การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับน้ี จัดทาข้ึนโดยคานึงถึงการส่งเสริม ให้ผู้เรียนมีทักษะที่จาเป็นสาหรับการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 เปน็ สาคัญ นั่นคอื การเตรยี มผู้เรียนใหม้ ีทกั ษะดา้ นการคดิ วิเคราะห์ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ การแก้ปัญหา การคิด วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขัน และอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ทั้งนี้ การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ท่ีประสบ เรียนรู้อะไรในคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตรจ์ ัดเป็น 4 สาระ ได้แก่ จานวนและพชี คณติ การวัดและเรขาคณิต สถิติและความนา่ จะเป็น จานวนและพีชคณิต ระบบจานวนจริง สมบัติเก่ียวกับจานวนจริง อัตราส่วน ร้อยละ การประมาณค่า การแก้ปัญหา เกย่ี วกับจานวน การใช้จานวนในชีวติ จริง แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน เซต ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหุนาม สมการ ระบบ และพีชคณติ ไปใช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ คาดคะเนเกี่ยวกับการวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิตและสมบัติของ รูปเรขาคณิต การนึกภาพ แบบจาลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณติ ในเร่ืองการเล่ือนขนาน การสะทอ้ น การหมนุ เรขาคณิตวิเคราะห์ เวกเตอรใ์ นสาม สถิตแิ ละความน่าจะเป็น การตั้งทางสถติ ิ การเก็บรวบรวมข้อมูล การคานวณค่าสถิติ การนาเสนอและแปลผลสาหรบั ข้อมูล แคลคูลสั ลิมิตและความต่อเนื่องของฟังก์ชัน อนุพันธ์ของฟังกช์ ันพีชคณติ ปรพิ ันธ์ของฟังก์ชันพีชคณิต และการนาความรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ และ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ี มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพนั ธ์ ฟังกช์ ัน ลาดบั และอนกุ รม และนาไปใช้ มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทต่ี ้องการวดั และนาไปใช้ ทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้ 5 สาระท่ี 3 สถิตแิ ละความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแกป้ ญั หา ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ซง่ึ ความรู้ และประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ในที่น้ี เน้นท่ีทักษะและ 1. การแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการทาความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผนแก้ปัญหา และเลือกใช้วิธีการที่ เหมาะสม โดยคานงึ ถงึ ความสมเหตุสมผลของคาตอบ พรอ้ มท้งั ตรวจสอบความถูกต้อง ในการสื่อสาร สือ่ ความหมาย สรปุ ผล และนาเสนอไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ชัดเจน หรือศาสตรอ์ นื่ ๆ และนาไปใช้ในชีวิตจริง 4. การให้เหตผุ ล เป็นความสามารถในการให้เหตุผล รับฟังและใหเ้ หตุผลสนับสนนุ หรือโต้แย้ง เพื่อนาไปสูก่ ารสรุป โดยมี 5. การคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการขยายแนวคิดที่มีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิดใหม่ เพื่อปรับปรุง พัฒนาองค์ คุณภาพผ้เู รียน มีความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกับจานวนจริง ความสัมพันธ์ของจานวนจริง สมบัติของจานวนจริง และใช้ความรู้ความเขา้ ใจนีใ้ น มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับอัตราส่วน สัดสว่ น และรอ้ ยละ และใช้ความรคู้ วามเข้าใจน้ี ในการแกป้ ญั หาในชวี ิตจริง มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกับเลขยกกาลังทมี่ ีเลขช้ีกาลังเปน็ จานวนเต็ม และใช้ความรู้ความเข้าใจนี้ ในการแก้ปัญหาในชีวิต มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว ระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร และอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว มคี วามรู้ความเขา้ ใจและใชค้ วามรู้เก่ียวกับคอู่ ันดบั กราฟของความสมั พนั ธ์ และฟงั ก์ชนั กาลงั สอง และใช้ความรู้ความเข้าใจ มีความรู้ความเข้าใจทางเรขาคณิตและใช้เคร่ืองมือ เช่น วงเวียนและสันตรง รวมท้ังโปรแกรม The Geometer’s มคี วามร้คู วามเขา้ ใจและใช้ความรคู้ วามเข้าใจนใ้ี นการหาความสัมพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิตแิ ละรูปเรขาคณิตสามมิติ มีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองพ้ืนที่ผิวและปริมาตรของปรซิ ึม ทรงกระบอก พีระมิด กรวย และทรงกลม และใช้ความรู้ความ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมบัติของเส้นขนาน รูปสามเหลี่ยมที่เท่ากันทุกประการรูปสามเหล่ียมคล้าย ทฤษฎีบทพีทา 6 มคี วามรู้ความเขา้ ใจในเรื่องการแปลงทางเรขาคณิตและนาความรู้ความเข้าใจนไ้ี ปใช้ในการแกป้ ญั หา มีความรคู้ วามเข้าใจในเร่ืองอัตราสว่ นตรโี กณมติ ิและนาความรู้ความเข้าใจนไ้ี ปใชใ้ นการแก้ปญั หาในชวี ติ จริง มีความรคู้ วามเข้าใจในเรือ่ งทฤษฎบี ทเกี่ยวกับวงกลมและนาความรู้ความเขา้ ใจน้ีไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณติ ศาสตร์ มคี วามร้คู วามเข้าใจทางสถิติในการนาเสนอข้อมลู วิเคราะห์ข้อมูล และแปลความหมายข้อมูล ท่เี ก่ียวขอ้ งกับแผนภาพจุด มีความรคู้ วามเข้าใจเกีย่ วกบั ความนา่ จะเป็นและใช้ในชวี ติ จริง จบชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6 (สาหรับนกั เรียนท่ีเนน้ วิทยาศาสตร์) เขา้ ใจและใช้ความรเู้ ก่ียวกับเซตและตรรกศาสตรเ์ บ้ืองต้น ในการสื่อสาร สอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ เข้าใจและใช้หลักการนับเบ้ืองต้น การเรียงสับเปลี่ยน และการจัดหมู่ ในการแก้ปัญหา และนาความรู้เกี่ยวกับความน่าจะ นาความรเู้ ก่ียวกับเลขยกกาลัง ฟังก์ชัน ลาดับและอนุกรม ไปใช้ในการแก้ปัญหา รวมทั้งปญั หาเกี่ยวกับดอกเบี้ยและมูลค่า เข้าใจและใช้ความรูท้ างสถติ ิในการวเิ คราะห์ข้อมลู นาเสนอขอ้ มูล และแปลความหมายข้อมลู เพือ่ ประกอบการตัดสนิ ใจ ตัวชีว้ ัดและสาระการเรยี นร้แู กนกลาง ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 สาระที่ 1 จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดขึ้นจาก การดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง จานวนตรรกยะ 1. เข้าใจและใช้สมบัตขิ องเลขยกกาลังท่ีมเี ลขชี้ - เลขยกกาลังท่มี ีเลขชี้กาลังเปน็ จานวนเตม็ กาลงั เปน็ จานวนเต็มในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ - การนาความรู้เกย่ี วกบั เลขยกกาลงั ไปใช้ในการแก้ปญั หา และปัญหาในชีวติ จรงิ จานวนจริง 2. เขา้ ใจจานวนจรงิ และความสัมพันธ์ของ - จานวนอตรรกยะ จานวนจรงิ และใช้สมบัตขิ องจานวนจรงิ ในการ - จานวนจรงิ แก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ิตจริง - รากที่สองและรากทส่ี ามของจานวนตรรกยะ - การนาความรเู้ กี่ยวกับจานวนจริงไปใช้ 7 สาระที่ 1 จานวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะหแ์ บบรปู ความสมั พันธ์ ฟังกช์ ัน ลาดับและอนุกรม และนาไปใช้ ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง พหุนาม 1. เขา้ ใจหลกั การการดาเนินการของพหนุ าม - พหุนาม และใช้พหนุ ามในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ - การบวก การลบ และการคณู ของพหนุ าม - การหารพหุนามดว้ ยเอกนามท่ีมีผลหารเป็นพหนุ าม การแยกตัวประกอบของพหนุ าม 2. เขา้ ใจและใชก้ ารแยกตัวประกอบของพหนุ าม - การแยกตัวประกอบของพหนุ ามดกี รสี องโดยใช้ ดีกรสี องในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตร์ o สมบตั กิ ารแจกแจง o กาลงั สองสมบูรณ์ o ผลต่างของกาลงั สอง สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเก่ยี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งทต่ี ้องการวดั และนาไปใช้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง พื้นทีผ่ วิ 1. ประยุกต์ใชค้ วามรเู้ ร่ืองพ้นื ที่ผิวของปรซิ มึ และ - การหาพื้นท่ผี ิวของปริซึมและทรงกระบอก ทรงกระบอกในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์และปัญหา - การนาความรู้เกย่ี วกับพ้ืนทผี่ วิ ของปริซมึ และทรงกระบอก ในชวี ติ จริง ไปใชใ้ นการแก้ปัญหา ปริมาตร 2. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ ร่อื งปรมิ าตรของปรซิ ึม - การหาปริมาตรของปรซิ มึ และทรงกระบอก และทรงกระบอกในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละ - การนาความรู้เกย่ี วกับปรมิ าตรของปริซึมและ ปญั หาในชวี ติ จริง ทรงกระบอกไปใช้ในการแกป้ ัญหา สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิต และทฤษฎี บททางเรขาคณิต และนาไปใช้ ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง การสรา้ งทางเรขาคณิต 1. ใช้ความรู้ทางเรขาคณิตและเครื่องมือ - การนาความรเู้ กยี่ วกับการสร้างทางเรขาคณิตไปใชใ้ นชวี ติ เชน่ วงเวยี นและสนั ตรง รวมทงั้ โปรแกรม The จรงิ Geometer’s Sketchpad หรือโปรแกรมเรขาคณติ พลวัตอื่น ๆ เพอ่ื สร้างรปู เรขาคณิต ตลอดจนนา ความรเู้ ก่ยี วกับการสรา้ งนีไ้ ปประยกุ ต์ใชใ้ นการ แกป้ ัญหาในชวี ติ จรงิ 8 ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง เสน้ ขนาน 2. นาความรู้เกี่ยวกบั สมบัติของเส้นขนานและ - สมบัตเิ กยี่ วกบั เสน้ ขนานและรูปสามเหลยี่ ม รปู สามเหล่ียมไปใช้ในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตร์ การแปลงทางเรขาคณติ 3. เข้าใจและใช้ความรู้เกย่ี วกบั การแปลงทาง - การเล่อื นขนาน เรขาคณิตในการแกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาใน - การสะท้อน ชีวิตจริง - การหมุน - การนาความรูเ้ กี่ยวกับการแปลงทางเรขาคณิตไปใช้ในการ แกป้ ัญหา ความเท่ากนั ทุกประการ 4. เขา้ ใจและใช้สมบตั ขิ องรูปสามเหลย่ี มที่ - ความเท่ากันทุกประการของรูปสามเหลย่ี ม เทา่ กนั ทุกประการในการแกป้ ญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละ - การนาความรู้เกย่ี วกับความเทา่ กันทุกประการไปใชใ้ น ปญั หาในชวี ิตจรงิ การแก้ปญั หา ทฤษฎบี ทพที าโกรัส 5. เขา้ ใจและใชท้ ฤษฎบี ทพีทาโกรัสและบทกลบั - ทฤษฎบี ทพที าโกรสั และบทกลบั ในการแก้ปญั หาคณิตศาสตร์และปัญหาในชวี ติ จริง - การนาความรเู้ ก่ยี วกบั ทฤษฎีบทพีทาโกรสั และบทกลับไป ใช้ในชวี ติ จรงิ สาระที่ 3 สถิติและความน่าจะเป็น มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแกป้ ญั หา ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สถิติ 1. เขา้ ใจและใช้ความรทู้ างสถิตใิ นการนาเสนอ - การนาเสนอและวิเคราะหข์ ้อมลู ข้อมลู และวเิ คราะหข์ อ้ มูลจากแผนภาพจุดแผนภาพ o แผนภาพจุด o แผนภาพตน้ - ใบ ตน้ - ใบ ฮิสโทแกรม และค่ากลางของขอ้ มูล และ o ฮิสโทแกรม o ค่ากลางของขอ้ มูล แปลความหมายผลลพั ธ์ รวมท้งั นาสถติ ิไปใชใ้ นชวี ิต - การแปลความหมายผลลัพธ์ จรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยที เี่ หมาะสม - การนาสถิตไิ ปใช้ในชีวิตจรงิ 9 คาอธิบายรายวิชา รายวชิ า ค 22102 คณิตศาสตร์พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ จัดการเรยี นรู้ โดยใช้ประสบการณ์หรอื สถานการณ์ในชวี ิตประจาวันทีใ่ กล้ตัวผู้เรยี น ให้ ผ้เู รียนไดศ้ กึ ษาค้นควา้ โดยการปฏิบตั จิ ริง ทดลอง สรุปรายงานและฝกึ ทักษะและกระบวนการในสาระตอ่ ไปนี้ สามเหลีย่ ม ใชใ้ นการแก้ปัญหา มุม, ดา้ น – ด้าน – ดา้ น, มุม – มุม – ดา้ น ทฤษฎีบทพที าโกรัส สมบตั ิของรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับทฤษฎบี ทพที าโกรสั และบทกลบั ของ สถติ ิ การนาเสนอข้อมูล แผนภาพจุด แผนภาพต้นใบ ฮิสโตแกรม การวัดค่ากลางของข้อมลู การแปลความหมายผลลพั ธ์ โดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ เพ่อื การจัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ท่ีใกลต้ ัวให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาค้นคว้าโดย การปฏิบัติจริง ทดลองและสรุปรายงาน โดยคานึงถึงมาตรฐานด้านทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ใช้การวัดและประเมินผล เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ รหสั ตัวช้ีวดั รวมทั้งหมด 6 ตัวชีว้ ัด 10 โครงสร้างรายวชิ า รายวิชา ค 22102 คณติ ศาสตร์พื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน/ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั - การแปลความหมายผลลพั ธ์ - การนาสถติ ิไปใช้ในชีวิตจริง ความเท่ากันทุกประการ 16 25 - ความเทา่ กันทกุ ประการของรูป สามเหล่ียม - การนาความรู้เกยี่ วกับความเท่ากนั ทกุ ประการไปใช้ในการแก้ปัญหา เส้นขนาน 10 12 - สมบัตเิ กยี่ วกบั เส้นขนานและรูป สามเหลย่ี ม การสร้างทางเรขาคณติ 14 16 - การนาความร้เู กี่ยวกับการสรา้ งทาง เรขาคณิตไปใช้ในชีวติ จรงิ การแยกตัวประกอบของพหุนาม 22 22 - การแยกตัวประกอบของพหุนามดกี รีสอง โดยใช้ สมบัติการแจกแจง กาลงั สองสมบรู ณ์ ผลต่างของกาลังสอง รวม ชั่วโมง/คะแนน ระหวา่ งภาค 70 รวม ช่ัวโมง/คะแนน ปลายภาค 30 รวมทั้งสน้ิ 100 แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 11 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วัด ตวั ช้ีวดั ฮิสโทแกรมและ คา่ กลางของขอ้ มลู และแปลความหมายผลลพั ธ์ รวมทง้ั นาสถติ ิไปใช้ในชวี ติ จรงิ โดยใช้เทคโนโลยที เี่ หมาะสม แผนภาพจุด เป็นรูปแบบหน่ึงของการนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณที่ทาได้ไม่ยาก โดยจะเขียนจุดแทนข้อมูลแตล่ ะตัวไว้เหนือ เส้นในแนวนอนที่มีสเกล ใหต้ รงกับตาแหนง่ ทีแ่ สดงค่าของขอ้ มูลน้ัน แผนภาพจุดชว่ ยให้เห็นภาพรวมของขอ้ มูลได้อย่างรวดเร็วกว่า 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 2. การสอ่ื สาร การส่ือ ความหมาย และการนาเสนอ 1. มีวนิ ัย 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน แผนภาพจดุ 5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 2. ครใู ห้นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยท่ี 1 เรื่อง สถิติ จานวน 10 ขอ้ ตาแหนง่ เหนอื เส้นในแนวนอนทแ่ี บง่ สเกลออกเป็นชว่ ง ช่วงละเท่า ๆ กนั ยกตัวอยา่ งขอ้ มลู เชิงปริมาณ เชน่ คะแนนสอบระหวา่ งภาคเรยี นวชิ าคณิตศาสตรข์ องนกั เรยี น เพ่อื นาเสนอดว้ ยแผนภาพจดุ 12 ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนในเรือ่ งการอ่าน วเิ คราะหแ์ ละแปลความหมายของขอ้ มูล และช้ใี หน้ ักเรียนเหน็ วา่ การนาเสนอ ข้อมลู ด้วยแผนภาพจุดนั้น ช่วยให้สามารถเห็นลักษณะสาคญั ของข้อมูลไดง้ ่ายกวา่ การพจิ ารณาข้อมูลโดยตรง แผนภาพจุด เปน็ รูปแบบหนึง่ ของการนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณท่ีทาได้ไมย่ าก โดยจะเขยี นจุดแทนข้อมูลแต่ละตัวไว้เหนือ เสน้ ในแนวนอนที่มีสเกล ให้ตรงกับตาแหน่งท่แี สดงค่าของข้อมลู น้ัน แผนภาพจดุ ช่วยให้เห็นภาพรวมของข้อมูลได้อยา่ งรวดเรว็ กว่า การพิจารณาจากขอ้ มลู โดยตรงโดยเฉพาะอยา่ งยิง่ เมื่อสนใจจะพจิ ารณาลกั ษณะของขอ้ มลู ว่ามีการกระจายมากน้อยเพยี งใด 6. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น คณติ ศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 7. การวดั และการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครื่องมอื ท่ีใชว้ ดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านความรู้ (K) แบบทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรียน ร้อยละ 60 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ตรวจ แบบทดสอบก่อนเรียน ร้อยละ 60 13 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......................... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 3. ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 4. ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ข้อแนะนา ลงช่อื ......................................................... 14 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชือ่ .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 15 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ โรงเรยี นโคกโพธไิ์ ชยศกึ ษา 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวัด ฮสิ โทแกรมและ คา่ กลางของขอ้ มลู และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมท้ังนาสถิติไปใช้ในชีวิตจริงโดยใชเ้ ทคโนโลยีที่เหมาะสม แผนภาพจุด เป็นรูปแบบหนึ่งของการนาเสนอข้อมูลเชงิ ปริมาณทท่ี าได้ไม่ยาก โดยจะเขียนจุดแทนข้อมูลแต่ละตัวไว้เหนือ ด้านความรู้ (K) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 4. สาระการเรียนรู 5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 2. ครูยกตัวอยา่ งขอ้ มูลเชิงปริมาณ เช่น คะแนนสอบระหว่างภาคเรยี นวิชาคณิตศาสตรข์ องนักเรียนเพอ่ื นาเสนอ ดว้ ย 3. ครแู นะนาขัน้ ตอนเพ่ือใหน้ กั เรียนนาเสนอข้อมลู โดยใช้แผนภาพจดุ จากน้นั ตัง้ คาถามเก่ียวกบั แผนภาพจดุ นนั้ 4. เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนในเรื่องการอ่าน วเิ คราะห์และแปลความหมายของขอ้ มลู และชใี้ หน้ กั เรยี นเห็นวา่ การนาเสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภาพจุดนน้ั ช่วยให้เห็นลักษณะสาคัญของขอ้ มลู ไดง้ า่ ยกว่าการพิจารณาข้อมูลโดยตรง 5. ครแู นะนาใหน้ กั เรยี นรู้จกั การใช้เทคโนโลยีชว่ ยในการนาเสนอขอ้ มลู เกยี่ วกับอุณหภูมิสูงสุด 6. ใหน้ กั เรยี นฝกึ นาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกับอณุ หภมู ติ ่าสุด ดว้ ยเทคโนโลยี 16 7. ครแู ละนกั เรียนอภิปรายร่วมกนั เพื่อเปรยี บเทียบลกั ษณะของขอ้ มูลทัง้ สองแบบที่เกดิ ข้นึ 8. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรุปเกี่ยวกบั ความรู้ของแผนภาพจดุ ดงั นี้ แผนภาพจุด เปน็ รปู แบบหนึง่ ของการนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณที่ทาไดไ้ มย่ าก โดยจะเขยี นจุดแทนขอ้ มลู แต่ละตัวไว้เหนอื เสน้ ในแนวนอนท่มี สี เกล ให้ตรงกบั ตาแหนง่ ท่ีแสดงค่าของขอ้ มลู น้นั แผนภาพจุดช่วยใหเ้ หน็ ภาพรวมของขอ้ มูลได้อยา่ งรวดเรว็ กว่า การพิจารณาจากข้อมลู โดยตรงโดยเฉพาะอย่างย่งิ เม่ือสนใจจะพิจารณาลกั ษณะของข้อมลู วา่ มกี ารกระจายมากนอ้ ยเพียงใด 9. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบฝกึ หัด 1. หนงั สอื เรียน คณิตศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 2. แบบฝกึ หัด จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวดั เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้วดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ (K) แบบฝกึ หดั แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 ผ่าน แผนภาพจุด 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ตรวจแบบฝึกหัด ซกั ถามพรอ้ มอธบิ าย รอ้ ยละ 60 2. การสือ่ สาร การสือ่ ความหมาย และการนาเสนอ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) สงั เกตความมีวินัย แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 17 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......................... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 3. ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 4. ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ข้อแนะนา ลงช่อื ......................................................... 18 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 19 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด ตัวช้ีวัด ฮิสโทแกรมและ คา่ กลางของขอ้ มูล และแปลความหมายผลลพั ธ์ รวมทงั้ นาสถิตไิ ปใชใ้ นชีวติ จริงโดยใช้เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสม แผนภาพจุด เป็นรูปแบบหนงึ่ ของการนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณทีท่ าได้ไม่ยาก โดยจะเขียนจุดแทนข้อมูลแตล่ ะตัวไว้เหนือ เส้นในแนวนอนท่ีมสี เกล ให้ตรงกับตาแหน่งทแี่ สดงค่าของข้อมูลนั้น แผนภาพจดุ ชว่ ยให้เห็นภาพรวมของข้อมูลไดอ้ ย่างรวดเร็วกว่า 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 2. การส่ือสาร การสื่อ ความหมาย และการนาเสนอ 1. มีวินัย 3. มุ่งม่ันในการทางาน แผนภาพจดุ 5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ แผนภาพจุด เป็นรูปแบบหนงึ่ ของการนาเสนอขอ้ มลู เชิงปรมิ าณที่ทาได้ไมย่ าก โดยจะเขยี นจดุ แทนขอ้ มูลแต่ละตัวไว้เหนือ 2. ครทู บทวนขน้ั ตอนเพ่อื ให้นักเรยี นนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้แผนภาพจดุ จากนน้ั ตง้ั คาถามเกยี่ วกบั แผนภาพจุดนั้น นกั เรียนไมเ่ ข้าใจ 20 แผนภาพจุด เป็นรูปแบบหน่งึ ของการนาเสนอขอ้ มลู เชิงปริมาณท่ีทาไดไ้ ม่ยาก โดยจะเขียนจดุ แทนขอ้ มูลแต่ละตวั ไว้เหนอื เสน้ ในแนวนอนทม่ี ีสเกล ให้ตรงกับตาแหน่งท่แี สดงค่าขอข้อมูลนัน้ แผนภาพจุดชว่ ยให้เหน็ ภาพรวมของขอ้ มลู ไดอ้ ย่างรวดเรว็ กวา่ การพิจารณาจากข้อมูลโดยตรงโดยเฉพาะอย่างย่งิ เม่อื สนใจจะพจิ ารณาลกั ษณะของขอ้ มูลวา่ มีการกระจายมากนอ้ ยเพียงใด 6. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงาน 6. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน คณติ ศาสตร์ ม.2 เลม่ 2 2. ใบงานเรื่อง แผนภาพจุด 7. การวัดและการประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครอ่ื งมือท่ใี ชว้ ดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ (K) ใบงาน ใบงาน รอ้ ยละ 60 แผนภาพจดุ 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. การใหเ้ หตุผล ตรวจใบงาน ซกั ถามพร้อมอธบิ าย รอ้ ยละ 60 3. การเชอ่ื มโยงความรตู้ ่างๆ ทางคณติ ศาสตร์ 3. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) สงั เกตความมีวนิ ัย แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 21 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน คิดเปน็ รอ้ ยละ ......................... ไม่ผา่ นจุดประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (K) 3. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 4. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ข้อแนะนา ลงชือ่ ......................................................... 22 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 4 23 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ัด ฮสิ โทแกรมและ ค่ากลางของขอ้ มูล และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมท้ังนาสถิตไิ ปใชใ้ นชีวติ จริงโดยใช้เทคโนโลยที เี่ หมาะสม แผนภาพต้น – ใบ เป็นอีกรปู แบบหน่ึงของการนาเสนอขอ้ มลู เชิงปริมาณท่มี ีการเรยี งลาดบั ขอ้ มูลและชว่ ยใหเ้ หน็ ภาพรวม ดา้ นความรู้ (K) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 4. สาระการเรียนรู 5. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 2. ครแู นะนาความหมายและประโยชนข์ องแผนภาพต้น–ใบ ดงั นี้ แผนภาพต้น – ใบ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณท่ีมกี ารเรียงลาดับขอ้ มูลและช่วยให้เห็นภาพรวม 3. ครูยกตวั อยา่ งขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ เชน่ นา้ หนักของนักเรียน เพือ่ นาเสนอด้วยแผนภาพตน้ –ใบ 24 หนงั สอื เรยี น 5. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกทักษะที่ 1.1 เร่อื งแผนภาพต้น – ใบ หลงั จากนัน้ ครูสมุ่ นกั เรยี นออกมานาเสนอแผนภาพตน้ – ใบ โดยมีครคู อยช้ีแนะและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 6. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรปุ ความหมายและประโยชน์ของแผนภาพตน้ –ใบ ดงั นี้ แผนภาพต้น – ใบ เป็นอีกรปู แบบหน่ึงของการนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณที่มีการเรียงลาดับขอ้ มูลและช่วยให้เห็นภาพรวม ของข้อมลู ไดร้ วดเร็วย่ิงขึ้น หลักการง่าย ๆ ในการนาเสนอข้อมลู ด้วยแผนภาพตน้ – ใบ คอื การแบง่ ตัวเลขที่แสดงข้อมูลเชิงปรมิ าณ ออกเป็นส่วนท่ีเรียกว่า ส่วนลาต้น และ ส่วนใบ โดยในที่น้ีส่วนใบจะเป็นตัวเลขท่ีอยู่ขวามือสุดส่วนตัวเลขที่เหลือจะเป็นส่วนลาต้น 7. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หัด 6. ส่ือและอปุ กรณก์ ารเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน คณิตศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 7. การวัดและการประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เคร่อื งมอื ท่ใี ชว้ ดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ (K) แบบฝกึ หัด แบบฝกึ หดั ร้อยละ 60 ต้น–ใบ 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. การใหเ้ หตุผล ตรวจแบบฝกึ หัด แบบฝึกหัด รอ้ ยละ 60 3. การเช่ือมโยงความรู้ตา่ งๆ ทางคณติ ศาสตร์ 3. ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) สังเกตความมีวินัย แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2 25 บนั ทกึ ผลหลังการสอน คิดเป็นรอ้ ยละ ......................... ไม่ผ่านจดุ ประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (K) 3. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 4. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ขอ้ แนะนา ลงช่ือ ......................................................... 26 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชอ่ื .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 27 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั ตวั ชี้วดั ฮิสโทแกรมและ คา่ กลางของข้อมลู และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมทัง้ นาสถติ ิไปใชใ้ นชวี ิตจริงโดยใชเ้ ทคโนโลยที ่ีเหมาะสม แผนภาพตน้ – ใบ เปน็ อกี รปู แบบหนง่ึ ของการนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณท่มี ีการเรยี งลาดบั ข้อมูลและชว่ ยให้เหน็ ภาพรวม ของขอ้ มลู ไดร้ วดเรว็ ยิ่งขน้ึ หลักการง่าย ๆ ในการนาเสนอข้อมูลด้วยแผนภาพต้น – ใบ คอื การแบ่งตัวเลขท่ีแสดงข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ เชน่ 159 จะมี 9 เป็นสว่ นใบ และ 15 เป็นส่วนลาตน้ ด้านความรู้ (K) อา่ นและแปลความหมายของข้อมลู ท่ีนาเสนอดว้ ยแผนภาพตน้ –ใบ 1. การใหเ้ หตุผล ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 2. ใฝเ่ รียนรู้ แผนภาพตน้ – ใบ 1. ครูทบทวนความรู้เดิมจากชว่ั โมงท่ีผ่านมาโดยร่วมกันอภปิ รายเรื่องแผนภาพต้น-ใบ จนได้ขอ้ สรุปดังน้ี แผนภาพต้น-ใบ ออกเปน็ สอส่วนทีเ่ รยี กวา่ ส่วนลาตน้ และสว่ นใบ โดยในทีน่ ส้ี ่วนใบจะเป็นตวั เลขที่อยู่ขวาสุด สว่ นตวั เลขที่เหลอื จะเป็นสว่ นลาต้น การอ่าน วเิ คราะห์และแปลความหมายของขอ้ มูล และชีใ้ ห้นักเรียนเหน็ วา่ การนาเสนอขอ้ มลู ดว้ ยแผนภาพตน้ –ใบนัน้ ช่วยให้สามารถ 28 ผจู้ ัดนิทรรศการแห่งหนง่ึ สารวจอายุของผเู้ ข้าชมนิทรรศการพบวา่ อายุของผ้เู ข้าชมนิทรรศการ30แรกท่ีมาร่วมงานเปน็ ดงั นี้ สรา้ งแผนภาพต้น -ใบ ของอายผุ เู้ ขา้ ชมนิทรรศการได้ดงั น้ี จากขอ้ มลู ท่ีกาหนดให้เขยี นแผนภาพตน้ -ใบได้ดังนี้ 0 789 6. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรุปความหมายและประโยชน์ของแผนภาพต้น–ใบ 7. ครแู จกใบกิจกรรมเรอ่ื ง แผนภาพตน้ -ใบ ให้นกั เรยี นรายบุคคลทาและร่วมกนั เฉลย 6. ส่อื และอปุ กรณก์ ารเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน คณิตศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวดั เคร่ืองมือท่ีใช้วดั เกณฑ์การประเมิน 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ระดบั คณุ ภาพ 2 3. การเช่อื มโยงความรูต้ ่างๆ ทางคณิตศาสตร์ 3. ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) สังเกตความมีวนิ ยั แบบประเมิน 29 บนั ทกึ ผลหลังการสอน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......................... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรคู้ วามเข้าใจ (K) 3. ด้านทักษะกระบวนการ (P) 4. ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ข้อแนะนา ลงช่อื ......................................................... 30 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชือ่ .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 6 31 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด ฮสิ โทแกรมและ ค่ากลางของขอ้ มลู และแปลความหมายผลลัพธ์ รวมทงั้ นาสถิติไปใชใ้ นชีวิตจรงิ โดยใช้เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม แผนภาพตน้ – ใบ เปน็ อีกรูปแบบหนึง่ ของการนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณทีม่ ีการเรยี งลาดับข้อมูลและช่วยให้เหน็ ภาพรวม ด้านความรู้ (K) ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 4. สาระการเรยี นรู 5. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เน้ือหาทเ่ี รยี นผ่านมาแลว้ 2. ครยู กตวั อยา่ งข้อมูลทเ่ี ปน็ ทศนยิ มแล้วอภปิ รายร่วมกันกบั นกั เรยี นเกยี่ วกับการนาเสนอข้อมลู น้ีด้วยแผนภาพ ตน้ –ใบ 3. จากตวั อยา่ งในขอ้ ท่ี 2 ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกับการเขียนตวั เลขในส่วนลาตน้ และส่วนใบเมอ่ื ไม่ปรากฏ ข้อมลู ในสว่ นใบ จากข้อสังเกต ในหนังสอื เรียน หน้า 22 แลว้ ชีป้ ระเด็ดใหน้ กั เรยี นเห็นว่าแผนภาพต้น - ใบนยิ มใช้นาเสนอขอ้ มูลที่ เปน็ จานวนเตม็ บวกและศนู ย์ 32 ของนักเรียนในเรื่องการอา่ น วิเคราะห์ละแปลความหมายของขอ้ มูล 5. ครชู ้ใี ห้นกั เรยี นเห็นวา่ การนาเสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภาพ ตน้ –ใบ น้นั ชว่ ยให้สามารถเหน็ ลกั ษณะสาคญั ของข้อมลู ไดง้ า่ ย กว่าการพิจารณาขอ้ มูลโดยตรง 7. ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื งแผนภาพตน้ -ใบ 6. สอ่ื และอปุ กรณก์ ารเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน คณติ ศาสตร์ ม.2 เล่ม 2 7. การวดั และการประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครือ่ งมอื ทใ่ี ชว้ ัด เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ (K) ใบงานเรอื่ ง ใบงานเร่อื ง ร้อยละ 60 แผนภาพต้น–ใบ 2. ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1. การให้เหตุผล ตรวจใบงาน ใบงานเร่ือง ร้อยละ 60 3. การเชอื่ มโยงความรตู้ า่ งๆ ทางคณิตศาสตร์ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) สังเกตความมีวนิ ยั แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 33 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน คดิ เป็นรอ้ ยละ ......................... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรู้ความเข้าใจ (K) 3. ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 4. ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ข้อแนะนา ลงช่อื ......................................................... 34 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชือ่ .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 35 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด ตัวชี้วัด ฮสิ โทแกรมและ คา่ กลางของข้อมูล และแปลความหมายผลลพั ธ์ รวมทงั้ นาสถติ ิไปใช้ในชวี ติ จริงโดยใช้เทคโนโลยที ี่เหมาะสม แผนภาพตน้ – ใบ เป็นอกี รปู แบบหนงึ่ ของการนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณท่ีมกี ารเรยี งลาดับขอ้ มูลและช่วยให้เห็นภาพรวม ของข้อมลู ได้รวดเรว็ ยิง่ ขึ้น หลักการง่าย ๆ ในการนาเสนอข้อมลู ดว้ ยแผนภาพตน้ – ใบ คือการแบง่ ตวั เลขท่ีแสดงขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ เช่น 159 จะมี 9 เปน็ สว่ นใบ และ 15 เป็นสว่ นลาต้น ด้านความรู้ (K) อ่านและแปลความหมายของข้อมูลทีน่ าเสนอด้วยแผนภาพตน้ –ใบ 1. การใหเ้ หตุผล ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 2. ใฝ่เรียนรู้ แผนภาพต้น – ใบ 1. ครูทบทวนความร้เู ดมิ จากเรยี นผ่านมาโดยร่วมกันอภิปรายเรื่องแผนภาพต้น-ใบ และถาม-ตอบร่วมนักเรียนเก่ียวกับ 2. ครูใหน้ กั เรียนจับกลมุ่ กลุ่มละ 3 – 4 เพ่ือให้นกั เรยี นศกึ ษาตัวอยา่ งในหนงั สอื เรียน โดยมีครคู อยใหค้ าแนะนา และ อธบิ ายเพ่มิ เตมิ ในสว่ นท่นี ักเรียนไมเ่ ข้าใจ 4. ครูส่มุ ตัวแทนแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลของการดาเนนิ กิจกรรมในหนังสือเรยี น โดยทกุ กล่มุ จะได้นาเสนอผลงาน 36 6. สอ่ื และอปุ กรณก์ ารเรียนรู้ วิธีการวดั เคร่อื งมอื ทใ่ี ชว้ ัด เกณฑก์ ารประเมิน 2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 37 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน คิดเปน็ รอ้ ยละ ......................... ไม่ผา่ นจุดประสงค์ .................................. คน 2. ด้านความรู้ความเขา้ ใจ (K) 3. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 4. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………….………………… ข้อแนะนา ลงช่ือ ......................................................... 38 ความเห็นของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ได้จดั ทาการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ................ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน (ค22102) 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2. การจัดกิจกรรมได้นาเอากระบวนการเรยี นรู้ 3. เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ลงชือ่ .............................................................. ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 39 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรยี นโคกโพธไิ์ ชยศึกษา 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั ตัวช้ีวดั ฮิสโทแกรมและ ค่ากลางของข้อมูล และแปลความหมายผลลพั ธ์ รวมท้งั นาสถิติไปใช้ในชีวติ จรงิ โดยใชเ้ ทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม ฮิตโทแกรม (histogram) มีลักษณะคล้ายแผนภูมิแท่งส่ีเหล่ียมมุมฉากแสดความถ่ีหรือความถ่ีสัมพัทธ์ของข้อมูลเชิง |