เมื่อมีคนบล๊อคหมายเลขเรา เราสามารถตรวจสอบได้นะเออ มี 2-3 วิธีที่สามารถดูได้ ทั้งข้อความที่ผิดปกติ ความเร็วในการโอนสายไปยังข้อความเสียง ซึ่ง Techhub ได้รวบวิธีดูและสิ่งที่เราสามารถทำได้มาให้อ่านกัน สารบัญ Show Show
ทั้งนี้ การบล๊อคเบอร์ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลัก ๆ คือ เขาอาจขอความช่วยกับผู้ให้บริการเครือข่ายเช่น True AIS หรือ DTAC ให้บล๊อคเบอร์ให้ หรืออาจบล๊อคผ่านแอพในโทรศัพท์ เบาะแสที่ 1 มีความข้อความที่ผิดปกติเมื่อโทรไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้ แต่อาจจะมีข้อความแปลก ๆ ส่งมาให้ โดยคนเหล่านั้นอาจไม่อยากให้คุณรู้ว่าพวกเขาบล๊อคเราแล้ว ข้อความเหล่านี้จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่จะเนื้อหาคล้าย ๆ กับข้อความเหล่านี้
หากเราโทรหาวันละครั้งสองหรือสามวันครั้ง และได้รับข้อความเดิมทุกครั้ง นั่นเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงว่าเราอาจถูกบล๊อคแล้ว ข้อยกเว้น ลองนึกว่า คนที่เรากำลังโทรหาเขาได้ไปเที่ยวที่ใดหรือเปล่า หรือสถานที่ ที่เขาอาจมีปัญหาเรื่องสัญญาณ อาจเกิดภัยธรรมชาติที่อาจทำลายเสาสัญญาณ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ติดต่อไม่ได้ เบาะแสที่ 2 เสียง ตู๊ดดด ที่อาจได้ยินเพียงครั้งเดียวหากคุณได้ยินเสียงกริ่งเพียงครั้งเดียวหรือไม่ส่งเสียงกริ่งก่อนที่ระบบจะาไปที่การฝากข้อความเสียง นี่เป็นข้อบ่งชี้ที่ดีว่าคุณอาจถูกบล๊อคเบอร์โทรแล้ว ในกรณีนี้คน ๆ นั้นอาจใช้การบล็อกหมายเลขในโทรศัพท์ หากคุณโทรหาวันละครั้งสองสามวันและได้ผลเหมือนกันกันทุกครั้งนั่นเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าหมายเลขของคุณถูกบล็อก หากคุณได้ยินเสียงกริ่งสามถึงห้าครั้งก่อนที่สายการโทรของคุณจะไปที่วอยซ์เมลคุณอาจไม่ถูกบล็อก (แต่) บุคคลนั้นกำลังปฏิเสธการโทรหรืออาจไม่สนใจ ข้อยกเว้น: นอกจากปัญหาข้างต้น การที่เราได้รับการโอนสายไปยังวอยซ์เมลทันที มันอาจเป็นเพราะแบตเตอรี่โทรศัพท์ของปลายสายใกล้หมดหรือโทรศัพท์ถูกปิด ให้รอสักพัก หรือสักช่วงเย็นแล้วค่อยโทรหาอีกครั้ง เบาะแสที่ 3 มีการแจ้งเตือนว่าสายหรือสัญญาณไม่ว่างแบบรวดเร็วหากโทรไปแล้วขึ้นสายไม่ว่างอย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้ว ปลายสายอาจคุยกับคนอื่น หรือเราอาจโทรชนกันกับปลายสายของเรา ให้ลองรอสักพักแล้วโทรใหม่ หากยังไม่ได้อีกแม้จะโทรหลายครั้ง เป็นไปได้ว่าเราอาจถูกบล๊อคจากผู้ให้บริการ นอกจากปลายสายบล๊อค หนึ่งในสาเหตุคืออาจเปิดปัญหาที่สัญญาณของผู้ให้บริการ เช่น เมื่ออาทิตย์ที่ผ่าน True สัญญาณล่มและทำให้ทุกค่ายและโดยเฉพาะผู้ใช้บริการค่ายทรูก็ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย สิ่งที่เราสามารถทำได้เมื่อมีคนบล็อกหมายเลขของเรา
Facebook Comments SHARE Previous articleแคนนอนลุยตลาด หวังกวาดตลาดทุกเซกเมนต์ เปิดตัวกล้องดีเอสแอลอาร์ EOS 850D และโฟโต้พรินเตอร์ SELPHY SQUARE QX10 พร้อมแนะนำแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับเก็บภาพ image.canon Next articleพบกับสินค้านวัตกรรม ไซแพด อุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า สะดวก ใช้งานง่าย ปลอดภัย คุ้มค่า piphat P ผมเป็นนักเล่า ไม่ใช่นักเขียน แต่ผมมักจะเล่าเรื่องราวผ่านการเขียน... โดยเฉพาะเรื่องของไอที ^_^ [email protected] // [email protected] มีหลายเหตุผลที่เราอาจจะโดนผู้อื่นบล๊อกเบอร์โทรของเราโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากเราสงสัยว่ามีคนบล็อกเบอร์โทรเราหรือไม่ ลองมาชมวิธีการเช็คเบื้องต้นกันเลย เช็คอย่างไร? ว่ามีคนบล็อกเบอร์โทรของเรา ชมวิธีได้ที่นี่1. เมื่อโทรไป การโทรจะไปที่ Voice Mail ทันทีหากเราโทรหาคน ๆ นั้น แล้วการโทรเข้า Voice Mail หรือมีเสียงว่า “บริการฝากหมายเลขโทรกลับ” หรือ “คุณกำลังเข้าสู่บริการฝากหมายเลขโทร” หรือเสียงใด ๆ ก็ตามที่ให้เราฝากข้อความเสียง อาจจะเป็นไปได้ว่าเราถูกบล๊อก แต่ก็ไม่เสมอไป เนื่องจากการโทรแล้วไปยัง Voice Mail อาจจะเกิดจากไม่มีสัญญาณหรือปลายทางกำลังอยู่ในโหมดห้ามรบกวน ถ้าหากเราได้รับข้อความตอบกลับอัตโนมัติก็เป็นไปได้ว่าสายปลายทางอาจจะยุ่งอยู่หรือไม่สามารถพูดคุยได้ อย่าพยายามโทรรบกวนหลายครั้งติด ๆ กัน เนื่องจากอาจจะสร้างการรบกวนให้กับสายปลายทางได้ แต่ถ้าหากเราลองโทรหลายครั้ง โดยเว้นช่วงเวลาหรือเว้นวันโทร แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะโดนบล๊อก 2. สังเกตจากการส่งข้อความถ้าหากสายปลายทางที่เราพยายามติดต่อใช้งาน iPhone เหมือนกัน เราสามารถใช้ประโยชน์จากแอป iMessage ได้ โดยลองส่งข้อความหาปลายทางผ่านแอป iMessage ถ้าหากส่วนข้อความและเครื่องหมายส่งเป็นสีน้ำเงินแสดงว่าเรายังสามารถส่งข้อความระหว่างอุปกรณ์ Apple ได้ปกติ แต่ถ้าเราทราบอยู่แล้วว่าปลายทางใช้ iPhone หรืออุปกรณ์ Apple เหมือนกัน แต่ส่งไปแล้ว ส่วนข้อความและเครื่องหมายส่งเป็นสีเขียว ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะถูกบล๊อก แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป เนื่องจากบางครั้งฝั่งผู้รับอาจจะเปลี่ยนโทรศัพท์ไปใช้ระบบ Android แล้วก็ได้ แต่เรายังไม่ทราบ หรืออาจจะเกิดจากการส่งข้อความระหว่างที่อินเตอร์เน็ตของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เสถียร ก็อาจจะทำให้การส่งข้อความเป็นเครื่องหมายสีเขียว 3. ไม่สามารถส่งข้อความได้ในกรณีที่เราส่งข้อความไปแล้ว ข้อความไม่ถูกส่งออกไป เป็นไปได้สูงว่าฝ่ายตรงข้ามอาจจะบล๊อกเราไปแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าโทรศัพท์ของปลายทางอาจจะปิดอยู่ หรือไม่ก็สัญญาณไม่ดี 4. ลองใช้แอปสนทนาอื่น ๆถ้าหากเราลองส่งข้อความด้วยแอป iMessage แล้ว ไม่สามารถส่งได้หรือข้อความที่ส่งเป็นสีเขียว ทั้ง ๆ ที่ทราบดีว่าฝ่ายตรงข้ามใช้อุปกรณ์ Apple แนะนำให้ลองส่งข้อความด้วยแอปอื่น ๆ เช่น Line, Facebook Messenger, WhatsApp หรือแอปอื่น ๆ สำหรับสนทนาที่เคยติดต่อได้ แอปเหล่านี้อาจจะทำให้เราทราบง่ายขึ้นว่าฝ่ายตรงข้ามบล๊อกเราหรือไม่ เช่น WhatsApp ถ้าหากมีคนบล๊อกเรา เราจะไม่สามารถดูรูปโปรไฟล์ของพวกเขาได้ หรือใน LINE และ Messenger เราส่งข้อความไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามไม่อ่าน ไมขึ้น Read โทรผ่านช่องทางนี้ก็ไม่รับสายสักที ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะถูกบล๊อก 5. ลองใช้เครื่องอื่นโทรหรือส่งข้อความหากเราเราทำตามวิธีที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าถูกบล๊อกหรือไม่ ลองขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือคนในครอบครัว โดยอาจจะลองให้ส่งข้อความหรือโทรหาอีกฝ่ายว่ายังสามารถติดต่อได้หรือไม่ เพื่อเช็คดูด้วยว่าโทรศัพท์ฝ่ายตรงข้ามมีปัญหาจริงหรือไม่ หากลองติดต่อแล้วยังไม่สามารถติดต่อได้เหมือนกัน ก็เป็นไปได้ว่าโทรศัพท์ฝ่ายตรงข้ามอาจมีปัญหาหรือฝ่ายตรงข้ามอาจจะยังไม่สะดวกรับสายหรือตอบกลับ แต่ถ้าหากลองให้ผู้อื่นติดต่อแล้ว สามารถติดต่อและได้รับการตอบกลับปกติ แสดงว่าเราคงโดนบล๊อกเข้าแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อแนะนำสำหรับวิธีการเช็คว่าคนที่เรากำลังติดต่ออยู่บล๊อกเราอยู่หรือไม่ ก็ลองนำไปเช็คกันดูนะคะ |