เฉลย ใบงาน 3.4 เรื่อง หลักการออกแบบ บรรจุ ภัณฑ์

ใบความรู้ที่ 3.3 หน่วยที่ 3(งานประดิษฐ์)เรื่องบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ ง 23105 ม.3

เม.ย. 30

Show

Posted by krupaga

ใบความรู้ที่  3.3  หน่วยที่ 3 งานประดิษฐ์  เรื่องบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ  ง 23105 ม.3
คนไไทยนับว่าเป็นนักออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง  จะเห็นได้จากการนำวัสดุธรรมชาติ  เช่น  ใบตอง  ใบตาล  ทางมะพร้าว  ใบเตย  มาคิดประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ใส่ขนมหรืออาหารคาว  นำไม้ไผ่มาจักสานเป็นตะกร้า  ชะลอม
บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบและประดิาฐ์มาเพื่อวัตถุประสงคืในการอนุรักษรืสิ่งแวดล้อมโดยช่วยลดปริมาณขยะและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติจึงไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมนอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่าย  เมื่อเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่มีมากในท้องถิ่นของตนเองหรือวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
วัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ
วัสดุธรรมชาติที่นำมาใช้ทำบรรจุภัณฑ์ได้มีดังนี้
1.  วัสดุธรรมชาติประเภทเส้นใย  เช่นกล้วย  หวาย  เตยปาหนัน    กก  กระจูด  ผักตยชวา  หญ้าแฝก  หญ้าสามเหลี่ยม  เถาวัลย์  ย่าลิเภา   ปอสา  ป่านศรนารายณ์  โดยวัสดุเหล่านี้บางชนิดต้องนำมาแปรสภาพก่อนเช่น  ผักตบชวา  เตยปาหนัน  กระจูด  กล้วย  ต้องนำมาตากแห้ง  ฟอกขาว  อบกำมะถัน ฟั่นเกลียวก่อนสานขึ้นรูปเป็นตะกร้าใส่สินค้า  ส่วนเส้นใยไหม  ฝ้ายต้องนำมาทอก่อนแล้วจึงนำไปตัดเย็บเป็นถุงผ้า
2.  วัสดุธรรมชาติที่แปรรูปเป็นแผ่นและรูปทรงต่าง ๆ  เช่น  กระดาษแปปรรูปมาจากเยื่อไม้ไม้ยูคาลิปตัสหรือต้นสา  นำมาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงกระดาษ  กล่องกระดาษ  กระป๋องกระดาษ
กระดาษเป็นวัสดุที่นิยมนำมาประดิษฐ์เป็นบรรจุภัณฑ์มากที่สุดเพราะออกแบบเป็นหีบห่อได้หลายรูปแบบ  ตัดและพับได้ง่าย  มีความคงรูป  น้ำหนัดเบา  สามารถพิมพ์สัสันได้สวยงามนอกจากนี้ยังมีราคาถูกสามารถแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก  ทำลายได้ง่ายและปรับปรุงคุรภาพให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลายรูปแบบ  เช่น  เคลือบพลาสติกหรือเคลือบไขพร้อมป้องกันความชื้นประกบกระดาษกับแผ่นฟิล์ม  พลาสติกหรือแผ่นเปลวอลูมิเนียมเพื่อป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำ  อากาศ  และกลิ่น
กระดาษที่นิยมนำมาประดิษฐ์บรรจุภัณฑ์ชนิดต่าง ๆมี  2  ประเภทดังนี้
1.  กระดาษคราฟต์หรือกระดาษเหนียวสีน้ำตาล  นิยมนำมาประดิษฐ์เป็นถุงกระดาษษที่มีความเหนียวหลายชั้น  หรือนำมาแปรรูปเป็กระดาษลูกฟุก  เพื่อใช้ทำกล่องกระดาษลูกฟูกซึ่งบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงหรือกล่องสามารถใช้เป็นสื่อโฆษณาชื่อผลิตภัณฑ์หรือชื่อผู้ผลิตได้อีกด้วย
2.  กระดาษแข็ง  นิยมนำมาประดิษฐ์เป็นกล่องกระดาษแข็ง  ทั้งแบบกล่องกระดาษแข็งพับได้และกล่องกระดาษแข็งแบบคงรูป
3.  วัสดุธรรมชาติประเภทไม้  ส่วนใหย่นิยมนำมาทำบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง  เช่น  กล่องใส่ขนมอบ  สุรา  เบียรื  เครื่องปั้นดดินเผา  แก้ว  ส่วนไม้ไผ่ชนิดต่าง ๆ  นำมาจักเป็นเส้นเล็ก ๆ  แล้วสานขึ้นรูปเป้นชะลอม  กระจาด  เข่ง หรือกล่องขนาดต่าง ๆ  บรรจุสินค้าหรือผลิคภัณฑ์ประเภทอาหาร
การออกแบบบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ
โครงสร้างของบรรจุภัณฑ์โดยทั่วไปจะแบ่งชื้นของบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มหรือปกปิดตัวสินค้าไว้  3  ชั้นดังนี้
1.  บรรจุภัณฑ์ชั้นใน วี่งอยู่ชิดกับตัวสินค้า
2.  บรรจุภัณฑ์ชั้นที่สอง  ซึ่งห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์ชั้นใน
3.  บรรจุภัณฑ์ชั้นนอก  ซึ่งรวบรวมสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพื่อการขนส่ง
   การออกแบบบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติต้องออกแบบ  2  ส่วนด้วยกันคือ  การออกแบบดครงสร้างบรรจุภัณฑ์ทั้ง  3  ชั้น  และการออกแบบกราฟิกหรือภาพบนบรรจุภัณฑ์โดยมีข้อคำนึงถึงดังนี้
1.  บรรจุภัณฑ์ควรมีเอกลักษณ์โดดเด่นและสื่อความหมายได้  โดยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์  และความรู้ทางศิลปะเกี่ยวกับสี  รูปทรง  ความสมดุลย์  ผิวสัมผัส  และขนาดของภาพหรือตัวอักษรมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน  เพื่อให้บรรจุภัณฑ์แตกต่างจากที่เคยมีมา และดึงดูดใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อ รวมถึงมีความสอดคล้องกับชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์ด้านใน(ให้นักเรียนดูตัวอย่างรูปภาพในหนังสือแบบเรียน  หน้า  66-67)
1.1  บรรจุภัณฑ์น้ำผลไม้ที่มีภาพพิมพ์แสดงถึงผลไม้ที่นำมาผลิตเป็นน้ำผลไม้สื่อให้เห็นถึงความสด  น่าดื่ม
1.2  บรรจุภัณฑ์ของสบู่ไข่  ทำจากกระดาษมีรูปทรงและผิวสัมผัสหยาบเหมือนถาดใส่ไข่จึงมีความหมายว่าผลิตภัณฑ์ด้านในมีรูปร่างเหมือนไข่
2.  บรรจุภัณฑ์ควรสะดวกต่อการใช้งานและแข็งแรงทนทาน  โดยโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ต้องสมส่วน  มีรูปทรงกะทัดรัด  สะดวกต่อการจัดเรียงซ้อนกันและขนส่ง  รอรับน้ำหนักได้  ทนทานต่อแรงกระแทก  น้ำหนักเหมาะสมกับตัวผลิตภัณฑ์  มีหูจับถือในบางผลิตภัณฑ์(ดูต้วอย่างในหนัวสือหน้า  66)
2.1  บรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ดินสอทำจากกระดาษแข็งมีดครงสร้างสมส่วน  รูปทรงกระทัดรัดสะดวกต่อการเรียงซ้อนกันและสะดวกต่อการขนส่ง
2.2  บรรจุภัณฑ์ขนมอบ  ทำจากกระดาษแข็ง  มีหูจับสะดวกต่อการจับถือและเคลื่อนย้าย
3.  บรรจุภัณฑ์ควรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  คือย่อยสลายได้ง่าย  ทำลายได้ง่าย  ไม่ก่อให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอย  และไม่ก่อให้เกิดมลพิษซึ่งแนวทางในการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถปกิบัติได้ดังนี้
3.1  ใช้วัสดุธรรมชาติในการบรรจุภัณฑ์  เพราะย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
3.2  ลดส่วนประกอบที่เกินความจำเป็นในการบรรจุภัณฑ์  เช่นบรรจุภัณฑ์หลายชิ้น  ลดการใช้โบ  เชือก  ป้ายห้อย
3.3   ลดความหนาและความสูงของบรรจุภัณฑ์และออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ให้ใช้วัสดุน้อยที่สุด
3.4  นำวัสดุธรรมชาติเช่น  กระดาษ  ไม้  ผ้า  เครื่องปั้นดินเผา  และวัสดุสังเคราะห์  เช่น  พลาสติกบางชนิด  ซึ่งสามารถนำมาดัดแปลงไช้ซ้ำหรือแปรรูปกลับมาใช้ใหม่มาประดิษฐ์เป็ยบรรจุภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะลดค่าใช้จ่ายในการหำจัดหลังใช้งานและป้องกันการเกิดมลพิษการเผาไหม้หรือฝังกลบ

 

Share this:

  • Twitter
  • Facebook

Like this:

ถูกใจ กำลังโหลด...

Related