้อมูลปฐมภูมิ เป็นการชแี้ นะแหล่งข้อมูล
คน้ ควา้ โดยตรงของผู้เขียน มำเขยี นเรียบเรยี งใหม่ ปฐมภมู ิและทุตยิ ภมู ิ เชน่
เช่น รายงาน วิจยั วทิ ยานิพนธ์ โดยระบแุ หลง่ ท่มี ำอยำ่ งชดั เจน บรรณานุกรม เอกสารอา้ งองิ

การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของขอ้ มลู

แหล่งข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ข้อมูลที่เรำจะนำมำใช้งำนจะต้องมำจำกแหล่งข้อมูลที่เช่ือถือได้
ซง่ึ มลี กั ษณะเป็นแหลง่ ทีม่ กี ำรรวบรวมขอ้ มูลอยำ่ งมีหลักเกณฑ์ มีแหล่งอำ้ งองิ เชอื่ ถือได้ โดยแหลง่ ข้อมลู
ทีเ่ ช่อื ถอื ได้ เชน่

ข้อมูลจากเจ้าของ ข้อมูลจากองคก์ ร ข้อมลู จาก
ขอ้ มลู โดยตรง หรอื ผเู้ ชี่ยวชาญ หน่วยงานของรฐั

การรเู้ ทา่ ทันสอ่ื

การร้เู ทา่ ทันส่ือ ท้ังส่ือท่เี ผยแพรบ่ นอนิ เทอร์เน็ตและสอ่ื สง่ิ พมิ พต์ ่าง ๆ มอี งคป์ ระกอบ ดังนี้

01 02 03 04

ความสามารถ ความเขา้ ใจการประเมินคา่ การสร้าง การใชป้ ระโยชน์ การสะท้อนคดิ
ในการเขา้ ถึงสอื่ สารสนเทศและเนอื้ หาในสือ่ และการเฝ้าระวังสารสนเทศ
เป็นกำรพิจำรณำกำรกระทำ
เป็นการได้รับสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ เป็นการประเมนิ คุณค่าของสื่อ และเนือ้ หาในสือ่ ของตนเองวำ่ จะมี
ได้อย่างเตม็ ที่ รวดเร็ว ว่า สอ่ื น้นั มคี ณุ ค่าตอ่ ผรู้ ับสาร
และเขา้ ใจเน้ือหา เป็นการสรา้ งสรรค์สือ่ ใหม่ ผลกระทบหรือผลลัพธ์
มากน้อยเพียงใด ในแบบของตนเอง ต่อผอู้ ื่นอยำ่ งไร

การรู้เทา่ ทันสอื่

ส่ือดิจิทัล เปน็ ส่ือที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้รวดเร็วที่สุด ทั้งสื่อจากทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือเว็บไซต์
ต่าง ๆ โดยการรู้เทา่ ทันสื่อดิจิทลั สามารถแบง่ ออกได้ 8 ดา้ น ดงั นี้

การรเู้ ท่าทนั ส่ือ

การแบ่งระดบั ของการรเู้ ทา่ ทนั สื่อ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 4 ระดบั ดงั น้ี

ความรตะดรบัะหนกั ควารมะดเขับา้ ใจ วเิ รคะรดาบั ะห์ การปรระะดเมบั นิ และ
และตีความ การตดั สินใจ

❖ ระดับความตระหนกั คือ ระดบั ท่ผี รู้ ับสือ่ ตระหนกั วา่ ส่ือและเนือ้ หาส่อื มเี พื่อตอบสนองต่อ
ความชอบ ความพอใจ

❖ ระดบั ความเขา้ ใจ คอื ระดบั ทผ่ี ้รู บั สือ่ มคี วามรู้ความเข้าใจในสอื่ รลู้ ักษณะของสอ่ื ตามบทบาท
หน้าที่ในระบบสังคม รู้ความหมายตรง

❖ ระดับวิเคราะหแ์ ละตคี วาม คอื ระดบั ที่ผู้รบั สื่อสำมำรถวิเครำะหก์ ำรดำเนนิ กำรของสถำบัน
หรอื องค์กรส่ือ วิเครำะห์และตีควำมหมำยแฝงได้

❖ ระดับการประเมนิ และการตดั สนิ ใจ คอื ระดบั ทีผ่ ู้รบั สื่อประเมนิ ไดว้ ่ำ สถำบนั หรือองค์กรส่อื
เก่ียวขอ้ งกับระบบอำนำจ ทนุ นิยม บรโิ ภคนิยม สำมำรถตีควำมเนือ้ หำสื่ออยำ่ งเช่ือมโยงกับ
บรบิ ททำงสังคมและวฒั นธรรม

การรเู้ ท่าทนั สอ่ื

ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมในปัจจุบนั ทมี่ ีการพฒั นาไปอย่างมาก โดยเฉพาะส่ือ
เทคโนโลยีสารสนเทศตา่ ง ๆ ซ่งึ อาจสง่ ผลใหเ้ กดิ ปัญหาจากการใช้สื่อของคนในสงั คมมากขึน้ และรวดเรว็ เช่น

การเลน่ เกมออนไลน์ พฤติกรรมกำร ปญั หาความรุนแรง
ลอกเลียนแบบ ปญั หำพฤตกิ รรมก้ำวร้ำว
ปญั หาทางอารมณ์

การรูเ้ ทา่ ทนั ส่ือ

กำรรบั ข้อมลู ข่ำวสำรต่ำง ๆ จะต้องมีกำรวิเครำะห์ว่ำ สงิ่ ทเ่ี ผยแพร่น้ันเปน็ จรงิ หรอื ไม่ ซึง่ ถ้ำหำก
ข้อมูลน้นั เป็นเทจ็ อำจทำให้ผรู้ บั ข้อมูลได้รบั ผลกระทบได้ ดงั ตวั อยำ่ งต่อไปนี้

นายบอยได้รบั อีเมลจากธนาคารแจง้ วา่ บัญชีธนาคารมีความเคล่ือนไหวผิดปกติ ให้นายบอยส่งเลขบัตร
ประจาตัวประชาชนพร้อมเบอรโ์ ทรศพั ท์กลับมาทอี่ ีเมลน้ี มิเชน่ นั้นบัญชธี นาคารจะไม่สามารถใชง้ านได้

ผลกระทบจากการไดร้ บั ข้อมูลผิดพลาดน้ี คือ
1. กำรถูกโจรกรรมข้อมลู สว่ นตวั ได้แก่ เลขบตั รประจำตัวประชำชน
เบอร์โทรศัพท์
2. การถูกโจมตดี ้วยมลั แวร์ตา่ ง ๆ
3. การถกู ล่อลวงดว้ ยข้อมลู อนั เปน็ เท็จ

การประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมูลจะตอ้ ง
พจิ ารณาข้อมลู ทม่ี าจากแหล่งข้อมลู ท่เี ชื่อถือได้

และตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน
หรืออาจใช้เคร่อื งมอื ในการประเมนิ ความน่าเชื่อถอื

คอมพิวเตอร์

ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4

Slide PowerPoint_สือ่ ประกอบการสอน

ครูผ้สู อน : นายดลพฤกษ์ ทนั เจรญิ (ครดู ฟี )
ตาแหน่ง ครผู ชู้ ่วย

3หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี

เทคโนโลยีสารสนเทศ

• ใชเ้ ทคโนโลยีสำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั และมคี วำมรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม ปฏิบตั ติ ำมกฎหมำยท่เี ก่ยี วขอ้ งกับคอมพวิ เตอร์ ใช้ลิขสิทธิ์ของผ้อู น่ื โดยชอบธรรม

การใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มลี ักษณะอย่างไร ?

การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ

การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในปัจจุบนั มีการพัฒนาอย่างรวดเรว็ และสรา้ งความเปลย่ี นแปลงตอ่ ระบบสังคมและองค์ตา่ ง ๆ ดังน้ี