อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อาชีพ เป็น รูปแบบการดำรงชีพในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน อาชีพเป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต

ลักษณะอาชีพ[แก้]

อาชีพที่จำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านเรียกว่า วิชาชีพ เช่น วิศวกร แพทย์ มัณฑนาย พยาบาล ทนายความ

และอาชีพที่ถูกกฎหมายและศีลธรรม เรียกว่า สัมมาชีพ เช่น ค้าขาย ส่วนบางอาชีพที่ผิดกฎหมาย เรียกว่า มิจฉาชีพ เช่น โจร

อาชีพอาจมีรายได้ต่างๆกันไป ลักษณะอาชีพที่เป็นลูกจ้างจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบเงินเดือน อาชีพค้าขายหรือประกอบกิจการส่วนตัวหรือ การลงทุนจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบ กำไร

ดูเพิ่ม[แก้]

  • งาน
  • การวิพากษ์งาน, ขบวนการวิพากษ์และเรียกร้องให้ยกเลิกงาน

เทรนอาชีพใหม่ๆ

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

ข้อแตกต่างในอาชีพ

          วิชาชีพ (วิชา+อาชีพ) หรือ Profession หมายถึง เป็นงานที่มีขนบธรรมเนียมและจรรยาบรรณของโดยเฉพาะอาศัยความรู้เฉพาะด้านตามลักษณะงาน   มีกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนั้นอย่างเคร่งครัด  จะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเท่านั้น
วิชาชีพ ได้แก่  แพทย์  ทันตแพทย์  สัตวแพทย์  เภสัชกร  พยาบาล  เทคนิคการแพทย์  นักกายภาพบำบัด  ทนายความ  วิศวกร  สถาปนิก  ครู  และบุคลากรทางการศึกษา  วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้ประกอบโรคศิลปะบางกลุ่ม นักบัญชี

ลักษณะสำคัญของการเป็นวิชาชีพ ได้แก่
1. มีองค์ความรู้เฉพาะของตน ผู้ประกอบวิชาชีพจะต้องเข้ารับการศึกษา ฝึกอบรมให้มีความรู้ในศาสตร์เฉพาะของวิชาชีพนั้นๆ 
2. มีความเป็นอิสระในการประกอบวิชาชีพ เป็นการประกอบวิชาชีพที่มีมาตรฐานการปฏิบัติเป็นการเฉพาะสำหรับวิชาชีพนั้นๆ โดยมีองค์ความรู้เป็นพื้นฐาน บุคคลอื่นไม่สามารถจะมาสั่งการให้ปฏิบัติอย่างนั้นอย่างนี้ได้ นอกจากนี้การปกครองกันเองภายในวิชาชีพเดียวกันยังเป็นอิสระจากการควบคุมของคนนอกวิชาชีพ เช่น ถ้าสมาชิกคนใดกระทำผิด การพิจารณาจะเริ่มจากคณะกรรมการขององค์กรวิชาชีพก่อน
3. มีกฎหมายรองรับการประกอบวิชาชีพ หมายถึง จะต้องมีการขึ้นทะเบียนเพื่อขออนุญาตประกอบวิชาชีพ ได้แก่ ใบประกอบวิชาชีพ
4. มีจรรยาบรรณ ตราขึ้นเพื่อผู้ประกอบวิชาชีพดำรงตนหรือประพฤติตนอยู่ในความถูกต้อง ดีงามต่อผู้รับบริการ ต่อเพื่อนผู้ร่วมวิชาชีพ ต่อตนเอง และต่อสังคมส่วนรวม
5. มีสำนึกที่จะให้บริการ เมื่อถูกเรียกร้องการบริการจะต้องเต็มใจที่จะให้บริการแก่ผู้มารับบริการได้เสมอ บางครั้งอาจจะต้องสละความสุขส่วนตัว มีความภาคภูมิใจ ในวิชาชีพของตน
          อาชีพ หมายถึง   งานหรือการทำมาหากิน ทำธุรกิจ เพื่อได้ค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน  ไม่ต้องสอบเพื่อขอใบอนุญาต หรือใบประกอบ ตามที่กฎหมายรองรับ ฯลฯ 
          ตัวอย่างของอาชีพ คือ แม่ค้า/ค้าขาย พนักงาน ลูกจ้างรายวัน เจ้าของธุรกิจตนเองที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับวิชาชีพ

          สรุปสั้นๆคือ วิชาชีพ ต่างจาก อาชีพ ตรงที่ วิชาชีพ ต้อง”สอบ” เพื่อขอใบอนุญาต/ใบประกอบ ตามสภา หรือองค์กรที่รับสอบ ขึ้นทะเบียนวิชาชีพนั้นๆ โดยมีกฎหมายรองรับ 

ข้อดี-ข้อเสีย อาชีพอิสระ VS อาชีพรับจ้าง

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

          – ความแตกต่างของระบบการทำงานทั้งสองระบบนี้ ลักษณะการทำงาน เทคนิค และวิธีการทำงาน ซึ่งอาชีพอิสระ กับ อาชีพรับจ้าง 2 คำนี้มีความหมายที่แตกต่างกันอยู่แล้ว คำว่าอาชีพอิสระ คือ การทำงานที่ไม่ได้อยู่ในกรอบ ไม่มีรูปแบบการทำงานตายตัว เช่น งาน Freelance งานทำที่บ้าน งานเสริมต่างๆ ในขณะที่อาชีพรับจ้าง เป็นการทำงานที่กฏเกณฑ์ และข้อความบังที่ชัดเจน เช่น การทำงานราชการ งานบริษัทต่างๆ วันนี้เรามาดูกันว่า งานทั้ง 2 ระบบนี้ มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง

1. อาชีพรับจ้าง

1.1 ข้อเสียของอาชีพรับจ้าง
      – ข้อจำกัดในเรื่องของรายได้ หรือที่เรียกว่า เพดานเงินเดือน คุณไม่สามารถกำหนดรายได้ด้วยตนเองได้
      – คุณต้องใช้เวลาวันละ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ในการทำงานให้กับคนอื่น
     – คุณอาจจะเจอกับสภาพสังคมที่ไม่ดี โดนเอาเปรียบจากเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน  หรือลูกน้อง
     – บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้รับความยุติธรรม เช่น ทำงานหนัก กว่าเงินเดือนที่ควรได้รับ
1.2 ข้อดีของอาชีพรับจ้าง
     – มีรายได้ที่มั่นคง ที่เรียกว่า เงินเดือน ที่คุณจะได้รับแน่นอนทุกเดือน
     – มีสิทธิ ลาหยุด ลากิจ ลาพักร้อน แถมยังได้เงินเดือนตามปกติ
     – มีสวัสดิการรองรับ เช่น ประกันสังคมต่างๆ 
     – มีเครดิตในการที่จะกู้ยืมเงิน

2. อาชีพอิสระ
2.1 ข้อเสียของอาชีพอิสระ
      – ต้องเป็นเจ้านายตัวเอง ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ เพราะว่าไม่มีใครบังคับให้คุณทำงาน
      – รายได้ไม่แน่นอน มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความขยันของตัวคุณเอง
      – ไม่มีสวัสดิการ หรือประกันสังคม เหมือนอาชีพรับจ้าง
      – คุณต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง
 2.2 ข้อดีของอาชีพอิสระ
       – คุณมีอิสระในการทำงาน เวลา สถานที่ คุณสามารถทำงานที่ไหนก็ได้
       – รายได้ไม่กำจัด อยู่ที่ความสามารถคุณ กำหนดด้วยตนเอง
       – สามารถเลือกงานที่ถนัด ที่เราต้องการจริงๆได้
       – ทำงานน้อยกว่า ได้รายได้มากกว่า อาชีพรับจ้าง 

บทสรุป
– ความแตกต่างของงานทั้งสองระบบนี้ก็คือ วิธีการทำงาน แต่สิ่งที่ได้ผลลัพธ์เหมือนกันก็คือ รายได้

การประกอบอาชีพ

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

อาชีพ หมายถึง การทำกิจกรรม การทำงาน การประกอบการที่ไม่เป็นโทษแก่สังคม และมีรายได้ตอบแทน โดยอาศัยแรงงาน ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการ แตกต่างกันไป
กลุ่มอาชีพตามลักษณะการประกอบอาชีพ มี 2 ลักษณะ คือ อาชีพอิสระ และอาชีพรับจ้าง

  1. อาชีพอิสระหมายถึง อาชีพทุกประเภทที่ผู้ประกอบการดำเนินการด้วยตนเอง
    แต่เพียงผู้เดียวหรือเป็นกลุ่ม อาชีพอิสระเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้คนจำนวนมาก แต่หากมีความจำเป็นอาจมีการจ้างคนอื่นมาช่วยงานได้ เจ้าของกิจการเป็นผู้ลงทุน และจำหน่ายเอง คิดและตัดสินใจด้วยตนเองทุกเรื่อง ซึ่งช่วยให้การพัฒนางานอาชีพ เป็นไปอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ เช่น ขายอาหาร ขายของชำ ซ่อมรถจักรยานยนต์ ฯลฯ ในการประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการจะต้องมีความรู้ ความสามารถในเรื่อง การบริหาร การจัดการ เช่น การตลาด ทำเลที่ตั้ง เงินทุน การตรวจสอบ และประเมินผล เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องมีความอดทนต่องานหนัก ไม่ถ้อถอยต่อ ปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ และมองเห็นภาพการดำเนินงาน ของตนเองได้ทะลุปรุโปร่ง

    2. อาชีพรับจ้าง หมายถึง อาชีพที่มีผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการ โดยตัวเองเป็นผู้รับจ้าง ทำงานให้ และได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือเงินเดือน อาชีพรับจ้างประกอบด้วย บุคคล 2 ฝ่าย ซึ่งได้ตกลงว่าจ้างกัน บุคคลฝ่ายแรกเรียกว่า “นายจ้าง” หรือผู้ว่าจ้าง
    บุคคลฝ่ายหลังเรียกว่า “ลูกจ้าง” หรือผู้รับจ้าง มีค่าตอบแทนที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ ผู้รับจ้างเรียกว่า “ค่าจ้าง”
    การประกอบอาชีพรับจ้าง โดยทั่วไปมีลักษณะ เป็นการรับจ้างทำงานในสถาน ประกอบการหรือโรงงาน เป็นการรับจ้างในลักษณะการขายแรงงาน โดยได้รับค่าตอบ แทนเป็นเงินเดือน หรือค่าตอบแทนที่คิดตามชิ้นงานที่ทำได้ อัตราค่าจ้างขึ้นอยู่กับการกำหนด
    ของเจ้าของสถานประกอบการ หรือนายจ้าง การทำงานผู้รับจ้างจะทำอยู่ภายในโรงงาน ตามเวลาที่นายจ้างกำหนด การประกอบอาชีพรับจ้างในลักษณะนี้มีข้อดีคือ ไม่ต้องเสี่ยง กับกาลงทุน เพราะลูกจ้างจะใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่นายจ้างจัดไว้ให้ทำงานตามที่นายจ้าง กำหนด แต่มีข้อเสีย คือ มักจะเป็นงานที่ทำซ้ำ ๆ เหมือนกันทุกวัน และต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบของนายจ้าง ในการประกอบอาชีพรับจ้างนั้น มีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้ออำนวยให้ผู้ประกอบอาชีพ รับจ้างมีความเจริญก้าวหน้าได้ เช่น ความรู้ ความชำนาญในงาน มีนิสัยการทำงานที่ดี มีความกระตือรือร้น มานะ อดทน ในการทำงาน ยอมรับกฎเกณฑ์และเชื่อฟังคำสั่ง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ความขยันหมั่นเพียร รับผิดชอบ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รวมทั้ง สุขภาพอนามัยที่ดี อาชีพต่าง ๆ ในโลกมีมากมาย หลากหลายอาชีพ ซึ่งบุคคลสามารถจะเลือกประกอบ อาชีพได้ตามความถนัด ความต้องการ ความชอบ และความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ ประเภทใด จะเป็นอาชีพอิสระ หรืออาชีพรับจ้าง ถ้าหากเป็นอาชีพที่สุจริตย่อมจะทำให้ เกิดรายได้มาสู่ตนเอง และครอบครัว ถ้าบุคคลผู้นั้นมีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ตลอดจน มีความรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ จะทำให้มองเห็นโอกาสในการเข้าสู่อาชีพ และพัฒนา อาชีพใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ

ลักษณะอาชีพ

อาชีพ   จำเป็นต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านเรียกว่า วิชาชีพ เช่น วิศวกร แพทย์ พยาบาล ทนายความ    อาชีพที่ถูกกฎหมายและศีลธรรม เรียกว่า สัมมาชีพ เช่น ค้าขาย ส่วนบางอาชีพที่ผิดกฎหมาย เรียกว่า มิจฉาชีพ เช่น โจร อาชีพอาจมีรายได้แตกต่างกันไป   ลักษณะอาชีพที่เป็นลูกจ้างจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบเงินเดือน อาชีพค้าขายหรือประกอบกิจการส่วนตัว    จะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบ กำไร

รายได้ในการทำงาน 

เงินรายได้ของบุคคลที่เป็นผลตอบแทนจากการทำงานให้บุคคลอื่นหรือจากการประกอบอาชีพอิสระด้วยตนเอง อันได้แก่ ค่าจ้าง เงินเดือน หรือกำไรจากการประกอบกิจการ รายได้ประเภทนี้ยังรวมถึงเงินได้ที่เป็นบำนาญและสวัสดิการสังคมอื่นๆ รายได้จากการทำงานนี้นำมาใช้เป็นฐานในการเก็บภาษีเงินได้ ซึ่งแตกต่างจากรายได้อีกประเภทหนึ่ง ที่ได้มาโดยมิได้เกี่ยวข้องกับการทำงานโดยตรง

ปัจจัยหลักของการประกอบอาชีพ

สิ่งสำคัญของการเริ่มต้นประกอบอาชีพอิสระ จะต้องพิจารณาว่าจะประกอบอาชีพอิสระอะไร โอกาสและความสำเร็จมีมากน้อยเพียงไร และจะต้อง เตรียมตัวอย่างไรจึงจะทำให้ประสบผลสำเร็จ ดังนั้น จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยหลักของการประกอบอาชีพ ได้แก่
1. ทุน คือ สิ่งที่จำเป็นปัจจัยพื้นฐานของการประกอบอาชีพใหม่ โดยจะต้องวางแผนและแนวทางการดำเนินธุรกิจไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะทราบว่าต้อง ใช้เงินทุนประมาณเท่าไร บางอาชีพ ใช้เงินทุนน้อยปัญหาย่อมมีน้อย แต่ถ้าเป็นอาชีพที่ต้องใช้เงินทุนมากจะต้องพิจารณาว่ามีทุนเพียงพอหรือไม่ซึ่งอาจ เป็นปัญหาใหญ่ ถ้าไม่พอจะหาแหล่งเงินทุนจากที่ใด อาจจะได้จากเงินเก็บออม หรือจากการกู้ยืมจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกไม่ควรลงทุน จนหมดเงินเก็บออมหรือลงทุนมากเกินไป
2. ความรู้ หากไม่มีความรู้เพียงพอ ต้องศึกษาขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม อาจจะฝึกอบรมจากสถาบันที่ให้ความรู้ด้านอาชีพ หรือ ทำงานเป็นลูกจ้างคน อื่น ๆ หรือทดลองปฏิบัติด้วยตนเองเพื่อให้มีความรู้ ความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้น ๆ
3. การจัดการ เป็นเรื่องของเทคนิคและวิธีการ จึงต้องรู้จักการวางแผนการทำงานในเรื่องของตัวบุคคลที่จะร่วมคิด ร่วมทำและร่วมทุน ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้และกระบวนการทำงาน
4. การตลาด เป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดปัจจัยหนึ่ง เพราะหากสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นไม่เป็นที่นิยมและไม่สามารถสร้างความพอใจให้แก่ผู้บริโภค ได้ก็ถือว่ากระบวนการทั้งระบบไม่ประสบผลสำเร็จ ดังนั้นการวางแผนการตลาด ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันสูง จึงควรได้รับความสนใจในการพัฒนา รวมทั้ง ต้องรู้และเข้าใจในเทคนิคการผลิต การบรรจุและการหีบห่อ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สินค้าและบริการของเราเป็นที่นิยมของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ต่อไป

ข้อแนะนำในการเลือกอาชีพ
ก่อนตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพใด ๆ ก็ตาม ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งมีข้อแนะนำ ดังนี้
ประการแรก ควรเลือกอาชีพที่ชอบหรือคิดว่าถนัด สำรวจตัวเองว่าสนใจ อาชีพอะไร ชอบหรือถนัดด้านไหน มีความสามารถอะไรบ้าง ที่สำคัญคือต้อง การหรืออยากจะประกอบอาชีพอะไร จึงจะเหมาะสมกับตัวเองและครอบครัว กล่าวคือ พิจารณาลักษณะงานอาชีพ และพิจารณาตัวเอง พร้อมทั้งบุคคลในครอบครัวประกอบกันไปด้วย
ประการที่สอง จะต้องพัฒนาความสามารถของตัวเอง คือ ต้องศึกษารายละเอียดของอาชีพที่จะเลือกไปประกอบ ถ้าความรู้ความเข้าใจยังมีน้อย มีไม่เพียงพอก็ต้องทำการศึกษา ฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติเพิ่มเติมจากบุคคล หรือหน่วยงานต่าง ๆ ให้มีพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในการเริ่มประกอบอาชีพที่ถูกต้อง เพื่อจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของผู้มีประสบการณ์มาก่อน จักได้เพิ่มโอกาสความสำเร็จสมหวังในการไปประกอบอาชีพนั้น ๆ
ประการที่สาม พิจารณาองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ทำเลที่ตั้งของอาชีพที่จะทำไม่ว่าจะเป็นการผลิต การจำหน่าย หรือการให้บริการก็ตาม สภาพ แวดล้อมผู้ร่วมงาน พื้นฐานในการเริ่มทำธุรกิจ เงินทุน โดยเฉพาะเงินทุนต้องพิจารณาว่ามีเพียงพอหรือไม่ถ้าไม่พอจะหาแหล่งเงินทุนจากที่ใด

ศึกษา มาตรฐานกำหนดตำแหน่ง คุณวุฒิ/สาขาที่ใช้บรรจุ และ รายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ลิงค์
<<— http://www2.ocsc.go.th/job/standard-position  —>>

อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร
อาชีพรับจ้างมีความหมายว่าอย่างไร

This slideshow requires JavaScript.

เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง การอาชีพเบื้้องต้น
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

นักเรียนสามารถดาวโหลดได้ที่นีี่  —>>>

ชุดการจัดกิจกรรม -การอาชีพเบื้องต้น- เล่มที่ 1

—>>>