ประเภทของการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมัน มีอะไรกันบ้าง ซึ่งเรามีมาฝากทั้งท่าออกกำลังกาย และชนิดของการออกกำลังกาย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย Show ท่าออกกําลังกายลดไขมัน : ท่ายกเข่าสูง (High Knee)
ท่ายกเข่าสูงนี้ นอกจากจะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีใน 3 นาทีแล้ว ยังช่วยลดไขมันหน้าท้อง ต้นขา และสะโพกได้อีกด้วย ท่าออกกําลังกายลดไขมัน : ท่าปีนเขา (Mountain climbers)
วิธีปฏิบัติคือ เริ่มจากนอนคว่ำตัว แขนทั้งสองข้างเหยียดพื้น เท้าเหยียดตรง ดันปลายเท้าขึ้น จากนั้น งอเข่าขวาขึ้นมาค้างไว้ที่ระดับอกให้พอเมื่อย แล้วสลับไปงอเข่าซ้าย แล้วทำสลับกันไปมา โดยทำซ้ำ 10-15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต ท่าออกกําลังกายลดไขมัน : ท่ากระโดดตบ (Jumping jacks)
ยืนให้เท้าห่างกันเล็กน้อย ปล่อยแขนไว้ข้างลำตัว เมื่อกระโดดขึ้นให้แยกเท้าออกเท่ากับความกว้างของหัวไหล่ และยกมือทั้งสองขึ้นสัมผัสกันเหนือศีรษะ ทำเช่นนี้ 10-15 ครั้ง 3 เซต แต่ท่ากระโดดตบนี้ ผู้ที่มีปัญหาเข่า หรือข้อต่อต่างๆ อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ หรือควรหลีกเลี่ยงไปใช้ท่าอื่นๆ จะเหมาะสมกว่า ท่าออกกําลังกายลดไขมัน : เบอร์พี (Burpees)
ท่านี้เป็นท่าที่สามารถเผาผลาญไขมัน เผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 14.3 กิโลแคลอรี่ต่อนาทีเลยทีเดียว และยังช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงอีกด้วย ท่าออกกําลังกายลดไขมัน : วิ่งขึ้น-ลงบันได (Running up stairs)
การวิ่งขึ้น-ลงบันได นอกจากจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดี ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระชับกล้ามเนื้อก้นและต้นขาได้อย่างดีเลยล่ะ ออกกำลังกายประเภทไหนดี : นอกจากการออกกำลังกายเป็นท่าแล้ว เรายังสามารถเลือกกีฬา หรือประเภทของการออกกำลังกายที่เราชื่นชอบได้อีกด้วย โดยมีกีฬาที่แนะนำ ดังนี้ ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : กระโดดเชือก
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : ปั่นจักรยาน
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : เต้นแอโรบิก
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : ว่ายน้ำการว่ายน้ำเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ช่วยผ่อนคลาย สงบเงียบ และเหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบเหงื่อออกเยอะ เป็นการใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย และสามารถเผาผลาญพลังงานได้ 200-660 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมงอย่างสบายๆ ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : HIIT (Hight-Intensity Interval Training)
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : ต่อยมวย
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : โยคะร้อน
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : วิ่งเร็ว
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : Sprinttm (สปริ้นท์)
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : ฮูลาฮูปอีกหนึ่งการออกกำลังกายสนุกๆ ที่คุณไม่ควรพลาดคือ ฮูลาฮูป เพียงแค่หมุนๆ ไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วระดับคงที่ หรือเร็วปานกลางสลับกับเร็วมากขึ้น ก็จะช่วยเผาผลาญได้มากกว่า 400-500 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมง และยังช่วยให้เอวคอดเล็กลงได้ด้วย ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : เทนนิสอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ช่วยในการเผาผลาญได้ดี และเล่นอย่างสนุกสนานกับเพื่อนได้ด้วย ก็คือ เทนนิส โดยในหนึ่งชั่วโมง การเล่นเทนนิสนั้นสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานไปได้มากถึง 560 แคลอรี่ ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : ปีนหน้าผาจำลอง
ท่าออกกําลังกายลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ : Emsculpt
การใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง ส่งพลังงานที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง กระตุ้นกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการหดเกร็งกล้ามเนื้อในระดับเกินกว่าความสามารถสูงสุดที่ร่างกายจะทำได้ โดยสูงถึง 20 ลดไขมัน ออกกําลังกายแบบไหนการออกกำลังกายลดน้ำหนัก คือ กิจกรรมที่ดึงพลังงานไขมันส่วนเกินออกมาใช้ ในสภาวะที่หัวใจมีอัตราการเต้น 130-150 ครั้งต่อนาที (ขึ้นอยู่กับเพศและวัย) เป็นเวลา 15-45 นาที วิธีออกกำลังกายที่แนะนำ กิจกรรมแนะนำ เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน สามารถมีส่วนในการช่วยลดความอ้วนได้
ออกกําลังกายแบบไหนลดเร็วที่สุดทั้งนี้ใครที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน แนะนำให้วิ่งแบบหนักสลับเบา เช่น ให้เริ่มที่การวิ่งเร็ว 60 วินาที สลับกับการพักเดิน 30 วินาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ 1 ชั่วโมงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะการวิ่งแบบหนักสลับเบา แบบนี้เรียกว่า คาร์ดิโอแบบ Interval Training หรือ การออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่ช่วย ...
ออกกําลังกายลดพุง แบบไหนดี6 ท่าออกกำลังกาย ลดหน้าท้อง เบิร์นไขมัน ทำได้บ้านไม่ต้องเข้า.... 1. ท่า Mountain climber. เริ่มด้วยท่าเริ่มในการวิดพื้น ให้ลงน้ำหนักที่มือและนิ้วโป้งทั้งสองข้าง ยืดเข่าและสะโพกให้ตรง งอเข่าทำ 90 องศากับสะโพก ... . 2. ท่า Plank. ... . 3. ท่า RUSSIAN TWIST. ... . 4. ท่าปั่นจักรยานอากาศ (Bicycle Crunch) ... . 5. ท่า Bird-Dog. ... . 6. ท่า V-Ups.. ออกกําลังกายตอนไหนดีที่สุด ลดความอ้วนเวลาที่เหมาะสมของการออกกำลังกาย ควรห่างจากมื้ออาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นมื้อหนัก ควรเว้นระยะห่าง 2-3 ชั่วโมง เพื่อรอให้ร่างกายและเอนไซม์ต่างๆ ปรับเข้าสู่ภาวะปกติเสียก่อน เพื่อสุขภาพที่ดีควรออกกำลังกาย 15-30 นาที ต่อวัน หรือ 150 นาที ต่อสัปดาห์ หากต้องการเผาผลาญไขมันควรใช้เวลาในการออกกำลังกาย 30 นาทีขึ้นไป
|