การดำรงอยู่ของนาฏศิลป์ไทยในศตวรรษที่ 21 คือความตระหนักรู้ของมนุษย์ในสังคมยุคปัจจุบันที่มีต่อคุณค่าและทิศทางของนาฏศิลป์ไทย เนื่องจากสังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เทคโนโลยี
อันส่งผลกระทบต่อวิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างทั่วถึง รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงด้านศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านนาฏศิลป์ไทยที่มีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางความคิด ความเชื่อ ทัศนคติของคนไทยในสังคมปัจจุบัน ส่งผลให้นาฏศิลป์ไทยมีบทบาทที่เปลี่ยนไปจากในสมัยอดีต จึงทำให้มุมมองเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของนาฏศิลป์ไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย เพราะมีทั้งมุมมองที่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลง พัฒนาหรือผสมผสานสิ่งใหม่ๆ มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทและความต้องการของสังคม เพื่อให้มีความน่าสนใจและเหมาะสมกับผู้ชมในปัจจุบัน
และอีกหนึ่งมุมมองที่เห็นควรแก่การอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทยในรูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ ไม่ควรปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมสิ่งที่ไม่ใช่ของดั้งเดิม เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ไทยตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมุมมองการดำรงอยู่ของนาฏศิลป์ไทยในศตวรรษที่ 21 ของแต่ละบุคคล อาจมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยในหลายด้าน เช่น อายุ เพศ การศึกษา และอาชีพ เป็นต้น ทั้งนี้มุมมองต่างๆที่เกิดขึ้นควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของการดำรงอยู่ของนาฏศิลป์ไทยในแต่ละบริบทนั้นๆ
เพื่อให้นาฏศิลป์ไทยดำรงอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัยในฐานะศิลปวัฒนธรรมของชาติที่บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยสืบไป THE EXISTENCE OF THAI DRAMATIC ARTS IN 21ST CENTURY The existence of Thai dramatic arts in 21st century is people’s awareness nowadays which affects the value and model of Thai dramatic arts. Since the world has been changing all the time in term of economy, society, politics, technology, and the culture change especially in Thai dramatic arts which are
related to the thoughts, beliefs and attitudes of Thai people, all of these affect the view of the existence of Thai dramatic arts. Some agrees with the change and development which are adapted with the context and needs so that Thai dramatic arts will be interesting and appropriate for the audience. On the other side, some says that Thai dramatic arts should be conserved as their origin so the new generation can study and appreciate them from the beginning to the present. Due to various and
different thoughts, beliefs and attitudes, these are concepts for the existence of Thai dramatic arts in 21st century. The people’s views might be different depending on various factors such as age, sex, education and careers. However, each view should be adapted properly with contexts and get the most out of the existence of Thai dramatic arts to preserve Thai arts and culture which refer to Thai identity.
Download data is not yet available. How to CiteChula-Saevok, Y. (2017). การดำรงอยู่ของนาฏศิลป์ไทยในศตวรรษที่ 21. Fine Arts Journal: Srinakharinwirot University, 21(1), 48–61. Retrieved from https://so01.tci-thaijo.org/index.php/jfofa/article/view/92886 น.ส.ชฎาพร บุญแก้ว ม.4/6 เลขที่ 29 นาฏศิล คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชานาฏศิลป์ไทย มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาเกี่ยวการ น.ส.ชฎาพร บุญแก้ว ม.4/6 เลขที่ 29 สารบัญ 4 บุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ 39 น.ส.ชฎาพร บุญแก้ว ม.4/6 เลขที่ 29 คุณค่าและประโยชน์ของนาฏศิลป์ คุณค่าของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์ ไทยมีคุณค่ามากในฐานะที่เป็ นที่ ศิลปะ แขนงวิจิตรศิลป์ หรือประณีตศิลป์ น.ส.พิชามญชุ์ จันทร์แก้ว ม.4/6 เลขที่31 1. ประติมากรรม หมายถึง ผลงานศิลปะที่แสดงออกโดย กรรมวิธี นาฏศิลป์ในรปูแบบของการสร้างอปุกรณ์ในการแสดง ฉาก แต่งกาย เช่นหัวโขน มงกุฎชฎา ราชรถ เป็นต้น 2. วรรณกรรมที่ปรากฏใน งานนาฏศิลป์ ได้แก่ บทประพันธ์ทั้งที่เป็น น.ส.พิชามญชุ์ จันทร์แก้ว ม.4/6 เลขที่31 3. สถาปัตยกรรม เป็นศิลปะในการออกแบบสร้างฉากต่างๆ เช่น 4. จิตรกรรม น.ส.พิชามญชุ์ จันทร์แก้ว ม.4/6 เลขที่31 5.
ดรุิยางคศิลป์ ประโยชน์ของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์เป็นส่วนสำคัญในการประกอบพิธีกรรมทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ นอกเหนือไปจากการให้ ๒.มีบทบาทสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยตั้งแต่เกิดจนตาย บทบาทในงานสำคัญของ ๓. ประโยชน์โดยตรงสาหรับผู้ศึกษานาฏศิลป์ คือสอนให้เป็นผู้รู้จักตนเอง เพราะเป็นวิชาทักษะที่ต้อง น.ส.พิชามญชุ์ จันทร์แก้ว ม.4/6 เลขที่31 กระบวนการสืบทอดนาฏศิลป์ กระบวนการสืบทอดองค์ความรู้ทางนาฏศิลบ์ วัฒนธรรมให้คงอยู่ น.ส.วนิฌญา แสงอาทิตย์ ม.4/6 เลขที่ 39 1.การสืบทอดนาฏศิลป์ สมัยโบราณ เป็ นการถ่ายทอดจากครูแบบตัวต่อตัว โดยวิธีการจำไม่มีการบันทึกเป็ นลาย ลักษณ์อักษร น.ส.วนิฌญา แสงอาทิตย์ ม.4/6 เลขที่ 39 2.กระบวนการสืบทอดนาฏศิลป์ ในสมัยปั จจุบัน ปั จจุบันวิชานาฏศิลป์ เปิ ดสอนอยู่ในสถาบันการศึกษาเกือบ ทุกระดับมีกระบวนการเรียนการสอนทีี่เป็ นแบบแผนโดย จัดทำสื่ อและทำกิจกรรมเพื่ อประเทืองปั ญญาโดยใช้ระบบ การเรียนการสอนที่มีผู้เรียนเป็ นศูนย์กลางค้นคว้าหาความ รู้ด้วยตนเองฝึกให้รู้จักการสังเกตคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ สร้างจินตนาการ จนเกิดความคิดสร้างสรรค์ และ นำไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน น.ส.วนิฌญา แสงอาทิตย์ ม.4/6 เลขที่ 39 3.การจัดกิจกรรมเพื่ อสืบทอด นาฏศิลป์ มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติสืบทอดมา แต่โบราณผู้ศึกษาวิชานาฏศิลป์ จะต้องมีความเคารพศรัทธา ในบูรพาจารย์ผู้ประสาทวิชาให้ศิษย์กิจกรรมที่สืบทอด ได้แก่ 1.พิธีไหว้ครู น.ส.วนิฌญา แสงอาทิตย์ ม.4/6 เลขที่ 39 4.แนวทางการอนุรักษ์นาฏศิลป์ 4.3การฟื้ นฟูโดยการเลือกสรร ภูมิปั ญญาที่กำลังสูญหาย เก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆไว้ 4.4การพัฒนาโดยการปรับปรุง ภูมิปั ญญาให้เข้ากับยุคสมัย จิตสำนึกให้คนในท้องถิ่น 4.5ส่งเสริมกิจกรรมและสนับสนุนให้ เกิดเครือข่ายการสืบสานของ ภูมิปั ญญา น.ส.วนิฌญา แสงอาทิตย์ ม.4/6 เลขที่ 39 การแสดงนาฏศิลป์ ในงานพระราชพิธี เช่น งานพระราชพิธีเป็ นงานฉลอง หรืองานสม แสดงนาฏศิลป์ และการละครไทยในงานมงคลทั่วไป เช่น งานทำบุญวันเกิด, งานทำบุญเลี้ยง น.ส. กชพร สุวรรณศร ม.4/6 เลจที่38 การแสดงนาฏศิลป์ และการ เช่น ทำบุญหน้าศพ, ๗ วัน, ๕๐ วัน, การแสดงนาฏศิลป์ ในงานเทศกาลต่างๆ น.ส. กชพร สุวรรณศร ม.4/6 เลจที่38 หลักการเลือกชุดการแสดงให้เหมาะสม • เลือกให้เหมาะกับโอกาสที่ แสดง เลือกรูปแบบการแสดงต้องถูก น.ส. กชพร สุวรรณศร ม.4/6 เลจที่38 แนวคิดในการจัดการแสดงในวันสำคัญของโรงเรียน แนวทางในการจัดชุดการแสดงประจำโรงเรียน 1. กำหนดการแสดงให้เหมาะกับวันสำคัญของรร. - แนวคิดเกี่ยวกับสัญลักษณ์โรงเรียน น.ส. กชพร สุวรรณศร ม.4/6 เลจที่38 ระบำรำฟ้อน ระบำแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ระบำดั้งเดิมหรือระบำมาตรฐาน เเละ ระบำ นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 รำเดี่ยว รำ รำคู่ รำหมู่ นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ฟ้อน ฟ้อน เป็นภาษาเหนือ หมายถึง การร่ายรำ เพื่อบูชาสิ่งต่างๆ อัน นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ฟ้อนที่สืบเนื่องมาจากการนับถือผี เป็นการฟ้อนที่เกี่ยวกับความเชื่อ เพื่อเสดงความกตัญญูต่อผู้ล่วงลับ นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ฟ้อนแบบเมือง การแสดงที่หมายถึงคนเมือง หรือ ชาวไทยยวน นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ฟ้อนแบบม่าน เป็นการผสมผสานพม่ากับไทยล้านนา นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ฟ้อนแบบเงี้ยวหรือแบบไทยใหญ่ เป็นการฟ้ อนที่มาจากการแสดงของชาวไทยใหญ่ นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ฟ้อนที่ปรากฏในบทละคร เป็นการฟ้ อนที่คิดขึ้นเพื่อใช้แสดงร่วมกับบทละคร นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 การแสดงนาฏศิลป์ไทย นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ภาคเหนือ นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ภาคอีสาน นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ภาคกลาง นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 ภาคใต้ นายจารุเดช เครือเตียว ม.4/6เลขที่ 1 การแสดงนาฏศิลป์ไทย รํากลองยาว หรือ เถิดเทิง เราเห็นก็จํามาเล่นบ้าง ซึ่งดนตรีที่นํามาใช้ มีทํานองเป็นเพลงพม่า เรียกว่า
"เพลงพม่ากลองยาว" มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เพลงพม่ารําขวาน นาย เตวิช สรรพจักร เลขที่6 การแสดงนาฏศิลป์ไทย รํากลองยาว หรือ เถิดเทิง มีบทร้องกราวรํายกทัพพม่า ทุ่งเลฯ ทีนี้จะเห่พม่าใหม่ เลื่องชื่อลือฉาว ตีกลองยาวสลัดไดๆ นาย เตวิช สรรพจักร เลขที่6 การแสดงนาฏศิลป์ไทย รํากลองยาว หรือ เถิดเทิง เมื่อชาวไทยเห็นการละเล่นที่สนุกสนานและเล่นง่าย ก็เลยนิยมเล่นกันแพร่หลาย จนถึงทุกวันนี้ ยาว ๓ ศอก ภาคอีสานเรียกกลองหาง กลองยาวของพม่า เรียกว่า "โอสิ" คล้ายคลึง นาย เตวิช สรรพจักร เลขที่6 การแสดงนาฏศิลป์ไทย เมื่อรัฐบาลไทยมอบให้ เถิดเทิง เทิงบ้อง คงเรียกตามเสียงกลองยาว นาย เตวิช สรรพจักร เลขที่6 การแสดงนาฏศิลป์ไทย การแต่งกาย
คนตีกลองยืน กลองรํา รําล่อ พวกตีประกอบจังหวะจะ ๒.หญิง นุ่งผ้าซิ่นมีเชิงยาวกรอมเท้า สวมเสื้อทรงกระบอกคอปิด ข้าวให้พวกเรากินตะละล้า" ผ่าอกหน้า ห่มสไบทับเสื้อ คาเข็มขัดทับ เสื้อใส่สร้อยคอและต่างหู โอกาศและวิธีการเล่น -กลองยืน คือ ผู้ตีกลองยืน นาย เตวิช สรรพจักร เลขที่6 บุ คคลสำคัญในวงนาฏศิ ลป์ 1.ท่านผู้หญิงเเผ้ว สนิทวงศ์เสนี มีนามเดิมว่า เเผ้ว สุทธิบูรณ์ แสดงละครเป็นตัวเอกใน โอกาสท่ีแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระท่ี น่ัง ในพระบาทสมเด็จ น.ส.ปั ญจมาพร คำศรี ม.4/6 เลขที่13 2.ครูรงภักดี (เจียร จารุจรณ) เกิดเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2442 ที่จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของจางวางจอน และนางพริ้ง นายรงภักดี(เจียร จารุจรณ) เป็นศิลปิน ดีนี้สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแAห่งdชdาติ aสาขliาtศิtลlปeะกbารiแtสดoงf(นbาoฏศdิลyป์ไทtยe)xปtระจำปี ๒๕๒๙ น.ส.ปั ญจมาพร คำศรีืม.4/6 เลขที่13 3.ครูอาคม สายาคม เดิมชื่อบุญสม เป็นบุตร ของนายเจือ ศรียาภัย และ นางผาดศรียาภัย สกุลเดิม อิศรางกูร ณ อยุธยา (นามสกุลสายาคมเป็นนามสกุลที่ได้รับ (เรื่องเงาะป่า) พระลอ อุณรุท พระสังข์ เป็นต้น น.ส.ปั ญจมาพร คำศรี ม.4/6 เลขที่13 4.ครูลมุล ยมะคุปต์ “คุณแม่ลมุล” เป็นธิดาของร้อยโท นายแพทย์จีน อัญธัญภาติ กับ นางคำมอย อัญธัญภาติ (เชื้อ อินต๊ะ) เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2448 ณ จังหวัดน่าน น.ส.ปั ญจมาพร คำศรี ม.4/6 เลขที่13 อ้างอิง https://khonsite.wordpress.com/ น.ส.ชฎาพร บุญแก้ว ม.4/6 เลขที่ 29 |