จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี Show
ลัทธิอาณานิคม (อังกฤษ: colonialism) เป็นการสถาปนา แสวงหาประโยชน์จากพื้นที่อื่น ธำรงรักษา ได้มาซึ่งและขยายอาณานิคมในดินแดนหนึ่งจากประชากรอีกดินแดนหนึ่ง ลัทธิอาณานิคมเป็นชุดความสัมพันธ์ไม่เท่ากันระหว่างเจ้าอาณานิคมและอาณานิคม และมักระหว่างผู้อยู่ในนิคมและประชากรพื้นเมือง สมัยอาณานิคมยุโรปอยู่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมื่อชาติยุโรปหลายชาติสถาปนาอาณานิคมในทวีปเอเชีย แอฟริกาและอเมริกา ทีแรก ประเทศต่าง ๆ ดำเนินนโยบายลัทธิพาณิชยนิยมซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมเศรษฐกิจของประเทศแม่โดยแลกกับเศรษฐกิจของคู่แข่ง ฉะนั้น ปกติอาณานิคมจึงได้รับอนุญาตให้ค้าขายเฉพาะกับประเทศแม่เท่านั้น ทว่า เมื่อถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิบริติชยกเลิกลัทธิพาณิชยนิยมและการจำกัดการค้า และเริ่มใช้หลักการค้าเสรี โดยมีการจำกัดหรือภาษีศุลกากรน้อย ประวัติ[แก้]กิจกรรมซึ่งเรียกได้ว่าลัทธิอาณานิคมนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มจากจักวรรดิแอฟริกาก่อนสมัยอาณานิคมซึ่งนำให้ชาวอียิปต์ ฟินีเซีย กรีกและโรมันล้วนสร้างอาณานิคมในสมัยโบราณ ลัทธิอาณานิคมสมัยใหม่เริ่มด้วยยุคแห่งการสำรวจ โปรตุเกสและสเปนค้นพบดินแดนใหม่ทั่วทั้งมหาสมุทรและสร้างสถานีการค้าหรือพิชิตดินแดนกว้างใหญ่ไพศาล บางคนถือว่าการสร้างอาณานิคมทั่วทั้งมหาสมุทรนี้เองที่แยกแยะลัทธิอาณานิคมจากลัทธิการขยายอาณาเขต (expansionism) แบบอื่น มีการแบ่งดินแดนใหม่เหล่านี้ระหว่างจักรวรรดิโปรตุเกสและสเปนครั้งแรกโดยสารตราพระสันตะปาปาอินเทอร์เซเทอรา และต่อมาโดยสนธิสัญญาทอร์เดสซิลลาสและสนธิสัญญาซาราโกซา (ค.ศ. 1529) สมัยนี้ยังสัมพันธ์กับการปฏิวัติพาณิชย์ สมัยกลางตอนปลายมีการปฏิรูปการบัญชีและการธนาคารในอิตาลีและเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ยุโรปตะวันตกรับและนำมาปรับใช้กับความเสี่ยงและรางวัลสูงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอาณานิคม ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการสร้างจักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศสและจักรวรรดิดัตช์ เช่นเดียวกับกรรมสิทธิ์โพ้นทะเลของอังกฤษ ซึ่งต่อมากลายเป็นจักรวรรดิบริติช นอกจากนี้ ยังมีการสถาปนาจักรวรรดิอาณานิคมเดนมาร์กและอาณานิคมโพ้นทะเลของสวีเดนบ้าง การแพร่กระจายของจักรวรรดิอาณานิคมลดลงในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยสงครามปฏิวัติอเมริกาและสงครามประกาศอิสรภาพละตินอเมริกา อย่างไรก็ตาม มีการสถาปนาอาณานิคมใหม่จำนวนมากหลังช่วงนี้ รวมทั้งจักรวรรดิอาณานิคมเยอรมันและจักรวรรดิอาณานิคมเบลเยียม ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 หลายชาติยุโรปเกี่ยวข้องในลัทธิอาณานิคมในทวีปแอฟริกา จักรวรรดิรัสเซีย จักรวรรดิออตโตมันและจักรวรรดิออสเตรียมีอยู่ในห้วงเวลาเดียวกันกับจักรวรรดิข้างต้น แต่มิได้แผ่ข้ามมหาสมุทร จักรวรรดิเหล่านี้ขยายผ่านช่องทางแต่เดิมโดยการพิชิตอาณาเขตเพื่อนบ้านแทน จักรวรรดิญี่ปุ่นจำลองตนเองตามจักรวรรดิอาณานิคมยุโรป สหรัฐได้ดินแดนโพ้นทะเล หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้คว้าชัยแบ่งจักรวรรดิอาณานิคมเยอรมันและจักรวรรดิออตโตมันส่วนใหญ่ระหว่างพวกตนในฐานะอาณัติสันนิบาตชาติ ดินแดนเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็นสามระดับตามความพร้อมได้รับเอกราช ทว่า การปลดปล่อยอาณานิคมนอกทวีปอเมริกาล่าไปจนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ใน ค.ศ. 1972 สหประชาชาติตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษการปลดปล่อยอาณานิคม หรือมักเรียกว่า คณะกรรมาธิการ 24 เพื่อส่งเสริมกระบวนการนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มีขบวนการเอกราชและโครงการความเป็นปึกแผ่นการเมืองโลก เช่น ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มีส่วนสำคัญในความพยายามปลดล่อยอาณานิคมในอดีตอาณานิคม จักรวรรดิทวีปยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 20[แก้]เป็นจักรวรรดิของประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป อาณานิคมและรัฐในอารักขาของสหราชอาณาจักร[แก้]ผู้ว่าการอาณานิคมของเซเชลส์ตรวจตรากองทหารรักษาเกียรติ ในปี ค.ศ. 1972 สงครามอังกฤษ - ซิกข์ครั้งที่ 1 ปี ค.ศ. 1845-46 บรรดาร้านค้าต่าง ๆ ในมอลตาต่างพากันนำป้ายที่มีข้อความต่อต้านบริเตน เพื่อสนับสนุนการประกาศเอกราช ในปี ค.ศ. 1960 ทวีปอเมริกาเหนือ[แก้]
ทวีปอเมริกาใต้[แก้]
ทวีปแอฟริกา[แก้]
ทวีปยุโรป[แก้]
ทวีปเอเชีย[แก้]
ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย[แก้]
อาณานิคมและรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส[แก้]เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสและทหารปืนไรเฟิลตังเกี๋ย ปี ค.ศ. 1884 ทวีปอเมริกาเหนือ[แก้]
ทวีปอเมริกาใต้[แก้]
ทวีปแอฟริกา[แก้]เฟรนช์แอฟริกาเหนือ[แก้]
เฟรนช์แอฟริกาตะวันตก[แก้]
เฟรนช์อิเควทอเรียลแอฟริกา[แก้]
แอฟริกาตะวันออกและมหาสมุทรอินเดีย[แก้]
ทวีปเอเชีย[แก้]
ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย[แก้]
ทวีปแอนตาร์กติกา[แก้]
อาณานิคมและรัฐในอารักขาของรัสเซีย[แก้]ทวีปอเมริกาเหนือ[แก้]
ทวีปยุโรป[แก้]
ทวีปเอเชีย[แก้]
อาณานิคมและรัฐในอารักขาของเยอรมนี[แก้]แคเมอรูนในอาณานิคมแอฟริกาตะวันตกของเยอรมนี เมื่อปี ค.ศ. 1908 (วาดโดย R. Hellgrewe) ทวีปอเมริกาเหนือ[แก้]
ทวีปอเมริกาใต้[แก้]
ทวีปแอฟริกา[แก้]
ทวีปเอเชีย[แก้]
ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย[แก้]
อาณานิคมและรัฐในอารักขาของอิตาลี[แก้]การบุกลิเบียของอิตาลีระหว่างสงครามอิตาโล–ตุรกี ปี ค.ศ. 1911 ทวีปแอฟริกา[แก้]
ทวีปยุโรป[แก้]
ทวีปเอเชีย[แก้]
อาณานิคมและรัฐในอารักขาของเนเธอร์แลนด์[แก้]การยอมจำนนของเจ้าชายไดโปเนโกโรต่อนายพลชาวดัตช์หลังสิ้นสุดสงครามชวา ในปี ค.ศ. 1830 ทวีปอเมริกา[แก้]
ทวีปแอฟริกา[แก้]
ทวีปเอเชีย[แก้]
อาณานิคมของโปรตุเกส[แก้]
อาณานิคมของสเปน[แก้]
ภาพวาดระบบ Casta สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 จากนิวสเปนแสดงให้เห็นถึงชายชาวสเปนคนหนึ่ง ที่มีภรรยาเป็นชนพื้นเมืองและมีลูกด้วยกัน นายพลอาร์เซนิโอ มาร์ติเนซ กัมโปส ได้รับการต้อนรับจากชาวเมืองฮาวานา คิวบา อาณานิคมสเปน ค.ศ. 1878
อาณานิคมของออสเตรีย-ฮังการี[แก้]
อาณานิคมของเดนมาร์ก[แก้]
อาณานิคมของเบลเยียม[แก้]'La Revue' แห่งกองทัพ Force Publique จากเมืองบอมา เมืองหลวงของเสรีรัฐคองโก ค.ศ. 1899
อาณานิคมของสวีเดน[แก้]
อาณานิคมของโปแลนด์-ลิทัวเนีย[แก้]
อาณานิคมและดินแดนที่ยึดครองของโรมาเนีย[แก้]
ดินแดนโพ้นทะเลของนอร์เวย์[แก้]
จักรวรรดินอกทวีปยุโรป[แก้]เป็นจักรวรรดิของประเทศต่าง ๆ นอกทวีปยุโรป รัฐในอารักขาของออสเตรเลีย[แก้]เหล่าสมาชิกของทหารกองหนุนแห่งกองทัพออสเตเลียในแทสเมเนีย ประมาณปี ค.ศ. 1913
เขตสังกัดของนิวซีแลนด์[แก้]
อาณานิคมของสหรัฐและรัฐในอารักขา[แก้]
อาณานิคมของญี่ปุ่น[แก้]ชาวเกาหลีสามคนถูกประหารชีวิตโดยการยิงเป้า ฐานก่อการจราจนประท้วงการเวนคืนที่ดินโดยไม่มีค่าชดเชยจากญี่ปุ่น
อาณานิคมของจีน[แก้]
อาณานิคมของไทย[แก้]Siamese Army in Laos in 1893.
อาณานิคมของโอมาน[แก้]
อาณานิคมของเม็กซิโก[แก้]ผู้รอดชีวิตชาวเม็กซิกันผู้หญิงและเด็ก จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกาะกลีแปร์ตอน ปี ค.ศ. 1917
อาณานิคมของเอกวาดอร์[แก้]
อาณานิคมของโคลอมเบีย[แก้]
อาณานิคมของอาร์เจนตินา[แก้]เครื่องบิน C-130 Hercules และหอบังคับการบินที่สนามบินมารัมบิโอ ของอาร์เจนตินา
อาณานิคมของชิลี[แก้]
อาณานิคมของปารากวัย[แก้]
อาณานิคมของโบลิเวีย[แก้]
อาณานิคมของบราซิล[แก้]
อาณานิคมของเอธิโอเปีย[แก้]
อาณานิคมของโมร็อกโก[แก้]
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
wikipediaอาณาจักรรัตนโกสินทร์ ไทยรอดพ้นจากภัยคุกคามจากลัทธิล่าอาณานิคมได้อย่างไรเมื่อทรงตระหนักพระราชหฤทัยว่ามิอาจเอาชนะศัตรูด้วยกำลังอาวุธ กำลังกองทัพแล้ว ทรงเห็นว่าวิธีเดียวที่จะทำให้สยามรอดพ้นเงื้อมมือนักล่าอาณานิคมเหล่านี้ได้ ก็คือการรู้จักศัตรูให้แจ่มแจ้ง รู้ถึงแนวความคิด วัตถุประสงค์ จุดอ่อนจุดแข็ง และวิธีการปฏิบัติด้วยการผูกมิตรและปฏิบัติกับประเทศเหล่านี้อย่างเป็นมิตรและเสมอภาค
รัชกาลที่ 5 ทรงใช้วิธีการใดในการให้สยามรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ทรงพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ทั้งโดยวิธีทางการทูต การทหาร และการแสวงหาความช่วยเหลือจากมหาอำนาจอื่นอย่างอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลใด ๆ เลย อังกฤษเพียงแต่บอกว่า ให้สยามยอมตามฝรั่งเศสไปเพราะไม่ใช่ผลประโยชน์ของตน
พระมหากษัตริย์พระองค์ใดทรงรักษาอิสรภาพของชาติไว้ได้ปลอดภัยไม่ให้ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่เลื่องลือพระเกียรติยศในพระราโชบายทางคบค้าสมาคมกับชาวต่างประเทศ รักษาเอกราชของชาติให้พ้นจากการเบียดเบียนของชาวต่างชาติและรับผลประโยชน์ทั้งทางวิทยาการและเศรษฐกิจที่ชนต่างชาตินำเข้ามา นอกจากนี้ ยังได้ทรงอุปถัมภ์บำรุงกวีและงานด้านวรรณคดีอันเป็นศิลปะที่รุ่งเรืองที่สุดในยุค ...
ทำไมสยามไม่ตกเป็นอาณานิคมเพราะสยามเป็นได้แค่ “ประเทศกึ่งอาณานิคม” แถมกษัตริย์เองนี่แหละที่ร่วมมือกับชาติมหาอำนาจยุโรป เพียงเพื่อ “ผลประโยชน์การเมืองภายใน” ของชนชั้นปกครอง และต้องการรักษาไว้ซึ่งอำนาจแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
|