English Map สรุปเนื้อหาภาษาอังกฤษ ระดับมัธยมต้น ม.1-2-3 สรุปเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษ สำหรับน้องๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในรูปแบบสั้น กระชับ เข้าใจง่าย นำเสนอพร้อม Mind Map ภาพประกอบสี่สี ครอบคลุมเนื้อหาวิชาเรียน อ่านจบได้ไว สามารถอ่านหลังเลิกเรียน เพื่อทบทวนเนื้อหา ทำให้จำได้แม่นยำยิ่งขึ้น และเจาะประเด็นสำคัญที่มักออกสอบ เพื่อใช้สำหรับเตรียมตัวสอบ ทั้งยังมี QR Code ที่สามารถสแกนเพื่อฟังเสียงบรรยายได้ เหมือนมีครูมาคอยติวให้
รวมใบงานแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ม.1 โดยในแบบฝึกหัดนี้จะช่วยเสริมสร้างความรู้ภาษาสากลต่อยอดจากเรื่องที่เรียนมาในหลักสูตร ให้เด็กได้ทบทวนจากแบบฝึกหัดหลักไปในตัว โดยเป็นภาษาอังกฤษพื้นฐานทั้งหมดมัธยมต้น ตั้งแต่พื้นฐานเริ่มต้นจนถึงสูงในหัวข้อต่างๆ เช่น ครอบครัว โรงเรียน อาหาร สถานที่ต่างๆ ฯลฯ และเรียนรู้ใบงานแบบฝึกหัดตามหัวข้อต่างๆ ตามการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายในแบบฝึกหัดมีภาพประกอบและเฉลยสำหรับครูผู้สอน ให้นักเรียน สื่อสารออกมาได้ง่ายขึ้น
รวมใบงานแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ ม.1เทอม 1
เทอม 2
**แบบฝึกหัดเหล่านี้สามารถนำไปแชร์ต่อ เพื่อสร้างเสริมการเรียนรู้ให้ผู้อื่น ไม่ควรนำไปจำหน่าย! ดูแบบฝึกหัดอื่นๆ ingaplife.com
เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์ของเราเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดโดยจดจำการตั้งค่าของคุณและเข้าชมซ้ำ การคลิก "ยอมรับทั้งหมด" แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเข้าไปที่ "การตั้งค่าคุกกี้" เพื่อให้คำยินยอมที่มีการควบคุม สรปุ เนอ้ื หาวิชาภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ภาษาท่าทาง หมายถึง การเคลอ่ื นไหวในลักษณะต่าง ๆ ของรา่ งกายท่ีแสดงใหเ้ ห็นถึงสิ่งท่ีเรารสู้ กึ หรอื Hug = กอด This way please = เชิญทางน้ี Victory = สัญลกั ษณ์ของชยั ชนะ O.K. หรือ Okay = เหน็ ดว้ ย, ตกลง, ใช่ การโต้ตอบทางโทรศพั ท์ (Telephone Conversation) สรปุ เนอ้ื
หาวิชาภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวัน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ภาษาองั ฤษ คาแปล Sorry, I can't hear. ขอโทษนะคะ/ครับ ดิฉนั /ผม ไม่ได้ยินเลยค่ะ/ครับ My phone number is…… โทรศัพท์ของฉนั หมายเลข........................... Sorry, you've got a wrong number. ขอโทษค่ะ/ครับ คุณโทรผดิ หมายเลขแลว้ ค่ะ/ครับ A phone line is busy. สายโทรศพั ท์ไมว่ า่ ง A telephone is out of order. โทรศัพท์ขดั ข้องหรอื เสยี Who's calling? ใครกาลังพดู , ใครกาลังโทรศัพท์ Would you like to leave a message? คณุ สามารถฝากข้อความไว้ได้ไหมคะ/ครับ . สรุปเนื้อหาวชิ าภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ การแสดงความชอบความไมช่ อบ หรอื ความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจ เปน็ เรื่องธรรมดาและสามารถ like = ชอบ เสียใจด้วยนะ (Sorry to hear that) Sorry. นอกจากนี้ยังสามารถใช้สานวนคาว่า sympathy แสดงความเศรา้
โศกเสียใจได้ดว้ ย เชน่ นอกจากแสดงความเสยี ใจ ยงั สามารถแสดงความเหน็ อกเห็นใจ ปลอบใจและให้กาลงั ใจในโอกาส Don't worry. ไม่ต้องกงั วล การแสดงความดีใจหรอื ความยนิ ดใี นโอกาสต่าง ๆ ซง่ึ
มสี านวนท่ีเกี่ยวขอ้ ง เชน่ สรุปเน้อื หาวชิ าภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ (Expression of opinions/Ideas/wishes/offering helps, etc.) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ I disagree. ฉันไม่เห็นดว้ ย I have no idea. ฉันไม่มีควำมเห็น สรุปเนือ้ หาวชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ What can I do for you? ฉันจะช่วยอะไรคุณไดบ้ ้าง ในกรณที ี่พูดให้สภุ าพจะใช้กรยิ ารปู would หรอื could สานวนทีใ่ ช้ตอบ เช่น สรปุ เนอื้ หาวชิ าภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประโยคบอกเล่า (Affirmative Statement or Dedication Sentence) คือ ประโยคที่ใชใ้ น การสื่อสารเร่อื งราว ขา่ วสาร ข้อคิดเห็นตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจาวัน ประกอบดว้ ย ประธาน (Subject) และกรยิ า (Verb) ซึ่งอาจจะมีกรรม (Object) หรือสว่ นขยาย (Complement) ดว้ ยก็ได้ ประธาน + กรยิ า + กรรม (Subject) (Verb) (Object) ตัวอย่าง Subject = S Verb = V Object = O Complement I sing She cries He writes a letter. They walk every Sunday. ในประโยคบอกเล่า การกระจายกริยาต้องเปน็ ไปตามประธาน (Subject) และกาล (Tense) ที่บอก เลา่ เรื่องน้นั สรปุ เน้อื หาวิชาภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ เรื่องที่ 7 ประโยคคาถาม (Question sentence) : What? ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประโยคคาถาม (Question sentence) เปน็ ประโยคท่ีใช้ถามเพ่ือต้องการคาตอบจากผู้ทเี่ ราสนทนาดว้ ย ประโยคคาถามมี 2 ชนดิ คอื (1) ประโยคคาถามท่ีขึน้ ต้นด้วยกริยาชว่ ย (Yes - no question) เป็นประโยคที่ตอ้ งการคาตอบว่า Yes (ใช่) หรือ No (ไมใ่ ช่) เท่าน้ัน ประโยคคาถามประเภทนี้ต้องขึ้นตน้ ประโยคด้วยกรยิ าช่วย การทาประโยคคาถามแบบ Yes-no question น้ที าจากประโยคบอกเลา่ ธรรมดา (Affirmative sentence) โดยเอากรยิ าชว่ ย (Helping Verb) มาไวข้ า้ งหนา้ ได้แก่ Verb to be, will, have ถ้าประโยคใด ไมม่ ีกริยาชว่ ยใหใ้ ช้ Verb to do โดยกระจายรปู กรยิ าช่วยให้ถูกต้องตามประธาน และทากรยิ าแทใ้ ห้อยู่ในรปู เดิมทีไ่ ม่ตอ้ งเติม s หรอื es แลว้ ลงทา้ ยประโยคดว้ ยเคร่ืองหมายคาถาม (Question mark) ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้ ประโยคบอกเลา่ ประโยคคาถาม She is your teacher. Is she your teacher? (เธอเปน็ ครูของคุณ) (เธอเป็นครูของคุณใช่ไหม) He likes you. Does he like you? (เขาชอบคุณ) (เขาชอบคณุ หรือเปล่า) They buy air ticket. Do they buy air ticket? (เขาซื้อต๋ัวเคร่ืองบิน) (เขาซ้ือตว๋ั เคร่ืองบนิ ใชไ่ หม) (2) ประโยคทีข่ ้นึ ตน้ ดว้ ยคาทเ่ี ป็นคาถาม (Question word question) คือ ประโยคทขี่ น้ึ ตน้ ดว้ ยคาท่ี เปน็ คาถาม ไดแ้ ก่ what (อะไร), when (เมอ่ื ไหร)่ , where (ท่ไี หน), who (ใคร), whom (ถึง, แก่ใคร), whose (ของใคร), which (อนั ไหน/สง่ิ ไหน), why (ทาไม), how (อยา่ งไร) ในการตง้ั คาถามดว้ ยคาเหลา่ นี้ สว่ นใหญ่จะต้องตามดว้ ยกริยาชว่ ย ยกเว้น who ตามดว้ ยกริยาแท้ และ whose ตามด้วยคานาม ส่วน which ตามดว้ ยคานามทเี่ ป็นกรรมหรือกริยาชว่ ย รายละเอียดการใชค้ าทีเ่ ปน็ คาถาม (Question word question) แตล่ ะตัว ดงั ต่อไปนี้ 1. What อ่านวา่ วอท แปลว่า อะไร ใช้ถามเก่ียวกับคน สัตว์ สง่ิ ของ เชน่ ประโยค ตอบแบบสนั้ ตอบแบบยาว Short form) (Long form) What is in the cage? A bird. A bird is in the cage. (อะไรอย่ใู นกรง) (นกตวั หนึง่ ) What are you reading? A newspaper. I am reading a newspaper. (คณุ กาลงั อา่ นอะไรอยู)่ (หนงั สือพิมพ์ฉบบั หนง่ึ ) What is your father? A doctor. He is a doctor. (พ่อของคุณเป็นอะไร) (อาชีพ) (หมอคนหนง่ึ ) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สรปุ เนื้อหาวิชาภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ เรื่องท่ี 8 ประโยคคาถาม (Question sentence) : Where / When / Who ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประโยคคาถาม (Question sentence) Where อ่านว่า แวร์ แปลวา่ ที่ไหน ใช้ถามสถานที่ เช่น ประโยค ตอบแบบสน้ั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) Where do you live? In Phuket. I live in Phuket. (คณุ อาศยั อยู่ทใ่ี ด) (ในจังหวดั ภูเก็ต) Where will you go? To the market. I will go to the market (คณุ จะไปไหน) (ไปตลาด) Where is the dog? Under the tree. The dog is under the tree. (สนุ ขั อยทู่ ี่ไหน) (ใต้ต้นไม้) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ When อ่านว่า เวน แปลวา่ เมอื่ ไร ใช้ถามเกย่ี วกบั เวลา เชน่ ประโยค ตอบแบบสน้ั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) When will you go home? At four o’clock. I will go home at four o’clock. (คุณจะกลบั บา้ นเมอ่ื ไร) (สโี่ มง) When will your uncle Next year. My uncle will visits Visit you? next year. (ลงุ ของคณุ มาเยี่ยมคณุ เม่ือไร) (ปหี นา้ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ Who อ่านว่า ฮู แปลว่า ใคร ใช้ถามบุคคล เช่น ประโยค ตอบแบบสน้ั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) Who is that man? George Smith. That man is George Smith. (ผู้ชายคนนน้ั เป็นใคร) (จอรจ์ สมิธ) Who wants to go Boonchu and Chalerm. Boonchu and Chalerm home now? want to go home. (ใครอยากจะกลับบ้าน (บญุ ชแู ละเฉลมิ ) ตอนน้ีบา้ ง) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สรุปเนอ้ื หาวิชาภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวัน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ เร่ืองท่ี 9 ประโยคคาถาม (Question sentence) : Why / Which ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประโยคคาถาม (Question sentence) Why อ่านวา่ วาย แปลวา่ ทาไม ใชถ้ ามเมอ่ื ต้องการถามถึงเหตุผล เชน่ ประโยค ตอบแบบสนั้ ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) Why do you go to To buy a book. I go to the book the book store? store to buy a book. (คณุ ไปรา้ นขายหนังสอื ทาไม) (ซื้อหนงั สือ) Why are you late? Because the traffic I am late because is heavy. the traffic is heavy. (ทาไมคณุ มาสาย) (เพราะรถติด) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 6. Which อา่ นว่า วิช แปลวา่ ตวั ไหน อนั ไหน หรือเป็นการไถ่ถามให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ประโยค ตอบแบบสัน้ ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) Which work do you prefer, A teacher. I prefer a teacher. a teacher or a soldier? (คณุ ชอบทางานอะไร (ครู) ครูหรือทหาร) Which school do you go? Satri Phuket School. I go to Satri Phuket School. (คุณจะไปโรงเรยี นไหน) (โรงเรียนสตรีภูเกต็ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สรุปเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น เรื่องท่ี 10 (Question sentence) : How ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประโยคคาถาม (Question sentence) How อ่านว่า ฮาว แปลว่า อย่างไร ใช้ในความหมายทตี่ า่ งกัน ดงั น้ี How ใช้ถามลักษณะอาการ วิธีการคมนาคม การใช้เครอ่ื งมือตา่ ง ๆ เชน่ ประโยค ตอบแบบสนั้ ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How do you go to By bus. I go to Suan Suan Chatuchak? Chatuchak by bus. คณุ จะไปสวนจตจุ ักร (นั่งรถโดยสารประจาทางไป) อยา่ งไร) How is Wasana? Very nice. She is very nice. (วาสนาเป็นอยา่ งไรบา้ ง) (ดมี าก) How are you? Fine, thank you. And you? I am fine, thank you. And you? (คณุ เป็นอย่างไรบา้ ง) (สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ) ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- How long ใชถ้ ามเกย่ี วกับระยะเวลาว่านานเท่าใด เชน่ ประโยค ตอบแบบส้นั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How long does it take About half an hour by taxi. It’s half an hour by taxi. from Sanamluang to Victory Monument? (จากสนามหลวงไปอนุสาวรีย์ (ประมาณครึง่ ชั่วโมง ชัยสมรภูมิใช้เวลานานเท่าไร) โดยรถรบั จา้ ง) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ How often ใช้ถามเกีย่ วกบั ความถี่ เชน่ ประโยค ตอบแบบส้นั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How often does Once a week. He sees her once a week. he see her? (เขามาหาเธอบ่อยเพียงไร) (สัปดาหล์ ะคร้งั ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ How many ใช้ถามจานวนมากน้อยเท่าใด (คานามนับได)้ เชน่ ประโยค ตอบแบบสั้น ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How many books Two books. I read two books. do you read? (คณุ อ่านหนงั สอื มากเท่าไร) (สองเลม่ ) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ How far ใช้ถามระยะทางวา่ ไกลเทา่ ไร เชน่ ประโยค ตอบแบบส้ัน ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How far is it from About 850 Kilometers. It is about 850 Kilometers. here to Bangkok? (จากทีน่ ี่ไปกรุงเทพฯ (ประมาณ 850 กิโลเมตร) ไกลแค่ไหน) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ How old ใช้ถามอายุ เชน่ ประโยค ตอบแบบสนั้ ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How old are you? Twenty years old. I am twenty years old. (คณุ อายเุ ทา่ ไหร่ ) (ยส่ี บิ ปี) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ How about ใชถ้ ามความคดิ เห็นเกี่ยวกับสง่ิ ต่าง ๆ เช่น ประโยค ตอบแบบสนั้ ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How about the cinema? Very good It is very good. (ภาพยนตรเ์ ปน็ อยา่ งไรบ้าง) (ดมี าก) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ How high ใช้ถามความสงู ของสิ่งของท่มี คี วามสูงมาก ๆ เชน่ อาคาร ภูเขา เช่น ประโยค ตอบแบบสน้ั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How high is that building? Fifty feet. It is fifty feet high. (อาคารหลงั นนั้ สูงเทา่ ไร) (สูง 50 ฟตุ ) How tall are you? Six feet. I am six feet tall. (คณุ สูงเทา่ ไร) (สูง 6 ฟตุ ) สรปุ เนอ้ื หาวชิ าภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ หมายถงึ ประโยคทม่ี ีขอ้ ความ 2 ขอ้ ความ มารวมกนั แล้วเชื่อมดว้ ยคาสนั ธาน (Conjunction หรอื Compound Sentence ประโยคทเี่ ช่ือมดว้ ยบุพบท (Conjunction หรือตัวเช่อื มประสาน) ได้แก่ คาสนั ธานทีใ่ ชเ้ ชอ่ื มประโยคความรวม (Compound Sentence) ท่สี าคญั ได้แก่ and แปลว่า และ, กบั ใชเ้ ชื่อมประโยคท่ีมีใจความคล้อยตามกนั Obb and Toom work in Distance Education Institute. both…and แปลว่า ทงั้ …และ Both boys and girls learn English. สรุปเนือ้ หาวิชาภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวัน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ Past = อดีต หลกั การใช้ : ใชก้ ับเหตกุ ารณ์ที่เกิดข้ึนแล้วและจบแล้วในอดีต 2.2 Present Continuous Tense 2.3 Present
Perfect Tense 2.4 Present Perfect Continuous Tense since, how
long 3.1 Future Simple Tense 3.2 Future Continuous Tense 3.3 Future Perfect Tense in…(month)…next year ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สรุปเนอ้ื หาวิชาภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวนั ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประโยคบอกเลา่ S. + V.2 I went to the theme park yesterday. จาง่าย ๆ วา่ ประโยคบอกเล่าใชก้ รยิ าชอ่ ง 2 ส่วนประโยคปฏิเสธและประโยคคาถาม ใช้ did รว่ มกับกรยิ า นอกจากนแี้ ล้ว Key word บอกเวลาซง่ึ จบไปแลว้ ทีพ่ บบ่อย ๆ ในประโยค Past Simple Tense ไดแ้ ก่ last + เวลา/ วัน/ สัปดาห์/ last hour, last night, last last summer, last winter, last Monday. year Ago วินาที / นาท/ี ชวั่ โมง/ วัน/ 5 minutes ago, 3 day ago, 2 The bus arrived thirty เม่ือกริยาชอ่ ง 2 เปน็ องคป์ ระกอบสาคัญ เราจึงต้องท่องคากรยิ าที่อยู่ในช่อง 2 ใหด้ วี า่ เติม –ed หรือ -d หรอื ไม่ อย่างไร ดูตัวอย่างกรยิ าชอ่ ง 2 กนั ค่ะ ชอ่ งท่ี 1 ช่องท่ี 2 ชอ่ งท่ี 3 ความหมาย be was, were been เป็น,อยู่,คือ become became become กลายเปน็ break broke broken แตก, หกั bring brought brought นามา ช่องท่ี 1 ช่องท่ี 2 ช่องที่ 3 ความหมาย Ex. They came here yesterday. Ex. He left home ten minutes ago. Ex. I bought a new phone two days ago. 2. ใช้พดู ถึงนสิ ัยหรือกิจวตั รท่ีเคยทาในอดีต หรอื การบอกว่าใครเคยทาอะไร เคยไปไหนในอดีตมาแล้ว และ Ex. He
always went to office late last month. Ex. I was in London in 2017. สรุปเน้ือหาวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ โครงสร้างประโยค Past continuous tense He was playing football yesterday at 10 am. กอ่ นจะไปกนั ต่อ ขอจอดแวะทบทวนเพมิ่ เติม หลกั การใช้ Was / Were Subject ประธานประโยค Verb to be ทใี่ ช้ (กรยิ าช่อง 2 ของ is และ are) I, He, She, It, A cat (ประธานเอกพจน)์ was You, We, They, Cats (ประธานพหูพจน์) were Past continuous tense ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอดตี ซงึ่ มีด้วยกนั 3 แบบ คอื ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ When the police arrived, we were sleeping. While she was drawing a picture, I came in the room. เทคนิคการจา เหตุการณท์ ย่ี ังจะเกดิ ต่อเนือ่
งไปอีกระยะหนึ่ง เชน่ We were sleeping, The car was running, She was drawing - ประโยคที่อย่หู ลัง when ใช้ past simple (Subject + V.2) เพราะเป็นเหตุการณ์ทีแ่ ทรกเข้ามาส้นั ๆ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สรุปเนอื้ หาวิชาภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ เหตกุ ารณแ์ รก ใช้ Past Perfect He had cleaned his room. เหตกุ ารณ์ท่ี 2 จบลงแลว้ ใช้ Past Simple Tense (Subject + V.2) โดยมักมีคาเชอื่ ม เชน่ when, before ระหว่าง 2 เหตกุ ารณ์น้ี เหตกุ ารณแ์ รก ใช้ Past Perfect คาเชอื่ ม เหตกุ ารณ์ท่ี 2 ใช้ Past Simple ความหมาย He had cleaned his room before he left home. เขาทาความสะอาดห้องก่อนทจ่ี ะ The train
had left when we got to the station. รถไฟออกไปแลว้ ตอนทีเ่ รามาถึง ข้อสงั เกต ถึงเหตุการณห์ น่งึ ซ่งึ จบไปแลว้ อกี เหตุการณจ์ ึงคอ่ ยเกิดขน้ึ ดังน้ัน เราจงึ มักพบคาเช่ือมประโยค เช่น after, already, ตวั อย่างประโยค เสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ สรปุ
เน้ือหาวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ Past perfect Past perfect Continuous They had played football before it started to They had been playing football for about half an The police had looked for criminal before they The police had been looking for criminal for two caught him. years before they caught him. (ตารวจสบื หาอาชญากร ก่อนทีจ่ บั ได)้ (ตารวจสืบหาอาชญากรอยู่ถึง 2 ปี กอ่ นท่จี บั ได)้ โครงสร้างประโยค Past Perfect Continuous Tense มี Mr.been มารว่ มด้วย แบบน้ีคะ่ ประโยคบอกเล่า Subject + had + been + V.ing I had been waiting for you. ประโยคปฏเิ สธ Subject + had not been + V.ing I had not been waiting for you. ประโยคคาถาม Had + Subject + been + V.ing Had you been waiting for me? การใชง้ าน : อยา่ งท่บี อกไปตอนแรกวา่ เราใช้ Past Perfect Continuousกบั
เหตุการณ์แรกที่เกดิ ขึ้น และตอ้ งการเน้น ข้อสังเกต : ในประโยค Past Perfect Continuous มกั จะมคี าท่บี อกถงึ ช่วงระยะเวลาเข้ามาด้วย เชน่ for 2 hours, ต้องจา!! : อยา่ ลืมนะคะวา่ ประโยคท่ีเปน็ เหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นทีหลงั ต้องอยูใ่ นรูป Past Simple (Subject + V.2) ลองดตู ัวอยา่ งกนั ค่ะ My family had been living in Bangkok for 20 years before we moved to Chiang Mai. After my friend had been talking on the phone for an hour, she left the room. By the time they came here, I had been sleeping for 3 hours. My friend had not been
arriving by the time I went to bed. Jenny had not been having dinner when I arrived. Had you been studying Chinese when I phoned you? สรปุ เนือ้ หาวิชาภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ Present แปลว่า ปัจจบุ นั ดงั นั้น Present Simple Tense จงึ เป็นประโยคที่มีโครงสรา้ งแบบงา่ ย ๆ เพื่อใช้พูด 1. ใช้เพือ่ พดู ถึงความเป็นจรงิ ในชีวติ ประจาวนั หรอื ความเป็นจริงตามธรรมชาติ ถงึ แมว้ ่าเหตกุ ารณ์นัน้ จะ When the earth moves around itself, it makes Day and Night. He plays guitar very well. ความรเู้ พม่ิ เติม : หลกั การเติม s,es นน้ั งา่ ยนดิ เดยี ว คือ คากรยิ าท่ลี งทา้ ยด้วย ch, o, s, ss, sh, x ให้เติม es เมือ่ She washes her car. สว่
นคากริยาอืน่ ๆ ที่ไม่ได้ลงทา้ ยด้วยพยญั ชนะทง้ั 6 ตวั นนั้ ให้เตมิ s หลงั คากรยิ าในประโยคทม่ี ีประธานเป็นเอกพจน์ได้ My mom cooks some food for me. แบบที่ 2 : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คาบอกเวลา)? That cat eats fish. ---> Does that cat eat fish ? (แมวตัวนน้ั กนิ ปลาหรอื เปล่า?) รูปแบบประโยคปฏิเสธใน Present Simple Tense มสี องรูปแบบคลา้ ยกบั รูปแบบประโยคคาถามคือ Adverbs of Frequency คาบอกเวลา และนอกจากตัวอย่างคาบอกเวลาท่พี บบ่อยใน Present Simple Tense แลว้ ยงั อาจพบคาวา่ every + ... My teacher always drinks coffee in the morning. Nadech usually gets up at 7 o'clock. Narong hardly
reads books so he doesn't pass the exam. It seldom rains in this part of the country. I feel like she's selfish sometimes. Kimmy hangs out with her friends every Saturday night. สรปุ เน้อื หาวิชาภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวัน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ลกั ษณะการใช้ Present Continuous Tense present แปลวา่ ปจั จบุ นั สว่ น continuous/progressive แปลว่า ดาเนินอย่างต่อเนอ่ื ง ดงั นน้ั Tense น้ีจงึ เปน็ การ 1. ใช้เพือ่ บอกเล่าเหตุการณ์หรือการกระทาในปัจจุบันที่กาลังดาเนินอยู่และยังไม่จบลง (จะจบลงใน I am studying at Chulalongkorn university. Palm is trying to lose weight now. 2. ใชก้ บั เหตุการณ์หรือการกระทาทก่ี าลังเป็นกระแสหรอื เป็นทนี่ ยิ มอย่ใู นขณะนั้น เชน่ 3. ใชก้ ับเหตุการณห์ รือการกระทาทก่ี าลงั จะเกดิ ข้ึนในอนาคต โดยมกี ารเตรียมและวางแผนไว้ลว่ งหน้า I am meeting my parent tonight. Cherprang and Pun are going on holiday next week. 4. ใชก้ ับเหตกุ ารณห์ รือการกระทาทเ่ี กิดขึน้ บ่อยจนเกนิ ไป ทาให้ซา้ ซากและนา่ เบ่ือ ตัวอยา่ งเช่น I don't like gangster near my house because they are always making noisy. รปู ประโยคของ Present Continuous Tense คากรยิ าที่มีการเติม -ing โดยรปู ประโยค Present Continuous Tense มี 3 รูปแบบ ดังน้ี สงิ่ ทเี่ ราต้องคานึงในรูปประโยคของ Present Continuous Tense คือการใช้ V. to be ซ่ึงประกอบด้วย is, am, are My sister is playing violin. We are reading newspaper now. I am sleeping under the tree. 3. คากรยิ าทมี่ ีสระ 2 ตวั (A, E, I, O, U) ให้เติม ing ไดเ้ ลย เชน่ 4. คากริยาท่ีลงท้ายดว้ ย ie ใหเ้ ปลยี่ น ie เป็น y แลว้ จึงเตมิ ing เช่น 5. คากรยิ าที่มสี องพยางค์ และออกเสยี งหนัก (stress) ท่พี ยางคห์ ลัง โดยพยางคน์ ัน้ มสี ระและตัวสะกดเพยี งตัว begin ---> beginning Are you lying to me ? Sunisa is not doing homework. I am not swimming in the canal. ข้อควรจา : คากรยิ าบางตัวไม่สามารถนามาใช้ในรูปประโยค Present Continuous Tense ได้ ดงั นี้ สรุปเนอื้
หาวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น หลกั การใช้ Present Perfect Tense อดตี ถึงปัจจบุ ันยังคงอยู่ has / have ผันตามประธาน ดังนี้ หลักการใช้ Present Perfect Tense คือ 2. ใช้กับเหตกุ ารณ์ทเี่ กดิ ขึน้ ต้ังแต่อดีตและมีผลหรือยังคงสภาพจนถงึ ปัจจบุ นั แต่เหตุการณ์น้นั ได้จบลงไปแลว้ I’ve known her for years. (ฉนั รู้จกั เธอมาหลายปีแล้ว) 3. ใชใ้ นการเลา่ ประสบการณ์ต่าง ๆ สว่ นใหญ่จะมีคาวา่ never, ever, once, twice รวมอยู่ดว้ ย เช่น 4. ใช้ในโครงสรา้ ง If-clause แบบที่ 1 ในสว่ นของเง่ือนไขที่แสดงว่าถ้าทาเหตุการณ์หนึง่
เสร็จแล้วอีกเหตุการณ์ The children can go out, if they have finished their homework. สรปุ เนอ้ื หาวชิ าภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวนั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หลกั การใช้ Present Perfect Continuous จากอดีตเรื่อยมาถงึ ปัจจุบนั has / have ผนั ตามประธาน ดงั น้ี Lisa has been living in New York since 2004. My sister has been talking on the phone for an hour! 2. ใช้พดู แทน Present perfect ได้ในความหมายทเ่ี หมือนกัน Note: กริยาที่ไม่แสดงความต่อเน่ืองของการกระทาจะไม่สามารถใช้ Tense นไ้ี ด้ เช่น ตัวอย่างของกริยาท่ไี มแ่ สดงความต่อเนื่อง เช่น believe, cost, dislike, envy, forget, hate, know, like, love, How long have you known her? How long have you been working with Nancy? สรปุ เน้อื หาวิชาภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวัน ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น หลกั การใช้ Future Simple Tense อนาคตแสนธรรมดา Tense, Future Continuous Tense, Future Perfect Tense และ Future Perfect Continuous Tense ซึง่ ครง้ั น้ี Future Simple Tense เป็น Tense ที่พูดถึงเร่อื งราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น ฉนั จะทานั่น ฉัน โครงสรา้ งของ Future Simple Tense Subject + will + Verb Infinitive + Object NOTE: Verb infinitive คือ คากรยิ าที่อยใู่ นรูปปกติ
ไมม่ ีการผนั และไม่มกี ารเติมสง่ิ ใดต่อทา้ ย ตัวอย่างเช่น talk, swim, ประโยคปฏเิ สธ : ประโยคคาถาม : -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Ex. They say it will rain all week. Ex. Jane will come to the party. 2. ใช้ในโครงสร้าง If-clause แบบท่ี 1 แสดงถงึ เหตุการณท์ ี่มีแนวโนม้ จะเกดิ ขนึ้ เมื่อมีอีกเหตุการณ์หนึง่ เกดิ ข้นึ มา Ex. If Patrick comes, I will go. Ex. All the students will be kept in
detention if they misbehave. 3. ใช้กับการใหส้ ัญญา หรือการเสนอส่ิง ๆ หนึ่งใหผ้ ู้อน่ื 4. ใช้กับเหตุการณ์ทีเ่ พ่ิงคิดได้ว่าจะทาเดียยวนน้ั ไม่มกี ารเตรียมตวั มาก่อนล่วงหนา้ วา่ จะทา NOTE: เราสามารถใช้ shall แทน will ได้ในกรณที ตี่ ้องการแสดงความจรงิ ใจ ต้งั ใจหรือแสดงความหนกั แน่นจริงจังของ Ex. Mary shall be glad to see Ken. Ex. I shall be disappointed if she isn’t happy. Ex. Tonight, you shall sleep outside. นอกจากน้ี เรายงั พบการใช้
shall แทน will ในหนงั สือสาคญั และสนุ ทรพจน์ท่เี ปน็ ทางการมาก เช่น (สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีเอบ็ บราฮมั ลงิ คอรน์ ในการเลิกทาส) สรปุ เนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น หลกั การใช้ Future continuous tense สอ่ งดอู นาคตทีก่ าลังจะเกิดขนึ้ แน่ ๆ ชัดเจนด้วย เชน่ My brother will be watching a football match tomorrow at 9 am. พ่ชี ายของฉนั คงกาลังดู โครงสร้างประโยค Future continuous tense ประโยคบอกเล่า Subject + will + be + V.ing I will be studying English at 10 o’clock tomorrow. ประโยคปฏิเสธ Subject + will not be + V.ing I will not be studying English at 10
o’clock ประโยคคาถาม Will + Subject + be + V.ing Will I be studying English at 10 o’clock tomorrow? ตวั อย่างประโยค My friend will be doing his homework tonight. (เพื่อนฉันคงกาลงั ทาการบา้ นอย่ใู นคืนนี้) The first train will be arriving tomorrow at 6 o’clock. (รถไฟขบวนแรกจะมาถงึ พรุง่ นี้ เวลา 6 โมง) At 7 o’clock, I will be eating dinner with my family. (เวลา 1 ทุ่ม ฉันคงกาลงั กินอาหารม้ือคา่ กับครอบครวั อยู่) I will be having a test at 9 a.m. tomorrow. (ฉนั คงกาลังสอบอยู่ตอนพรงุ่ นี้9 โมง) I will be seeing the doctor on Friday afternoon. (ฉันคงกาลงั ไปหาหมอ ในวันศกุ รช์ ว่ งบา่ ย) Next Monday, you will be working in your new job. (วนั จนั ทรห์ นา้ นี้ คณุ ก็คงกาลงั ทางานในท่ีใหม่) 2. มี 2 เหตกุ ารณ์ท่ีคาดวา่ กาลังจะเกดิ ข้นึ ในอนาคต แตเ่ กดิ ขน้ึ ไม่พร้อมกนั เช่น มาดโู ครงสรา้ งประโยคของ 2 เหตกุ ารณว์
า่ ใชอ้ ยา่ งไรกนั คะ่ I will be sleeping ตวั อย่างประโยค เพิ่มเติม: I’ll เปน็ รูปยอ่ ของ I will ส่วน I will not ใช้รูปย่อเป็น I won’t My boss will be meeting when I arrive tomorrow morning. The children will be sleeping when I cook breakfast tomorrow morning. ขอ้ สงั เกต : การใช้ Future continuous tense มคี วามใกลเ้ คยี งกับ Future simple tense เพราะว่าเป็นการบอกถึง I will see the doctor tomorrow morning. I will be seeing the doctor tomorrow morning. สรปุ
เนอื้ หาวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ หลักการใช้ Future Perfect Tense อนาคตทค่ี าดว่าจะทาเสร็จแล้ว tomorrow.(ฉนั คงจะทารายงานของฉันเสรจ็ ในวันพร่งุ นี้) โครงสรา้ งและตวั อย่างประโยค I will have finished my report by tomorrow. ประโยคคาถาม Will + Subject + have + V.3 ตวั อยา่ งการใช้ Future Perfect Tense 2. มี 2 เหตกุ ารณ์ โดยในอนาคตจะมีเหตกุ ารณห์ น่งึ ดาเนินมาจนจบส้ินลงพอดีกบั อกี เหตกุ ารณ์หนงึ่ โครงสร้างและตัวอย่างประโยคของ 2 เหตุการณ์ S. + will + have + V.3 I will have eaten ดูตวั อย่างประโยคแล้วจะเขา้ ใจมากขนึ้ ค่ะ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สรุปเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวัน ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ หลกั การใช้ Future Perfect Continuous Tense ดาเนินมาและดาเนินต่ออีกระยะ Future Perfect Continuous Tense ใชก้ ล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตได้ 2 แบบ ในเวลาอนาคตที่อ้างอิงนนั้ ก็ดาเนนิ ไปต่ออีกสักพกั มีการระบุระยะเวลาอยา่ งชัดเจนวา่ ไดด้ าเนินมาแล้วนานเพียงใด Ex. I will have been studying Chinese for two years next month. โครงสรา้ งและตัวอยา่ งประโยค I will have been studying Chinese for ลองดูตัวอย่างเพิ่มเตมิ ใหเ้ ข้าใจข้ึนค่ะ 2. ใช้พดู ถึงสองเหตุการณ์ในอนาคต โดยมีข้อสงั เกตวา่ ในประโยคจะระบุอยา่ งชดั เจนวา่ เหตกุ ารณแ์ รกเกดิ Ex. My friend will have been reading for three hours by the time I get library. โครงสร้างและตัวอยา่ งประโยคของสองเหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ ท่ี 1 ใช้ Future
Perfect S. + will + have been + My friend will have been เหตกุ ารณ์ ท่ี 2 ใช้ Present Simple S + V.1 I get library. ตัวอยา่ งประโยค They will have been fighting for over an hour by the time the police come. They will have been waiting for more than 3 hours when the brand new shopping mall (พวกเขาคงจะรอมานานกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ตอนท่หี า้ งสรรพสนิ ค้าแห่งใหม่เปิดให้บรกิ าร) I won’t have been waiting for you for 30 minutes when you arrive. |