สอนลูก 2-4 ขวบ แบ่งเวลารู้หน้าที่อย่างไรให้ได้ผล Show การวิ่งเล่นซุกซนเป็นธรรมชาติของเด็กเล็กทุกคน การทำให้ลูกอยู่นิ่งได้ จึงไม่ใช่ด้วยการให้เล่นมือถือหรือดูทีวี เพราะวิธีนี้ลูกนิ่งได้ก็จริง แต่จะเกิดปัญหาอีกมากมายตามมา เช่น สมาธิสั้น พัฒนาการช้ากว่าปกติ ปัญหาการควบคุมอารมณ์ ปัญหาสายตา ฯลฯ พ่อแม่จึงควรสอนให้ลูกรู้จักแบ่งเวลา รู้หน้าที่ ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ดังนี้ . 1. กำหนดเวลาเล่นให้ชัด เช่น “แม่ให้หนูเล่นจนเข็มสั้นชี้ที่เลข 5 แล้วหยุดเล่นไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ” 2. ตั้งกติกาถ้าไม่ทำตามตกลงจะเกิดอะไรขึ้น เช่น งดกินขนมมื้อกลางวัน งดออกไปเล่นนอกบ้านตอนเย็น 3. เสริมแรงด้วยคำชม ถ้าลูกทำตามกติกา หรืออยู่นิ่งๆ ได้ ให้ชมลูกเสมอ เช่น “แม่ชอบที่หนูไปอาบน้ำตรงเวลา หนูเก่งมากจ้ะ” 4. ให้เล่นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสมาธิ เช่น ต่อบล็อกไม้ จับผิดภาพ ต่อจิ๊กซอว์ เล่นทราย ฯลฯ จะช่วยให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ได้นานขึ้น และยังช่วยพัฒนาความคิด ฝึกสังเกต จดจำได้ดีอีกด้วย . การตั้งกติกาและตารางเวลาร่วมกับลูกเป็นการ “สร้างวินัย” ให้ลูกอย่างเป็นรูปธรรม เช่น เวลาในการเล่น เวลาอาบน้ำ เวลาตื่นนอน ลูกจะค่อยๆ ควบคุมตัวเอง และแบ่งเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างและช่วยเหลือลูกให้ทำตามตารางเวลาให้ได้อย่างจริงจังสม่ำเสมอ เลี้ยงลูกวัย 4 ขวบอย่างไร ให้ถูกวิธี และเสริมพัฒนาการลูกน้อยพ่อแม่บางคนคิดว่า เด็กแรกเกิดจนถึง 3 เดือนจะเลี้ยงยาก เป็นวัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ความจริงแล้วเด็กวัย 4 ขวบ เป็นวัยที่น่ากลัวมาก เพราะเด็กจะเริ่มเตรียมตัวที่จะออกไปโรงเรียน มีความอยากรู้อยากเห็น และพูคุยอย่างสนุกสนาน พร้อมกับคำถามอีกมากมาย ทำให้การ เลี้ยงลูกวัย 4 ขวบ เป็นเรื่องท้าทายมาก เมื่อลูกอายุ 4 ขวบ พ่อแม่ควรทำอย่างไรKandace Herring ผู้อำนวยการด้านการศึกษาของ Varsity Tutors ซึ่งจบการศึกษาปริญญาโทด้านการศึกษาเด็กปฐมวัย ได้กล่าวว่า เด็กส่วนใหญ่เมื่อมีอายุ 4 ขวบ จะมีพัฒนาการบางอย่าง ได้แก่
วิธีกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้พ่อแม่อาจเริ่มกระตุ้นลูกๆ ของคุณด้วยการตั้งตำถามในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น เวลาที่คุณกำลังเดินอยู่ตามท้องถนน หรือเห็นต้นไม้ข้างทาง พ่อแม่อาจถามลูกว่า ลูกคิดว่าทำไมต้นไม้ถึงสูง เมฆมาจากไหน ทำไมฝนถึงตก ซึ่งคำถามพวกนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกๆ เกิดความคิดขึ้นมาทีเล็กทีละน้อย ตรงนี้แหละที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเริ่มต้นการเรียนรู้จากข้อสงสัยที่เกิดขึ้น ทั้งยังเป็นการฝึกให้เด็กเป็นนักคิดแทนที่จะเป็นแค่ผู้เรียนที่คอยรับการป้อนสิ่งต่างๆ เพียงอย่างเดียว สำหรับกิจกรรมสำหรับเด็กที่อยากจะแนะนำก็คือ การอ่านหนังสือ การให้เด็กได้เล่นเกมกระดาน การเล่นเกมวางแผนขายของ และเล่นทำอาหาร แต่การทำอาหารพ่อแม่อาจจะให้น้องๆ ได้ลองทำอาหารจริงด้วยก็ได้ เพื่อให้เด็กน้อยได้รู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ เวลาสำหรับการเล่นหน้าจอของลูกสมัยนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี อย่างที่รู้กันว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทุกคนต้องรู้จุดประสงค์ที่เราต้องการที่จะเล่นและระยะเวลาในแต่ละครั้ง เด็กเองก็เช่นกัน พ่อแม่ควรจะกำหนดเวลาให้ลูกได้เช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กกลายเป็นเด็กติดจอ ซึ่งแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ ต้องเป็นแอปที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เช่น เกมการเรียนรู้ ที่มีการสัมผัสกับหน้าจอ สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ต้องรู้ว่า เด็กแต่ละคนจะมีพฤติกรรมและรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการเรียนรู้แบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับเด็กทุกคน แต่อาจได้ผลกับเด็กบางคนเท่านั้น ถ้าพ่อแม่รู้ว่าวิธีการแบบนี้ใช้กับลูกไม่ได้ก็ควรค่อยปรับเปลี่ยนให้เข้ากับลูกเราให้มากที่สุด ที่มา: sheknows บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ: ระวัง! ลูกเป็นโรคโตเกินวัย เป็นหนุ่มสาวเร็ว ภัยร้ายท่ี่พ่อแม่สร้าง ย้อนคดีลักเด็ก 4 ขวบ ทำอย่างไรเมื่อแม่แท้ๆ กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับลูก มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้! |