เฉลยวิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า 20104 2108

ข้อมูลครู ครูชวนชม ลิ่มทอง ชวนชม ลิ่มทอง เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา 2104-2109 ด้านการเรียนการสอน ใบความรู้ รายวิชาที่ได้รับมอบหมาย ผู้เขียนหน้าเว็บ ชวนชม ลิ่มทอง พฤศจิกายน 27, 2018

เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา 2104-2109 เอกสารประกอบการเรียน รหัสวิชา  2104-2109  วิชาการโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ที่พัฒนาสร้างขึ้นตามหลักการของหลักสูตร จุดหมายของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอน นักเรียนระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03 ĉ ชวนชม ลิ่มทอง, 27 พ.ย. 2561 01:03

มาเป็นคนแรกที่วิจารณ์ “การโปรแกรมและควบคุมไฟฟ้า”

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

การให้คะแนนของคุณ *

บทวิจารณ์ของคุณ *

ชื่อ *

อีเมล *

บันทึกชื่อ, อีเมล และชื่อเว็บไซต์ของฉันบนเบราว์เซอร์นี้ สำหรับการแสดงความเห็นครั้งถัดไป

แบบทดสอบ PRAGRAMMABLE CONTROLLER OMRON รหัสวชิ า ๒๑๐๔-๒๑๐๙ วชิ า การโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟ้า นายกฤษณ์ โชตพิ นั ธ์ แผนกวชิ าชา่ งไฟฟา้ สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาวิทยาลัยเทคนคิ สรุ าษฎรธ์ านี

แบบทดสอบ วิชาการโปรแกรมและควบคมุ ไฟฟ้า รหัสวิชา 2104-2109 ( ผเู้ รยี บเรียง นายกฤษณ์ โชตพิ ันธ์ ) …………………………….. หน่วยท่ี 1 (1 – 29) 1. PLC หมายถึงขอ้ ใด ก. อปุ กรณ์สาหรบั ควบคุมการทางานของเคร่อื งจกั รหรอื อปุ กรณต์ ่าง ๆ ข. การเขียนโปรแกรม ค. หน่วยความจา ง. ระบบควบคุมด้วยรีเลย์ 2. ในตัวของ PLC มีอปุ กรณ์ทีเ่ รียกว่าอะไร ก. ไมโครโฟน ข. ไมโครโปรเซสเซอร์ ค. ไมโครมเิ ตอร์ ง. ไมโครมีเดีย 3. หลักการทางานของ PLC จะคล้ายกับอปุ กรณ์ใด ก. โทรทศั น์ ข. วิทยุ ค. คอมพวิ เตอร์ ง. ตเู้ ย็น 4. อุปกรณใ์ ดข้อใดบรรจอุ ยู่ในตัวของ PLC ก. ตวั ตัง้ เวลา ข. ตัวนบั จานวน ค. รีเลย์ ง. ถูกทุกข้อ 5. PLC จะสรา้ งอุปกรณต์ า่ ง ๆ ให้อยใู่ นรปู ใด ก. ซอฟแวร์ ข. ฮารด์ ดสิ ค. แรม ง. การ์ดจอภาพ

6. PLC ไดพ้ ฒั นาขึ้นคร้ังแรกเมอื่ ปใี ด ก. ค.ศ. 1960 ข. ค.ศ. 1969 ค. ค.ศ. 1996 ก. ค.ศ. 2001 7. บริษทั ใดไดเ้ สนอระบบควบคมุ โดยใชช้ ือ่ ว่า PLC ก. บริษทั Bedford Associates ข. บริษัท Modicon ค. บรษิ ทั Allen – Bradley ง. บรษิ ทั Sony 8. การพัฒนา PLC ให้มกี ารประมวลผลทเ่ี ร็วมากข้ึนตามการเปล่ยี นแปลงของ Micro Processor เมอ่ื ปใี ด ก. ค.ศ. 1969 ข. ค.ศ. 1989 ค. ค.ศ. 1985 ก. ค.ศ. 1979 9. การตดิ ต่อสือ่ สารระหวา่ ง PLC กับ PLC ระบบแรกคอื ระบบใด ก. Modbus ข. Bradley ค. Symbolic ง. Personal 10. การผลิตซอฟแวรท์ ่ีสามารถโปรแกรม PLC ดว้ ยภาษา Symbolic เมอ่ื ปีใด ก. ค.ศ. 1979 ข. ค.ศ. 1979 ค. ค.ศ. 1979 ง. ค.ศ. 1979 11. อุปกรณ์ทใ่ี ช้ป้อนโปรแกรมเฉพาะเรยี กวา่ อะไร ก. โปรแกรมป้อนขอ้ มูล ข. โปรแกรมควบคุมการต้งั คา่ ค. โปรแกรมมิ่งคอนโซล ง. โปรแกรมคอนโทรลเลอร

12. ข้อใดหมายถึงภาษาใดท่ใี ช้กับ PLC ก. ภาษาบูลีน ข. ภาษาแลดเดอร์ ค. ภาษาบล็อก ง. ถกู ทุกข้อ 13. เป็นภาษาที่มีลกั ษณะคล้ายกับวงจรรเี ลย์มากที่สุด ก. ภาษาบลู นี ข. ภาษาแลดเดอร์ ค. ภาษาบาดู ง. ภาษาฮีบู 14. การทางานจะมีลักษณะคล้าย Flow Chart ในแต่ละขัน้ ตอนจะมคี าส่ังภายใน ก. ภาษาบูลนี ข. ภาษาแลดเดอร์ ค. ภาษาบลอ็ ก ง. ภาษาบาดู 15. ข้อดีของระบบควบคุมด้วย PLC คือขอ้ ใด ก. ช่วยลดขนาดของระบบใหเ้ ลก็ ลง ข. ลดภาระการเดินสายไฟฟา้ ค. สามารถเปลยี่ นแปลงวงจรไดง้ า่ ย ง. ถกู ทุกขอ้ 16. ชนิดของ PLC แบ่งไดก้ ีช่ นดิ ก. 1 ชนดิ ข. 2 ชนดิ ค. 3 ชนิด ง. 4 ชนิด 17. ข้อใดคอื ลกั ษณะของ PLC ชนดิ บลอ็ ก ก. แหลง่ จ่ายไฟฟ้าจะรวมอยูใ่ นชดุ เดยี วกันท้ังหมด ข. สว่ นประกอบท้งั หมดสามารถถอดแยกออกจากกันได้ ค. ฟังกช์ ่ันในการทางานจะทาไดม้ ากกว่า PCL ชนดิ โมดูล ง. ไมม่ ขี ้อถูก

18. ข้อใดคอื ลักษณะของ PLC ชนดิ โมดูล ก. แหลง่ จ่ายไฟฟ้าจะรวมอยูใ่ นชดุ เดยี วกนั ท้งั หมด ข. ส่วนประกอบทงั้ หมดสามารถถอดแยกออกจากกันได้ ค. ฟังกช์ ั่นในการทางานจะทาไดม้ ากกว่า PCL ชนดิ โมดูล ง. ไมม่ ีข้อถกู 19. PLC ชนิดโมดลู หรือเรียกอีกอยา่ งวา่ อะไร ก. ชนดิ ร๊อค ข. ชนดิ แร๊ฟ ค. ชนดิ แรค็ ง. ชนดิ เรก็ 20. ขอ้ ใดคือร่นุ ของ PLC ชนิดบล็อก ก. CPM1A ข. CPM2C ค. CQM1 ง. ถกู ทงั้ ขอ้ ก และ ข 21. ข้อใดถูกต้องที่สุด ก. ระบบรเี ลยต์ ่อกบั เคร่อื งพิมพ์ได้ ข. PLC สามารถตอ่ กับอุปกรณ์อินพุตได้หลายแบบ ค. ระบบ PLC มีเสถียรภาพดกี ว่ารเี ลย์ ง. ระบบรเี ลยม์ ฟี ังกช์ ั่นในการตรวจสอบตัวเอง 22. เหตใุ ดเม่อื ใช้ PLC ทาให้ระบบงานเลก็ ลง ก. PLC เปล่ียนแปลงวงจรได้งา่ ย ข. ตัว PLC มีขนาดเลก็ ค. PLC ทางานในรูปของซอฟแวร์ทตี่ รงกบั สภาพจริง ง. ตรวจสอบตวั เองได้ 23. ข้อดีของระบบ PLC เมอื่ เทยี บกับระบบรีเลย์ ก. การบารงุ รักษาตา่ ข. ลดภาระเร่อื งกระแสไฟฟ้า ค. เปลีย่ นแปลงวงจรได้ง่าย ง. เป็นระบบทีค่ วบคุมไดง้ า่ ย

24. Central Processing Unit มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ก. หนว่ ยความจา ข. หนว่ ยตรวจสอบ ค. หน่วยประมวลผลกลาง ง. หน่วยตรวจวัด 25. ขอ้ ใดคอื หนา้ ทีข่ อง CPU ก. ทาหนา้ ท่ถี ่ายโอนข้อมลู ระหวา่ งเวิรด์ ข. ใช้สาหรบั เก็บโปรแกรมการทางานของระบบ ค. รับขอ้ มลู จากหน่วยประมวลผลมาจดั การ ง. รบั ขอ้ มลู จากอินพุต – ประมวลผล – สัง่ งานเอาต์พุต 26. หน่วยความจาแบง่ ไดก้ ่ีแบบ ก. 2 แบบ ข. 3 แบบ ค. 4 แบบ ง. 5 แบบ 27. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้คี อื ชนดิ ของ ROM ก. PROM ข. EPROM ค. EEPROM ง. ถกู ทกุ ขอ้ 28. เปน็ หน่วยความจาท่ีพัฒนาตอ่ จาก PROM ก. PROM ข. EPROM ค. EEPROM ง. ถูกทกุ ข้อ 29. ข้อใดมคี วามหมายตรงกบั คาวา่ หน่วยความจาถาวร ก. Erasable Programmable ROM ข. Electrical Erasable Programmable ROM ค. Read Only Memory : ROM ง. Random Access Memory : ROM

หน่วยท่ี 2 (30 – 52) 30. Rom แบ่งออกไดก้ ่ีชนิด ก. 2 ชนิด ข. 3 ชนดิ ค. 4 ชนดิ ง. 5 ชนดิ 31. การลบข้อมลู ทาโดยนาชพิ ไปฉายแสงอลั ตราไวโอเลต คอื Rom ชนิดใด ก. PROM ข. EPROM ค. EEPROM ง. ROM ทุกชนดิ สามารถทาได้ 32. อินพตุ แบบดจิ ติ อลมีก่แี บบ ก. 4 แบบ ข. 3 แบบ ค. 2 แบบ ง. 1 แบบ 33. ขอ้ ใดคือคณุ สมบัตขิ องแรงดันอนิ พุตแบบไฟฟา้ กระแสตรง ก. “ON” 14.4 VDC min. “OFF” 5.0 VDC max. ข. 12 mA (In 000.00 – 000.02), 47 KΩ (อนิ พุตเบอร์อืน่ ๆ) ค. 2 kΩ (In 000.00 – 000.02), 47 kΩ (อนิ พุตเบอร์อน่ื ๆ) ง. 24 VDC + 10% /+ 5% (26.4 V – 18V) 34. แรงดนั อินพุตแบบไฟฟ้ากระแสสลบั แบง่ ไดก้ ร่ี ะดับ ก. 2 ระดบั ข. 3 ระดับ ค. 4 ระดบั ง. 5 ระดบั 35. ขอ้ ใดคือคุณสมบตั ขิ องกระแสอินพุตแบบไฟฟ้ากระแสสลบั ก. 2kΩ (50 Hz) 38 kΩ (50 Hz) ข. 5 mA (at 100 VAC) 6mA (at 200 VAC) ค. 17 kΩ (60 Hz) 32 kΩ (60 Hz) ง. “ON” 60 VAC min. “OFF” 20 VAC max

36. เอทตพ์ ตุ แบบดจิ ติ อลมกี ่ีแบบ ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ 37. เอาตพ์ ุตแบบใดสามารถขับโหลดได้ทงั้ แบบไฟฟา้ กระแสตรงและไฟฟ้ากระแสสลับ ก. เอาต์พุตแบบทว่ั ไป ข. เอาตพ์ ตุ แบบทรานซสิ เตอร์ ค. เอาตพ์ ุตแบบโซลิดสเตทรีเลย์ ง. เอาต์พุตแบบรีเลย์ 38. หน้าสัมผสั เอาตพ์ ุตแบบรีเลย์สามารถทนกระแสไดเ้ ท่าใด ก. ไมเ่ กนิ 2 A ข. ทนได้ 3 A ค. ไมเ่ กนิ 3 A ง. ตง้ั แต่ 2 A ข้ึนไป 39. เอาต์พตุ แบบทรานซสิ เตอรม์ ีกช่ี นดิ ก. 1 ชนิด ข. 2 ชนิด ค. 3 ชนดิ ง. 4 ชนดิ 40. ข้อใดคอื คณุ สมบัติกระแสร่ัวไหลของเอาตพ์ ตุ แบบทรานซสิ เตอร์ชนิด NPN ก. 5-24 VDC (40 mA Min) ± 10% ข. 0.8 VDC (สูงสดุ ) ค. 0.1 mA (สูงสุด) ง. 50 mA ท่ีแรงดัน 4.5V – 300 mA ท่แี รงดนั 26.4 V 41. หน่วยความจาแบบใดมีแบตเตอร่ีสารอง ก. EPROM ข. EEPROM ค. ROM ง. RAM

42. ข้อใดคอื ขอ้ ดีของอินพตุ แบบไฟฟา้ กระแสสลับ ก. ลดปัญหาแรงดันตกคร่อม ข. ปรบั ระดับแรงดันได้งา่ ย ค. สญั ญาณไม่สะดดุ ง. ตอบสนองเรว็ 43. หนว่ ยอนิ พตุ ทาหนา้ ทอี่ ย่างไร ก. ส่งสัญญาณใหก้ ับ PLC ข. รับสญั ญาณจากอุปกรณ์อินพตุ ค. ประมวลผลขอ้ มลู ของ PLC ง. ถกู ทกุ ข้อ 44. หนว่ ยความจาชนดิ ใดเกบ็ ขอ้ มูลไว้ไดโ้ ดยท่ไี มต่ อ้ งมีไฟเล้ยี ง ก. PLC ข. PROM ค. EEPROM ง. EPROM 45. การต่อวงจรอินพตุ ของ PLC แบบไฟฟา้ กระแสตรงมกี ่ีแบบ ก. 8 แบบ ข. 6 แบบ ค. 4 แบบ ง. 2 แบบ 46. การตอ่ โหลดแบบซงิ ค์ทรานซสิ เตอรต์ อ้ งทนกระแสซิงกไ์ ด้เท่าใดถา้ เอาตพ์ ุตขบั โหลดไมพ่ ร้อมกนั ก. 300 mA ข. 350 mA ค. 200 mA ง. 150 mA 47. แหล่งจ่ายพลงั งานแบง่ ออกเป็นก่ชี ดุ ก. 8 ชุด ข. 6 ชุด ค. 4 ชุด ง. 2 ชดุ

48. เอาตพ์ ตุ แบบอนาลอ็ กของ PCL สามารถส่งสญั ญาณไดก้ ี่แบบ ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ 49. การต่อสายสญั ญาณเพื่อเลอื กว่าเปน็ สญั ญาณแบบกระแสหรอื แรงดัน ควรสงั เกตที่สญั ลกั ษณใ์ ด ก. ขนาดของ PCL ข. อนิ พตุ ของ PCL ค. เอาตพ์ ตุ ของ PCL ง. คณุ สมบตั ิของ PCL 50. เอาตพ์ ุตแบบทรานซสิ เตอรแ์ บ่งออกเป็นกี่ชนดิ ก. 5 ชนิด ข. 4 ชนิด ค. 3 ชนิด ง. 2 ชนิด 51. แรงดันอินพุตแบบไฟฟ้ากระแสสลบั ไมค่ วรมีแรงดันตกครอ่ มในสายเกนิ เทา่ ใด ก. 200 โวลต์ ข. 240 โวลต์ ค. 300 โวลต์ ง. 350 โวลต์ 52. ข้อใดคืออุปกรณ์อินพุตของ PCL ก. Encoder ข. 7 – Segment ค. Solid State Relay Output ง. Source Type หน่วยที่ 3 (53 – 75) 53. โครงสร้างของข้อมลู ใน PCL มีสว่ นประกอบก่สี ่วน ก. 2 ส่วน ข. 4 สว่ น ค. 6 สว่ น ง. 8 ส่วน

54. ข้อใดคอื สว่ นประกอบของโครงสร้างข้อมลู ใน PCL ก. บติ ข. ดิจติ ค. ไบต์ ง. ถูกทกุ ขอ้ 55. ข้อใดคือลอจิกเกจ ก. ONE Gate ข. ON Gate ค. NOT Gate ง. NOW Gate 56. เลขฐานทเ่ี ราใชก้ นั อยู่โดยท่ัวไปนนั้ คอื เลขฐานใด ก. เลขฐานสบิ ข. เลขฐานสอง ค. เลขฐานสาม ง. เลขฐานแปด 57. ในตัวเลขฐานแต่ละหลักนยิ มเรียกวา่ ก. ไบต์ ข. บิต ค. จกิ ง. ตวั 58. 11112 เลขฐานสองมจี านวนกบ่ี ติ ก. 2 บติ ข. 3 บิต ค. 4 บิต ง. 5 บิต 59. 5 ในฐานสิบ เขยี นให้อยู่ในเลขฐานสองอย่างไร ก. 0010 ข. 0100 ค. 0011 ง. 0101

60. 9 ในฐานสิบ เขยี นใหอยู่ในเลขฐานสองอย่างไร ก. 1001 ข. 1000 ค. 0000 ง. 0001 61. 0110 ในเลขฐานสอง คือเลขฐานสิบในข้อใด ก. 3 ข. 6 ค. 1 ง. 2 62. ขอ้ ใดคอื เลขฐานแปด ก. 1,2,3,4,5,6,7,8,9 ข. 0,1,2,3,4,5,6,7,8 ค. 0,1,2,3,4,5,6,7 ง. 1,2,3,4,5,6,7,8 63. 8 ในเลขฐานสิบ ตรงกบั เลขใดในเลขฐานแปด ก. 7 ข. 8 ค. 9 ง. 10 64. 4 ในเลขฐานแปด ตรงกับเลขใดในเลขฐานสบิ ก. 4 ข. 8 ค. 10 ง. 11 65. 9 ในเลขฐานสบิ ตรงกับเลขใดในเลขฐานแปด ก. 10 ข. 11 ค. 12 ง. 14

66. เลขฐานสิบหกประกอบด้วยเลขก่ตี วั ก. 6 ตัว ข. 8 ตัว ค. 10 ตัว ง. 16 ตวั 67. เลขฐานสิบหกประกอบด้วยตัวอักษรก่ีตัว ก. 10 ตัว ข. 8 ตวั ค. 7 ตัว ง. 6 ตัว 68. ข้อใดคือตัวอักษรภาษาองั กฤษพมิ พ์ใหญท่ ่ีประกอบอยูใ่ นเลขฐานสิบหก ก. A,B,C,D,E,F ข. A,E,I,O,U,W ค. P,Q,R,S,T,U ง. S,T,U,V,W,X 69. เลข 3510 มคี ่าเทา่ ใดในเลขฐานสอง ก. 100112 ข. 1000112 ค. 10000112 ง. 100000112 70. เลข 48010 มีค่าเทา่ ใดในเลขฐานสบิ หก ก. 2A116 ข. 4A316 ค. 1E016 ง. 1B216 71. ขอ้ มูล 16 บิต มีคา่ เทา่ กับก่ีเวริ ด์ ก. 4 เวิรด์ ข. 3 เวิรด์ ค. 2 เวริ ด์ ง. 1 เวริ ์ด

72. ขอ้ มูล 1 เวิรด์ มีค่าเท่ากบั ก่ดี ิจิต ก. 4 ดจิ ติ ข. 3 ดจิ ิต ค. 2 ดิจติ ง. 1 ดิจิต 73. ขอ้ ใดคือสัญลกั ษณข์ องนอตเกต ก. ข. ค. ง. 74. ขอ้ ใดคอื สญั ลักษณ์ของแอนดเ์ กต ก. ข. ค. ง. 75. ถ้าแนนดเ์ กตอนิ พตุ เป็น 0 เอาตพ์ ตุ จะมคี ่าเท่าใด ก. 0 ข. 2 ค. 3 ง. 1

หน่วยท่ี 4 (76 – 100) 76. ตาแหนง่ อุปกรณ์ตา่ งๆ ของ PCL ทส่ี าคญั มสี ว่ นประกอบกส่ี ว่ น ก. 2 สว่ น ข. 3 ส่วน ค. 4 ส่วน ง. 5 ส่วน 77. ขอ้ ใดคือพื้นที่หน่วยความจาของ PCL ก. เมมโมรีการ์ด ข. เบอรแ์ ละจานวนรเี ลย์ ค. ซมิ การ์ด ง. ถูกทุกข้อ 78. จานวนอนิ พตุ /เอาตพ์ ตุ และอุปกรณต์ อ่ ขยายขน้ึ อยู่กบั ส่ิงใด ก. ขนาดของ PLC ข. รุ่นของ PLC ค. บริษทั ที่ผลิต PLC ง. ถูกทั้งขอ้ ก และ ข 79. PLC รุ่น CPM2A – 20CDR จะสามารถใชอ้ ุปกรณ์ต่อขยายได้ก่ชี ุด ก. 1 ชดุ ข. 2 ชดุ ค. 3 ชดุ ง. ไมส่ ามารถใช้อุปกรณ์ต่อขยายได้ 123 6 4 5 จากรปู ทีก่ าหนดใหใ้ ชต้ อบคาถามขอ้ 80 – 85

80. จากรปู หมายเลข 1 คอื อุปกรณช์ นิดใด ก. Power ข. ไฟสถานะอนิ พุต ค. ไฟสถานะทางาน ง. Peripheral Port 81. จากรปู หมายเลข 1 คอื อุปกรณ์ชนดิ ใด ก. Power ข. ไฟสถานะอินพตุ ค. ไฟสถานะทางาน ง. Peripheral Port 82. จากรปู หมายเลข 3 คืออุปกรณ์ชนดิ ใด ก. Power ข. ไฟสถานะอนิ พตุ ค. ไฟสถานะทางาน ง. Peripheral 83. จากรูปหมายเลข 4 คอื อุปกรณ์ชนิดใด ก. Power ข. ช่องเกบ็ แบตเตอรี่สารอง ค. แหลง่ จ่ายไฟฟ้ากระแสตรง 24 โวลต์ ง. Peripheral Port 84. จากรูปหมายเลข 5 คอื อุปกรณ์ชนดิ ใด ก. Power ข. พอร์ตสื่อสาร ค. แหล่งจา่ ยไฟฟา้ กระแสตรง 24 โวลต์ ง. จดุ ต่อขยาย 85. จากรปู หมายเลข 1 คอื อุปกรณ์ชนิดใด ก. จุดตอ่ ขยาย ข. พอร์ตสือ่ สาร ค. แหลง่ จา่ ยไฟฟ้ากระแสตรง 24 โวลต์ ง. ไฟสถานะเอาตพ์ ุต

86. รเี ลยภ์ ายในประกอบดว้ ยรีเลย์ทง้ั หมดกเ่ี วริ ด์ ก. 50 เวิรด์ ข. 40 เวริ ด์ ค. 30 เวริ ์ด ง. 20 เวิร์ด 87. รีเลย์ภายในแต่ละเวิร์ดประกอบดว้ ยรีเลยก์ บี่ ิต ก. 8 บติ ข. 16 บิต ค. 22 บิต ง. 30 บิต 88. รีเลยท์ ไ่ี มส่ ามารถเปลย่ี นแปลงค่าได้คอื รีเลยแ์ บบใด ก. รีเลย์ภายใน ข. รีเลยภ์ ายนอก ค. รเี ลยพ์ ิเศษ ง. รีเลยท์ ่วั ไป 89. รีเลยท์ ใ่ี ชง้ านในฟงั กช์ น่ั พิเศษประกอบดว้ ยรเี ลยจ์ านวนกบ่ี ิต ก. 200 บิต ข. 292 บิต ค. 300 บิต ง. 348 บติ 90. AR Area แบบใดแสดงคา่ เปน็ วนั ของสปั ดาห์เฉพาะดิจติ อลท่ี 0 และ 1 เทา่ นน้ั ก. AR17 ข. AR18 ค. AR19 ง. AR21 91. AR Area แบบใดแสดงคา่ เป็นวันชว่ั โมงและนาที ก. AR17 ข. AR19 ค. AR20 ง. AR21

92. Time/Counter Area เปน็ พืน้ ท่ีของตัวตงั้ เวลาและตวั นับจานวนทัง้ หมดกต่ี ัว ก. 265 ตัว ข. 256 ตวั ค. 235 ตัว ง. 200 ตวั 93. ขอ้ ใดคือค่าของ DM000 ใน DM Area ก. 0735 ข. 0730 ค. 0700 ง. 0830 94. ข้อใดคอื คา่ ของ DM0007 ใน DM Area ก. 0730 ข. 0830 ค. 0930 ง. 1030 95. ถ้าตวั ต้ังเวลาหรอื ตัวนับจานวนควบเวลาของตัวตัง้ เวลาเท่ากับ 0.8 ค่าการนบั ของตัวนบั จานวน จะเทา่ กบั เท่าไหร่ ก. เทา่ กบั 1 ข. เทา่ กับ 10 ค. เท่ากับ 100 ง. เทา่ กบั 1000 96. เมื่อเราจาเปน็ ตอ้ งเลือกใชง้ าน PLC ควรคานึงถึงสงิ่ ใด ก. จานวนอินพุต ข. จานวนเอาตพ์ ตุ ค. อุปกรณต์ อ่ ขยาย ง. ถกู ทกุ ข้อ 97. PLC ยี่ห้อ OMrom รุน่ CPM2A – 20CDR-A ต้องใช้ตัวตอ่ ขยายร่นุ ใด ก. CPM2A – 20EDR ข. CPM2A – 20ADR ค. CPM2A – 20BDR ง. CPM2A – 20FDR

98. DM0000 – DM 1999 คือคาสั่งใด ก. ใชบ้ ันทกึ ปัญหา PLC ข. ใช้เก็บค่าตวั เลขทงั้ ฐานสบิ และฐานสิบหก ค. อ่านไดอ้ ย่างเดยี ว ง. ใช้เซตค่าของ PLC 99. DM6144 – DM6599 คอื คาสง่ั ใด ก. ใช้บนั ทึกปญ้ หา PLC ข. ใช้เก็บค่าตวั เลขทงั้ ฐานสบิ และฐานสบิ หก ค. อา่ นไดอ้ ยา่ งเดียว ง. ใชเ้ ชตคา่ ของ PLC 100. ขอ้ มูลที่เป็นตวั เลขและเรยี กมาใชง้ านได้เปน็ ข้อมูลทถี่ กู เก็บไว้ท่ีใด ก. HR Area ข. AR Area ค. LR Area ง. DM Area หนว่ ยที่ 5 (101 – 123) 101. ส่วนประกอบของโปรแกรมมงิ่ คอนโซลมกี สี่ ่วน ก. 2 สว่ น ข. 3 ส่วน ค. 4 ส่วน ง. 5 สว่ น 102. จอแสดงผลของโปรแกรมม่ิงคอนโซลเปน็ จอแบบใด ก. LCD ข. LED ค. CCD ง. ถกู ทุกขอ้ 103. การดสู ภาวะตา่ ง ๆ ของคาส่งั โปรแกรมม่งิ คอนโซลสามารถดไู ดค้ ร้งั ละก่คี าสั่ง ก. คร้งั ละ 1 คาสั่ง ข. ครัง้ ละ 2 คาส่ัง ค. ครงั้ ละ 3 คาสง่ั ง. ครง้ั ละ 4 คาสั่ง

104. โหมดการทางานของ PLC แบ่งไดก้ ี่โหมด ก. 2 โหมด ข. 3 โหมด ค. 4 โหมด ง. 5 โหมด 105. โหมดโปรแกรม หมายถึงขอ้ ใด ก. เปน็ โหมดสาหรบั เรม่ิ ตน้ การเขยี นโปรแกรมตรวจสอบโปรแกรม ข. เปน็ โหมดสาหรบั สั่งให้ PLC ทางานตามทีเ่ ขียนโปรแกรมไว้ ค. เปน็ โหมดส่ังให้ PLC ทางานเพียงอย่างเดยี วไมส่ ามารถแกไ้ ขโปรแกรมได้ ง. เป็นปุ่มทใี่ ช้กาหนดการทางาน 106. ปมุ่ ตวั เลข หมายถงึ ข้อใด ก. เป็นปมุ่ ท่ีรวมคาสั่งต่าง ๆ ข. เป็นปมุ่ ทใ่ี ช้กาหนดการทางาน ค. เปน็ ปุ่มทป่ี ระกอบด้วยตวั เลขตง้ั แต่ 0 ถงึ 9 ง. เปน็ ป่มุ ที่ประกอบด้วย 13 ปมุ่ 107. ปมุ่ ใดเปน็ ปมุ่ คาส่งั ทอี่ ยู่ทัง้ หมด 16 ปมุ่ ก. ปมุ่ ตัวเลข ข. ป่มุ กาหนดการทางาน ค. ปุ่มมอนิเตอร์ ง. ปมุ่ คาสง่ั 108. ปมุ่ คาส่ังน้มี คี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ก. ปุ่มเรียกคาสั่งพเิ ศษ ข. ปุ่มเรยี กใชง้ านคาสั่ง ซิงรีจิสเตอร์ ค. ปุ่มเรยี กใช้คาสั่งสภาวะตรงขา้ ม ง. ปมุ่ เรียกใช้คาสัง่ ตวั นบั จานวน 109. ปุม่ คาสั่งนมี้ ีความหมายตรงกับข้อใด ก. ปุ่มเรยี กคาสง่ั พเิ ศษ ข. ปมุ่ เรียกใชง้ านคาสัง่ ซงิ รีจสิ เตอร์ ค. ปุ่มเรยี กใช้คาสง่ั สภาวะตรงขา้ ม ง. ปุม่ เรยี กใช้คาส่ังตวั นับจานวน

110. ปมุ่ คาสัง่ นี้มคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด ก. ปุ่มเรยี กใชง้ านคาสงั่ สภาวะตรงข้าม ข. ปมุ่ สาหรับเลอื กใช้คาสั่งด้านบน ค. ปมุ่ คาสงั่ เง่อื นไขแบบอนุกรม ง. ป่มุ คาสั่งเง่ือนไขแบบขนาน 111. ปมุ่ เรยี กใช้คาสง่ั ตัวนับจานวนคือปุม่ ใด ก. ข. ค. ง. 112. ปุ่มคาสงั่ เงื่อนไขแบบขนานคือปุม่ ใด ก. ข. ค. ง. 113. ในโปรแกรมมงิ่ คอนโซลมปี ุ่มคาสงั่ ทง้ั หมดกีป่ ่มุ ก. 30 ปมุ่ ข. 40 ปุ่ม ค. 39 ปุ่ม ง. 49 ปุม่

114. การใชง้ านโปรแกรมม่ิงคอนโซลเม่อื ไฟจา่ ยเข้าเครื่อง PLC แลว้ ไฟแสดงสถานะของ PLC จะตดิ ก่ีดวง ก. 4 ดวง ข. 3 ดวง ค. 2 ดวง ง. 1 ดวง 115. การแกไ้ ขรหสั ผา่ นทาไดโ้ ดยกดป่มุ ใด ก. CLR MONTR CLR ข. TIM SET TIM ค. SET DEL CLR ง. CLR SET CHG 116. การลบโปรแกรมทาไดโ้ ดยการกดปุ่มใด ก. SET ข. RESET ค. CLR ง. ถูกทกุ ขอ้ 117. การตรวจสอบว่าโปรแกรมถกู ลบออกจากหน่วยความจาหรอื ไมโ่ ดยกดปุ่มใด ก. ป่มุ ลกู ศรลง ข. ปุ่มลูกศรขึน้ ค. ปุ่มเรียกใชค้ าสั่งดสู ภาวะของคาส่ัง ง. ป่มุ เรยี กใช้คาสงั่ ลบโปรแกรม 118. เมอ่ื เรากดปุม่ คาส่ังเราควรดูบนหน้าจอและฟังเสียงไปดว้ ยเพราะเหตใุ ด ก. เพอ่ื ความแน่ใจ ข. เพราะบางคาส่งั เราอาจกดซา้ โดยไมร่ ตู้ ัว ทาให้คาส่ังน้นั ไมไ่ ดเ้ รียกมาใชง้ าน ค. เพราะเตรยี มทาขนั้ ตอนตอ่ ไปในเวลาทก่ี าหนด ง. ถูกทกุ ขอ้ 119. Operand มีตวั เลขจานวนกีห่ ลกั ก. 3 หลัก ข. 4 หลกั ค. 5 หลกั ง. 6 หลัก

120. คาสั่ง AND NOT1 ตอ้ งอยใู่ น Address ที่เทา่ ใด ก. 00000 ข. 00001 ค. 01000 ง. 00002 121. คาสง่ั LD ต้องอย่ใู น Address ท่เี ท่าใด ก. 00000 ข. 01000 ค. 00001 ง. 01100 122. ขอ้ ใดคอื วธิ กี ารแทรกคาส่ัง ก. พจิ ารณาจาคาส่งั ใหม่ทเี่ ราจะแทรกลงไปนั้นอยู่หนา้ คาสงั่ ใดหรอื คน้ หา Address ของคาสงั่ นัน้ ข. กดคาสั่งใหม่ท่ีเราต้องการแทรก ค. กดปมุ่ INS และปุ่มลูกศรลง ง. ถูกทกุ ข้อ 123. ในการตัง้ คา่ วนั เดอื น ปี และเวลา กดปมุ่ ลูกศรลงเพื่ออะไร ก. เพื่อแกไ้ ขคา่ วนั เดอื น ปี และเวลาของ PLC ข. เพื่อเลอื่ นตาแหนง่ ท่ีตอ้ งการแกไ้ ข ค. เพ่อื บนั ทึกค่าทต่ี ้องการแก้ไข ง. เพอ่ื ออกจากการดคู ่าวนั เดือน ปี และเวลาของ PLC หนว่ ยท่ี 6 (124 – 147) 124. สัญลักษณ์ หมายถงึ ข้อใด ก. LD ข. LD NOT ค. AND ง. AND NOT 125. สัญลกั ษณ์ หมายถงึ คาสัง่ ใด ก. OR ข. OUT ค. AND ง. LD

126. สญั ลักษณ์ หมายถึงคาสั่งใด ก. AND NOT ข. LD NOT ค. OR NOT ง. OUT NOT 127. สญั ลกั ษณ์ใดหมายถึงคาสั่ง OR ก. ข. ค. ง. 128. สญั ลกั ษณ์ใดหมายถงึ คาสั่ง OUT NOT ก. ข. ค. ง. 129. ขอ้ ใดหมายถึงพืน้ ท่ใี ชง้ านของคาส่ัง SET ก. B : IR,SR,AR,HR,LR ข. B : IR,SR,AR,HR,TC,LR ค. B : IR SR,AR,HR,LR,TR ง. B : TRO – TR7 130. ข้อใดหมายถึงพนื้ ทใ่ี ชง้ านของคาส่ัง TR ก. B : IR,SR,AR,HR,LR ข. B : IR,SR,AR,HR,TC,LR ค. B : IR SR,AR,HR,LR,TR ง. B : TRO – TR7

131. คาสั่ง CNT หมายถงึ ก. เป็นคาสง่ั เรยี กใช้งานตวั นบั จานวน ข. เปน็ คาสงั่ เรยี กใช้งานตัวตั้งเวลา ค. เปน็ คาสั่งในการแยกสาขายอ่ ยของวงจร ง. เปน็ คาสง่ั ในการนาคาสั่งท่ีอยู่ระหว่างบลอ็ กมาขนานกนั 132. คาสงั่ TR หมายถึง ก. เป็นคาสง่ั ในการเร่ิมต้นเขียนโปรแกรม ข. เปน็ คาสั่งในการแยกสาขายอ่ ยของวงจร ค. เปน็ คาสง่ั จบการเขยี นโปรแกรม ง. เป็นคาสั่งในการเซ็ทค่าเอาต์พุตให้มีการทางานดว้ ยสภาวะ 133. คาสั่ง OR – LD หมายถึง ก. เป็นคาสง่ั ในการเรมิ่ ตน้ เขยี นโปรแกรม ข. เปน็ คาสง่ั ในการนาหนา้ สมั ผสั ปกติเปดิ มาตอ่ อนกุ รมกัน ค. เปน็ คาส่ังในการนาคาสง่ั ท่ีอยูร่ ะหว่างบลอ็ กมาขนานกัน ง. เป็นคาสง่ั เรยี กใช้งานตัวต้ังเวลา 134. คาสง่ั AND – LD หมายถงึ ก. เปน็ คาสั่งในการนาหน้าสัมผัสปกติเปิดมาตอ่ อนุกรมกนั ข. เปน็ คาสั่งในการนาหน้าสมั ผัสปกติเปิดมาต่อขนานกัน ค. เปน็ คาสง่ั ในการเซ็ทค่าเอาต์พุตใหม้ ีการทางานคา้ งสภาวะ ง. เปน็ คาส่ังในการนาคาสงั่ ทีอ่ ยรู่ ะหว่างบล็อกมาอนุกรมกนั 135. คาสั่ง END (01) หมายถงึ ก. เป็นคาส่งั ในการเร่มิ ต้นเขียนโปรแกรม ข. เปน็ คาส่ังในการนาคา่ ผลการทางานออกทางเอาต์พตุ ค. เปน็ คาสง่ั เรยี กใชง้ านตัวตั้งเวลา ง. เป็นคาส่ังจบการเขยี นโปรแกรม 136. ข้อใดคือลักษณะของคาสง่ั พเิ ศษ ก. มขี นาดของโปรแกรมสนั้ กวา่ คาส่งั พ้ืนฐาน ข. มีขนาดของโปรแกรมยาวกวา่ คาสง่ั พ้ืนฐาน ค. เปน็ คาสั่งท่ีใชง้ านเฉพาะทางเท่านั้น ง. เปน็ คาสัง่ ที่ใชใ้ นการจบการเขยี นโปรแกรม

137. สญั ลักษณ์ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. AND หมายถงึ ข้อใด ข. OUT หมายถึงข้อใด ค. SET หมายถงึ ขอ้ ใด ง. CNT 138. สัญลกั ษณ์ ก. LD NOT ข. AND NOT ค. OR NOT ง. OUT CNT 139. สญั ลกั ษณ์ ก. CNT ข. TIM ค. AND - LD ง. OR - LD 140. สัญลกั ษณ์ ก. AND - LD ข. OR - LD ค. RSET ง. END (01)

141. ข้อใดคอื สญั ลักษณ์ของคาสั่ง SET ก. ข. ค. ง. 142. ขอ้ ใดคือสญั ลกั ษณข์ องคาสง่ั TIM ก. ข. ค. ง. 143. ข้อใดคือสญั ลักษณ์ของ TR ก. ข. ค. ง.

144. ขอ้ ใดคือสญั ลกั ษณ์ของ END (01) ก. ข. ค. ง. 145. คาสัง่ ใดเป็นคาส่งั ในการเรม่ิ ตน้ เขยี นโปรแกรมในลักษณะของหน้าสัมผสั ปกตเิ ปิด ก. LD ข. AND ค. OR ง. OUT 146. คาสง่ั ใดเป็นคาสง่ั ในการเซ็ทคา่ เอาตพ์ ตุ ทม่ี กี ารเซ็ทค่าไวโ้ ดยใช้คาส่ัง SET ใหห้ ยุดทางาน ก. OUT ข. SET ค. RSET ง. TIM 147. คาสัง่ ใดเป็นคาสั่งในการนาคา่ ผลการทางานออกทางเอาตพ์ ุตในสภาวะตรงข้ามกบั สภาวะอนิ พตุ ก. LD NOT ข. AND NOT ค. OR NOT ง. OUT NOT 148. ลักษณะของคาสงั่ พิเศษจะประกอบดว้ ยตวั เลขกี่ตัว ก. 2 ตวั ข. 3 ตัว ค. 4 ตัว ง. 5 ตวั 149. ขอ้ ใดคือพ้นื ท่ใี ช้งานของ JPM (104) ก. N (Jump Number) : (0-49) ข. B (Bit) : IR,SR,AR,LR ค. N (Number) :# 0-255 ง. B (Bit) : IR,AR,HR,LR

150. ขอ้ ใดคือพน้ื ท่ีใช้งานของ DIFU (13) ก. N (Jump Number) : (0-49) ข. B (Bit) : IR,SR,AR,LR ค. B (Bit) : IR,AR,HR,LR ง. N (Number) :# 0-255 151. ขอ้ ใดคอื พ้ืนทใ่ี ชง้ านของ TIM (15) ก. SV (set value) : IR,AR,DM,HR,LR # ข. CP2 (compare Date2) : IR,DM,HR,LR # ค. Wd (Increment Word) : IR,AR,HR,LR,DM ง. N (Jump Number) : (0-49) 152. สัญลักษณ์ หมายถงึ ข้อใด ก. JME (05) ข. JPM (04) ค. ILC (03) ง. IL (02) 153. สัญลกั ษณ์ หมายถงึ ข้อใด ก. KEEP (11) หมายถึงข้อใด ข. CNTR (12) ค. JME (05) ง. SFT (10) 154. สญั ลักษณ์ ก. CNTR (12) ข. DIFU (13) ค. DIFD (14) ง. KEEP (11)

155. สัญลักษณ์ หมายถึงข้อใด ก. KEEP (11) ข. DIFD (14) ค. DIFU (13) ง. TIMH (15) 156. สญั ลกั ษณ์ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. TIMH (15) ข. MOV (21) ค. INC (38) ง. CMP (20) 157. ข้อใดคอื ความหมายของคาสง่ั DIFU (13) ก. เปน็ คาสั่งเริ่มต้นในการเขยี นโปรแกรมในการแยกสาขายอ่ ยของวงจรใช้คู่กบั คาสั่ง ILC (03) ข. เป็นคาสง่ั เร่ิมตน้ ในการเขยี นโปรแกรมในการแยกสาขายอ่ ยของวงจรใช้ค่กู ับคาสง่ั JME (05) ค. เป็นคาสั่งท่ีสั่งงานบิตทก่ี าหนดไวใ้ ห้ทางานในขอบขาขึ้นเพียง 1 scan time ง. เปน็ คาสง่ั เพิม่ ค่าครัง้ ละ 1 เข้ามาในพื้นทีข่ อ้ มูลทกี่ าหนด 158. ขอ้ ใดคือความหมายของคาส่งั MOV (21) ก. เป็นคาสัง่ แบบจดจาค่าสภาวะ มี 2 อนิ พตุ ข. เปน็ การเคลือ่ นย้ายข้อมูลจากต้นทาง (s) ไปยงั ปลายทาง (D) ครั้งละ 1 เวิรด์ ค. เปน็ คาสั่งลดค่าท่ีกาหนดในพื้นที่ข้อมูลครัง้ ละ 1 การลดลงของข้อมูลจะลดลงเร่อื ย ๆ ตามเวลาในการ Scan time ง. เป็นคาสง่ั เพมิ่ ค่าครงั้ ละ 1 เข้ามาในพ้นื ที่ข้อมูลท่กี าหนด 159. ข้อใดคือความหมายของคาส่ัง TIMH (15) ก. เป็นคาสงั่ เรียกใช้งานตัวตงั้ เวลาโดยฐานเวลามีค่าเทา่ กบั 0.01 วนิ าที ข. เป็นคาสง่ั เร่มิ ต้นในการเขยี นโปรแกรมในการแยกสาขาย่อยของวงจรใช้คกู่ บั คาสง่ั ILC (03) ค. เป็นคาสั่งท่ีสง่ั งานบิตทกี่ าหนดไวใ้ ห้ทางานในขอบขาข้ึนเพียง 1 Scan time ง. เปน็ คาสั่งปดิ ทา้ ยในการเขียนโปรแกรม 160. ขอ้ ใดคอื ความหมายของคาส่ัง (NTR (12) ก. เป็นคาสงั่ เร่มิ ตน้ ในการเขยี นโปรแกรม ข. เป็นคาสั่งที่ส่งั งานบิตท่กี าหนดไวใ้ ห้ทางานในขอบขาขน้ึ เพียง 1 scan time ค. เปน็ คาส่ังท่ีสั่งงานบติ ทีก่ าหนดไวใ้ ห้ทางานในขอบขาลงเพียง 1 scan time ง. เปน็ คาสงั่ เรยี กใชง้ านตัวนบั จานวน ประกอบดว้ ย อนิ พุต 3 ขา

161. ข้อใดคอื ความหมายของคาสัง่ SFT (10) ก. เปน็ คาสงั่ ในการเล่อื นบิตข้อมูล ข. เป็นคาส่ังเรม่ิ ตน้ ในการเขยี นโปรแกรม ค. เปน็ คาสง่ั แบบจดจาค่าสภาวะ ง. เปน็ คาส่ังเรยี กใช้ตวั นับจานวน 162. ขอ้ ใดคอื ความหมายของคาสั่ง BCMP (68) ก. เป็นคาส่ังเพ่มิ ค่าคร้ังละ 1 เข้ามาในพ้นื ทีข่ อ้ มลู ทกี่ าหนด ข. เปน็ คาสั่งในการเปรียบเทียบข้อมูลครง้ั ละหลาย ๆค่า ค. เป็นคาสง่ั เริ่มตน้ ในการเขียนโปรแกรม ง. เป็นคาสั่งเรียกใช้ตัวนับจานวน 163. โปรแกรมท่ีใช้คาส่ัง IL (02) และ ILC(03) สามารถเขียนได้กี่แบบ ก. 4 แบบ ข. 3 แบบ ค. 2 แบบ ง. 1 แบบ 164. Address ที่ 00000 คอื คาสัง่ ใด ก. OUT ข. JME ค. END ง. LD 165. Address ท่ี 00005 คือคาสัง่ ใด ก. OUT ข. JME ค. END ง. LD 166. Address ท่ี 00007 คอื คาสงั่ ใด ก. END ข. LD ค. JMP ง. JMD (04)

167. คาส่งั LD ในโปรแกรมคาส่งั SFT (10) จะอยู่ Address ท่เี ท่าใด ก. 00003 ข. 00004 ค. 00005 ง. 00000 168. คาสงั่ SFT (10) ในโปรแกรมคาสงั่ SFT (10) จะอยู่ Address ท่เี ท่าใด ก. 00003 ข. 00002 ค. 00001 ง. 00000 169. ข้อใดคอื โปรแกรมท่ีใช้คาสัง่ KEEP (11) ก. ข. ค. ง.

170. ข้อใดคอื โปรแกรมที่ใช้คาส่ัง TIMH (15) ก. ข. ค. ง. 171. คา่ DM07 เท่ากับเท่าใด ก. 09.10 ข. 09.12 ค. 09.14 ง. 00.01 172. ค่า DM00 เท่ากับเทา่ ใด ก. 09.14 ข. 09.06 ค. 09.02 ง. 09.00 หน่วยท่ี 8 (173 – 200) 173. โปรแกรม SYSWIN 3.4 เปน็ โปรแกรมแบบใด ก. โปรแกรมระบบปฏบิ ัตกิ ารวินโดวส์ ข. โปรแกรมแบบมือถอื ค. โปรแกรมมิง่ คอนโซล ง. โปรแกรมบูลีน

174. โปรแกรม SYSWIN 3.4 สามารถใชเ้ ขยี นโปรแกรมเป็นภาษาใด ก. ภาษาไทย ข. ภาษาแลดเดอร์ ค. ภาษาบลู ีน ง. ถกู ทงั้ ข้อ ข และ ค 175. โปรแกรม SYSWIN 3.4 มีขนาดประมาณเทา่ ใด ก. 4.00 MB ข. 4.13 MB ค. 5.00 MB ง. 5.67 MB 176. การติดตั้งโปรแกรมระบบปฏบิ ัตกิ ารวินโดวส์ XP มกี ีข่ ัน้ ตอน ก. 2 ขั้นตอน ข. 5 ขน้ั ตอน ค. 10 ขัน้ ตอน ง. 15 ขนั้ ตอน 177. เมือ่ เข้าในไดรฟ์ G : แล้วให้ดบั เบิลคลิกท่ีโฟลเดอรใ์ ด ก. SYSWIN 3.4 ข. ไดรฟ์ G: ค. RUN ง. SERIAL NUMBER 178. เมอ่ื ดบั เบิลคลกิ ทไ่ี อคอน Setup ให้เลอื กสง่ิ ใด ก. ภาษา ข. พ้ืนทเ่ี ก็บขอ้ มูลหลกั ค. โฟลเดอรเ์ ก็บ SYSWIN 3.4 ง. โฟลเดอร์ DISK 1 179. ในการติดตัง้ โปรแกรมอตั โนมัติใหเ้ ราทาหน้าท่ีคลิกเลือก NEXT ประมาณกี่คร้งั ก. 2 คร้ัง ข. 3 คร้ัง ค. 4 ครัง้ ง. 5 ครั้ง

180. เม่ือตดิ ตง้ั เสรจ็ เรียบรอ้ ยจะพบโปรแกรม Syswin 3.4 ใหเ้ ลือกแบบใด ก. โฟลเดอร์ DISK 1 ข. Setup ค. Help ง. Finish 1 2 3 4 จากรูปทก่ี าหนดให้ใชต้ อบคาถามขอ้ ที่ 181 – 184 181. หมายเลข 1 คือข้อใด ก. Menu Bar ข. Main Tool Bar ค. Tool Panel ง. Work Area 182. หมายเลข 2 คือขอ้ ใด ก. Menu Bar ข. Main Tool Bar ค. Tool Panel ง. Work Area 183. หมายเลข 3 คือข้อใด ก. Menu Bar ข. Main Tool Bar ค. Tool Panel ง. Work Area

184. หมายเลข 4 คือข้อใด ก. Menu Bar ข. Main Tool Bar ค. Tool Panel ง. Work Area 185. คาสง่ั Block จดั อยู่ทีใ่ ดของโปรแกรม ก. Tool Panel ข. Work Area ค. Menu Bar ง. Main Tool Bar 186. ใน Main Tool Bar มปี มุ่ คาสัง่ ใด ก. File ข. Print ค. Edit ง. Online 187. คาส่งั Copy จดั อยูท่ ี่ใดของโปรแกรม ก. Main Tool Bar ข. Menu Bar ค. Work Area ง. Tool Panel 188. ท่ใี ดของโปรแกรมเปน็ พืน้ ท่สี าหรบั เขียนโปรแกรม ก. Menu Bar ข. Work Area ค. Tool Panel ง. Main Tool Bar 189. เม่อื ต้องการใชง้ านโปรแกรมที่ติดตง้ั เรียบรอ้ ยแล้วใหค้ ลกิ ท่ีใด ก. Start – Run ข. Start – Paint ค. Start – Program – SYSWIN 3.4 ง. Start – Shut down

190. เมื่อพบโปรแกรมใหเ้ ลอื กสิ่งใด เพ่ือกาหนดคา่ ใหก้ ับโปรแกรม ก. Open – File ข. Project – Conmunication ค. Start – Run ง. File – New project 191. คลิกปุ่มใดเพื่อทดสอบการตดิ ต่อสอ่ื สารระหว่าง PLC กับคอมพวิ เตอร์ ก. Test PLC ข. OK ค. NEXT ง. Help 192. การเพ่มิ จานวนบรรทัดก่อนเขยี นโปรแกรมทาได้โดยกดปุ่มใด ก. Ctrl + Alt ข. Alt + Down ค. Alt + Enter ง. Ctrl + Tab 193. หนา้ ตา่ งโปรแกรม SYSWIN 3.4 วงจร Network แรกจะมีกีบ่ รรทัด ก. 4 บรรทัด ข. 3 บรรทัด ค. 2 บรรทัด ง. 1 บรรทัด 194. ขอ้ ใดหมายถงึ หน้าสมั ผัสปกตปิ ดิ ก. Open Output ข. Close Output ค. Open Contact ง. Close Contact 195. การเพ่ิม Network ใหม่ ทาไดโ้ ดยกดปุ่มใด ก. Alt + Insert ข. Alt + Enter ค. Ctrl + Alt ง. Ctrl + Shrift

196. ในการลบโปรแกรมใหเ้ พม่ิ Network อกี 1 Network โดยดับเบิลคลกิ ทปี ุ่มใด ก. Cancel ข. END of block ค. FUN ง. Select 197. การเขยี นโปรแกรมน้ันใน 1 Network จะเขียนโปรแกรมได้เท่าใด ก. 1 Rung ข. 2 Rung ค. 3 Rung ง. 4 Rung 198. การใสค่ า่ เวลาสามารถใส่ตัวเลขได้กห่ี ลัก ก. 6 หลัก ข. 5 หลกั ค. 4 หลกั ง. 3 หลกั 199. คาบเวลาของตวั ต้งั เวลาแบบธรรมดาน้นั เท่ากบั เท่าใด ก. 1.0 วนิ าที ข. 0.9 วนิ าที ค. 0.3 วินาที ง. 0.1 วินาที 200. การเพิม่ Network ใหมล่ งดา้ นลา่ งวงจรทาไดโ้ ดย กด Alt + Insert แล้วเลอื กคาส่งั ใด ก. Below ข. Block ค. Project ง. Preferences หน่วยท่ี 9 (201 – 225) 201. การเขียนโปรแกรมต้องมสี ว่ นประกอบใด ก. อินพตุ เท่าน้ัน ข. เอาต์พตุ เท่านน้ั ค. รีเลยภ์ ายใน ง. ทัง้ อินพตุ และเอาต์พตุ

202. การออกแบบโปรแกรมใหม้ ีขนาดเลก็ หรือสน้ั จะทาให้สง่ิ ใดน้อยลงด้วย ก. Scan Time ข. Counter ค. Timer ง. Out put 203. ข้อใดคอื ลกั ษณะของโปรแกรมที่ถูกตอ้ ง ก. ข. ค. ง. 204. ลกั ษณะของโปรแกรมเอาต์พุตคอยล์ตอ้ งอย่ตู าแหนง่ ใด ก. ด้านซ้ายมอื บน ข. ด้านซ้ายมือล่าง ค. ดา้ นขวามอื สุด ง. ตรงกลาง 205. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง ก. เอาตพ์ ุตทกุ ตวั จะมหี น้าสัมผัสเปิดและปิดให้เรยี กใช้งานแบบจากัดจานวน ข. เอาตพ์ ตุ คอยลต์ อ้ งอยู่ตาแหน่งดา้ นซ้ายมอื เท่าน้ัน ค. รเี ลยภ์ ายในไม่สามารถเรยี กใช้ได้ ง. ไมส่ ามารถเขียนโปรแกรมให้เอาต์พุตคอยล์หมายเลขซา้ กนั ได้

206. PLC OMRON รนุ่ CPM 2R – 20CDR –A เอาตพ์ ุตสามารถนามาเขียนโปรแกรมได้ท้ังหมดกี่บติ ก. 16 บิต ข. 10 บิต ค. 8 บิต ง. 6 บติ 207. PLC OMPON รุน่ CPM2R-A ในการตอ่ ใช้งานจะใชง้ านไดก้ ่ีบิต ก. 16 บิต ข. 10 บิต ค. 8 บิต ง. 6 บิต 208. เมื่อจบโปรแกรมต้องใส่คาสั่งใด ก. OK ข. END (01) ค. Cancle ง. Enter 209. โปรแกรมทาการอา่ นคาสงั่ ต้ังแต่บรรทัดแรกจนถึงคาสงั่ จบหรอื เรยี กวา่ ก. Scan ข. Error ค. Scan time ง. Search 210. การเขียนวงจรรีเลย์ เม่อื ได้วงจรรีเลย์มาแลว้ ให้หมุนวงจรรเี ลย์กีอ่ งศา ก. 30 องศา ข. 45 องศา ค. 55 องศา ง. 90 องศา 211. PLC OMRON รุ่น CPM2A – 20CDR – A อนิ พตุ ใชเ้ วิร์ด 000 ต่อใชง้ านได้ทง้ั หมดก่ีบติ ก. 11 บติ ข. 12 บติ ค. 15 บิต ง. 16 บิต

212. ถา้ PLC OMRON ร่นุ CPM2R – 20CDR-A เอาตพ์ ตุ ใช้เวิร์ด 010 ตอ่ ใชง้ านไดท้ ั้งหมดก่บี ิต ก. 4 บิต ข. 8 บิต ค. 10 บติ ง. 16 บิต 213. รหสั F2 คอื อปุ กรณ์ชนดิ ใด ก. สวิตซ์สตารต์ ข. สวิตซ์หยุด ค. ฟิวส์วงจรควบคมุ ง. โอเวอรโ์ หลด 214. รหัส S1 คอื อปุ กรณช์ นดิ ใด ก. คอยล์รเี ลย์ ข. สวิตซ์สตาร์ท ค. โอเวอรโ์ หลด ง. สวิตซ์หยดุ 215. รหัสใดคือคอยล์รเี ลย์ ก. K1 ข. F3 ค. S2 ง. S1 216. รหสั ใดคือโอเวอร์โหลด ก. F2 ข. F3 ค. S1 ง. K1 217. เอาตพ์ ตุ เปน็ อุปกรณ์จาพวกใด ก. อปุ กรณป์ ระเภทสวติ ซ์ ข. อปุ กรณป์ ระเภทหน้าสมั ผัส ค. อปุ กรณ์ประเภทโหลดทางไฟฟ้า ง. อุปกรณต์ วั ตดั กาลังไฟฟ้า

218. อินพุตเปน็ อปุ กรณ์จาพวกใด ก. อุปกรณป์ ระเภทสวติ ซ์ ข. อปุ กรณ์ประเภทหน้าสัมผัส ค. อุปกรณ์ประเภทตัวตดั กาลงั ง. ถูกทง้ั ขอ้ ก และ ข จากรูปทีก่ าหนดใหต้ อบคาถามขอ้ 219 - 222 219. ช่วง A เรียกว่า ก. ขอบขาขนึ้ ข. ขอบขาลง ค. ระยะเวลาของการทางาน ง. ระยะเวลาหยดุ การทางาน 220. ช่วง B เรยี กว่า ก. ขอบขาขึ้น ข. ขอบขาลง ค. ระยะเวลาของการทางาน ง. ระยะเวลาหยุดการทางาน 221. ชว่ งใดเปน็ ระยะเวลาของการทางาน ก. ชว่ ง A ข. ชว่ ง B ค. ช่วง C ง. ชว่ ง D 222. ชว่ งใดเป็นระยะเวลาหยุดการทางาน ก. ชว่ ง A ข. ชว่ ง B ค. ชว่ ง C ง. ชว่ ง D

223. การควบคุมกระบอกสบู สองทางโดยใชส้ ่งิ ใดควบคุม ก. วาลว์ 5/2 ข. รีเลย์ ค. ฟิวส์ ง. ถูกทุกข้อ 224. วาล์ว 5/2 แบ่งไดก้ ี่แบบ ก. 1 แบบ ข. 2 แบบ ค. 3 แบบ ง. 4 แบบ 225. ถ้าออกแบบโปรแกรมควบคุมมอเตอรโ์ ดยกดสวิตซ์สตารท์ (00) มอเตอรจ์ ะใชเ้ วลาทางานกีว่ นิ าที ก. 10 วนิ าที ข. 20 วนิ าที ค. 30 วนิ าที ง. 40 วนิ าที หนว่ ยท่ี 10 (226 – 250) 226. การใช้ PLC ควบคมุ ไฟวงิ่ เราใช้หลอด LED ที่มีขนาดแรงดันเทา่ ใด ก. 5 โวลต์ ข. 10 โวลต์ ค. 15 โวลต์ ง. 20 โวลต์ 227. ในการต่อใช้งานหลอด LED ต้องจากัดกระแสไมใ่ ห้เกนิ พิกดั ประมาณเท่าใด ก. 10 – 15 มิลลแิ อมป์ ข. 15 – 20 มลิ ลแิ อมป์ ค. 20 – 25 มิลลิแอมป์ ง. 25 – 30 มิลลแิ อมป์ 228. การใช้ PLC ควบคมุ ไฟแสงสว่างหน้าเวทีเราใชไ้ ฟพาร์ 64 ขนาดใด ก. 10 วตั ต์ ข. 100 วัตต์ ค. 1000 วัตต์ ง. 10000 วัตต์

229. ไฟท่ใี ห้แสงสว่างงานแสดงหนา้ เวทใี ช้แรงดันเท่าใด ก. 100 โวลต์ ข. 150 โวลต์ ค. 200 โวลต์ ง. 220 โวลต์ 230. การต่อใช้งานผ่านเอาต์พุตของ PLC ต้องต่อผ่านอุปกรณใ์ ด ก. รีเลย์ ข. ฟวิ ส์ควบคุม ค. โอเวอรโ์ หลด ง. สวติ ซ์หยดุ 231. เอาตพ์ ุตของ PLC ไฟฟ้ากระแสสลบั มอี ัตราทนกระแสสงู สดุ เท่าใด ก. 220 โวลต์ ข. 250 โวลต์ ค. 300 โวลต์ ง. 310 โวลต์ 232. เอาต์พตุ ของ PLC ไฟฟ้ากระแสตรงมอี ัตราทนกระแสสูงสดุ เท่าใด ก. 20 โวลต์ ข. 22 โวลต์ ค. 24 โวลต์ ง. 26 โวลต์ 233. ถา้ ต้องการตอ่ PLC กบั โหลดทมี่ กี ระแสเกิน 2 แอมป์ ต้องใชอ้ ปุ กรณใ์ ดชว่ ยขยายกระแส ก. ฟิวส์ควบคมุ ข. โอเวอรโ์ หลด ค. คอยล์ ง. รีเลย์ 234. ถ้าเราใชแ้ รงดนั สาหรบั หลอด 24 โวลต์ จะต้องใช้ตัวต้านทานขนาดเทา่ ใด ก. 1,600 โอห์ม ข. 1,000 โอหม์ ค. 950 โอหม์ ง. 900 โอห์ม

235. หลอดดินแดนเดรสเซนต์สามารถต่อกับเอาต์พุตของ PLC หลอดอินแดนเดรสกระแสไฟเทา่ ใด ก. 3 แอมป์ ข. 2 แอมป์ ค. 1 แอมป์ ง. ไม่ถึง 1 แอมป์ 236. สวติ ซห์ ยุดคอื อนิ พุตใด ก. 01 ข. 02 ค. 03 ง. 00 237. สวติ ซ์ L TO R คอื อนิ พตุ ใด ก. 01 ข. 02 ค. 03 ง. 00 238. สวิตซ์ R TO L คอื อนิ พตุ ใด ก. 01 ข. 02 ค. 03 ง. 00 239. เอาต์พตุ 1200 คอื อุปกรณ์ใด ก. รีเลย์ช่วยสาหรับควบคมุ ไฟสเี ขยี ว ข. รเี ลยช์ ว่ ยสาหรับควบคมุ ไฟสเี หลือง ค. รีเลย์ช่วยสาหรบั ควบคุมไฟสีแดง ง. รเี ลยช์ ่วยสาหรบั ควบคุมไฟสีน้าเงิน 240. เอาตพ์ ุต 1203 คืออุปกรณ์ใด ก. รีเลย์ช่วยสาหรบั ควบคุมไฟสแี ดง ข. รเี ลยช์ ่วยสาหรับควบคุมไฟสีนา้ เงนิ ค. รีเลยช์ ว่ ยสาหรบั ควบคมุ ไฟสสี ม้ ง. รเี ลยช์ ว่ ยสาหรบั ควบคมุ ไฟสีเขยี ว

241. เอาต์พุต 1000 คอื อุปกรณ์ใด ก. หลอดไฟสแี ดง ข. หลอดไฟสีเหลอื ง ค. หลอดไฟสขี าว ง. หลอดไฟสีส้ม 242. เอาต์พุต 1303 คอื อุปกรณ์ใด ก. รเี ลยช์ ว่ ยสาหรบั ควบคมุ หลอดไฟสีเหลอื ง ข. รเี ลยช์ ่วยสาหรบั ควบคุมหลอดไฟสีขาว ค. รีเลยช์ ่วยสาหรับควบคุมหลอดไฟสเี ขียว ง. รีเลยช์ ่วยสาหรับควบคมุ หลอดไฟสแี ดง 243. เอาตพ์ ตุ ใดคอื หลอดไฟสีส้ม ก. 1001 ข. 1002 ค. 1003 ง. 1004 244. เอาต์พุตใดคือหลอดไฟสีเขยี ว ก. 1000 ข. 1002 ค. 1004 ง. 1005 245. Main Sw คอื อินพตุ ใด ก. 00 ข. 01 ค. 02 ง. 03 246. SW1 คอื อนิ พุตใด ก. 00 ข. 01 ค. 02 ง. 03

247. 1000 วัตต์ เทา่ กบั ก่ีแอมป์ ก. 2 แอมป์ ข. 3.589 แอมป์ ค. 4.545 แอมป์ ง. 5 แอมป์ 248. ถา้ แรงดนั ในหลอด LED ตอ้ งการใช้ตัวตา้ นทานขนาด 1600 โอหม์ แต่ในทอ้ งตลาดไมม่ ขี าย เราจะเลือกใช้คา่ ใกล้เคียงคอื ค่าใด ก. 1,000 โอห์ม ข. 1,400 โอหม์ ค. 1,500 โอหม์ ง. 1,700 โอหม์ 249. ถา้ เราใชแ้ รงดนั สาหรบั หลอด LED 30 โวลต์ จะต้องหาตัวต้านทานขนาดเท่าใด ก. 1,000 โอหม์ ข. 2,000 โอห์ม ค. 3,000 โอห์ม ง. 4,000 โอหม์ 250. ถ้าเราใชแ้ รงดนั สาหรับหลอด LED 60 โวลต์ จะต้องหาตัวต้านทานขนาดเท่าใด ก. 1,000 โอหม์ ข. 2,000 โอห์ม ค. 3,000 โอหม์ ง. 4,000 โอหม์ หนว่ ยที่ 11 (251 – 270) 251. เพราะเหตุใดการควบคมุ อปุ กรณ์ไฟฟ้าทเ่ี ปน็ มอเตอรเ์ ราต้องคานงึ ถึงพกิ ดั กระแสของมอเตอร์ ก. หนา้ สมั ผัสของเอาตพ์ ุต PLC ทนกระแสไดไ้ ม่เกิน 2 แอมป์ ข. มอเตอรไ์ ฟฟา้ มขี นาดเล็ก ค. ขดลวดของมอเตอร์ทนกระแสไฟไดไ้ ม่มาก ง. ถูกทกุ ขอ้ 252. การใช้ PLC ควบคมุ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับ 1 เฟส ตอ้ งตอ่ ผา่ นอุปกรณช์ นิดใด ก. ฟิวส์ ข. รีเลย์ ค. วาล์ว ง. คอยล์

253. เม่ือสตารต์ มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลับจะกนิ กระแสสงู กวา่ ปกติเทา่ ใด ก. 1 เท่า ข. 2 เท่า ค. 2-6 เท่า ง. 7-8 เทา่ 254. มอเตอรไ์ ฟฟา้ กระแสสลบั 1 เฟส ประกอบด้วยขดลวดก่ชี ุด ก. 8 ชุด ข. 6 ชดุ ค. 4 ชุด ง. 2 ชดุ 255. มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลบั 3 เฟส สามารถต่อขดลวดได้กแี่ บบ ก. 2 แบบ ข. 3 แบบ ค. 4 แบบ ง. 5 แบบ 256. ขดลวดใดคอื ขดลวดของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลบั 1 เฟส ก. ขดลวดอารเ์ มเจอร์ ข. ขดรัน ค. ขดสตาร์ต ง. ถูกทั้งขอ้ ข และ ค 257. มอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส ประกอบด้วยขดลวดกีช่ ุด ก. 2 ชุด ข. 3 ชุด ค. 4 ชดุ ง. 5 ชดุ 258. ถ้ามอเตอรม์ ีแรงดนั 380/660 โวลต์ จะต้องตอ่ ขดลวดแบบใด ก. แบบขดรนั ข. แบบสตาร์ ค. แบบเดลตา้ ง. ถกู ทัง้ ข้อ ข และ ค

259. ถา้ มอเตอรม์ แี รงดัน 220/380 โวลต์ จะต้องตอ่ ขดลวดแบบใด ก. แบบขดรัน ข. แบบสตาร์ ค. แบบเดลต้า ง. ถกู ท้ังข้อ ข และ ค 260. สเต็ปป้งิ มอเตอรแ์ ละเซอร์โวมอเตอร์จะต้องใชเ้ อาต์พุตของ PLC แบบใด ก. แบบขดลวด ข. แบบวิทยุ ค. แบบทรานซิสเตอร์ ง. แบบรเี ลย์ 261. ถ้าเปน็ วงจรควบคุมการเปิด – ปดิ ธรรมดาเมอื่ กดสวติ ซ์หยดุ ใหม้ อเตอร์หยุดทางานและรอเวลากี่ วินาทจี ึงจะกดสวติ ซ์สตารต์ เพ่อื ใหเ้ ร่ิมทางานใหมไ่ ด้ ก. 25 วินาที ข. 20 วนิ าที ค. 15 วนิ าที ง. 10 วินาที 262. ถ้าเอาตพ์ ุตตวั แรกใช้แรงดัน 220 โวลต์ เอาตพ์ ุตตวั ท่ีสองจะใชไ้ ฟฟา้ กระแสตรงแรงดนั เท่าใด ก. 12 โวลต์ ข. 14 โวลต์ ค. 16 โวลต์ ง. 18 โวลต์ 263. เม่ือกดสวิตซ์สตาร์ตมอเตอร์ 1 ทาใหม้ อเตอร์ 1 ทางานค้างสภาวะ กดสวติ ซ์สตารต์ มอเตอร์ 2 ทาให้มอเตอรต์ ัวที่ 2 ทางานค้างสภาวะและตอ้ งกดสวิตซใ์ ด มอเตอรท์ ง้ั 2 ตวั จงึ จะหยดุ ทางาน ก. สวิตซม์ อเตอร์ 1 ข. สวติ ซ์มอเตอร์ 2 ค. สวิตซ์หยดุ การทางาน ง. เอาตพ์ ตุ คอยล์ 264. ถ้ามอเตอร์กระแสเกนิ พกิ ัดอุปกรณใ์ ดจะเร่มิ ทางาน ก. สวติ ซ์หยดุ ทางาน ข. รเี ลย์ ค. ฟวิ ส์ ง. โอเวอร์โหลด

นาขอ้ มลู ตอ่ ไปนต้ี อบคาถามขอ้ 265 – 267 กาหนดให้ S1 คือ สวติ ซ์หยดุ การทางาน S2 คอื สวติ ซ์สตาร์ตมอเตอร์ F3 คอื โอเวอรโ์ หลด H1 คอื ไฟแสดงสถานะการทางานมอเตอร์ H2 คอื ไฟแสดงสถานการทางานโอเวอรโ์ หลด K1 คอื เอาต์พตุ คอยล์ 265. เม่อื กดสวิตซ์ S2 ใหม้ อเตอรท์ างานคา้ งสภาวะ อปุ กรณ์ใดจะทางานพรอ้ ม S2 ก. H1 ข. H2 ค. S1 ง. S2 266. ถ้ามอเตอร์ใช้กระแสเกินพกิ ดั อปุ กรณใ์ ดจะทางานจนกวา่ จะกดรีเซต ก. H1 ข. H2 ค. F3 ง. K1 267. S1 ทาหน้าท่อี ย่างไร ก. หยุดการทางานของมอเตอร์ ข. หยุดการทางานของโอเวอร์โหลด ค. ตดั ต่อกระแสไฟฟา้ ง. ถูกทุกขอ้ 268. ถา้ ใหม้ อเตอรส์ ตารต์ แบบสตาร์ จะต้องรอเวลาก่วี ินาที ก. 10 วนิ าที ข. 8 วนิ าที ค. 6 วนิ าที ง. 4 วนิ าที 269. Reversing after Stop มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ก. วงจรกลับทางหมุนแบบหยุดก่อนกลับทางหมนุ ข. วงจรการสตารต์ มอเตอรแ์ บบสตาร์ ค. วงจรการสตารต์ มอเตอร์แบบเดลตา้ ง. วงจรกลับทางหมุนมอเตอรแ์ บบกลบั ทางได้ทันที