นิยาย พระเอก เป็นทูต nc ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

บทนำ

เธอ...ต้องการหาประสบการณ์ที่ทั้งชีวิตนี้ไม่เคยสัมผัส และไม่เคยเรียนรู้ในด้านอื่นๆ เพื่อสานต่อธุรกิจของครอบครัว

นิยาย พระเอก เป็นทูต nc ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

และเขา..คือคนที่จะสอนให้เธอจำแบบไม่มีวันลืม !!!

นิยาย พระเอก เป็นทูต nc ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

เพราะค่าตอบแทน ...มันแลกด้วยความเจ็บปวด อย่างแสนสาหัส !!!

----------------------------------------------------------------------

ขอบอกตัวโตๆ นิยายเรื่องนี้ หนูหวาน (นามปากกาเค้าเอง อิอิ นางฟ้าแสนหวาน) กลั่นกรองออกมาจากใจเลย เป็นนิยายเรื่องแรก แถมยัง NC  21+  ซึ่งหนูหวานยังโสดและไม่เคยมีแฟน โฮะๆๆๆ หัวเราะให้ตัวเองดูดี อายุ 23 ปี เป็นสาวเหนือ แต่ใจหลงรักทะเล พระเอกคนแรกเลยอยากเขียนให้เป็นคนใต้ ได้ข่าวว่าคนใต้รักจริง ฮิฮิ เพราะรักในการอ่านนิยายมาก เลยเกิดไอเดียว่าอยากเอาประสบการณ์ในการอ่านมาทดสอบความแกร่งของใจ หุหุ เกี่ยวกันมั้ยอ่า 5555

ภายนอกหนูหวานเป็นคนหวานๆ ซื่อๆ ใสๆ แต่ภายในก็....เช่นกัน 555555 นิยายเรื่องนี้หนูหวานคิดแล้วคิดอีก คิดจนนอนไม่หลับ เอาไปเขียนในฝันบ้าง ในจินตนาการบ้าง จนออกมาเป็นตัวหนังสือเลย

ไม่ติดลิขสิทธิ์อยากเอาไปเอาไปเลย (ถ้าอยากคัดลอก) 5555 เพราะหนูหวานเชื่อว่าหนูหวานจะต้องแต่งดีแน่นอน ถึงได้อยากได้เป็นเรื่องของตนเอง และหนูหวานชอบเอาใจเขามาใส่ใจเราเสมอ 👌🏻

รูปภาพประกอบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆขออนุญาตนำมาใช้เพื่อให้นิยายเรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด ขอบคุณค่ะ

เรื่องราวเหล่านั้นล้วนมาจากใจ..เราเป็นคนไทยไม่ใช้ของนอก อิอิ (หมายถึงนางเอกกับพระเอกนะคะ) ของไทยดีๆมีเยอะแยะ แค่หยุด และมอง จะเห็นถึงความแตกต่าง หนูหวานคิดว่าทั้ง 2 คนมีบางสิ่งที่เข้ากัน หน้าตาดีแบบสวยสง่างามและหล่อดูดี อยากให้คนไทยใช้ของไทย figthing !! 

สวัสดีจ้าาาาารีดที่น่ารักทุกคน  นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของไรต์นะคะ

เขียนผิดพลาดยังไง ขออภัยด้วยนะค้ะ

ติดกับดักรักอสูร

พระเอก  :  นิโคสัส(นิค) เจมส์ แอนเดอร์สัน

นิยาย พระเอก เป็นทูต nc ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

สัญชาติ  :  อเมริกัน

อายุ        :  28  ปี

นิสัย       :  โหด นิ่ง หื่น เงียบ ขรึม แต่น่าค้นหา ใจดีบ้างเฉพาะคน

กิจกรรม :  ควงนางเเบบ ดารา นักร้องไม่ซ้ำหน้าในแต่ละคืน

อาชีพ      :  มาเฟียเจ้าของกิจการค้าอาวุธถูกกฎหมาย แต่ก็เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เนื้อหอม ที่สาวๆ                      ต่างกรี๊ดทุกครั้งที่เห็นเขา

ทรัพย์สิน:  เป็นผู้สืบทอดมรดกทุกอย่างมูลค่ารวมกว่า100,000ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

นางเอก  :  เคทลินน์(เคท) เซลีน่า โอ'ไบรอัน

นิยาย พระเอก เป็นทูต nc ธัญ วลัย จบแล้ว ไม่ติดเหรียญ

สัญชาติ    :  เกาหลี-อังกฤษ

อายุ          :  21  ปี

นิสัย         :  น่ารัก สดใส และขี้เล่นเฉพาะกับคนที่สนิท และจะดื้อเงียบกับคนที่ไม่รู้จัก เธอเป็นอัจฉริยะ                         เรียนจบป.ตรีโดยใช้เวลาเพียง3ปี

กิจกรรม  :  เรียน ติว เที่ยวผับบ้าง ใช้เวลาบินไปมาระหว่างประเทศมากที่สุด

อาชีพ      :  ทายาทมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก มีที่ดินและมรดกฯลฯ นับหลายร้อยพันหมื่นแสนล้าน                        ดอลล่าร์ เป็นนักศึกษาจบตรีจะต่อโท

ทรัพย์สิน:  เป็นผู้รับมรดกตกทอดทุกอย่างมูลค่าหลายล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ

"เกริ่นนำกันก่อนนนนน"

"เขาถูกพ่อบังคับให้เป็นวิทยากรบรรยายเรื่องการบริหารธุรกิจ เขาเบื่อหน่ายงานเเบบนี้มาก แต่ก็ขัดพ่อไม่ได้ เขาเบื่อสาวๆที่มองเขาทุกการกระทำ แต่นิ่งๆอย่างเขาหน้าเดียวตลอด เมื้อถึงวันงาน เขาก็เตรียมตัวเเละก็ขับรถคันหรูออกไปทันที"

"ส่วนเธอ เธอก็สุดเเสนจะเบื่อหน่ายกับงานอบงานอบรมบ้าๆนี้มาก เพราะทั้งน่าเบื่อและเนื้อหาของการอบรมนั้น เธอรู้มาตั้งเเต่ยังไม่จบตรีด้วยซ้ำ แต่ก็จำเป็นต้องมา"

"เมื่อเขาและเธอมาเจอกัน เขาก็ไม่สบอารมณ์กับเธอทันที เพราะเธอเอาเเต่นั่งเหม่อไม่สนใจ เขาจึงคิดแผนจะลงโทษที่เธอไม่สนใจเขาต่างจากสาวๆคนอื่นๆที่มองเขาตาเป็นมัน เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ติดตามชมและอ่านกันได้เลยน้าค้าาาาา"

ปล.ตัวละครอื่นๆจะออกมาเรื่อยๆนะค้ะ

"พูดมาก!"

"ต่อนะ..." นายบอกเสียงแผ่ว

"เหนื่อยแล้ว พอ...อ๊ะ" เขาไม่รอให้ฉันได้พูดต่อก็กระแทกกระทั้นเข้ามาอีกครั้ง

"วันเกิดทั้งที...จะให้แค่นี้?" เมื่อนายอ้อนวอนทั้งน้ำเสียงและสายตา มีหรือคนเป็นรองอย่างฉันจะขัดขืนได้ ฉันพยักหน้าอย่างเนือยๆ จากนั้นนายก็เริ่มทำต่อ

เขาถอนแก่นกายออกไปจากตัวฉัน แล้วจัดท่าให้ยืนขึ้นบนพื้น เขาสอดใส่แก่นกายเข้ามาในจังหวะที่ไม่ได้ตั้งตัว ในเมื่อฉันยืนขึ้นส่วนต่างๆ ในร่างกายก็แคบลงถนัดตา

การที่นายสอดใส่เข้ามามันทั้งแนบแน่นและรู้สึกตอดรัดเป็นพิเศษ

"อ่าาส์" เขาขยับสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะจากช้าสู่เร็วตามแรงอารมณ์ที่ถาโถม ฉันโอดครวญอย่างห้ามไม่ได้ รู้สึกอึดอัดแต่ก็รู้สึกเสียววาบไปพร้อมกันด้วย

พั่บ พั่บ พั่บ

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังอย่างต่อเนื่อง ฉันโอนอ่อนไปตามแรงกระแทกจนพยุงตัวเองแทบไม่ไหว

สักพักนายก็ยกขาฉันข้างหนึ่งให้ลอยขึ้นกลางอากาศ จากที่คับแน่นก็กลายเป็นเปิดกว้างทันที การเคลื่อนไหวร่างกายที่หนักหน่วงพร้อมกับการเสียดสีที่เร่าร้อน ทำให้ฉันทนไม่ไหวจนร่องลอยเข้าสู่จุดสุดยอดอีกครั้ง

"อ๊าา อ่าาส์" ขณะเดียวกันนายก็ความรู้สึกเหมือนกับฉันแต่ที่แปลกไปคือความรู้สึกอุ่นวาบในช่องท้อง นายถอนแก่นกายออกไป ระหว่างนั้นรู้สึกถึงน้ำที่ไหลออกมาจากส่วนนั้น มันทั้งหยาดเยิ้มและเคลื่อนที่อย่างอ้อยอิ่ง

ฉันก้มลงไปมองก็เห็นว่ามันเป็นสีขาวขุ่น

"นาย!" ฉันดุเขาเสียงดัง ทำไมเขาชอบทำสดแล้วแตกในเข้ามาจัง มันไม่ปลอดภัยเลย

"ทำไมไม่ใส่ถุงยาง" เหมือนตัวเองมีแรงขึ้นมาทันทีทันใดจึงหันหน้าเข้าหาเขา

"ลืม..." นายตอบอย่างสบายๆ ในขณะที่ฉันร้อนรนให้กับความสะเพร่าของเขา

"ถ้าเกิดมันพลาดขึ้นมา..."

"เดี๋ยวรับผิดชอบเอง" นายตอบอย่างเด็ดเดี่ยว คิดว่าการรับผิดชอบชีวิตคนมันง่ายนักหรือไง

"ต้องรอให้เกิดเรื่องก่อนหรือไง ถึงจะคิดได้น่ะ" ตอนนี้ฉันโมโห...ในขณะที่ฉันยอมให้ความสำราญกับเขา แต่เขากลับมองเห็นมันแค่ด้านเดียว นั่นคือความสุขทางกาย สิ่งนี้มันมีทั้งดีและไม่ดี โทษของมันหากไม่ป้องกันให้ดี จะเกิดสิ่งมีชีวิตอีกสิ่งขึ้นมา ซึ่งต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ไปตลอดชีวิต

ถามว่าทำไมฉันจึงจริงจัง เพราะตัวอย่างมากมายในสังคมมีให้เห็นเยอะแยะ เด็กที่เกิดมาโดยพ่อแม่ไม่พร้อม ผลสุดท้ายเด็กนั่นแหละจะลำบาก ถึงนายจะรวย มีพร้อมทุกอย่าง การรับผิดชอบชีวิตเด็กคนหนึ่งคงไม่อยากเกินไป

แต่สำหรับฉันนั้นไม่ใช่ ฉันยังไม่อยากสร้างความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ เวลาทั้งชีวิตของฉันจะไม่ได้มีแค่งานแต่จะมีอย่างอื่นตามมาด้วย

ฉันวางแผนชีวิตของตัวเองไว้ค่อนข้างดี ในส่วนของเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดฉันเลย และยิ่งการที่ครอบครัวของนายไม่ชอบฉัน สถานะของเรายังคงเป็นความลับ มันยากมากสำหรับฉันที่จะมีใครเพิ่มมาอีกคน

"ทำไมถึงจริงจัง..." นายพูด แต่ไม่จบประโยคเหมือนเขานึกอะไรขึ้นได้จึงเงียบไป

"นายก็รู้สถานะของเราตอนนี้ดี อย่าให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้เลย ถ้านายทำอีกโดยไม่ป้องกัน ถือว่าอด!" ฉันยื่นคำขาดก่อนจะเดินเข้าไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำ และกลับมานอนบนเตียงอีกครั้ง

ขณะนี้เป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว ฉันควรนอนเพราะตอนเช้ามีงานสำคัญต้องทำฉันไม่ได้ให้ความสนใจนายที่นอนอยู่ข้างๆ อีกต่อไป

กริ๊งงง ~

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ฉันดังขึ้นในตอนแปดโมงเช้า ฉันสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาปิด ความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อคืนนั้นยังส่งผลถึงตอนนี้

จากนั้นก็ฟุบหน้าลงกับหมอนอีกครั้ง เพราะร่างกายต้องการพักผ่อนให้มากกว่านี้

แต่พอนึกได้ว่าวันนี้มีงานสำคัญก็ต้องจำใจลุกขึ้น ฉันเคลื่อนตัวออกมา พลางมองไปยังเตียงกลับพบว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่เลย

ฉันพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวและใส่ชุดที่นายเตรียมไว้ให้ พร้อมกับโพสอิทที่เขียนว่า

'เจอกันบริษัท'

สามสิบนาทีให้หลังฉันก็มานั่งประจำตำแหน่งเลขาของท่านประธานในห้องประชุมใหญ่ซะแล้ว

ข้าวเช้าหรือน้ำสักหยดยังไม่ตกถึงท้องเลยด้วยซ้ำ ก็ต้องรีบวิ่งแจ้นมายังห้องประชุมเมื่อมีการเลื่อนประชุมให้เร็วขึ้นสามสิบนาที จากเดิมเริ่มประชุม9โมงเช้า ฉันนั้นมาได้เฉียดเวลาพอดี

ภายในห้องประชุมใหญ่ มีนายนั่งด้านซ้ายมือ ส่วนทางด้านขวามือเป็นคณะกรรมการบริษัท ซึ่งเก้าอี้ตรงกลางนั้นเป็นคุณหญิงดรุณี หรือแม่ของนายนั่นเอง

วันนี้ท่านมาตรวจการบริษัทในฝ่ายต่างๆ ถึงท่านจะปลดตำแหน่งตัวเองเพื่อให้นายขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนแล้ว แต่ท่านก็ยังถือเป็นผู้อาวุโสที่ควรให้เกียรติอยู่ดี

เนื้อหาในส่วนของวันนี้ส่วนมากจะเป็นการรายงานผลซะมากกว่า มีการถามไถ่จากหัวหน้างานแต่ละฝ่ายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและวิธีการแก้ไข ซึ่งกว่าจะจบ เวลาก็ล่วงเลยเข้าในยาม 11 โมงพอดิบพอดี

ฉันนั้นนั่งปวดท้องมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้ว เนื่องจากยังไม่มีอะไรตกถึงท้องแต่ดันต้องใช้ทั้งสมองและแรงกายในการทำงาน แล้วกระเพาะที่ว่างเปล่าแบบนี้จะเอาพลังงานที่ไหนมาหล่อเลี้ยงร่างกายล่ะ

เมื่อรอให้ผู้คนทยอยเดินออกไปจากห้องประชุมจนหมด ฉันจึงค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นมาจากเก้าอี้ ส่วนนายเขาเดินออกไปพร้อมกับคุณหญิงก่อนคนอื่นๆ แล้ว

อาการปวดท้องจี๊ดๆ และเสียงท้องที่ร้องโครกครากมาเป็นระยะ ส่งผลให้ฉันเดินออกจากห้องประชุมเพื่อไปยังห้องชงกาแฟ หาขนมปังหรือชามาดื่มให้หายหิวซะก็ยังดี ตอนเที่ยงค่อยลงไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของบริษัท

ทว่า... "คุณจินัชชา" เสียงเย็นเยียบของผู้หญิงวัยกลางคนดังขึ้นซะก่อน เธอกำลังเดินออกจากห้องทำงานของนายพร้อมกับเขา

ฉันมองหน้านายเพียงแค่เสี้ยวเดียวก่อนจะตรึงสายตาไว้กับคุณหญิง

ระหว่างเรา...ยังคงตึงๆ กันอยู่ใช่ไหมนะ?

"ค่ะ คุณหญิง" ฉันเก็บมือและนอบน้อมเตรียมรับฟังเต็มที่

"ฉันจะออกไปข้างนอกกับลูกชาย เธอรอฉันอยู่นี่ก่อนนะ" ถึงแม้จะไม่รู้จุดประสงค์ของคุณหญิงแต่ก็รับปากไปเต็มคำ

"ค่ะ" หลังจากที่ทั้งสองเดินจากไปแล้ว ฉันก็ตรงดิ่งไปยังห้องชงกาแฟ พบว่ายังเหลือแซนวิชไว้หนึ่งชิ้นพร้อมกับโอวันติลหนึ่งแก้ว

ฉันกินด้วยความหิวโหย ภายในเวลา 5 นาทีทุกอย่างก็ลงท้องฉันหมด ถือว่ามื้อนี้รอดตายไปได้อีกหนึ่งมื้อ

หลังจากท้องอิ่มได้นิดเดียว แต่ยังพอให้ทำงานต่อได้ฉันจึงไปนั่งจัดเอกสารที่โต๊ะทำงาน จนกระทั่งจัดการจนเสร็จ นายและแม่ของเขาก็ยังไม่กลับมา จนกระทั่งท้องฉันเริ่มร้องอีกครั้ง

'นี่ก็ผ่านมาจะสองชั่วโมงแล้วนะ น่าจะชิ่งไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นมา'

ฉันคิดในใจ พลางกุมท้องตัวเองอย่างเวทนา ถ้าฉันคิดแบบนี้เมื่อชั่วโมงที่แล้ว คงไม่ต้องมานั่งปวดท้องอยู่แบบนี้หรอก

นี่ก็เลยเที่ยงมาแล้ว จะลงไปที่โรงอาหารคาดว่าอาหารคงหมดแล้วแน่ๆ

คิดได้ดังนั้นจึงเดินเข้าห้องชงกาแฟอีกครั้ง เพราะคิดว่าจะมีอะไรที่ช่วยประทังความหิวนี้ได้

ก็เห็นว่ามีพนักงานคนหนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย ฉันรู้สึกไม่คุ้นหน้าแต่ด้วยลักษณะการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นเด็กฝึกงาน เพราะยังใส่ชุดนิสิตอยู่เลย

เธอมองฉันแล้วยกมือไหว้อย่างมีมารยาทดังนั้นฉันจึงไหว้ตอบ พลันสายตาก็เห็นว่าในมือเธอถือแซนวิชอันใหญ่ไว้สองอัน ก็พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

ฉันตัดใจเพราะคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างการไปขออาหารคนอื่นกิน ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลยจีนู!

ฉันเดินไปเปิดตู้เย็นก็เห็นของกินมากมายแต่ก็ต่างถูกกระดาษแปะไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของทั้งนั้น

ฉันกวาดสายตาเพื่อจะหาของที่สามารถกินรองท้องได้ จึงเจอเข้ากับซองโดนัทที่ข้างในบรรจุไว้สองชิ้น ณ วินาทีนั้น ฉันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจึงหยิบมันขึ้นมาและยัดเข้าปากโดยเร็ว

ของใครก็ไม่รู้แล้ว ณ จุดๆ นี้ ไว้พรุ่งนี้จะซื้อมาคืนนะ

หลังจากได้กินของประทังชีวิตแล้ว ก็เห็นว่าเด็กฝึกงานคนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิม คาดว่าเธอคงเห็นการกระทำของฉันทั้งหมดแล้วแน่ๆ

ความอายแผ่ซ่านไปทั้งหน้า แต่ฉันยังคงคีพลุคนิ่งได้ที่ จึงทำทีเป็นเหมือนเจ้าของโดนัททั้งสองชิ้นนั้น

"โดนัทร้านนี้อร่อยจัง สงสัยต้องไปซื้อมาแบ่งให้พนักงานกินบ้างแล้วแหละ" ฉันเดินไปพลางพูดเสียงดังเพื่อให้เด็กฝึกงานคนนั้นได้ยิน เธอหันมายิ้มเล็กน้อยก่อนจะงับแซนวิชเข้าปาก

พอพ้นประตูห้องฉันก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

อุทาหรณ์ครั้งนี้สอนให้ฉันรู้ว่าต้องซื้อของมาตุนไว้ในบริษัทเยอะๆ ซะแล้ว

Talk with writer:

โถถถ จีนู หิวจนต้องลักของคนอื่นกินแล้ว น่าสงสาร 55555

//คิดยังไงถึงแต่งให้นางเอกของเราหิวได้ขนาดนี้นะ

//ฝากไลค์และคอมเม้นต์กันด้วยน้า

แอบกระซิบว่าใกล้ถึงช่วงเวลามาม่า เอ้ย! ดราม่าแล้วนะ คึคึ >~<