ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี ม.4 เฉลย

5 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี เคมี เล่ม 1 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การทดลองถือเป็นหัวใจของการศึกษาค้นคว้าทางเคมีที่สามารถนำ�ไปสู่การค้นพบและ ความรู้ใหม่ทางเคมี นอกจากนี้ยังสามารถช่วยถ่ายทอดความรู้แก่นักเรียนให้เกิดความรู้และความเข้าใจ ในบทเรียนได้ดียิ่งขึ้น การทดลองทางเคมีสำ�หรับนักเรียนนิยมทำ�ในห้องปฏิบัติการและมี ความเกี่ยวข้องกับสารเคมี อุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ผู้ทำ�ปฏิบัติการจึงต้องทราบเกี่ยวกับประเภท ของสารเคมีที่ใช้ วิธีปฏิบัติการทดลอง ข้อควรปฏิบัติในการทำ�ปฏิบัติการเคมี และการกำ�จัดสารเคมี เพื่อให้สามารถทำ�ปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัย รวมถึงมีความรู้และสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อลดความรุนแรงและความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ในการทำ�ปฏิบัติการเคมีความน่าเชื่อถือของข้อมูลพิจารณาได้จากความเที่ยงและความแม่น ซึ่งสำ�หรับการวัดนั้นความน่าเชื่อถือขึ้นกับทักษะของผู้ทำ�ปฏิบัติการและความละเอียดของเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ การบอกปริมาณของสารอาจระบุอยู่ในหน่วยต่าง ๆ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ที่ตรงกันจึงมีการกำ�หนดหน่วยในระบบเอสไอให้เป็นหน่วยสากล ผู้ทำ�ปฏิบัติการควรมีทักษะการ เปลี่ยนหน่วยเพื่อให้เป็นหน่วยสากลโดยการใช้แฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย การทำ�ปฏิบัติการเคมีต้องมีการวางแผนการทดลอง การทำ�การทดลอง การบันทึกข้อมูล สรุปและวิเคราะห์ นำ�เสนอข้อมูล และการเขียนรายงานการทดลองที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกัน การทำ�ปฏิบัติการเคมีต้องคำ�นึงถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จิตวิทยาศาสตร์และจริยธรรมทางวิทยาศาสตร์ บทนี้ควรใช้เวลาสอนประมาณ 10 ชั่วโมง 1.1 ความปลอดภัยในการทำ�งานกับสารเคมี 2 ชั่วโมง 1.2 อุบัติเหตุจากสารเคมี 1 ชั่วโมง 1.3 การวัดปริมาณสาร 2 ชั่วโมง 1.4 หน่วยวัด 2 ชั่วโมง 1.5 วิธีการทางวิทยาศาสตร์ 3 ชั่วโมง อุปกรณ์และเครื่องแก้วในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สาระสำ�คัญ เวลาที่ใช้ ความรู้ก่อนเรียน

Made with FlippingBook

RkJQdWJsaXNoZXIy NzMxODQ4

13 บทที่ 1 | ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี เคมี เล่ม 1 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6. ครูอธิบายว่าหากต้องการข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับสารเคมี สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากเอกสาร ความปลอดภัย (safety data sheet, SDS) ของสารเคมีนั้น ๆ เช่น การสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เนต เกี่ยวกับ HCl ทำ�ได้โดยใช้คำ�สำ�คัญว่า “SDS HCl” หรือสืบค้นข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ เช่น http://www.chemtrack.org 7. ครูอาจให้นักเรียนทำ�กิจกรรมเสนอแนะ โดยนักเรียนแต่ละคนสืบค้นข้อมูลเอกสารความ ปลอดภัยของสารเคมี แล้วระบุข้อมูลเบื้องต้น เช่น การป้องกันตนเอง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น 8. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติในการทำ�ปฏิบัติการเคมี ทั้งก่อนทำ� ปฏิบัติการ และขณะทำ�ปฏิบัติการว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งควรได้ข้อสรุปว่า ข้อควรปฏิบัติก่อนการทำ�ปฏิบัติ การเคมี เช่น ศึกษาขั้นตอนการทำ�ปฏิบัติการ ศึกษาข้อมูลสารเคมี ข้อควรปฏิบัติขณะทำ�ปฏิบัติ การเคมี เช่น แต่งกายให้เหมาะสม โดยสวมแว่นตานิรภัย ใส่เสื้อคลุมปฏิบัติการ สวมถุงมือ จากนั้นครู อธิบายเพิ่มเติมตามรายละเอียดในหนังสือเรียน 9. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางในการกำ�จัดสารเคมีที่ใช้แล้วหรือที่เหลือใช้จากการทำ� ปฏิบัติการเคมี ตามรายละเอียดในหนังสือเรียน 10. ครูตั้งคำ�ถามว่า สารประกอบของโลหะเป็นพิษ เช่น ตะกั่ว แคดเมียม ที่ใช้แล้วหรือที่เหลือ ใช้จากการทำ�ปฏิบัติการเคมี เมื่อรวบรวมไว้แล้วเทลงอ่างน้ำ�ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ซึ่งควรได้คำ�ตอบ ว่า ไม่ได้ เพราะจะทำ�ให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษจึงควรส่งให้บริษัทรับกำ�จัดสารเคมี จากนั้นครูเชื่อมโยง ว่านอกจากการกำ�จัดสารเคมีที่ถูกวิธีแล้ว ยังมีวิธีการอื่นที่สามารถนำ�มาใช้เพื่อให้เกิดความเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เช่น ออกแบบการทดลองที่ไม่ก่อให้เกิดของเสียที่เป็นอันตราย เลือกใช้ สารเคมีและปฏิกิริยาเคมีที่ปลอดภัยและมีความคุ้มค่าในการใช้พลังงาน ใช้อุปกรณ์ทดแทนสำ�หรับทำ� ปฏิบัติการแบบย่อส่วน เพื่อเป็นการลดการใช้สารเคมีและพลังงาน อีกทั้งยังสามารถลดปริมาณของ เสียที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย 11. ครูให้นักเรียนสะท้อนความรู้ความเข้าใจและแสดงถึงความตระหนักเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการทำ�ปฏิบัติการเคมี และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปความรู้ และ นำ�เสนอในรูปแบบที่สามารถสร้างความเข้าใจให้กับผู้อื่นได้ดี เช่น แผนผัง แผ่นพับ วีดิทัศน์ 12. ครูให้นักเรียนทำ�แบบฝึกหัด 1.1 เพื่อทบทวนความรู้ 13. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยยกตัวอย่างข่าว สถานการณ์หรือปัญหาซึ่งอาจเป็น ข้อความ ภาพ หรือวีดิทัศน์ที่แสดงถึงความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุจากสารเคมี เช่น ภาพข่าวคน ถูกน้ำ�กรดสาด คนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากกรณีแก๊สแอมโมเนียรั่วจากห้องทำ�ความเย็น เพื่อนำ�เข้าสู่ การอภิปรายถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สารเคมีในห้องปฏิบัติการ

Made with FlippingBook

RkJQdWJsaXNoZXIy NzMxODQ4

มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ประกาศรับสมัครนักศึกษาใหม่ ในระบบ TCAS66 รอบ1 Portfolio ปีการศึกษา2566  มีรายละเอียดต่อไปนี้

 

ไม่พลาดทุกข่าวการสอบเข้าทางLine 

>>คลิกติดตามข่าวทางlineที่นี้<<

เว็บไซต์นี้ไม่ใช่เว็บมหาวิทยาลัยนะครับ เป็นเว็บไซต์รวมข่าวรับสมัครรับตรง ทุนต่างๆทั่วประเทศให้น้อง

ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี ม.4 เฉลย

รอบ1 Portfolio มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ปีการศึกษา2566

 

กำหนดการรับสมัคร

เฉพาะ แพทย์ รังสีเทคนิค พยาบาล

สมัครทางออนไลน์ : วันที่ 5-30 พฤศจิกายน 2565

ชำระเงิน : ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน – 30 พฤศจิกายน 2565

ประกาศผลมีสิทธิสัมภาษณ์ : วันที่ 28 ธันวาคม 2565 หรือ วันที่ 10 มกราคม 2565

สอบสัมภาษณ์ : วันที่ 7-8 มกราคม หรือ วันที่  14-15 มกราคม 2566

ยืนยันสิทธิ์ TCAS : วันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2566

ชำระค่าธรรมเนียม : วันที่ 15 – 28 กุมภาพันธ์ 2566

 

ทุกสาขายกเว้นด้านบน

สมัครทางออนไลน์ : วันที่ 5 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2565

 

แต่ละสาขากำหนดการไม่เหมือนกัน อย่าลืมเช็คประกาศด้านล่างด้วยนะ 

 

*********************************

ค้นหารับตรง TCAS มหาวิทยาลัยต่างๆ

>>คลิกหารับตรง TCAS รอบต่างๆที่นี้<<

*********************************

 

คำเตือน เพื่อเนื่อหาที่ครบถ้วน ฝากน้องๆอ่านรายละเอียดการรับสมัคร จากประกาศนะ เผื่อพี่นัทพิมพ์ตกเรื่องที่สำคัญ

 

1.คณะและสาขาที่เปิดรับ

1.1 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต 30 ที่นั่ง

คุณสมบัติของผู้สมัคร

  1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนกรกฎาคม พ..2566 รวม 5 ภาคการศึกษา โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป หรือ2.
  2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหลักสูตร/โรงเรียนนานาชาติ โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมรวมทุกวิชา ในระดับ Grade 10 – 11 (ตามระบบการศึกษาของอเมริกา) หรือ ในระดับ Year 11-12 (ตามระบบการศึกษาของอังกฤษ) ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป หรือ3.
  3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่ 3.00 ขึ้นไป หรือ4.
  4. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตร/โรงเรียนนานาชาติ โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมรวมทุกวิชา ในระดับ Grade 12 (ตามระบบการศึกษาของอเมริกา ) หรือ ในระดับ Year 13 (ตามระบบการศึกษาของอังกฤษ) ตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป หรือ 4.
  5. ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตในสถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชนในปีการศึกษา 2564
  6. เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะไปปฏิบัติงานในส่วนราชการหรือหน่วยงานต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครหรือหน่วยงานของรัฐ ตามระเบียบของทางราชการ เรื่อง การปฏิบัติงานชดใช้ทุน

เป็นผู้ที่มีสุขภาพ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคสังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพแพทย์ ตามประกาศ กสพท.

 

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 9 ที่นั่ง

เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร (9 โรงเรียน) จำนวนรับ 9 ที่นั่ง ดังต่อไปนี้

  1. โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ
  2. โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม เขตคลองสาน
  3. โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร
  4. โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ เขตประชานิเวศ
  5. โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เขตประเวศ
  6. โรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง
  7. โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ เขตสวนหลวง
  8. โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา
  9. โรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ

 

กลุ่มที่ 2 นักเรียนของโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย  2 ที่นั่ง

. เป็นนักเรียนของโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และมีหนังสือส่งรายชื่อจากโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  5 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

 

กลุ่มที่ 4 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น 2 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่ 5 กลุ่มที่ 5 นักเรียนของโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกรุงเทพมหานคร 6 ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และฉะเชิงเทรา (โครงการพัฒนาแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน) 12 ที่นั่ง

 

(โครงการพัฒนาแพทย์สาขาเวชศาสตร์ครอบครัวและสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน)

 

1.2.คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ จำนวนรับทั้งหมด 30 คน

 

เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.75

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 4 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  4 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 22 ที่นั่ง

 

ผลงาน

๑. วีดิทัศน์แนะนำตนเอง ความยาวไม่เกิน ๓ นาที มีเนื้อหา ดังนี้

๑) แนะนำตนเอง ชื่อ –สกุล วุฒิการศึกษา แต้มเฉลี่ยสะสม ความถนัด ความสามารถพิเศษ

กิจกรรมวิชาการ/จิตสาธารณะ ความภาคภูมิใจ รางวัล/ประกาศนียบัตรที่เคยได้รับ และอื่นๆ

๒) อธิบายความเข้าใจเกี่ยวกับนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (คือใคร มีหน้าที่อย่างไร ฯลฯ)

๓) เพราะเหตุใด ประเทศไทยจึงมีความต้องการนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์

๔) เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเป็นนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ท่านคิดว่าตนเอง

มีความเหมาะสมกับวิชาชีพนี้อย่างไร
๕) เมื่อจบการศึกษาได้เป็นนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์แล้ว ท่านคิดว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยอย่างไร

 

กรณีเป็นบุตรของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญหรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร

๒. หนังสือรับรองการทำงานของบิดามารดาที่แสดงถึงการเป็นข้าราชการ ข้าราชการบำนาญหรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร/ เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 1 ฉบับ

* หมายเหตุ กรณีผู้สมัครเป็นผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรเจ้าพนักงานฉุกฉินการแพทย์ ให้ส่งสำเนาประกาศนียบัตรเจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์มาด้วย (ฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์)

 

1.3.คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารังสีเทคนิค จำนวนรับทั้งหมด 20 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 4 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  4 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 12 ที่นั่ง

 

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายน พ.. 2566 โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) รวม 5 ภาคการศึกษา 3.00 ขึ้นไป หรือ 2

2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 3.00 ขึ้นไป

3. เป็นผู้ที่มีจำนวนหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต และมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 3.00 ขึ้นไป

4. เป็นผู้ที่มีจำนวนหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต และมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 3.00 ขึ้นไป

. เป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ/อาชีพ

 

2.คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  จำนวนรับทั้งหมด 225 ที่นั่ง  <<คลิกอ่านที่นี่>>

 

3.คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพ

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานพยาบาล จำนวนรับทั้งหมด 30 คน

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์และห้องผ่าตัด จำนวนรับทั้งหมด 30 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 4 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  4 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 22 ที่นั่ง

 

คุณสมบัติเฉพาะของแต่ละหลักสูตร/สาขาวิชา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายน พ.. 2566 โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) รวม 5 ภาคการศึกษา 2.75 ขึ้นไหรือ ๒.

2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไป หรือ 3.

3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ หรือด้านสาธารณสุข หรือด้านอื่นๆ ที่เทียบเคียงกันได้ โดยสามารถเทียบโอนหน่วยกิตตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ

4. เป็นผู้ที่มีจำนวนหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

5. เป็นผู้ที่มีจำนวนหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต

6. เป็นผู้ที่มีสุขภาพ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ

 

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการสาธารณภัย จำนวนรับทั้งหมด 20 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 4 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  4 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 12 ที่นั่ง

 

คุณสมบัติเฉพาะของแต่ละหลักสูตร/สาขาวิชา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายน พ.. 2566 โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) รวม 5 ภาคการศึกษา หรือ ๒.

2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะส(GPAX) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า

3. เป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ/อาชีพ

 

 

4.วิทยาลัยพัฒนามหานคร

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริการธุรกิจการบิน จำนวนรับทั้งหมด 40 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 9 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  5 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 26 ที่นั่ง

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการเมือง จำนวนรับทั้งหมด 30 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 4 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  4 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 22 ที่นั่ง

 

คุณสมบัติเฉพาะของแต่ละหลักสูตร/สาขาวิชา

  1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายน พ.. 2566 โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) รวม 5 ภาคการศึกษา หรือ 2.
  2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะส(GPAX) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า
  3. เป็นผู้ที่มีทักษะในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เป็นต้น
  4. เป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ/อาชีพ

 

 

5.วิทยาลัยพัฒนาชุมชนเมือง

⇒หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาเด็กปฐมวัย จำนวนรับทั้งหมด 40 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 6 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  6 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 28 ที่นั่ง

 

⇒หลักสูตรการจัดการบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรอาคาร จำนวนรับทั้งหมด 40 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 6 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  6 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 28 ที่นั่ง

 

⇒หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต (กลุ่มวิชาเอกซ่อมบำรุงระบบราง/กลุ่มวิชาเอกซ่อมบำรุงทรัพยากรอาคาร) จำนวนรับทั้งหมด 30 คน

กลุ่มที่ 1 นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 9 โรงเรียน 4 ที่นั่ง

 

กลุ่มที่2นักเรียนที่เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรม ของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพกรุงเทพมหานคร/ ข้าราชการ หรือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช/ พนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  4 ที่นั่ง

1. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ ข้าราชการบำนาญ หรือลูกจ้างสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือ

2. เป็นบุตรหรือบุตรบุญธรรมของข้าราชการ หรือลูกจ้าง กรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

หรือพนักงานมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรณีที่เป็นบุตรบุญธรรม ต้องจดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรม
มาแล้วเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี

3.นักเรียนของโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น

 

กลุ่มที่ 3 นักเรียนทั่วไป 22 ที่นั่ง

 

คุณสมบัติเฉพาะของแต่ละหลักสูตร/สาขาวิชา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า และคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาก่อนเดือนมิถุนายน พ.. 2566 โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะสม (GPAX) รวม 5 ภาคการศึกษา หรือ ๒.

2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า โดยมีผลการเรียนแต้มเฉลี่ยสะส(GPAX) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

หรือเทียบเท่า

3 . เป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง โรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคสำคัญที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพ/อาชีพ

 

ค่าสมัครสอบ

400 บาท ต่อ 1 หลักสูตร ชำระที่ธนาคารกรุงไทย

 

รายละเอียดของ Portfolio

⇒หน้าปก

⇒ข้อมูลส่วนบุคคล

⇒ทัศนคติต่อหลักสูตร / สาขาวิชาที่เลือกเข้าศึกษา / และเหตุผลที่คิดว่าผู้สมัครสมควรได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษากิจกรรมหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร / สาขาวิชานั้นๆ

⇒เกียรติบัตร หรือประกาศนียบัตรบัตร หรือหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าร่วมกิจกรรมที่สำคัญกับหลักสูตร / สาขาวิชาที่สมัครเข้าศึกษา

⇒รูป เอกสารรับรอง หรือ หลักฐานที่แสดงถึงการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมด้านจิตสาธารณะ

⇒เอกสาร หรือ หลักฐาน ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ หรือทักษะโดดเดก่น ที่เกี่ยวข้องกับด้านคณิตศาสตร์ หรือ วิทยาศาสตร์ หรือ ภาษาต่างประเทศ หรือ ศิลปะการแสดง หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นผลงานที่ทำกิจกรรมหรือโครงการขณะกำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรีอเทียบเท่ีา หรือ หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 หรือเทียบเท่า ไม่เกิน 3 ปี โดยระบุชื่อกิจกรรม / โครงงาน

⇒ไม่เกิน 15 หน้ากระดาษ A4 และมีขนาดไฟส์ไม่เกิน 5 Mb

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

ประกาศรับสมัคร  รอบ1 Portfolio <<คลิกอ่านที่นี่>>

*คำเตือน อย่าลืมเช็คประกาศ หลายสาขาใช้ TGAT และ TPAT ้ด้วย สาขาที่น้องจะเข้าใช้อะไรบ้าง รวมทั้งกำหนดการสัมภาษณ์และอื่นๆ 

เว็บไซต์รับสมัครนักศึกษา มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  <<คลิกอ่านที่นี่>>

 

TCAS66 รอบ1 Portfolio คณะพยาบาลศาสตร์เกื้อการุณย์ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  <<คลิกอ่านที่นี่>>

 

รวมสถาบันที่เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตทั่วประเทศ ที่ได้รับรองจากสภาการพยาบาลแล้ว  <<คลิกอ่านที่นี่>>

 

ค่าเทอม มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อัพเดทล่าสุด!  <<คลิกอ่านที่นี่>>

 

รวมมหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตทั่วประเทศ  + ค่าเทอม <<คลิกอ่านที่นี่>>

———————————————————

ติดตามช่องทางรับการข่าวจากลิงค์ด้านล่างได้เลยนะครับ มีข่าวรับตรง ค่าย ทุนตั้งแต่ม.ปลายถึงปริญญาเอก รอให้น้องสมัครอยู่