ในช่วงเวลานั้น ทั้งในเมืองหลวงและในท้องที่มีคดีต่อเนื่องไม่ขาดสาย โดยมีกองกำลังของราชสำนักแอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง ในที่สุดถังฟั่นกับสุยโจวก็สามารถเปิดเผยความจริง ร่วมแรงร่วมใจกันทำลายแผนลับที่จะกบฏของซั่งหมิง ผู้บัญชาการสำนักบูรพา ติดตามชมความเข้มข้นของซีรีส์ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 22.00 น. และรีรันทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00 น. ทาง True4U (ทรูโฟร์ยู) ช่อง 24 และแอปทรูไอดี ระบบเสียง 2 ภาษาพร้อมซับภาษาไทย เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 29 เมษายน 2563 Show ‘รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่’ ผลงานของ เมิ่งซีสือ นิยายวายแปลจีนย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์ที่นักอ่านพูดถึงและได้รับการชื่นชมมากที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง เรียกได้ว่าหลังจากวางจำหน่ายก็มีกระแสจากนักอ่านมาอย่างต่อเนื่อง เป็นหนังสือที่ติดอันดับ 1-3 เรื่องที่ขายดีที่สุดของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายตั้งแต่วางจำหน่าย
ความสนุกจากนักอ่านรีวิวเป็นเสียงเดียวกัน
แจ่มใสได้นำรีวิวบางส่วนจากรีวิวทั้งหมดของนักอ่านแต่ละท่านมาฝากเพื่อนๆ ไปติดตามกันค่ะ อ่านจบเล่มแรกเราก็ชอบแล้ว พอถึงเล่ม 3 ออกก็รักรัชศกเข้าขั้นคลั่งไคล้มากกกกกกกกกกกกกกกกก รัชศกเป็นเรื่องที่พลิกมุมมองที่เรามีต่อวายพีเรียดจีน เออ มันก็สนุกเหมือนกันเนอะ ด้วยภาษาแปลที่ลื่นไหล ภาพสวยๆ ย้อนยุค วิธีการเล่าเรื่อง ฯลฯ และตอนนี้ก็ได้ติดบ่วงตามซื้อนิยายพีเรียดเล่มอื่นๆ เป็นที่เรียบร้อยค่ะ ล้มละลาย orz รัชศกเป็นเรื่องที่ทำให้เราผ่านวันเหนื่อยๆ ดาวน์ๆ มาได้ เป็นเรื่องที่เรารอคอยทุกเดือนว่าจะออกวันไหน ขอขอบคุณ รีวิวจากบล็อก I READ YOU A LOT – ilysm (คลิกอ่านรีวิว) … เป็นนิยายวายที่ไม่วายมาก แต่สนุกมาก ทำให้เราคอยลุ้นไปกับคดีต่างๆที่นายเอกของเราสู้คนแบบมีสมอง แต่ก็ไม่เงิน ฮ่าๆ เป็นคนดีที่ไม่ดีจนเกินไปรู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ สนุกดีค่ะ ความวายจะมีแทรกเป็นระยะ แบบความรู้สึกของตัวละคร แต่ไม่ได้วายแบบหวือหวามากนัก ขอขอบคุณ รีวิวจากคุณ Monaliz Juang (คลิกอ่านรีวิว) ... ในด้านความสัมพันธ์ของพระเอกนายเอกเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่า มันอบอุ่นมากๆ ความสัมพันธ์เกิดขึ้นจากการเป็นเพื่อน ค่อยๆพัฒนาการเป็นคนรัก ความจริงแล้วสองคนนี้ผ่านอะไรด้วยกันมามากมายค่ะ ร่วมเป็นร่วมตายกันไม่น้อย เหมือนเป็นคู่ชีวิตกันซะมากกว่า ขอขอบคุณ รีวิวจากบล็อก Isabella Nut (คลิกอ่านรีวิว) ... ณ จุดๆ นี้ นาตนงคงต้องบอกว่า ‘รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่’ เป็นนิยายวายขนาด 7 เล่มจบที่ดีต่อใจมากกกกกกกกกกกก+ เนื้อเรื่องไม่ได้วายจ๋า ไม่มีเลิฟซีน และแทบไม่มีฉากโรแมนติกระหว่างสุยโจวและถังฟั่นเลยด้วยซ้ำ ทว่าหลังอ่านจบแล้วมันแบบอยากตะโกนออกมาว่า “เค้ารักกันค่ะคุณขาาาาาา!!!! เค้ารักกันมาก รักกันไม่ไหวแล้ว คนอ่านเหม็นฟามรักมากค่าาาาา” ขอขอบคุณ รีวิวจากเฟสบุ๊ก อาณาจักรเล็ก ๆ ในตู้หนังสือ (คลิกอ่านรีวิว) … นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนักอ่านที่พูดถึงหนังสือเรื่องนี้เท่านั้นนะคะ บอกเลยว่าหากเพื่อนๆ อ่านรีวิว ‘รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่’ แล้วจะต้องรีบหาเรื่องนี้มาอ่านโดยเร็วแน่นอน เรื่องราวของ ‘ถังฟั่น’ ผู้พิพากษาประจำศาลซุ่นเทียน ความซื่อตรงจริงจังในการทำงานของเขานับว่าหาได้ยากในหมู่ขุนนางรัชสมัยต้าหมิง อีกทั้งยังเป็นผู้มีอุดมการณ์ของตัวเองธำรงไว้ซึ่งหลักการและความเป็นจริง ทำให้ ‘สุยโจว’ นายกองแห่งกององครักษ์เสื้อแพร บุรุษผู้เงียบขรึมพูดน้อย จริงจังกับการทำงาน เกิดความรู้สึกดี และมอบมิตรภาพให้กับเขาอย่างยากที่จะหาได้ เล่ม 1
คดีแรก‘การตายของเจิ้งเฉิง’เกิดขึ้นเมื่อ ‘เจิ้งเฉิง’ บุตรชายคนโตของจวนอู่อันโหวเสียชีวิตลง โดยผู้ต้องสงสัยคือถังฟั่น เนื่องจากเจิ้งเฉิงได้พบเขาเป็นคนสุดท้าย ทั้งยังมีปากเสียงกันเล็กน้อย ถังฟั่นเข้ามารับผิดชอบสืบสวนคดีโดยตรง เรื่องราวการสืบสวนและคลี่คลายคดีดำเนินไปอย่างเข้มข้น คดีนี้ควรจะปิดลงได้โดยง่าย แต่เพราะบิดาของผู้ตายไม่ต้องการให้เรื่องในบ้านแพร่ออกไป ทว่าถังฟั่นก็ต้องการหาฆาตกรตัวจริงให้ได้ จึงทำให้เรื่องราวใหญ่โตขึ้นด้วยการให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามาพัวพัน ทั้งกององครักษ์เสื้อแพร สำนักประจิม สำนักบูรพา คดีนี้ทำให้หลายฝ่ายต่างเข้ามามีส่วนร่วม แย่งชิงความดีความชอบกัน ซึ่งนั่นทำให้ทั้งถังฟั่นและสุยโจวได้รู้จักกันมากขึ้นไปด้วย คดีที่สอง‘เจิ้งซื่อภรรยาเอกของสกุลหลี่ ผูกคอตาย!’คดีใกล้ตัวของถังฟั่น เขาที่เป็นขุนนางขั้นเล็กๆ ได้ขอแบ่งเช่าเรือนข้างของคฤหาสน์สกุลหลี่ นายท่านสกุลหลี่เป็นพ่อค้า เดินทางค้าขายแดนไกล นานๆ ครั้งเขาจึงจะกลับคฤหาสน์ สกุลหลี่มีนายหญิงนามว่า ‘เจิ้งซื่อ’ นางเป็นภรรยาเอกคอยปกครองดูแลที่นี่ เนื่องจากคดีเกิดใกล้บ้าน เมื่อเจิ้งซื่อได้ยินว่าสามีกำลังจะกลับมาพร้อมอนุ นางบังเกิดความเสียใจจนผูกคอตาย! แต่นี่จะเป็นการฆ่าตัวตายจริงๆ หรือจะเป็นฝีมือของใครกันแน่ ร่วมตามสืบและหาคนร้ายตัวจริงกันต่อในเล่มค่ะ คดีที่สาม‘การตายของหานเจา’วันหนึ่ง ถังฟั่นถูกตามตัวให้เข้าวังหลวง ปกติขุนนางเล็กๆ อย่างเขาไม่มีเหตุให้ต้องเฉียดเข้าใกล้วัง แต่นี่กลับถูกพาเข้าไปถึงตำหนักส่วนใน และได้พบจักรพรรดิ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการจัดแจงของ ‘วังจื๋อ’ ขันทีคนสนิทของจักรพรรดิและเป็นผู้บัญชาการสำนักประจิม วังจื๋อนั้นเขาตระหนักถึงความฉลาดของถังฟั่นจากคดีก่อนหน้านี้ ซึ่งครานี้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในวังหลวง ‘หานเจ่า’ ซึ่งเป็นพระสหายร่วมชั้นเรียนขององค์รัชทายาทกินต้มถั่วเขียวที่ ‘วั่นกุ้ยเฟย’ ส่งไปแล้วเกิดเสียชีวิต ต้มถั่วเขียวนี้ได้ทำมาสองถ้วย ถ้วยหนึ่งให้องค์รัชทายาทอีกถ้วยหนึ่งให้แก่หานเจ่า โดยที่องค์รัชทายาทไม่ได้เสวย แต่เมื่อตรวจต้มถั่วเขียว และภาชนะกลับไม่พบพิษใดๆ หานเจ่าเองก็ไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพ แล้วเหตุใดคนถึงตาย! ถังฟั่นจึงจำต้องเป็นผู้สะสางคดีนี้ให้กระจ่างโดยที่คดีนี้เกี่ยวพันถึงวั่นกุ้ยเฟยผู้เป็นที่รักของจักรพรรดิ เขาจะคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างไร คดีนี้มีเงื่อนงำซับซ้อนและน่าติดตาม ไปร่วมสืบและค้นหาเบาะแสให้กระจ่างพร้อมกันได้ในเล่มนะคะ เล่ม 2คดีที่สี่‘เด็กหาย’ถังฟั่นร่วมกับวังจื๋อ สืบคดีของหานเจ่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนขององค์รัชทายาทที่เสียชีวิต คดีนี้เป็นคดีที่ค่อนข้างซับซ้อน ‘เมิ่งซีสือ’ นักเขียนขมวดปมการฆ่าไว้อย่างน่าติดตาม ตั้งแต่เล่มนี้เป็นต้นไปจึงไม่ควรพลาดเลยค่ะ การคลี่คลายดีของหานเจ่านั้นถังฟั่นได้รับความชื่นชมจากจักรพรรดิ วังจื๋อรับปากว่าถังฟั่นจะต้องได้เลื่อนขั้นอย่างแน่นอน ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองดูเหมือนจะสนิทสนมขึ้นมาอีกขั้น จนสุยโจวที่กลับมาจากการออกไปปราบปรามขุนนางทุจริตยังต่างเมืองรู้สึกไม่สบายใจ เขาได้แต่เตือนสหายว่าอย่าไปใกล้ชิดกับวังจื๋อนัก วันเวลาผ่านไป เมืองหลวงซึ่งในตอนนี้อยู่ในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ต่อเนื่องเทศกาลหยวนเซียว ถังฟั่นกับอาตงออกมาชมความคึกคักของเมืองหลวง ขณะที่สุยโจวต้องอยู่เวรตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยของเมืองหลวงในยามค่ำคืนเทศกาลหยวนเซียวเป็นเทศกาลซึ่งผู้คนมารวมตัวกันหนาแน่นแออัด จากนั้นถังฟั่นก็ได้พบกับวังจื๋อ อีกฝ่ายเล่าว่าตนถูกเรียกกลับเมืองหลวงอย่างกะทันหันเนื่องจากเกิดเรื่องใหญ่ เพราะบุตรีคนเล็กและหลานชายของขุนนางระดับสูงสองคนถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไป ต้องรีบหาตัวให้เจอโดยเร็ว ในระหว่างที่ถังฟั่นลุกไปเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกทีก็ไม่เจออาตงแล้ว ถังฟั่นโกรธจัดเมื่อรู้ว่าวังจื๋อให้อาตงออกไปเป็นเหยื่อล่อพวกค้ามนุษย์! ถังฟั่นร้อนใจจึงไปหาสุยโจวที่กำแพงเมือง ทั้งหมดสอดส่องเมืองจากมุมสูงและได้เห็นกลุ่มคนท่าทางมีพิรุธจึงไปจับตัวมา พบว่าเป็นคนจากกลุ่มอิทธิพลมืดสองกลุ่มในเมืองหลวง ชำนาญนักเรื่องลักพาตัวเด็กไปเรียกค่าไถ่ ทั้งคู่ปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือกับอาตงและลูกหลานขุนนางอะไรนั่น ยังมีอีกกลุ่มอิทธิพลในเมืองหลวงนี้ นั่นคือ ‘พรรคหมินเฉิง’ ซึ่งมีผู้อยู่เบื้องหลังเป็นคนมีอำนาจ นั่นคือ ‘วั่นทง’ ผู้บัญการการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรและเป็นน้องชายแท้ๆ ของวั่นกุ้ยเฟย เรื่องราวต่อจากนี้เป็นการคลี่คลายปมเด็กหาย วั่นทงเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้อย่างไร ใครคือตัวการณ์ใหญ่ ถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อ พวกเขาจะปิดคดีนี้ลงได้อย่างไร เรื่องราวในตอนนี้เข้มข้นขึ้นมากๆ ห้ามพลาดเลยนะคะ เล่ม 3
คดีที่ห้า‘เสียงร้องไห้ปริศนา’คดีใหญ่นี้เกิดขึ้นที่อำเภอก่งของเหอหนาน อำเภอก่งเป็นบริเวณที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิตั้งแต่สมัยต้าซ่ง ชาวบ้านในละแวกล้วนมีอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่ นั่นคือการเฝ้าระวังตรวจตราพวกโจรขุดสุสาน เมื่อหนึ่งปีก่อนชาวบ้านได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญปริศนาดังมาจากทางที่ตั้งของสุสาน เวลานั้นทางอำเภอส่งคนไปตรวจดู แต่ก็ไม่มีใครมีโอกาสได้กลับมาอีกเลย สันนิษฐานกันว่าคงตกแม่น้ำจมน้ำตายไป แล้วคดีก็ทิ้งค้างไว้อย่างนั้นประกอบกับไม่มีใครได้ยินเสียงร้องไห้นั่นอีก แต่แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ไม่กี่เดือนก่อนชาวบ้านได้ยินเสียงร้องไห้อีกครั้ง ทางอำเภอและคนในหมู่บ้านส่งคนไปตรวจ คนกลุ่มแรกยังคงไปแล้วไปลับหายสาบสูญดังเดิม คนกลุ่มที่สองซึ่งมีมือปราบของทางการอยู่ด้วย ไปสิบรอดกลับมาแค่สอง มือปราบเสียสติ ส่วนที่รอดมาอีกหนึ่งคือผู้ใหญ่บ้านชรา ทว่านับแต่นั้นสติสตังผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ค่อยจะดีนัก เมื่อสำนวนคดีมาถึงมือถังฟั่น ในฐานะหัวหน้าที่ดูแลพื้นที่เหอหนาน เขาจึงต้องไปทำคดีนี้ด้วยตัวเอง ร่วมกับองครักษ์เสื้อแพรกลุ่มของสุยโจว ความลับและความน่าขนลุกขนพองของสุสานแห่งนี้ยังมีอยู่อีกมาก สิ่งที่ว่าน่ากลัวนี้มีอะไรซ่อนเร้นอยู่ ตัวการใหญ่ต้องการสิ่งใดกันถึงต้องทำให้ใครก็มิอาจเข้ามาใกล้สุสานแห่งนี้ได้ ต้องบอกเลยว่าคดีในตอนนี้ดำเนินเรื่องได้สนุกมากอีกทั้งเราจะได้เห็นการช่วยเหลือ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันของถังฟั่นและสุยโจวในเล่มนี้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ แต่ไม่วายมีเหตุให้ถังฟั่นถูกปลดจากตำแหน่งขุนนาง เขาถูกเฉดออกจากรมอาญาไป เรียกว่าเส้นทางการเป็นขุนนางของเขานั้นถูกตัดขาด ตรงข้ามกับสุยโจวที่ได้รับแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นอันติงป๋อ การถูกปลดจากตำแหน่งของถังฟันมาจากเหตุใด เขาจะมีโอกาสกลับไปทำงานและเติบโตในเส้นทางนี้อีกหรือไม่ เล่มนี้จัดเต็มความเข้มข้นไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ เล่ม 4
คดีที่หก‘พบศพที่ก้นบ่อน้ำ’หลังจากที่ถังฟั่นถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางเขาได้เดินทางไปเยี่ยมพี่สาวที่อำเภอเซียงเหอ เขาพบว่า ‘ถังอวี๋’ ผู้เป็นพี่สาวกับ ‘เฮ่อเฉิง’ หลานชายมีชีวิตความเป็นอยู่ในสกุลเฮ่อไม่สู้ดีนัก ด้วยเพราะ ‘เฮ่อหลิน’ พี่เขยของถังฟั่นสอบตกบัณฑิตครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้กลายเป็นคนใจคอคับแคบ มองโลกในแง่ร้าย อีกทั้งยังทระนงในศักดิ์ศรีจนทุกคนในสกุลเฮ่อล้วนระอาใจกับเขา พลอยทำให้ถังอวี๋กับเฮ่อเฉิงไม่ได้รับความเอ็นดูเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับบรรดาสะใภ้และลูกหลานคนอื่นๆ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้น ในวันฉลองครบเดือนของบุตรชายคนเล็กของเหวยเช่อคหบดีคนดังประจำอำเภอเซียงเหอ สกุลเฮ่อได้รับเชิญไปเป็นแขก แต่แล้วกลับเกิดคดีคนตายขึ้น ‘เหวยจูเหนียง’ บุตรสาวของเหวยเช่อซึ่งเกิดกับอนุ ถูกพบเป็นศพอยู่ก้นบ่อน้ำ ซึ่งเฮ่อเฉิงตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะก่อนหน้านี้พวกเด็กๆ ต่างบอกตรงกันว่าเฮ่อเฉิงทะเลาะกับเหวยจูเหนียง เป็นไปได้ว่าที่เขาอาจพลั้งมือผลักนางตกบ่อน้ำ จึงทำให้เฮ่อหลินทั้งโกรธทั้งขายหน้าจนเฆี่ยนตีบุตรชายต่อหน้าผู้คน ถังฟั่นเข้ามาขวางไว้และขอให้สืบคดีจนถึงที่สุดก่อนกล่าวโทษหลานชายตน ในระหว่างวุ่นอยู่กับเรื่องราวการสืบนั้นยังมีอีกคดีหนึ่งเกิดขึ้นนั่นคือ บุตรชายที่เพิ่งจะอายุครบเดือนของเหวยเช่อก็ถูกใครบางคนสังหารด้วยการเอาผ้าปิดปากและจมูกจนทารกน้อยหายใจไม่ออกตาย เล่มนี้ยังคงเป็นเรื่องราวของการสืบคดีซ้อนคดีเช่นกันค่ะ แน่นอนว่านี่เป็นแค่เรื่องย่อสั้นๆ เท่านั้น ยังมีเหตุการณ์ชวนลุ้นอีกมากในเล่มนี้ที่ต้องติดตามกันนะคะ … เรื่องราวของคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน ความมั่งคงแผ่นดินต้าหมิง และการดำรงตำแหน่งของจักรพรรดิ ยังต้องให้ถังฟั่นและสุยโจวสืบความให้กระจ่างพร้อมทั้งหาผู้กระทำผิดมารับโทษ ขณะเดียวกันในส่วนของความรักความผูกพันของพวกเขาก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ไปด้วย เรื่องราวความรักที่หลายคนรอคอยจะปรากฏให้ฟินกันเป็นระยะ หากได้ติดตามจะอดตกหลุมรักทั้งถังฟั่นและสุยโจวไม่ได้เลยค่ะ แจ่มใสนำตัวอย่างฉากฟินของถังฟั่นและสุยโจวมาฝาก หากเพื่อนๆ ต้องการอ่านเต็มๆ พบกันใน ‘รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ (1-7 และเล่มพิเศษ)’ นะคะ ขณะหลับใหล พลันถังฟั่นรู้สึกบั้นเอวคล้ายเพิ่มมือข้างหนึ่งขึ้นมา เขามุ่นคิ้วตามสัญชาตญาณ ยังนึกว่าลู่หลิงซีมาแกล้งตน จึงเอ็ดออกไปโดยไม่ลืมตา “อี้ชิง อย่าเล่น”
อีกหนึ่งโมเมนต์ชวนจิ้นจนสายวายละลายกันไปเลย
แรงนวดที่พอเหมาะพอเจาะทำให้ถังฟั่นผ่อนคลาย นัยน์ตาพริ้มปรือ “หืม?” ถังฟั่นเอียงคอ ไม่กระจ่างอีกฝ่ายหมายถึงผลกระทบอันใด ดื่มยาหมดในรวดเดียว ถังฟั่นรู้สึกขมไปทั้งปาก กระทั่งใบหน้าก็ย่นยู่เป็นดอกเบญจมาศเหี่ยว
‘รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่’ เรื่องราวการสืบสวนที่มาพร้อมกับความรักซึ่งสอดแทรกไว้ได้อย่างน่าติดตาม เรื่องนี้จึงเป็นนิยายที่นักอ่านทั้งสายวาย สายสืบสวน สายนิยายจีนย้อนยุค รวมถึงเพื่อนๆ ที่ไม่เคยอ่านแนวนี้เลยต้องห้ามพลาดนะคะ |