การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีข้อดีอย่างไร

ในปัจจุบันธนาคารในบ้านเราเกิดกระแสตื่นตัวเรื่องการให้บริการธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์กันเป็นอย่างมาก หรือที่เรามักเรียกกันว่า E-Banking เนื่องจากมีการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการ E-Banking เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

จากสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย ธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการ Mobile banking และ Internet banking พบว่า จำนวนบัญชีลูกค้าที่ใช้บริการ, ปริมาณรายการที่ทำธุรกรรม, และมูลค่ารายการ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายน 2555 มีจำนวนบัญชีลูกค้าที่ใช้บริการ Internet banking ทั้งหมด 6,051,554 บัญชี ปริมาณรายการที่ทำธุรกรรมจำนวน 10,299 รายการ และมีมูลค่ารายการ1,239 พันล้านบาท ในขณะเดียวกันการทำธุรกรรมผ่านบริการ Mobile banking มีมูลค่ารายการเพียง 35 ล้านบาทเท่านั้น แต่ในอนาคตอันใกล้การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ Mobile banking มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทกูเกิ้ลเปิดตัว Google Wallet ในปีที่ผ่านมาเพื่อใช้โทรศัพท์ที่รองรับการสื่อสารแนบ Near Field Communication (NFC) และใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เป็นเหมือนกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่ชำระเงินได้ตามจุดเครื่องอ่านตามร้านค้าที่รองรับ ซึ่งในปัจจุบันมีการให้บริการในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่อาจจะขยายการให้บริการมาถึงประเทศไทยในไม่ช้า ดังนั้น เราควรทำความรู้จักกับ E-Banking เพื่อให้ทราบว่าคืออะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง

E-Banking คือ การทำธุรกรรมต่างๆ กับธนาคาร โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน หรือ สอบถามยอดเงิน เป็นต้น E-Banking อาจเรียกด้วยชื่ออื่น เช่น Internet Banking (ธนาคารอินเตอร์เน็ต), Online Banking (ธนาคารออนไลน์), Electronic Banking (ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์), Cyber Banking (ธนาคารไซเบอร์) เป็นต้น

ประเภทของ E-Banking สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

  1. ให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ต
บริการสำหรับธนาคารที่ให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ต มีบริการ อาทิ
  • บริการโอนเงินระหว่างบัญชีของผู้ใช้บริการเอง หรือการโอนเงินไปยังบุคคลอื่น
  • บริการสอบถามสถานะเช็ค
  • บริการอายัดเช็ค
  • บริการสอบถามรายการเคลื่อนไหวในบัญชี
  • บริการสอบถามรายการชำระ
  • บริการสอบถามยอดคงเหลือในบัญชี
  • บริการชำระค่าสินค้าหรือบริการฃ
  • บริการชำระค่าบัตรเครดิต
  • บริการขอสินเชื่อ
เป็นต้น
  1. ให้บริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
ธนาคารที่ให้บริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มีบริการ อาทิ
  • บริการเอทีเอ็ม (ATM)
  • บริการสมาร์ทการ์ด (Smart d)
  • บริการธนาคารทางโทรศัพท์ (Tele-Banking)
เป็นต้น

การให้บริการของ E-Banking ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในอนาคตการให้บริการของ E-Banking ยังสามารถพัฒนาได้อีกเรื่อยๆ เพื่อรองรับความต้องการในการใช้บริการของผู้ใช้บริการ E-Banking ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก E-Banking ทำให้เกิดความรวดเร็วและสะดวกสบายในการทำธุรกรรมมากขึ้น อีกทั้งยังประหยัดทรัพยากรอีกด้วย

การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) จะฝากเงินรายได้จาก Ad Exchange ของคุณไว้ในบัญชีธนาคารของคุณในสกุลเงินท้องถิ่นโดยตรง เพื่อความรวดเร็วและทำให้กระบวนการชำระเงินง่ายยิ่งขึ้น EFT มีให้บริการสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาที่มีที่อยู่การชำระเงินใน ประเทศที่สนับสนุนของเรา

หากต้องการลงชื่อสมัครใช้การชำระเงินโดย EFT ให้ตรวจสอบข้อมูลของเราเกี่ยวกับ ฉันจะลงชื่อสมัครใช้การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างไร เมื่อคุณลงชื่อสมัครใช้ คุณจำเป็นต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีธนาคารและยืนยันบัญชีของคุณโดยใช้เงินฝากทดสอบจำนวนเล็กน้อย

โปรดทราบว่าถ้าคุณเลือก EFT เป็นรูปแบบการชำระเงินของคุณ เราไม่สามารถรับประกันได้ว่ารอบการชำระเงินถัดไปของคุณจะเป็น EFT หากคุณเลือกรูปแบบนี้หลังจากวันที่ 15 ของเดือนนั้น ตัวอย่างเช่น เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการชำระเงินทาง EFT สำหรับรายได้ประจำเดือนมีนาคมของคุณ โปรดลงชื่อสมัครใช้ EFT และยืนยันบัญชีธนาคารของคุณก่อนวันที่ 15 เมษายน

เป็นเรื่องธรรมดาที่ของทุกอย่าง ล้วนมี 2 ด้านเสมอ แม้กระทั่ง “สังคมไร้เงินสด” หรือ “Cashless Society” แนวคิดสังคมเศรษฐกิจที่ภาครัฐพยายามผลักดันให้เกิดในประเทศไทย ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน แต่จะเป็นเรื่องใดบ้างนั้น ลองไปดูกันเลย

สังคมไร้เงินสด คืออะไร

เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมที่จากเดิมต้องพกเงินสดออกจากบ้านทุกครั้ง มาเป็น “สังคมไร้เงินสด” ที่คุณไม่ต้องพกเงินสดออกจากบ้าน แต่ก็สามารถจับจ่ายซื้อของ หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ ได้ ด้วยช่องทางการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน e-wallet (กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์) พร้อมเพย์ (PromtPay) หรือกระทั่งชำระเงินด้วย QR Code เป็นต้น

ข้อดี : สังคมไร้เงินสด

ลดต้นทุนการผลิตธนบัตรและเหรียญกษาปณ์

ในแต่ละปี ประเทศต้องเสียงบประมาณส่วนหนึ่งไปกับการผลิตธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ เพื่อนำมาใช้หมุนเวียนในระบบ ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดการเงินสด อาทิ ค่าขนส่งธนบัตรไปตามศูนย์เงินสด หรือธนาคารพาณิชย์ และค่าทำลายธนบัตรเก่า ฉะนั้น หากสามารถลดการทำธุรกรรมด้วยเงินสด จะทำให้ประเทศประหยัดเงินส่วนนี้ได้ไม่น้อย

สามารถจัดการเรื่องเงินได้ดีขึ้น

ทำให้การจัดการบัญชีของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งในส่วนของผู้ขายและผู้ซื้อ เนื่องจากการโอนเงินทุกครั้ง จะมีการแจ้งเตือนจากธนาคารมาถึงคุณซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเสมอ

โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจด้วยแล้ว การรับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยให้คุณจัดการรายได้ดีกว่ารับเงินสด เนื่องจากไม่ต้องมาเสียเวลานับเงินสดตอนปิดร้าน ยิ่งวันไหนยอดขายดีอาจได้นั่งทำบัญชี และนับเงินกันนานนับชั่วโมงแน่ ๆ ทั้งยังเป็นการลดโอกาสที่จะถูกลูกจ้างโกงหรือทอนเงินผิดอีกด้วย

ไม่ต้องเสียเวลาไปทำธุรกรรมที่ธนาคารอีกต่อไป

ในยุคสังคมไร้เงินสด คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปต่อแถวเพื่อฝาก-ถอนเงินที่ธนาคารอีกต่อไป เพราะคุณสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบริการของ Mobile Banking ได้

ธุรกิจมีความคล่องตัวและเติบโตขึ้น

เนื่องจากความสะดวกในการชำระเงิน ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ทุกรูปแบบ และรับชำระเงินผ่าน Mobile Banking บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบริการพร้อมเพย์ (PromptPay) ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายแก่เจ้าของธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเอง และเหล่าขาช้อปออนไลน์ที่ไม่สะดวกเดินทางออกจากบ้าน

ลดปัญหาอาชญากรรม

เมื่อลดการใช้เงินสด ย่อมทำให้คนพกเงินสดน้อยลง ซึ่งการใช้เงินสดน้อยลงก็มีส่วนช่วยในการลดอัตราการฉกชิงวิ่งราว และกรณีทำเงินสดสูญหายไปด้วย เพราะเงินของคุณถูกเก็บรักษาอยู่ในบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินได้ง่าย

การเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสดช่วยให้ตรวจสอบเรื่องการโอนเงินที่ผิดปกติได้ง่ายขึ้น โดยหากมีการโอนเงินจำนวนมากข้ามบัญชีในลักษณะผิดปกติ รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐก็สามารถเข้ามาตรวจสอบได้ทันทีว่า เงินจำนวนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่

ช่วยเรื่องการจัดเก็บภาษี

เมื่อสามารถตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินได้ ทำให้รัฐบาลสามารถเรียกเก็บภาษีจากผู้เสียภาษีได้ถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อเสีย : สังคมไร้เงินสด

ความปลอดภัยของบัญชี

การที่คุณนำข้อมูลการเงินทุกอย่างเข้าไปไว้ในรูปแบบออนไลน์ อาจจะทำให้ถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรหามาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบการเงินออนไลน์ให้รัดกุมมากขึ้น อาทิ Log out จากระบบแอปฯ ธนาคารทุกครั้งที่เลิกใช้บริการ เป็นต้น

อาจเกิดการใช้จ่ายเกินตัว

เนื่องจากการทำธุรกรรมที่ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการที่ฟุ้งเฟ้อเกินความจำเป็น เพราะความสะดวกสบายที่เกิดขึ้น จนทำให้บางครั้งคุณเพลิดเพลินจนลืมดูตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

การที่คุณสามารถใช้จ่ายเงินในบัญชีผ่านระบบออนไลน์ ทำให้ต้องพึ่งพาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรและรวดเร็ว ฉะนั้น หากอินเทอร์เน็ตของคุณหมดหรือไปอยู่ในจุดอับสัญญาณ คุณก็ไม่สามารถใช้บริการอะไรได้

จะเห็นว่า “สังคมไร้เงินสด” ไม่ได้นำมาเพียงการเปลี่ยนแปลงด้านที่ดีเท่านั้น แต่ด้วยโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น สิ่งที่ทำได้ คือ การปรับตัวและเตรียมพร้อมรับเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เช่นเหล่าพ่อค้า-แม่ค้ารุ่นใหม่ที่หันมาใช้บริการชำระเงินผ่าน QR Code หรือพร้อมเพย์ มากขึ้น