เขียนโดย ศูนย์ข่าวผู้บริโภค. จำนวนผู้ชม: 3588 1. ความไม่สมดุลของคณะกรรมการพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ…. 2.
ข้อคัดค้านในด้านสาระสำคัญการแก้ไขกฎหมาย นิยามที่คณะกรรมการพิจารณาร่างฯ
ขอแก้ไขใหม่ 2. นิยามคำว่า “สถานบริการ” นิยามที่ภาคประชาชนขอแก้ไขใหม่ นอกจากนี้ “หลักการ” ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่สำคัญ นอกจากมุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงการบริการรักษาอย่างมีมาตรฐานแล้ว ยังมุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการร่วมให้บริการสาธารณสุขโดยประชาชน ประชาสังคม องค์กรสาธารณะ รวมทั้งองค์กรท้องถิ่น 3. นิยามคำว่า “เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” เนื่องจากการกำหนดนิยามคำนี้ จะเป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ของกองทุนที่ระบุในมาตรา 38 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ.2545 ซึ่งให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถนำเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพไปใช้เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงการบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ หมวด 4 2.2 มาตรา 5 ข้อเสนอที่ภาคประชาชนขอแก้ไขใหม่ เหตุผลของข้อเสนอภาคประชาชนคือ 2.3
มาตรา 9, 10 “มาตรา 66 ให้ตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 9 และมาตรา 10 ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ มาตรา 9
ขอบเขตของสิทธิรับบริการสาธารณสุขของบุคคลดังต่อไปนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายกฎ ระเบียบ ประกาศ มติคณะรัฐมนตรีหรือคำสั่งใด ๆ ที่กำหนดขึ้นสำหรับส่วนราชการ องค์กรปกครอง การกำหนดให้บุคคลตามวรรคหนึ่งประเภทใด หรือหน่วยงานใด
ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้ได้เมื่อใดให้เป็นไปตามที่กำหนดโดยโดยให้ประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาภายในหนึ่งปีหลังจากพระราชบัญญัตินี้ประกาศใช้ มาตรา10ขอบเขตของสิทธิรับบริการสาธารณสุขของให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมมาใช้สิทธิตามพระราชบัญญัตินี้โดยให้ประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกาภายในหนึ่งปีหลังจากพระราชบัญญัตินี้ประกาศใช้ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม การขยายบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้ไปยังผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการและคณะกรรมการประกันสังคมตกลงกัน เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ่งใช้บังคับแล้ว ให้คณะกรรมการมีหน้าที่จัดการให้บุคคลดังกล่าวสามารถได้รับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้ และให้รัฐบาล ดำเนินการจัดสรรเงินในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายในการรับบริการสาธารณสุขสำหรับบุคคลตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกานั้นให้แก่กองทุนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาที่กำหนดให้คณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมในการให้บริการสาธารณสุขแก่ผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และเมื่อได้ตกลงกันเกี่ยวกับความพร้อมให้บริการสาธารณสุขกับคณะกรรมการประกันสังคมแล้ว ให้คณะกรรมการเสนอรัฐบาลเพื่อตราพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาการเริ่มให้บริการสาธารณสุขจากหน่วยบริการตามพระราชบัญญัตินี้แก่ผู้มีสิทธิดังกล่าว 2.4 มาตรา 13
องค์ประกอบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2.5 มาตรา 18 อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หมายเหตุ: ในการยกร่างมาตรา 20 ในขณะนั้นคือมาตราที่ว่าด้วยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปัจจุบันคือมาตรา 18 2.6 มาตรา 26 อำนาจหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (6)ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการรวมทั้งการเรียกเอกสารประกอบการเบิกจ่ายค่าบริการสาธารณสุขเพื่อการตรวจสอบตามรูปแบบที่สำนักงานกำหนดหากตรวจพบว่า
หน่วยบริการใดจงใจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเกินจริงหรือกระทำการอื่นใดอันเป็นเหตุให้สำนักงานต้องจ่ายค่าใช้จ่ายแก่หน่วยบริการมากเกินควรแก่กรณีให้สำนักงานเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อดำเนินการตามมาตรา 18 (11) เงินช่วยเหลือเบื้องต้นจะไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาของผู้รับบริการหรือผู้ให้บริการในกรณีที่ผู้รับบริการได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ จึงจำเป็นต้องเพิ่มเงินเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้รับบริการและผู้ให้บริการ 2.8 มาตรา 46 การจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการ หลักเกณฑ์การกำหนดค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขตามวรรคหนึ่ง ต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 18 (13) ก่อน และอย่างน้อยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข
ดังต่อไปนี้ เหตุผลของข้อเสนอภาคประชาชน 2. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขร่างที่เสนอโดยคณะกรรมการพิจารณาร่างฯ ในกรณี มาตรา 46 (2)
ดังนี้ 2.9 มาตรา 47/1 การกำหนดหลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรชุมชน
องค์กรเอกชนและภาคเอกชนที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการแสวงหาผลกำไร จากกองทุนหลักประกันสุขภาพข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณาร่างฯ การกำหนดให้การออกหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข โดย รัฐมนตรีรวมทั้งกำหนดให้มีการเพิ่มขั้นตอนก่อนการออกประกาศดังกล่าวจะต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นการใช้อำนาจที่ขัดกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ และถือว่าเป็นการแทรกแซงของผู้ให้บริการ (Provider) ต่อการทำหน้าที่ของผู้ซื้อบริการ ขัดกับหลักกการที่ระบุไว้ในเหตุผลของการแก้ไขกฎหมายคือ “หลักการแยกบทบาท (Purchaser-Provider Split) ของผู้ซื้อบริการ (Purchaser) ผู้ให้บริการ (Provider) 2.10 มาตรา 47/2 การกำหนดหน้าที่การจัดหายา เวชภัณฑ์อวัยวะเทียม หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่หน่วยบริการ ประเด็นคัดค้าน หากต้องการให้คงหลักการแยกบทบาท (Purchaser-Provider Split) ของผู้ซื้อบริการ (Purchaser) ผู้ให้บริการ (Provider) ที่ระบุในเหตุผลของการแก้ไขพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งถือว่า คณะกรรมการควบคุมคุณภาพฯ ทำหน้าที่ในส่วนของ ผู้ซื้อบริการ จึงไม่ควรมีส่วนของผู้ให้บริการมาร่วมในการตัดสินใจเนื่องจากจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ ในขณะที่สัดส่วนเดิมมีกรรมการฯที่มาจากตัวแทนวิชาชีพทางการแพทย์อยู่แล้ว พิมพ์ อีเมล |