เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

ชื่ออย่างเป็นทางการของหนังสือเล่มนี้คือ Sapiens: A Graphic History ภาษาไทยคือ “เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก” แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครเรียกแบบนี้สักเท่าไร ทุกคนน่าจะเข้าใจว่ามันคือ “เซเปียนส์ ฉบับการ์ตูน” กันหมด

Sapiens: A Graphic History เป็นการนำหนังสือ Sapiens อันโด่งดังของ Yuval Noah Harari มาทำเป็นการ์ตูน โดยเครดิตการเขียนเรื่องเป็นชื่อของ Harari เอง ร่วมกับ David Vandermeulen ที่มีชื่อเป็นนักเขียนร่วม และวาดภาพโดย Daniel Casanave ลองไปค้นข้อมูลดูแล้วเป็นนักวาดการ์ตูนเด็กชาวฝรั่งเศส ที่งานตีพิมพ์ส่วนใหญ่เป็นภาษาฝรั่งเศส

ฉบับแปลภาษาไทยตีพิมพ์โดย หนังสือพิมพ์ยิปซี ผู้แปลคือ ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ ซึ่งเคยแปลหนังสือวิทยาศาสตร์มาแล้วหลายเล่มมาก (เช่น กำเนิดสปีชีส์) ราคาปก 395 บาท

เนื่องจากผมไม่ได้อ่าน Sapiens ฉบับเต็ม (ด้วยเหตุผลว่าขี้เกียจ อ่านแต่ฉบับสรุปย่อของคุณ Anontawong) เลยไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่า เหมือนหรือต่างจากฉบับหนังสืออย่างไร

แต่ที่บอกได้แน่ๆ คือมันยังไม่จบเพราะเป็น Vol. 1 เท่านั้น (กำเนิดมนุษยชาติ The Birth of Humankind) โดย Vol. 2 ฉบับภาษาอังกฤษ (Pillar of Civilization) มีกำหนดขายเดือนตุลาคม 2021 ซึ่งคงต้องรอกันอีกพอสมควรถึงจะมีฉบับแปลไทยตามออกมา

อัพเดต: ข้อมูลจากคุณ @spiralthai จากเว็บ Sapienship บอกว่าน่าจะมีประมาณ 4-5 เล่ม ขอบคุณมากครับ

Screenshot อ้างอิงจากhttps://t.co/x4FF7o0Dgj pic.twitter.com/UERuvSjlpF

— ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร lll (@spiralthai) July 25, 2021

เท่าที่เข้าใจคือ Sapiens ฉบับกราฟิกไม่ได้เรียงบทตามฉบับหนังสือตรงๆ แต่บทสุดท้ายใน Vol. 1 ชื่อ “ฆาตกรต่อเนื่องข้ามทวีป” เทียบได้กับ บทที่ 3 ของฉบับหนังสือเท่านั้น (หนังสือมี 20 บท!) เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ฉบับกราฟิกจะมีทั้งหมดกี่เล่ม

ไม่ว่าจะมีกี่เล่ม แต่ตอนนี้ฉบับแปลภาษาไทยที่วางขายมีแค่เล่มเดียว เราก็อ่านแค่เล่มเดียวไปก่อน

อ่านจบแล้วสรุปได้ว่า ดีแต่เหนื่อย!

ข้อดีคือ เป็นการแปลงหนังสือ non-fiction มาเป็นการ์ตูนที่มีบทสนทนา conversation ได้น่าสนใจดี โดยตัวละครในเรื่องคือตัว Yuval เองและผองเพื่อนที่ผลัดกันมาเล่าเรื่อง ชี้ประเด็นต่างๆ ร่วมกับตัวละครในโลกยุคโบราณ (เช่น มนุษย์เซเปียนส์ยุคหินที่มีชื่อชัดเจน) มีการ characterize สิ่งนามธรรมบางอย่างให้กลายมาเป็นตัวการ์ตูนให้เข้าใจง่ายขึ้น (เช่น Doctor Fiction)

ดูตัวอย่างคาแรกเตอร์ได้จากในคลิป

ส่วนที่ว่าเหนื่อยคือ ถึงแม้แปลงเป็นการ์ตูนแล้วตัวหนังสือก็ยังเยอะอยู่ เพราะมาจากหนังสือ non-fiction ที่ค่อนข้างหนักอยู่แล้ว การอ่านต้องใช้พลังงานพอสมควรกว่าจะจบแต่ละบท (แถมหนังสือค่อนข้างยาวคือ 245 หน้า)

งานด้านภาพ เป็นสไตล์การ์ตูนเด็กฝรั่ง อ่านง่ายสบายตา แต่สไตล์ก็ต่างจากมังงะญี่ปุ่นหรือคอมิกส์อเมริกันอยู่พอสมควร (ภาพตัวอย่างดูได้จากคลิป) งานแปลฝีมือระดับ อ.นำชัย ไม่มีปัญหาใดๆ อ่านเข้าใจ เคลียร์ ไม่มีจุดที่งงหรือกำกวม

ใครที่อยากอ่าน Sapiens แต่ยังขี้เกียจอยู่แบบผม จะอ่านเวอร์ชันการ์ตูนแทน ก็น่าเป็นทางเลือกที่ดีในการเข้าถึงเนื้อหาได้สะดวกขึ้น ส่วนใครที่อ่าน Sapiens ฉบับเต็มแล้วจะซื้อเก็บอีกเวอร์ชัน ก็ไม่ผิดหวัง หนังสือทำดี แปลดี คุณภาพการพิมพ์ดี

ทั้งนี้ ถึงแม้ภาพลักษณ์มันคือ หนังสือเซเปียนส์ฉบับการ์ตูน แต่ก็ไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ มากนัก ในแง่ความยากของเนื้อหา คิดว่าสักประมาณเด็ก ม.ต้น ขึ้นไปน่าจะพออ่านได้เข้าใจเกือบหมดแล้ว

  • Related Content by Tag
  • Book
  • Yuval Noah Harari

เราจะเรียนรู้อะไรได้บ้างจากหนังสือ เซเปียนส์: ประวัติย่อมนุษยชาติ (Sapiens: A Brief History of Humankind) เขียนโดย ยูวัล โนอาห์ แฮรารี (Yuval Noah Harari​)

หนังสือเล่มนี้ตั้งต้นด้วยคำถามที่ว่า “มนุษย์เราเปลี่ยนจากลิงไม่มีหาง มีประโยชน์น้อยกว่าหิ่งห้อยหรือแมงกะพรุน กลายเป็นสัตว์ประเสริฐผู้ครอบครองโลกได้อย่างไร และอนาคตจะเป็นเช่นไรต่อ”

ตามมาด้วยเรื่องราวมากมายที่อธิบายคำตอบได้เป็นอย่างดี จนหนังสือเล่มนี้กลายเป็นที่ยอมรับในระดับโลก เป็นหนังสือที่ถูกแนะนำโดยบุคคลสำคัญหลายท่าน ถึงขั้นว่าในรอบ 10 ปีมีคนเคยกล่าวว่านี่คือหนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่ง และมนุษย์ทุกคนควรได้อ่านสักครั้ง

เคน-นครินทร์ ถอดรหัสหนังสือ เซเปียนส์: ประวัติย่อมนุษยชาติ ออกมาเป็น 5 ข้อคิดที่มนุษย์เงินเดือนสามารถนำไปปรับใช้ได้ ในรายการ The Secret Sauce


1. การทำงานร่วมกับผู้อื่นคือสิ่งสำคัญ

ทำไมมนุษย์ถึงแตกต่างจากสัตว์อื่น

ลองสมมติเหตุการณ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงมนุษย์ที่สุดอย่างชิมแปนซี ถ้าเราเอาสิ่งมีชีวิตสองชนิดนี้ไปปล่อยในเกาะร้าง คุณคิดว่าใครจะเอาตัวรอดได้ดีกว่ากัน

แน่นอนถ้าเป็นการพนัน ฝ่ายชิมแปนซีคงชนะขาดลอย เพราะเราต่างรู้กันดีว่าพวกมันสามารถปีนป่ายต้นไม้ หาอาหาร มีความอดทน และเอาตัวรอดได้ดีกว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า หากเทียบในระดับปัจเจกชน มนุษย์ไม่ได้แตกต่างจากสัตว์อื่น เพราะความต่างนี้อยู่ที่ระดับกลุ่มบุคคลต่างหาก

เหตุผลที่มนุษย์ครองโลกได้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวที่สามารถร่วมมือกันได้อย่างยืดหยุ่น ต่างจากสัตว์สังคมอื่นๆ ที่ไม่สามารถปรับตัวอะไรได้มาก พวกมันล้วนแล้วแต่มีวิธีการทำงานที่ตายตัว

นั่นจึงเป็นที่มาของเคล็ดลับความสำเร็จข้อแรก คนเราต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม สร้างระบบขึ้นมาให้คนสามารถทำงานได้อย่างสลับซับซ้อนและมีประสิทธิภาพ อย่าคิดว่าการทำงานแบบทำคนเดียว เก่งคนเดียว คนอื่นเป็นแค่ตัวประกอบแล้วจะประสบความสำเร็จ แต่สมัยนี้เรื่องนี้สำคัญยิ่งกว่าอดีตเสียอีก

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ เช่น การสร้างพีระมิดหรือการบินไปดวงจันทร์ ไม่ได้เกิดจากความสามารถของตัวบุคคล แต่เกิดจากความสามารถของการร่วมมืออย่างยืดหยุ่น และเป็นจำนวนมากต่างหาก

2. หมั่นฝึกจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ

มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวในโลกที่สามารถสร้างและเชื่อสิ่งสมมติขึ้นมาได้ ตราบเท่าที่ทุกคนเชื่อในเรื่องสมมติเดียวกัน ทุกคนก็จะเชื่อฟังกฎเดียวกัน และปฏิบัติตามเรื่องต่างๆ ไปพร้อมกัน

เบื้องหลังการสร้างสิ่งสมมติทั้งหมดล้วนมาจากจินตนาการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผีสางเทวดา ศาสนา ประเทศชาติ รวมไปถึงความเชื่ออื่นๆ ดังนั้นสำหรับคนทำงาน จินตนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้บุคคลหรือองค์กรโดดเด่นเหนือคู่แข่งอื่นๆ นั่นเอง

การนินทาคือนวัตกรรมที่ทำให้คนสามารถร่วมมือกันได้ ในขณะที่สัตว์อื่นๆ สื่อสารกันเพื่อเพียงถ่ายทอดเรื่องจริงเท่านั้น

3. การเต็มใจยอมรับว่าเราไม่รู้ พาเราไปรู้เรื่องใหม่ได้เสมอ

อีกบทที่น่าหยิบยกขึ้นมาพูดถึงคือเรื่องการปฏิวัติวิทยาศาสตร์

หัวข้อหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคนยุคปัจจุบันโดยตรงเล่าไว้ว่า วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ตั้งอยู่บนแนวคิดของความไม่รู้ หรือที่เรียกว่า การเต็มใจยอมรับว่าเราไม่รู้ (ignoramus) เราต้องเชื่อก่อนว่าตัวเองไม่ได้รู้ไปเสียหมด ไม่มีความคิดรวบยอดหรือทฤษฎีแบบใดเลยที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่สามารถล้มล้างได้

หากคุณเป็นคนทำงาน ถ้าคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างไปเสียหมดแล้ว คุณก็อาจเสียโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปได้ ฉะนั้นยอมรับก่อนว่าเรายังไม่รู้ และหมั่นเรียนรู้เข้าไว้จึงดีที่สุด

4. ใช้ความทะเยอทะยานให้ถูกวิธี

ผู้เขียนหนังสือตั้งคำถามชวนคิดว่า เพราะเหตุใดในอดีตลูกตุ้มอำนาจถึงเหวี่ยงจากเอเชียไปอยู่ที่ยุโรป ทำไมผู้คนต่างมองว่ายุโรปคือความเก่งกาจ ทันสมัย น่านับถือ

ผู้เขียนเล่าต่อว่า เบื้องหลังความคิดที่เป็นคำตอบของเรื่องนี้มาจากความทะเยอทะยานของชาวยุโรป ที่ต้องการยึดครองอำนาจอย่างไม่รู้จักคำว่าพอ และไม่สามารถมีใครเทียบเทียมได้

ความทะเยอทะยานนี่เองจึงเป็นส่วนผสมความสำเร็จของนักธุรกิจแห่งยุคอย่าง อีลอน มัสก์, แจ็ค หม่า, เจฟฟ์ เบโซส์ ฯลฯ ถ้าคนทำงานลองนำความทะเยอทะยานมาใช้อย่างเหมาะสม และก่อให้เกิดประโยชน์โดยไม่เบียดเบียนใคร ทุกคนย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเองได้อย่างแน่นอน

5. อย่าโฟกัสเรื่องเงินทองเพียงสิ่งเดียว จนลืมใส่ใจสุขภาพและครอบครัว

คนเราจะตรวจนับความสุขจากอะไร

นิยามความสุขที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุดคือ ความเป็นอยู่ที่ดีแบบอัตวิสัย หรือความรู้สึกที่เรารู้สึกได้ภายในใจของเรา โดยจากงานวิจัยของความสัมพันธ์ระหว่างความสุขและปัจจัยแบบอัตวิสัย ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจว่า เงินตรานำมาซึ่งความสุขได้จริง แต่เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อเกินกว่าจุดนั้นแล้วจะส่งผลน้อยมาก เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือสุขภาพและครอบครัว บางคนฐานะยากจนแต่มีความสุขมากกว่ามหาเศรษฐีร่ำรวย

ดังนั้นอย่าทำงานเพื่อมุ่งมั่นสร้างชื่อเสียงเงินทองเพียงทางเดียว แต่จงตักตวงเวลา และความสัมพันธ์กับคนรอบตัวเอาไว้ให้มากที่สุด


สามารถฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip

เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ pantip


Credits

The Host นครินทร์ วนกิจไพบลูย์

Show Creator นครินทร์ วนกิจไพบูลย์

Show Producers เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์, ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Episode Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์

Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ

Marketing & Coordinator อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์

Proofreader ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์