รัช ศก เฉิ ง ฮว่าปีที่สิบสี่ WatchLaKorn

Show

เรื่องย่อละคร รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่

เป็นอีกหนึ่งซีรีส์วายจากนิยายจีนที่กระแสดีอย่างล้นหลาม สำหรับ “รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่” เรื่องราวอ้างอิงประวัติศาสตร์ ย้อนไปในปีที่ 14 แห่งราชวงศ์หมิง อำนวยการสร้างโดย เฉินหลง ดารานักบู๊ชาวฮ่องกง นำแสดงโดย “ดาร์เรน เฉิน” หนุ่มหล่อหน้าใสรอยยิ้มละลายใจสาว รับบท ถังฟั่น ผู้พิพากษาขุนนางขั้น 6 ผู้รักชาติบ้านเมือง และมีคุณธรรม มาคู่กับ “ฟู่-เมิงป๋อ” ผู้รับบท สุยโจว องครักษ์เสื้อแพรกองปราบฝ่ายเหนือ ผู้คอยปกป้องช่วยเหลือ ถังฟั่น จนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

และยังมี วังจื๋อ รับบทโดย “หลิวเหยาหย่วน” เพื่อนสนิทของ ถังฟั่น ที่คอยช่วยเหลือกันอย่างลับๆ เป็นเรื่องราวในรัชศกเฉิงฮว่าปีที่ 14 แห่งราชวงศ์หมิง ถังฟั่น กับ สุยโจว ร่วมมือกันปิดคดีบุตรชาย โหวกง ทำให้เกิดมิตรภาพความสัมพันธ์ขึ้น แม้เป็นขุนนางมีชื่อเสียง ถังฟั่น ก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างสมถะเช่าบ้านอยู่ วันหนึ่งเกิดเหตุ แม่นางจางซื่อ ผู้เป็นเจ้าของบ้านเสียชีวิตในห้องปิดตาย เมื่อสืบสวนก็นำไปสู่การจับตัว หลี่มั่น สามีของผู้ตาย ถังฟั่น ออกจากเมืองหลวงไปสืบคดีที่เหอหนัน เพราะเกิดคดีคนหายตัวไปจำนวนมาก ปรากฏว่าฆาตกรก็ยังคงเป็น หลี่มั่น นักโทษคดีเก่าที่แหกคุกออกไป และในที่สุด ถังฟั่น กับ สุยโจว ก็สามารถเปิดเผยความจริงทำลายแผนลับที่จะกบฏของ ซั่งหมิง ผู้บัญชาการสำนักบูรพา จะเข้มข้นแค่ไหน ติดตามได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 22.00 น.  และรีรันวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00 น. ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และแอปทรูไอดี ระบบเสียง 2 ภาษาพร้อมซับภาษาไทย เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 29 เมษายน 2563

นิยายแนะนำ

บันเทิงไทยรัฐ

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่

The Sleuth of Ming Dynasty ช่อง True4U

"รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่" เรียกว่า "Sherlock Holmes" ของราชวงศ์หมิง ตัวเอกได้รับการยกย่องว่าเป็นแบบจำลองของโฮล์มส์กับ จอห์น วัตสัน แห่งราชวงศ์หมิง โดยที่ตัวเอกอย่าง "ถังฟั่น" มีบุคลิกเป็นบัณฑิดอ่อนแอแต่มีความสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์สูง กับ "สุยโจว" ผู้เย็นชามากด้วยฝีมือการต่อสู้และมีความแข็งแกร่งทรงพลัง อีกทั้งยศและตำแหน่งยังสูงศักดิ์อีกด้วย ขณะเดี่ยวกันเขาก็มีค้นที่ละเอียดอ่อนคือทักษะการทำอาหารระดับมิชลิน
สตาร์


ในสมัยราชวงศ์หมิง ในช่วงระหว่างปีที่สิบสี่ของรัชศกเฉิงฮว่า 'ถังน' ผู้พิพากษาแห่งศาลซุ่นเที่ยน และ 'สุยโจว' องครักษ์เสื้อแพร คู่หูของเขาได้ร่วมกันไขคดีด่างๆ ภายใต้ปริศนาของกลุ่มลัทธิบัวขาว ที่ต้องการโค่นล้มบัลลังก์ จักรพรรดิ์ เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อถังฟั่นตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าคนตาย เพราะดันเป็นคนสุดท้ายที่ปะทะกับคุณชาย
ใหญ่แห่งจวนอู่อันโหวก่อนคุณชายผู้นี้จะถูกพบเป็นศพ! คดีพัวพันผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ทางของถังฟั่นเอาเสียเลย แต่
ความยุติธรรมในหัวใจทำให้ผู้พิพากษารูปงามต้องหาคนร้ายตัวจริงออกมา ล้างมลทินให้สาวใช้ผู้บริสุทธิ์ ขณะเดียวกัน

'สุยโจว่'นายกองปากหนักประจำสำนักองค์รักษ์เสื้อแพร หนึ่งในขั้วอำนาจหลักแห่งราชสำนักต้าหมิง ก็จับตามองการ
ท่างานของถังฟั่นอย่าง ใกล้ชิด ขอดูซิว่าอีกฝ่ายจะเป็นขุนนางน้ำดีมีอุดมการณ์ดั่งเช่นที่เจ้าตัวเอ่ยอ้างจริงหรือไม่!
เรื่องราวดำเนินไปด้วยความสนุกตื่นเต้น และลุ้นว่าใครกันแน่คือผู้ร้ายตัวจริง นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ค่อยๆ พัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป มีความละมุนอยู่ในคำพูดและการกระทำของตัวละคร จนนักอ่านชาวจิ้นเคยวิจารณ์นิยายเรื่องนี้ไว้ว่าเป็นนิยายสืบสวนสอบสวนจีนโบราณที่โรแมนติกทีสดเลยที่เดียว

เล่ม 2
ㆍ พระสหายร่วมเรียนขององค์รัชทายาทเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา! เหตุการณ์เกิดในวัง... ภายหลังกินของหวานที่ส่งมาโดย "วั่นกุ้ยเฟย" และเป็นที่รู้กันทั่วว่าวั่นกุ้ยเฟยร้ายกาจต่อหน่อเนื้อเชื้อไขของจักรพรรดิ เพียงใด "ถังฟั่น" ถูก "วังจื่อ" ลากตัวมารับเผือกร้อนนี้ด้วยกัน เงื่อนไขคือต้องคลี่คลายคดีนี้ซึ่งเป็นพระบัญชาโดยตรงจากองค์เหนือหัว ขณะเตียวกันก็ต้องไม่ให้พัวพันมาถึงวั่นกุ้ยเฟยด้วย


ㆍ คนนั้นก็ห้ามทำให้ไม่พอใจ คนนี้ก็ห้ามล่วงเกิน แล้วผู้พิพากษาตัวเล็ก ๆ อย่างถังฟั่นจะเอาอย่างไรดีล่ะเนี่ย ยังมี... ท่านผู้บัญชาการสำนักประจิมวังจื่อ ตลอดช่วงเวลานี้ออกจะอยู่ใกล้ชิดและให้ความสนิทชิดเชื้อกัน เกินไปหรือไม่ บอกตามตรงว่าเขารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ และไม่สบายกายสบายใจเอาเสียเลย!


เล่ม 3
ㆍ 'เพราะผลงานไขคดีที่อยู่ใต้พระเนตรพระกรรณองค์จักรพรรดิ ทำให้ในที่สุดถังฟั่นก็ได้เลื่อนขั้น ย้ายเข้ากรม
อาญาไปเป็นหัวหน้กองพลาธิการ แต่การมารับตำแหน่งนี้ของเขาออกจะลัดขั้นตอนและกะทันหันไปสักหน่อย จึงไปขัดหูขัดตาขัดแข้งขัดขาหลายคนในกรมอาญาเข้า เฮ้อ! ใช่ว่าเขาเลือกอะไรได้เสียที่ไหน ทีเลือกได้คือยืนหยัดในอุดมการณ์ของตนต่อไปนั่นล่ะ!

ㆍ แต่แล้วจุดเปลี่ยนในชีริตการเป็นขุนนางของเขาก็มาถึง...เกิดคดีแปลกประหลาดและแสนจะสะเทือนขวัญขึ้นในพื้นที่การดแลของถังฟั่น ณ ที่ตั้งสุสานอดีตจักรพรรดิมีชาวบ้านสูญหายปริศนาสิบกว่าชีวิต ยังมีเสียงร้องไห้โหยหวนที่ไม่รู้ต้นตอ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือโจรขุดสุสาน หรือเปื้นอาถรรพ์ของ เทพแม่น้ำ ตามความเชื่อของชาวบ้านกันแน่ ถังฟั่นพร้อมด้วยสุยโจวสหายสนิท กำลังจะเดินทางไปไขปริศนาสุสานอดีตจักรพรรดิ์แล้ว!

เล่ม 4
ㆍ อันที่จริงการไม่ต้องเป็นขุนนางแล้วก็มีข้อดีมากมายหนึ่งในนั้นคือมีอิสรเสรี อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป ด้วยเหตุนี้ถังฟั่นจึงถือโอกาสว่างเว้นจากหน้าที่อย่างไม่มีกำหนดเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวกับหลานชายที่ออกเรือนไปอยู่ต่างเมือง เพียงเพื่อที่จะพบว่าพวกนางแม่ลูกหาได้มีชีวิตที่อบอุ่นอภิรมย์ ที่แท้หลังถังอวี๋แต่งเข้าสกุลเฮอต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้างกัน ถังฟั่นซึ่งบัดนี้ไม่มียศศักดิ์อำนาจแล้วจะช่วยเหลือนางได้กี่มากน้อย


ㆍ ทว่า... เรื่องในบนสกุลเฮอยังหาทางออกที่เหมาะสมไม่ได้ พวกเขาก็ต้องเข้าไปพัวพันกับคดีฆ่าคนตายใน
คฤหาสน์คหบดีประจำอำเภอ เมื่อผู้ต้องสงสัยว่าสังหารบุตรีคนเล็กของคหบดีผู้นั้น คือหลานชายวัยเพียง
เจ็ดขวบของถังฟั่น!


เล่ม 5
ㆍ ชายแดนต้าถงเป็นพื้นที่อ่อนไหวมาตลอด แต่นับจากวังจื๋อไปเป็นเสนาธิการ ทัพต้าหมิงก็แทบไม่เคยปราชัยในศึกกับชนเผ่านอกด่านเลย ทว่าไม่นานมานี้สภาพการณ์กลับผกผันตรงกันข้าม เมื่อทุกครั้งที่ทัพต้าหมิงไล่กวดข้าศึกไปถึงบริเวณทะเลสาบ ก็มีอันต้องเผชิญกับปรากฎการณ์วิปริตผิดแผก จนสาบสูญทั้งกองทัพ!


ㆍ ลือว่านี่เป็นเวทมนตร์ของ หลี่จื่อหลง หัวหนลัทธิบัวขาว ผู้ซึ่งบัดนี้มีศักดิ์เป็นถึงราชครูของพวกดำตำ กีครั้งกี่หนแล้วที่เหล่าทหารหาญไปแล้วไปลับ ขวัญกำลังใจกองทัพดิ่งต่ำถึงขีดสุด ศัตรูควบคุมได้กระทั่งเมฆหมอกพายุฝนลมทราย ยังได้ยินว่านักพรตมารผู้นั้นสามารถสั่งการภูตทหารจากเมืองผีให้ล้อมโจมตีได้อีก! ด้วยเหตุนี้ ถังฟั่นซึ่งชื่อเสียงขจรขจายว่าเป็น เทพผู้ไขคดี' จึงได้เดินทางมาถึงยังเมืองตำถงแล้ว...!!

เล่ม 6
ㆍ เดิมที่ถังฟั่นมาซูโจวด้วยต้องมาแก้ไขกรณีขุนนางสามฝ่ายมีข้อพิพาทกัน เพราะต่างคนต่างเขียนฎีกาโยน/ความผิดกันไปมาว่าเหตุใดเสบียงที่แจกจ่ายราษฎรผู้ประสบภัยอดอยากจึงไม่เพียงพอ แต่กลับกลายเป็นยิ่งขุดยิ่งพบความเน่าเหม็นบัดชบของคนทำให้ถังฟั่นผู้ซึ่งสุภาพอ่อนโยนเสมอมาถึงครา 'โกรธ'จริงๆ แล้ว

ㆍ คดีนี้มีคนใหญ่คนโตมากมายอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะกลุ่มอำนาจวั่นและสำนักบูรพา หากถังฟั่นก็ปะทะกับพวกเขาบ่อยเสียจนเรียกได้ว่า 'สนิทชิดเชื้อ' ส่วนตำแหน่งขุนนางของเขาก็เดี๋ยวแต่งตั้งเดี๋ยวถอดถอนจน'ชิน' ไปนานแล้วเช่นกันถังฟั่นจึงยอมหักไม่ยอมงอ เปิดโปงความจริงอย่างคนไม่มีอะไรจะเสียอีกครั้ง!


เล่ม 7
ㆍลัทธิบัวขาวถูกขุตรากถอนโคน กล่าวได้ว่าเก้าในสิบส่วนเป็นผลงานของถังฟั่น เขาจะเติบโตในหน้าที่การงาน ขั้นตำแหน่งเลื่อนขึ้นพรวดพราดก็หาใช่เรื่องน่าแปลกใจ บัดนี้ถังฟั่น ถังรุ่นชิง ก็ได้กลายเป็น 'ถังเก๋อเหล่า'มหาเสนาบดีแห่งสภาขุนนางแล้ว!


ㆍ ช่วงเวลานี้บ้านเมืองนับว่าสงบสุข หากไม่ใช่กับในราชสำนักและวังหลวงกลุ่มอำนาจวันยังคงไม่วางมือจากภารกิจเปลี่ยนตัวรัชทายาททั้งยิ่งต้องเร่งรัดลงมือเพราะองค์จักรพรรดิพระวรกายอ่อนแอขึ้นทุกวันๆ งานที่ใต้เท้าถังต้องสะสางก็เยอะมากพอแล้ว ยังต้องแบ่งแยกสมองมาขับเคี่ยวกับคนเหล่านี้อีก แต่นี่คือแนวรบแห่งสุดท้ายที่เขาต้องเข้าร่วม ทั้งหมดทั้งมวลมิใช่เพื่ออนาคตตน ทว่าเพื่ออนาคตของแผ่นดินต้าหมิงในรัชศกใหม่!!

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 1 วันพุธที่ 29 เมษายน 2563

พานปิน ผู้ว่าการศาลซุ่นเทียนเห็นคดีที่กองพะเนินราวกับภูเขาก็ปวดหัวไม่หยุด จึงออกคำสั่งให้หาตัวถังฟั่น ผู้พิพากษาคนเก่งกลับมาคลี่คลายเสีย ถังฟั่นที่กำลังกินเนื้อย่างจึงต้องจำใจกลับมาตัดสินคดี เขากินไปพร้อมกับตัดสินคดีไปอย่างรวดเร็ว  ขณะกลับที่พัก ถังฟั่นได้เข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกเจิ้งเฉิงหยอกล้อ จนเกิดเป็นความบาดหมางระหว่างทั้งคู่ และไม่ไกลจากตรงนั้น หานเจ่าสหายร่วมเรียนของรัชทายาทกำลังนั่งรถม้าไปยังจวนตระกูลหานอย่างที่เคยเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม ในคืนนั้น หานเจ่ากลับหายตัวไป เบื้องบนสั่งให้สุยโจว องค์รักษ์เสื้อแพรไป่ฮู่รับผิดชอบสืบคดีนี้ สุยโจวที่เพิ่งจับผู้ร้ายนอกเมืองได้จึงต้องรีบเข้าเมือง

ด้านวังจื๋อ ขันทีผู้บัญชาการสำนักประจิม เขามาถึงบ้านขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงผู้หนึ่ง และได้ใช้วิธีพิเศษจัดการขุนนางผู้นี้ให้ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายโดยไม่โวยวาย  ขณะที่กำลังเก็บงานก็ได้รับคำสั่งให้เข้าพบจากว่านกุ้ยเฟย ผู้เมตตาเขาประหนึ่งแม่กับลูก

ถังฟั่นถูกพานปินเรียกตัวด่วนอีกครั้ง พานปินแจ้งกับเขาว่ามีคดีคนตายที่หอฮวานอี้ เป็น 1 หญิงและ 1 ชาย ชายผู้ตายคือคุณชายรองเจิ้งเฉิง  ส่วนเด็กหญิงนั้นไม่ทราบสถานะ

อู่อันโหว บิดาของเจิ้งเฉิงเสียใจมากที่ลูกรักต้องมาจากไป แต่เพื่อชื่อเสียงของตระกูลจึงขอร้องให้พานปินจัดการเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องเล็ก พานปินเกรงใจอู่อันโหวจึงไม่กล้าออกความเห็นคัดค้าน มีเพียงถังฟั่นที่รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัยจนไม่น่ารีบปิดคดี จึงพยายามโน้มน้าวพานปินอย่างเต็มที่เพื่อให้ตัวเองได้สืบคดีต่อ ทั้งยังสั่งให้ตรวจสอบศพของเด็กหญิงอย่างละเอียดด้วย

ส่วนด้านสุยโจวก็เริ่มสืบคดีหานเจ่าที่หายตัวไป โดยเริ่มต้นจากขันทีและนางกำนัลที่เข้าเวรในวันนั้น ตลอดจนถึงเส้นทางที่หานเจ่านั่งรถผ่านทุกวัน ระหว่างการสืบพบว่าเส้นทางที่หานเจ่านั่งรถม้าในวันเกิดเหตุนั้นมีเหตุวิวาทกลางทางจนรถม้าต้องหยุดอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และเป็นการวิวาทระหว่างเจิ้งเฉิง บุตรชายของอู่อันโหวกับถังฟั่น ผู้พิพากษาแห่งศาลซุ่นเทียน

ถังฟั่นรู้จากเหล่าซุนฝ่ายชันสูตรศพว่าศพเด็กหญิงที่เสียชีวิตนั้นที่แท้เป็นเด็กชาย และแม้ว่าทั้งคู่จะเสียชีวิตจากยาพิษ แต่ก็ไม่ใช่พิษชนิดเดียวกัน นอกจากนั้น เวลาที่เด็กชายเสียชีวิตก็ยังเร็วกว่าเจิ้งเฉิงอยู่มาก ถังฟั่นที่ยังคิดอะไรไม่ออกจึงลากตัวพานปินไปกินอาหารที่ร้านตงจี้ และพบว่าบะหมี่วันนี้ไม่เหมือนเดิม พลันเมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสุยโจวที่ปลอมตัวเป็นพ่อครัว กำลังพิจารณาตนอยู่เช่นกัน

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 2 วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน 2563

ถังฟั่นกินบะหมี่แล้วรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เมื่อเขาได้พบ “พ่อครัวคนใหม่” ก็ใช้ความสามารถในการพิจารณาคนตัดสินได้ทันทีว่าคนผู้นี้ต้องเป็นองครักษ์เสื้อแพร ซึ่งแท้จริงแล้วคนผู้นี้คือสุยโจวปลอมตัวมา เพราะจากการสืบสวนในคดีหานเจ่าทำให้เขาสงสัยในตัวถังฟั่น จึงตั้งใจมาแอบลอบสังเกตบุคคลผู้นี้ เวลาเดียวกัน วังจื๋อก็มาถึง และคิดจะนำตัวถังฟั่นไปสอบสวนเช่นกัน แต่สุยโจวชิงลงมือก่อนและนำตัวถังฟั่นไปขังที่กองปราบเหนือองค์รักษ์เสื้อแพร เพราะสุยโจวรู้ว่าวังจื๋อแห่งสำนักประจิมต้องใช้วิธีโหดเหี้ยมแน่ จึงชิงพาตัวไปคุ้มครองก่อน

เมื่อถังฟั่นรู้ความจริงจึงร่วมมือกับสุยโจวสืบคดี เมื่อได้ข้อมูล “คดีหานเจ่า”เพิ่มขึ้น ทั้งคู่พบว่าที่แท้เด็กหญิงที่เสียชีวิตบนเตียงเจิ้งเฉิงคือหานเจ่าที่ถูกปลอมตัวเป็นผู้หญิง ตั้งแต่นั้นทั้งสองจึงนำ “คดีเจิ้งเฉิง” และ “คดีหานเจ่า”มารวมกันแล้วสืบร่วมกัน

การทำคดีของทั้งคู่ถูกขัดขวาง สำนักบูรพาเข้ามาแทรกแซงและนำศพเจิ้งเฉิงไป อีกทั้งหลังจากนั้นไม่นาน สำนักบูรพาเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ ศพของเจิ้งเฉิงพลอยถูกเผาไปด้วย ทั้งนี้ ระหว่างการสืบคดี ถังฟั่นสังเกตเห็นพิรุธของเฝิงชิงจือ คนดังแห่งหอฮวานอี้

พร้อมกันนี้ วังจื๋อได้ยื่นมือเข้าไปในการสืบคดีของสุยโจวและถังฟั่น ทั้งยังช่วยเหลือสุยโจวคลี่คลายโจทย์ยาก ทั้งนี้ หลังจากที่สอบถามจากเฝิงชิงจือแล้ว ถังฟั่นถูกบุกเข้าทำร้าย โชคดีได้สุยโจวเข้ามาคุ้มครองได้ทัน ถังฟั่นจึงรอดมาได้ ทั้งคู่ปรึกษากันถึงเรื่องคดี และพบว่าศพที่ถูกเผานั้นไม่ใช่ศพของเจิ้งเฉิง ขณะที่ยังคิดอะไรไม่ออก คดีกลับมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้น เพราะองครักษ์เสื้อแพรพบรถม้าในคดีหานเจ่าที่หายไป ทั้งคู่ติดตามรถไปจนถึงเมืองเถี่ยซื่อ และที่นี่ ถังฟั่นได้พบตั่วเอ๋อร์ลาเป็นครั้งแรก

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 3 วันพุธที่ 6 พฤษภาคม 2563


ถังฟั่นได้นอนพักร่วมกับตั่วเอ๋อร์ลา 1 คืน เป็นครั้งแรกที่เขาพบว่าหญิงสาวต่างเผ่าที่ดูน่ากลัวคนนี้ก็มีความงามน่าประทับใจ น่าเสียดายที่เรื่องดีๆมักเกิดเพียงครู่เดียว เมื่อตั่วเอ๋อร์ลาตื่นขึ้นก็กลับสู่นิสัยเด็ดขาดเหมือนเดิม ถังฟั่นหนีหัวซุกหัวซุนท่ามกลางความรู้สึกทั้งเศร้าทั้งโกรธออกจากย่านเถี่ยซื่อ

ถังฟั่นหนีมายังกองปราบฝ่ายเหนือขององครักษ์เสื้อแพร สุยโจวกำลังสอบปากคำโจรชาวหว่าล่าคนหนึ่ง ซึ่งโจรได้กล่าวถึงบุคคลสำคัญของคดีชื่อหลินเฉาตง

ตอนแรกนั้นหลินเฉาตงคือลูกน้องที่ติดตามเถ้าแก่หลี่มาที่ย่านเถี่ยซื่อ ด้วยความฉลาด พูดน้อยและซื่อสัตย์จึงได้รับความเชื่อถือจากเถ้าแก่หลี่ให้ไปทำหลายเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้ หลินเฉาตงจึงค่อยๆมีบทบาทขึ้นมาในย่านเถี่ยซื่อ หลายวันก่อน หลินเฉาตงออกเงินจ้างคนวางแผนจะทำการชิงทรัพย์ และยังซื้อใบผ่านด่านอีก 2 ใบ

ถังฟั่นรีบรุดเข้าไปสอบถามรายละเอียดเรื่องรถม้าของจวนหาน โจรบอกเขาว่าตนเองมีอาชีพค้าขายศพอยู่แล้ว วันนั้นพวกเขาเห็นชายแก่ลักษณะเหมือนคนบ้า ซึ่งต่อสู้กับพวกเค้าอย่างไม่กลัวตาย พวกเค้าคิดแค่ว่าจะได้ศพไปขายอีกจึงจัดการเก็บชายแก่คนนี้เสีย ไม่นึกว่าเมื่อเข้าไปดูภายในรถม้า ปรากฏว่ามีศพของเด็กชายอยู่ แต่ก็ยังไม่คิดอะไรมากและเตรียมนำศพไปขายเหมือนปกติ

พวกโจรยังบอกถังฟั่นอีกว่า ต่อมามีคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนของหลินเฉาตงติดต่อซื้อศพโดยระบุเป็นศพหญิงและชายอย่างละ 1 คน ตอนนั้นพวกเขาไม่มีศพผู้หญิงอยู่ในมือ จึงปลอมศพเด็กชายนั่นให้เป็นศพเด็กผู้หญิงแล้วขายออกไป ฟังดังนี้แล้ว ถังฟั่นรีบสรุปกับสุยโจวถึงฆาตกรตัวจริงว่าคือเฝิงชิงจือกับหลินเฉาตง

ทางด้านวังจื๋อก็มีวิธีจนรู้ที่มาของยาพิษ พวกเขาทั้งสามรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร เบาะแสยิ่งชัดเจนมากขึ้นทุกที หลังจากการหารือกันแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจวางแผนจับเฝิงชิงจือกับหลินเฉาตง

ไม่นึกเลยว่าเมื่อเริ่มปฎิบัติการจับผู้ร้ายกลับมีคนแอบตัดหน้าจะมากำจัดเฝิงชิงจือกับหลินเฉาตง ทำให้เหตุการณ์สับสนไปช่วงหนึ่ง หลังจากการเสี่ยงหนีตาย หลินเฉาตงกลับถูกลูกธนูลึกลับยิงเข้าใส่จนเสียชีวิต .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 4 วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม 2563

เฝิงจือชิงเผยความจริงว่า นางกับหลินเฉาตงรักกันมาตั้งแต่วัยเยาว์และสัญญาจะแต่งงานกัน แต่บ้านเฝิงตกทุกข์ได้ยาก เฝิงจือชิงจึงต้องกลายมาเป็นนางโลม หลินเฉาตงอยากไถ่ตัวหญิงคนรัก แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้ไม่สามารถนำเงิน 500 ตำลึงมาไถ่ตัวนางได้ สองคนจึงจำใจแยกจากกันชั่วคราว โดยหลินเฉาตงจะไปสะสมเงินมาให้ครบ

ในช่วงเวลานั้น มีคนลึกลับปรากฏตัวขึ้นและนำยาบำรุงพิเศษมาให้หลินเฉาตง โดยบอกเขาว่าหากสามารถเอาไปให้เจิ้งเฉิงดื่มได้ จะช่วยไถ่ตัวเฝิงจือชิงให้เอง หญิงชายที่กำลังจนตรอกจึงตัดสินใจรับงานนี้ จนมารู้ภายหลังว่าเกิดการฆาตกรรมกันขึ้น

ถังฟั่นและพวกวางแผนว่า ด้านหนึ่งให้ออกข่าวว่าหลินเฉาตงยังไม่ตายผ่านทางพานปิน และการสืบคดีมีความคืบหน้าอย่างมาก อีกด้านหนึ่งถังฟั่นปลอมตัวเป็นหลินเฉาตงแล้วเฝ้ารอ จนในที่สุดก็จับตัวคนที่มาลอบฆ่าได้ ต่อมาพานปินพบว่าหลินเฉาตงนั้นตายไปแล้ว ตัวเองเป็นฝ่ายถูกลูกน้องหลอก จึงเรียกร้องให้ถังฟั่นมาปิดคดีด้วยความเดือดดาล

ถังฟั่นให้ทุกคนระงับสติอารมณ์แล้วไปจัดการงานที่อยู่ในมือเสียก่อน ตัวเขาเองเมื่อกลับบ้านก็พบว่าขนมที่ตงเอ๋อร์ สาวใช้บ้านข้างๆ มาส่งมีรสชาติเปลี่ยนไป ยังไม่ทันได้ถามไถ่ก็ถูกตั่วเอ๋อร์ลามาสู่ขอ ถังฟั่นไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานมาก่อน จึงต่อต้านอย่างหนัก จนเกิดเป็นความบาดหมางระหว่างกัน

คนทั่วไปคิดว่าคดีจบลงแล้ว เซวียหนิงกลับนำข่าวมาบอกว่า คืนนี้ที่จวนอู่อันโหวจะมีการขุดหลุมฝังศพ
คืนนั้น ดวงจันทร์สว่างอยู่กลางฟ้า ก่อนที่ถังฟั่นกับสุยโจวจะไปปรากฏตัวอยู่ในกลุ่มผู้ขุดหลุมศพ ถังฟั่นได้บอกถึงการคาดคะเนของตัวเองไว้ก่อนแล้ว สิ่งที่พิสูจน์ข้อสันนิษฐานของถังฟั่นได้ดีที่สุด คือศพที่อยู่ในโลง เมื่อหลักฐานครบถ้วน เจิ้งจื้อก็ยอมรับผิด

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 5 วันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563

ขณะที่ถังฟั่นกำลังคุยกับเผยหวายเรื่องยาพิษ ตงเอ๋อร์ก็เข้ามาอย่างรีบร้อน นางร้องไห้แล้วบอกว่าอนุภรรยาของบ้านหลี่ออกคำสั่งให้ถังฟั่นย้ายออก ส่วนตัวนางเองก็ถูกอนุภรรยาซื้อตัวไว้แล้วเช่นกัน ถังฟั่นได้ยินดังนั้นก็รีบปลอบใจตงเอ๋อร์และว่าเขาจะซื้อตัวนางกลับมา

ถังฟั่นไปเจรจากับอนุภรรยาบ้านหลี่ เดิมทีนั้นนางก็เกลียดถังฟั่นเข้ากระดูกดำอยู่แล้ว ครั้งนี้จึงจงใจโยกโย้ไม่ตกลง นอกจากจะไล่เขาให้รีบออกจากบ้านแล้ว ยังเพิ่มค่าตัวของตงเอ๋อร์เป็น 50 ตำลังอีกด้วย ถังฟั่นผู้ยากจนจึงจำใจกลับออกมาและเตรียมตัวย้ายออก ขณะเดียวกันก็ต้องสะสมเงินเพื่อไถ่ตัวตงเอ๋อร์

เช้าวันถัดมาสุยโจวมาหาถังฟั่นเพื่อปรึกษาเรื่องคดี เมื่อรู้ว่าถังฟั่นไม่มีที่ไป เขาจึงเสนอให้ถังฟั่นไปอยู่บ้านตัวเองก่อนชั่วคราว เมื่อถังฟั่นมาถึงบ้านสุยโจว ถังฟั่นซาบซึ้งใจในความใจกว้างของเขามาก พร้อมทอดถอนใจที่ตัวเองเมื่อเปรียบกับผู้อื่นแล้วช่างไม่ได้ดั่งใจ เวลาเดียวกัน ศาลซุ่นเทียนส่งคนมาเรียกตัวถังฟั่น โดยบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ถังฟั่นจึงรีบไปเพื่อพบว่าเป็นตั่วเอ๋อร์ลากับอูหยุนปู้ลาเก๋อมาก่อกวน หลังการวิวาททั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ว่าอีก 3 วันข้างหน้า ให้มาเอาตะเกียบหยกของถังฟั่นคืนไป

ถังฟั่นที่กว่าจะหาเงินมาได้ครบ 50 ตำลึงรีบไปไถ่ตัวตงเอ๋อร์ แต่กลับพบว่าอนุภรรยาได้ขายตงเอ๋อร์ไปยังหอฮวานอี้เสียแล้ว ถังฟั่นร้อนใจมากและรีบตามไปหอฮวานอี้ เขาเห็นตงเอ๋อร์ที่ถูกบังคับให้แต่งตัวกำลังยกน้ำชาให้แขก และมีแขกที่เจตนาไม่บริสุทธิ์ติดใจตงเอ๋อร์แล้ว ถังฟั่นรีบติดต่อแม่เล้า ซึ่งเมื่อนางเห็นท่าทีของถังฟั่นก็รีบโก่งราคาเป็น 200 ตำลึง ถังฟั่นจึงจำเป็นต้องวางแผน

เมื่อกลับมายังบ้านสุยโจว ถังฟั่นคิดไปคิดมาก็คิดได้ว่าน่าจะแกล้งเจ้าของบ้านซักครั้ง จึงเข้าครัวทำอาหารสูตรเด็ด สุยโจวกลับมาก็มองแผนของถังฟั่นออก ถึงแม้อาหารสูตรเด็ดนั้นแทบกลืนไม่ลง แต่เมื่อคิดถึงว่าเหตุการณ์นี้เร่งด่วน จึงตัดสินใจช่วยถังฟั่นเอาตัวตงเอ๋อร์กลับมา ซึ่งภายใต้การช่วยเหลือจากสุยโจว ตงเอ๋อร์ก็เป็นอิสระ และกลายเป็นเหมือนน้องสาวของถังฟั่นและสุยโจว

ทางด้านในวัง ความสัมพันธ์ระหว่างไทเฮากับว่านกุ้ยเฟยแย่ลงอีกแล้ว แรงกดดันในการปิดคดีก็มากขึ้น ถังฟั่นผู้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาสักระยะเริ่มมองคดีออก หลังจากคำนึงถึงเบาะแสต่างๆ เขาจึงขอร้องให้สุยโจวทำในสิ่งที่น่าลำบากใจ นั่นคือการเข้าวัง หลังการเข้าไปตรวจสอบในวัง ทั้งยังมีโอกาสพบรัชทายาท ทำให้ได้เบาะแสสำคัญมา

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 6 วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563

เพื่อสืบคดีต่อ ถังฟั่นขอยาพิษที่ทำให้หานเจ่าเสียชีวิตจากวังจื๋อ และจากการยอมเอาตัวทดสอบพิษของหมอเทวดาเผยหวาย ถังฟั่นกับสุยโจวจึงได้ข้อมูลที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่ง ยาพิษชนิดนี้ใช้ปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็เห็นผล ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า การโดนพิษของหานเจ่าไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุ แต่ฆาตกรคำนวณเอาไว้ดีแล้ว  ทั้งคู่จึงสืบต่อจากเบาะแสยาพิษนี้ จนไปยังบ้านขันทีน้อยที่ตายด้วยเหตุการณ์ดังกล่าว สุยโจวและถังฟั่นสอบถามจากพ่อและแม่ของขันที โดยหวังว่าจะได้เบาะแสเพิ่มเติม

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น เมื่อวังจื๋อได้ข้อมูลจากถังฟั่น จึงสอบถามว่านกุ้ยเฟยที่ถูกดึงเข้าสู่คดีนี้ด้วย โดยหวังว่านางจะมอบตัวคนรับใช้ที่ใกล้ชิดกับหานเจ่าออกมา ในตอนแรกว่านกุ้ยเฟยโทษวังจื๋อว่าไม่เชื่อใจนาง แต่สุดท้ายเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ต้องยอมปล่อยขันทีข้างกายออกมา

ในระหว่างการสืบสวน วังจื๋อนำหลักฐานที่หามาได้บวกกับเบาะแสจากถังฟั่นมาเทียบกัน และวิเคราะห์ได้ว่าผู้ที่วางยาพิษคือหัวหน้าขันทีฝ่ายในหลิวเซี่ยง ขณะเดียวกันทางนอกวัง การสืบสวนของถังฟั่นกับสุยโจวค่อยๆชัดเจนขึ้นมาทีละน้อย จากเบาะแสต่างๆ ล้วนมุ่งไปยังหลิวเซี่ยง ดังนั้น สุยโจวและถังฟั่นจึงรีบเข้าวังเพื่อจับกุมตัวเขา แต่ทว่าเมื่อไปถึงกลับสายไปเสียแล้ว เนื่องจากวังจื๋อได้ชิงลงมือสังหารหลิวเซี่ยงไปแล้ว นอกจากนั้น วังจื๋อยังอ้างชื่อเสียงของฝ่ายในมาเป็นเหตุผลสั่งให้ถังฟั่นกับสุยโจวรีบจบคดี ทั้งยังสั่งห้ามทั้งคู่พูดถึงคดีนี้อีกเด็ดขาด แม้ถังฟั่นไม่พอใจการกระทำของวังจื๋อมาก แต่เมื่อเรื่องเกี่ยวพันถึงฝ่ายในเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อจบคดี วังจื๋อถูกเบื้องบนส่งไปยังเหลียวตงเพื่อคุมการเปิดตลาดม้าครั้งใหม่

ส่วนสุยโจว เนื่องจากปิดคดีได้ติดต่อกัน จึงได้รับรางวัลและการเลื่อนตำแหน่งจากราชสำนัก นอกจากนั้นยังได้รับภาระกิจใหม่ เบื้องบนส่งให้เขาไปสืบคดีที่ถูกร้องเรียน ณ เมืองจี๋อัน มณฑลเจียงซี ก่อนเดินทาง เจี่ยขุยมาหาสุยโจว และขอให้เขาช่วยจัดการเรื่องอนุภรรยาให้ สุยโจวก็ยอมช่วยเหลือ เมื่อสมประสงค์แล้วเจี่ยขุยก็เข้าสำนักประจิมอย่างไร้กังวล แล้วร่วมติดตามวังจื๋อไปยังเหลียวตง

หลังจากส่งสุยโจวกับวังจื๋อแล้ว ถังฟั่นก็พบกับตั่วเอ๋อร์ลาที่มาทวงความผิดกับเขา ระหว่างที่โต้เถียงกัน ตั่วเอ๋อร์ลาโมโหจนทำตะเกียบหยกของถังฟั่นหัก ถังฟั่นโกรธมาก จนลงมือกับตั่วเอ๋อร์ลา

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 7 วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2563

ถังฟั่นโกรธมากที่ตั่วเอ๋อร์ลาทำตะเกียบหยกหัก เนื่องจากเป็นของต่างหน้าพ่อและแม่ของเขา จึงจะหาเรื่องนางให้ได้ แต่ตั่วเอ๋อร์ลาไม่เข้าใจภาษาฮั่น ดังนั้นจึงได้แต่ใช้หมัดคุยกัน น่าสงสารถังฟั่น บัณฑิตผู้ไร้แม้แต่เรี่ยวแรงจะจับไก่สักตัวจึงโดนตั่วเอ๋อร์ลาทุบตี ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต้องเรียกว่าเริ่มต้นจากที่ถังฟั่นถูกตี แต่ตั่วเอ๋อร์ลาก็เห็นถึงความไม่ยอมแพ้ของถังฟั่น และยิ่งเมื่อเข้าใจเหตุผลของเขาแล้ว นางก็ยินดีให้เขาเอาคืน แต่เมื่อถึงคราวถังฟั่นลงมือบ้าง เขากลับสงสารนาง


ขณะเดียวกัน วังจื๋อที่กำลังเดินทางไปเหลียวตงก็พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์แถบนั้น เขารู้ว่าในพื้นที่เหลียวตง ต้องอาศัยตลาดม้าของต้าหมิงมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทว่า หากที่ใดมีตลาดม้าที่นั่นย่อมมีกลุ่มอำนาจอยู่ สำหรับต้าหมิงแล้ว การทำศึกที่ต่อเนื่องกันหลายปีทำให้กองทัพมีความต้องการใช้ม้าจำนวนมาก ดังนั้นการเปิดตลาดใหม่อีกครั้งจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญต่อการป้องกันประเทศ และเมื่อจะเปิด ย่อมต้องพิจารณาถึงความสมดุลระหว่างกลุ่มอำนาจด้วย เรื่องนี้ทำให้วังจื๋อกดดันมาก ยังดีที่เขารู้จักกับเฉินเยวี่ย นายพลแห่งเหลียวตง ผู้ยินยอมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อวังจื๋อ


ด้านสุยโจวก็ไปถึงเมืองจี๋อันแล้ว วัตถุประสงค์การมาของเขาคือสืบคดีทำร้ายนักโทษ แต่เมื่อสุยโจวได้พบกับนายอำเภอหวงจิ่งหลง ก็รู้สึกว่าคนผู้นี้ยุติธรรม ยอมหักไม่ยอมงอ ดูแล้วไม่เหมือนคนที่จะทำร้ายนักโทษได้เลย ขณะที่กำลังสืบเรื่อง สุยโจวได้รู้เพิ่มเติมว่า เมืองจี๋อันที่ดูสงบนั้น ที่แท้เกิดจากความกลัวของราษฎรที่มีต่อวิธีการลงโทษอันโหดเหี้ยมของหวงจิ่งหลง ประกอบกับเมื่อสุยโจวได้แลกเปลี่ยนกับหวงจิ่งหลงอยู่หลายครั้ง ก็ลงความเห็นได้ว่าคนผู้นี้ทำร้ายและสังหารนักโทษจริง อย่างไรก็ตาม สุยโจวก็ยังเคารพที่หวงจิ่งหลงรักความยุติธรรม เขาเสนอให้หวงจิ่งหลงติดตามเขาเข้าเมืองหลวง เพื่อให้กรมอาญาตัดสินว่าสิ่งที่ทำนั้นเกินไปหรือไม่ แต่ในวันที่ออกเดินทาง หวงจิ่งหลงกลับจับตัวสุยโจวเข้าคุกแทน

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 8 วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2563

สุยโจวแอบส่งข่าวเข้าเมืองหลวงว่าเขาถูกจับ  แต่ในหน่วยงานองครักษ์เสื้อแพรกลับไม่มีใครดูออก ยังดีที่เซวียหนิงนำเอกสารที่สุยโจวส่งมาให้ถังฟั่นดู ถังฟั่นรู้ทันทีว่าต้องมีความผิดปกติ จึงลองโน้มน้าวว่านทง ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรให้นำกำลังไปช่วย แต่ว่านทงไม่เห็นด้วย แล้วยังว่าถังฟั่นกังวลเกินไป เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรดี ถังฟั่นจึงแอบลงเรือไปกับเซวียหนิงมุ่งหน้าไปยังจี๋อันเพื่อช่วยสุยโจว

ขณะเดียวกันสุยโจวก็พยายามหนีออกจากคุก เขาต้องรับมือกับการทรมานของพวกหวงจิ่งหลง และยังต้องระแวดระวังพวกนักโทษด้วย ในช่วงนี้เองหวงจิ่งหลงทิ้งไพ่ตายของเขา คือให้หยางฝูปลอมตัวเป็นวังจื๋อไป หลอกล่อสุยโจว แต่กลับถูกสุยโจวจับได้ สุยโจวจึงรู้ว่าที่หวงจิ่งหลงกล้าจับขุนนางราชสำนักเข้าคุกโดยไม่เกรงอาญา เป็นเพราะเบื้องหลังมีวังจื๋อหนุนอยู่

กล่าวถึงวังจื๋อ เขาเองก็กำลังเจอปัญหา คืนก่อนที่ตลาดม้าจะเปิด ม้าทั้งหมดกลับถูกขโมยจนเกลี้ยง และที่ไม่น่าเชื่อคือ ม้าหลายร้อยตัวแต่กลับไม่เหลือร่องรอยใดเลย เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ พวกกลุ่มอำนาจในเหลียวตงต่างก็กล่าวโทษกันเอง เฉินเยวี่ยแนะนำให้วังจื๋อรีบหาแพะรับบาปเพื่อบรรเทาโทสะของกลุ่มอำนาจโดยไม่ต้องค้นหาความจริง วังจื๋อยังไม่ตัดสินใจทำตามคำแนะนำดังกล่าว ได้แต่พยายามหยุดความขัดแย้งไว้ชั่วคราว

ขณะเดียวกัน ในที่สุดถังฟั่นก็มาถึงจี๋อัน เขากับเซวียหนิงใช้แผนจนได้เข้าไปอยู่ในคุกและพบกับสุยโจว ทั้งคู่แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ถังฟั่นรู้ว่าหากต้องการโค่นหวงจิ่งหลง มีเพียงวิธีเดียวคือเชิญตัววังจื๋อมาที่นี่ เมื่อวางแผนเสร็จสิ้น ถังฟั่นรอดพ้นจากการติดตามของหวงจิ่งหลงมาได้ และรีบกลับเมืองหลวงพร้อมเซวียหนิง โดยไม่นึกว่ายังมีตัวปัญหาว่านทงรออยู่ ว่านทงใช้อำนาจให้คนไปจับตัวเซวียหนิงไว้ ซึ่งเมื่อถังฟั่นขาดการช่วยเหลือจากเซวียหนิงแล้ว ก็ไม่รู้จะไปเหลียวตงหาวังจื๋อได้อย่างไร

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 9 วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563

ถังฟั่นที่ยังทำอะไรไม่ถูก ยังดีมีตงเอ๋อร์เตือนให้ไปขอยืมม้าจากตั่วเอ๋อร์ลา ทั้งคู่ดีกันตั้งแต่ถังฟั่นยอมให้นางตบตีเมื่อคราวก่อน ตั่วเอ๋อร์ลายินดีให้ถังฟั่นยืมม้าพันลี้ของนาง แต่ถังฟั่นต้องรับปากนางเรื่องหนึ่ง นั่นคือตามหาคนให้นาง ถังฟั่นรับปากและรีบออกเดินทาง

ม้าพันลี้ของตั่วเอ๋อร์ลาเป็นม้าดีสมชื่อ ไม่นานนักก็ถึงเหลียวตง ตอนที่ถังฟั่นไปถึงเป็นช่วงเครียดที่สุดของเหลียวตง เมื่อวังจื๋อได้เห็นเขาก็ราวกับเป็นผู้ช่วยชีวิตก็ไม่ปาน เมื่อรู้ความต้องการของถังฟั่นแล้ว วังจื๋อต่อรองให้ถังฟั่นช่วยทำคดีขโมยม้าให้ก่อน ถังฟั่นได้แต่จำยอมตกลง แต่โดยส่วนตัวแล้ว วังจื๋อกลับสนใจในตัวหยางฝูแห่งเมืองจี๋อัน เขาส่งเจี่ยขุยล่วงหน้าไปก่อนเพื่อสืบหาความจริง และให้เจี่ยขุยหาวิธีลอบเข้าเรือนจำไปคุ้มครองสุยโจว

ทางด้านสุยโจวก็กำลังตกที่นั่งลำบาก เดิมทีเขาเพิ่งได้เป็นหัวโจกในคุก ไม่นึกเลยว่าความดื้อดึงของเขาทำให้หวงจิ่งหลงทนไม่ได้ จึงเปิดเผยฐานะองค์รักษ์เสื้อแพรของเขาให้นักโทษในคุกรู้ ทำให้พวกนักโทษที่เดิมเกลียดชังขุนนางอยู่แล้วก็มาลงที่สุยโจว สุยโจวเจออันตรายอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังจะล้มลง เจี่ยขุยก็ปรากฎตัวขึ้นและคุ้มครองเขาไว้

ขณะเดียวกัน ถังฟั่นเริ่มสืบสวนคดีขโมยม้า แม้ว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัยนัก แต่ภายใต้การคาดคะเนของถังฟั่น ก็ทำให้คลี่คลายไปได้ ทั้งนี้คดีดังกล่าวเป็นฝีมือของโจรผู้มีฝีมือ และที่จริงแล้วม้าไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่พวกโจรใช้กลยุทธ์ปิดเมืองสร้างความสับสนขึ้นมา ระหว่างสืบคดี ความสัมพันธ์ของถังฟั่นกับตั่วเอ๋อร์ลาก็พัฒนาขึ้นไปด้วย

เมื่อปิดคดีได้ ถังฟั่นรีบเอาตัววังจื๋อออกจากที่นั่น แต่วังจื๋อกลับพาถังฟั่นไปยังริมทะเลเหลียวตง

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 10 วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2563

ถังฟั่นยืนอยู่ริมทะเลด้วยความงุนงง ทันใดนั้นก็เห็นเรือขนาดค่อนข้างใหญ่กำลังแล่นเข้ามา ที่แท้วังจื๋อได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว ทุกคนลงเรือมุ่งหน้าสู่ทางใต้ บนเรือแม้จะทรมานจากการเมาเรือบ้าง แต่ก็ไม่ขาดความรื่นเริง ไม่นานนักก็ถึงเมืองจี๋อัน

ทางด้านสุยโจวกับเจี่ยขุย พวกเขานำนักโทษจำนวนหนึ่งสู้กับทหารของหวงจิ่งหลง หวงจิ่งหลงรู้ดีว่าเมื่อถังฟั่นหนีไปได้แล้วย่อมนำทหารมาช่วยแน่ ดังนั้นจึงวางแผนวางยาพิษสุยโจวหลายครั้ง ซึ่งล้วนโดนสุยโจวดูออกทั้งสิ้น ในช่วงเวลาคับขัน หวงจิ่งหลงตัดสินใจจะสร้างสถานการณ์เผานักโทษทั้งหมดในเรือนจำ เป้าหมายคือฆ่าคนปิดปาก ยังดีที่สุยโจวกับเจี่ยขุยคาดเดาไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า ในคืนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ทั้งคู่จึงนำนักโทษขุดอุโมงค์ลับและหนีออกจากเรือนจำได้

ขณะเดียวกัน พวกถังฟั่นและวังจื๋อก็มาถึงจี๋อัน วังจื๋อเชิญขุนนางมากลุ่มหนึ่งเพื่อถังฟั่น แต่ตัวเองยืนยันจะไปทางใต้ดินก่อน ถังฟั่นจำใจเดินเข้าศาลาว่าการเพียงลำพังเพื่อต่อกรกับหวงจิ่งหลง เมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนาง หวงจิ่งหลงไม่กล้าทำอะไรมาก ได้เพียงปะทะฝีปากกับถังฟั่น แม้หวงจิ่งหลงเป็นคนคารมดี แต่ถังฟั่นก็ตอบด้วยทุกประโยคด้วยหลักการจนหวงจิ่งหลงต้องจนด้วยเหตุผล แต่หวงจิ่งหลงก็ไม่ได้หวั่น เพราะเขายังมีไม้ตายอยู่ นั่นคือวังจื๋อ ซึ่งเมื่อเหล่าขุนนางต่างจังหวัดได้ยินชื่อของวังจื๋อก็เกรงกลัวกันเสียแล้ว แต่ที่หวงจิ่งหลงนึกไม่ถึงคือ วังจื๋อตัวปลอมโดนเก็บไปแล้ว ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา คือวังจื๋อตัวจริงผู้รักความยุติธรรม หวงจิ่งหลงจึงจำยอมรับผิดแต่โดยดี

เมื่อคลี่คลายคดีที่จี๋อันเรียบร้อย ถังฟั่นถามสุยโจวด้วยความอยากรู้ว่าหยางฝูหายไปไหน สิ่งที่ทั้งคู่ไม่รู้คือ วังจื๋อแอบจับตัวหยางฝูไปเมืองหลวง แล้วขังไว้ในคุกส่วนตัวของเขาแล้ว

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 11 วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2563

คดีที่จี๋อันทำให้สุยโจวได้รับรางวัลและเลื่อนตำแหน่งอีก สร้างความอิจฉาให้กับว่านทงผู้บังคับบัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพร จึงเอาความไม่พอใจมาลงที่เซวียหนิง โดยสร้างความลำบากใจให้เขาทุกรูปแบบ เพื่อปกป้องเซวียหนิง สุยโจวจึงนำผลงานทั้งหมดมอบให้เป็นของว่านทง ว่านทงเห็นสุยโจวยอมตนเช่นนี้ ก็คลายความโกรธลง พอดีกับมีลูกขุนนางหายตัวไปขณะเดินทางมาเมืองหลวง ว่านทงจึงมอบคดีนี้ให้สุยโจวทำการสืบหา


เมื่อเกิดเหตุลักพาตัวใกล้เมืองหลวง ย่อมสร้างความตื่นตระหนกให้กับราชสำนัก วังจื๋อก็ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้สืบคดีนี้ ดังนั้น สุยโจวและวังจื๋อจึงแยกกันสืบทั้งทางลับและทางสว่าง ขณะเดียวกัน ทางด้านถังฟั่นกำลังต้อนรับพี่สาวและหลานที่มาเยี่ยม แต่จู่ๆ เฮ่อเฉิงก็ล้มหมดสติลงไป ยังดีที่เผยหวายหมอเทวดาอยู่ตรงนั้นด้วย จึงรีบช่วยเฮ่อเฉิงให้ฟื้น


เผยหวายตรวจแล้วบอกว่าเฮ่อเฉิงเป็นโรคลมชัก ถังอวี๋ได้ยินดังนั้นก็เสียใจมาก เผยหวายจึงปลอบนางว่าโรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ ในเวลานั้นถังอวี๋ก็ได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจมานานให้เผยหวายฟัง ที่แท้สามีของนางเย็นชากับนางเพราะโรคของลูก และยังหาว่านางเป็นตัวซวย ลูกชายโดนของ ถังฟั่นรู้เข้าก็โกรธมากจะไปบ้านพี่เขยที่ทงโจว แต่ถังอวี๋ห้ามไว้ และบอกให้เขาสงบสติอารมณ์
ส่วนด้านการสืบสวนของสุยโจวก็มีความคืบหน้า เขาจับกลุ่มขอทานที่ลักพาตัวเด็กได้ แต่ขณะที่สอบสวน สุยโจวพบความผิดปกติ จนคิดว่าขอทานพวกนี้น่าจะเป็นพวกที่ถูกใส่ร้าย เป็นเวลาเดียวกันที่สายของวังจื๋อส่งข่าวมาให้เขา เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วก็สรุปได้ว่า ตัวการคือบุคคลอื่น ดังนั้น สุยโจวกับวังจื๋อจึงรีบเชิญถังฟั่นมาช่วยด้วย

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 12 วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563

ขณะที่ถังฟั่นยังไม่พบเบาะแสอื่น ตงเอ๋อร์กลับพบความเชื่อมโยงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เดิมทีตงเอ๋อร์อยากจะบอกถังฟั่น แต่ถังฟั่นคิดว่าเป็นความคิดของเด็กน้อยจึงไม่สนใจ ตงเอ๋อร์โมโหออกจากบ้านและชนเข้ากับวังจื๋อพอดี วังจื๋อกลับเป็นฝ่ายเห็นด้วยกับความคิดของนาง และวางแผนใช้ตงเอ๋อร์เป็นตัวล่อคนร้ายให้ปรากฏตัว แต่วังจื๋อกับตงเอ๋อร์คาดไม่ถึงว่าคนร้ายจะมีวิธีที่แยบยลกว่า จนตงเอ๋อร์ถูกจับตัวไปจริงๆ ถังฟั่นรู้เรื่องเข้าก็โกรธวังจื๋อ แต่เพื่อความปลอดภัยของตงเอ๋อร์ ทั้งคู่จึงแยกกันตามหา นอกจากนั้น ตั่วเอ๋อร์ลากับอูหยุนปู้ลาเก๋อได้ยินเรื่องตงเอ๋อร์ก็ร้อนใจ และร่วมตามหาด้วย


ระหว่างการตามหา ตั่วเอ๋อร์ลาพบกับจูต้าซ่านเหยิน จูต้าซ่านเหยินชอบตั่วเอ๋อร์ลามาก ดังนั้นจึงยินดีช่วยนางตามหาตงเอ๋อร์ และระหว่างการสืบสวน ทหารพบศพหญิงสาวนิรนามร่างหนึ่ง ถังฟั่นกับสุยโจวรู้เข้าก็รีบไประบุตัวศพ โชคดีที่ศพนั้นไม่ใช่ตงเอ๋อร์ แต่ศพดังกล่าวกลับเป็นตัวเผยคดีเก่าที่ยังปิดไม่ลงมาหลายปี


อีกด้านหนึ่ง เด็กน้อยเสี่ยวหนีชิวที่วังจื๋อให้แทรกซึมเข้าไปในรังโจรได้พบกับตงเอ๋อร์แล้ว เสี่ยวหนีชิวจะพาตงเอ๋อร์หนี แต่ตงเอ๋อร์ปฎิเสธเพราะนางตั้งใจจะช่วยเด็กทั้งหมดออกไปด้วยกัน โดยพวกเขาไม่รู้ว่า เฉียนไท่หัวหน้าโจรรู้ว่าช่วงนี้เมืองหลวงกำลังจับตาคดีนี้ จึงคิดว่าจะนำเด็กทั้งหมดออกนอกเมืองแล้วฆ่าปิดปากให้หมดในคราวเดียว


สุยโจวและถังฟั่นสืบพบว่า เฉียนไท่ใช้ร้านขายชาของเขาบังหน้าการส่งเด็กๆ ออกนอกเมือง สุยโจวรีบเข้าไปค้นร้านชาดังกล่าว แต่น่าเสียดายที่ช้าไปก้าวหนึ่ง เฉียนไท่และลูกน้องแบ่งเป็น 2 สายออกจากเมืองไปแล้ว สุยโจวนำกำลังติดตามออกไปจนหลงกลติดกับดักของเฉียนไท่ ระหว่างที่ต่อสู้กัน ตงเอ๋อร์และเสี่ยวหนีชิวฉวยโอกาสชุลมุนพาเด็กทั้งหมดหนีออกมา

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 13 วันพุธที่ 10 มิถุนายน 2563

ระหว่างชุลมุน ตงเอ๋อร์กับเสี่ยวหนีชิวพาเด็กทั้งหมดหนีออกมา แต่ไปได้ไม่ไกลพวกโจรก็ตามมา เพื่อให้เด็กๆมีโอกาสหนีต่อ ตงเอ๋อร์จึงขึ้นเขาเพื่อดึงความสนใจจากพวกโจร ขณะที่ตงเอ๋อร์กำลังจะถูกจับตัวได้ สุยโจวก็มาถึงพอดี และต่อสู้กับพวกโจรจนช่วยตงเอ๋อร์สำเร็จ

ทางด้านวังจื๋อที่นำกำลังติดตามเฉียนไท่ เขาพบว่าเบื้องหลังเฉียนไท่ยังมีผู้บงการอีก ชื่อว่าหลีจื่อหลง เดิมทีวังจื๋ออยากจะจับตัวหัวหน้ากลับไปพร้อมกัน แต่ไม่นึกว่าฝ่ายตรงข้ามเตรียมการมาดีกว่า พวกมันรีบลงอุโมงค์ใต้ดินหนีไปได้ ส่วนเฉียนไท่กินยาพิษฆ่าตัวตาย จึงทำให้วังจื๋อจำใจหยุดการสืบต่อ

เมื่อคดีลักพาตัวเด็กเงียบลง ในเมืองหลวงก็มีการรื้อฟื้นฆาตกรต่อเนื่องขึ้นมา เผยหวายเพื่อนรักของถังฟั่นเป็นคนที่ชอบซื้อศพนิรนามมาผ่าเพื่อการศึกษา เรื่องนี้เมื่อองครักษ์เสื้อแพรรู้เข้า เขาจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกของสุยโจว เพื่อพิสูจน์ว่าเพื่อนรักไม่เกี่ยวข้องกับคดี ถังฟั่นจึงเข้าร่วมการสืบด้วย บังเอิญกับที่อูหยุนปู้ลาเก๋อตกเขาเกือบเสียชีวิต ถังฟั่นเจ้าปัญญาจึงนำเรื่องนี้ผูกเข้ากับคดีฆ่าต่อเนื่องด้วย และตั่วเอ๋อร์ลาก็หายตัวอย่างลึกลับตามคาด

ถังฟั่นพยายามโน้มน้าวสุยโจวให้เผยหวายรักษาให้อูหยุนปู้ลาเก๋อให้ได้ ขณะไม่ได้สติอูหยุนปู้ลาเก๋อเอ่ยชื่อจูต้าซ่านเหยินออกมา สุยโจวกับถังฟั่นรีบหาเบาะแสของคนผู้นี้จนรู้เบื้องหลังของเขา ที่แท้เขาเป็นท่านอ๋องที่ชอบทำกุศลตั้งโรงทาน ชาวบ้านผู้ตกทุกข์ได้ยากในเมืองหลวงจึงเรียกเขาว่าต้าซ่านเหยิน ที่แปลว่าคนใจดี

เมื่อรู้ว่าตั่วเอ๋อร์ลามาหายไปด้วยเรื่องตงเอ๋อร์ทั้งยังเกี่ยวข้องกับจูต้าซ่านเหยิน ถังฟั่นกับสุยโจวจึงรีบไปยังจวนท่านอ๋อง จูต้าซ่านเหยินรู้เรื่องตั่วเอ๋อร์ลาหายตัวไปก็แปลกใจมาก ทั้งยังแสดงความเป็นห่วงออกนอกหน้า เมื่อไม่ได้ความคืบหน้าใดๆ สุยโจวกับถังฟั่นก็ได้แต่กลับออกมามือเปล่า ทั้งคู่ไม่รู้ว่าเพียงแค่ก้าวเท้าออกไปครู่เดียว จูต้าซ่านเหยินก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริง เขาคือผู้จับตัวตั่วเอ๋อร์ลาและขังนางไว้ในห้องลับภายในจวน

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 14 วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2563

หลังจากถังฟั่นกับสุยโจวพบจูต้าซ่านเหยินแล้ว แม้เขาไม่มีเรื่องให้โจมตีได้ แต่ถังฟ่านก็ยังรู้สึกว่าคนผู้นี้แปลกๆ จุดที่แปลกคือใจดีเกินไป มีเมตตาแบบไร้เหตุผล แต่ก็ไม่มีมูลเหตุเพียงพอจะสืบต่อ จึงได้แต่หันทิศทางไปสืบด้านอื่น ขณะเดียวกันวังจื๋อกำลังเผชิญกับโชคร้าย เรื่องที่เขาอ้างเบื้องบนมาบังคับให้ใต้เท้าอวี๋ฆ่าตัวตาย บัดนี้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่

ที่แท้อวี๋เจิ้งเผิงบุตรชายคนโตของใต้เท้าอวี๋กลับมาจากชายแดนแล้ว และมียศเป็นถึงนายพล เขาเป็นคนชอบวางอำนาจ และแค้นฝังใจวังจื๋อเรื่องการตายของบิดา จึงพยายามหาเรื่องวังจื๋อตลอดเวลา แม้วังจื๋อจะโกรธ แต่ไม่อยากมีเรื่องด้วย จึงเป็นเหตุให้อวี๋เจิ้งเผิงยิ่งได้คืบเอาศอก

การสืบคดีของถังฟั่นกับสุยโจวมีความคืบหน้ามากขึ้น สุยโจวเจอเบาะแสของคนร้ายจากหน้าผาที่อูหยุนปู้ลาเก๋อตกลงไป ส่วนถังฟั่นให้ตงเอ๋อร์ช่วยค้นหาบันทึกคดีในอดีตที่คล้ายกัน และพบว่าตงเอ๋อร์นั้นฉลาดมาก นางใช้เวลาไม่นานก็หาคดีลักษณะเดียวกันออกมาได้หมด

ทั้งสองนำข้อมูลมาประกอบกัน ถังฟั่นพิจารณาแล้วบุคคลที่น่าสงสัยที่สุดคือคนขาเป๋ข้างกายจูต้าซ่านเหยินที่ชื่อถัวซาน เพื่อปกป้องชื่อเสียงของจวนอ๋อง ถังฟั่นจึงไปพบจูต้าซ่านเหยินส่วนตัวก่อน หวังว่าเขาจะยินดีจับตัวถัวซานส่งศาลซุ่นเทียนเอง เรื่องนี้จะได้กระทบต่อทุกคนน้อยที่สุด จูต้าซ่านเหยินได้ยินดังนั้นก็รับปาก และยินดีจับถัวซานต่อหน้าถังฟั่น แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฉากละคร เพราะเพียงพริบตาที่ถังฟั่นไม่ระวังตัวเขาก็ตีถังฟั่นจนสลบ เมื่อถังฟั่นฟื้นขึ้นเห็นตัวเองถูกขังอยู่คุกเดียวกันกับตั่วเอ๋อร์ลาเสียแล้ว แม้ตกอยู่ในอันตราย แต่เมื่อพบกันแล้วย่อมอุ่นใจมากขึ้น

ส่วนด้านนอกคุก สุยโจวรู้แล้วว่าถังฟั่นถูกจับตัวไป จึงนำเซวียหนิงและพรรคพวกองครักษ์เสื้อแพรบุกเข้าค้นจวนอ๋อง

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 15 วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2563

สุยโจวและเซวียหนิงค้นในจวนอ๋องแล้วแต่ไม่พบอะไรน่าสงสัย สุยโจวจึงเดาว่าในจวนย่อมต้องมีประตูลับ ห้องลับแน่นอน ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเปิดประตูลับได้ ว่านทงผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรกลับปรากฏตัวขึ้น และบอกให้พวกเขาหยุดการค้นหา เพราะการบุกเข้าจวนอ๋องโดยไม่มีคำสั่งจากเบื้องบนถือเป็นความผิดมหันต์ ว่านทงขออภัยต่อจูต้าซ่านเ

สุยโจวและเซวียหนิงค้นในจวนอ๋องแล้วแต่ไม่พบอะไรน่าสงสัย สุยโจวจึงเดาว่าในจวนย่อมต้องมีประตูลับ ห้องลับแน่นอน ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเปิดประตูลับได้ ว่านทงผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์เสื้อแพรกลับปรากฏตัวขึ้น และบอกให้พวกเขาหยุดการค้นหา เพราะการบุกเข้าจวนอ๋องโดยไม่มีคำสั่งจากเบื้องบนถือเป็นความผิดมหันต์ ว่านทงขออภัยต่อจูต้าซ่านเหยินแล้วพาตัวสุยโจวกับเซวียหนิงกลับไป พร้อมด่าทอทั้งคู่มากมาย

สุยโจวไม่สนใจคำต่อว่าของว่านทง เขาเป็นห่วงว่ายิ่งเสียเวลาออกไป ชีวิตของถังฟั่นก็ยิ่งอันตราย ด้วยหมดหนทางแล้ว สุยโจวจึงไปขอร้องวังจื๋อ หวังว่าวังจื๋อจะใช้วิธีพิเศษจับตัวจูต้าซ่านเหยินและช่วยถังฟั่นออกมา วังจื๋อรู้ดีว่าบุคคลนี้เป็นถึงชั้นอ๋อง ย่อมต้องกระทบถึงเกียรติยศฝ่ายใน จึงยังไม่ได้ตัดสินใจตามคำของสุยโจว

อีกด้านหนึ่งนั้น ภายในคุกลับในจวนอ๋อง จูต้าซ่านเหยินได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้ถังฟั่นเห็น เพื่อช่วยตั่วเอ๋อร์ลา ถังฟั่นจงใจด่าทอฝ่ายตรงข้ามเพื่อแลกกับชีวิตรอดของนาง

ขณะที่จูต้าซ่านเหยินกำลังจะทำร้ายถังฟั่น เจี่ยขุยคนของวังจื๋อก็มาถึงและหยุดพฤติกรรมเขาได้ทัน เจี่ยขุยพาจูต้าซ่านเหยินไปพบวังจื๋อ วังจื๋อได้แต่ด่าทอแต่ไม่ได้จับตัวเขาไว้เนื่องจากยังรักษาเกียรติของฝ่ายใน  ได้แต่นำความผิดทั้งหมดไปลงที่ถัวซาน  ถังฟั่นกับตั่วเอ๋อร์ลาออกมาจากคุกและทันเห็นวิธีจัดการของวังจื๋อ ถังฟั่นไม่เห็นด้วยเลย แต่ในเวลานั้นก็ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม เพื่อจับตัวคนร้ายที่แท้จริงให้ได้ ถังฟั่นจึงคิดหาวิธีล่อให้จูต้าซ่านเหยินยอมรับความผิดตัวเองให้ได้ ซึ่งความผิดของเขานั้นใหญ่หลวงนัก แม้ฝ่ายในคิดจะปกป้องก็คงยาก แต่เมื่อเบื้องบนในราชสำนักรู้เรื่องนี้ กลับไม่พอใจถังฟั่นและลดตำแหน่งเขาถึง 3 ขั้นพร้อมให้ย้ายไปเมืองทงโจวหยินแล้วพาตัวสุยโจวกับเซวียหนิงกลับไป พร้อมด่าทอทั้งคู่มากมาย

สุยโจวไม่สนใจคำต่อว่าของว่านทง เขาเป็นห่วงว่ายิ่งเสียเวลาออกไป ชีวิตของถังฟั่นก็ยิ่งอันตราย ด้วยหมดหนทางแล้ว สุยโจวจึงไปขอร้องวังจื๋อ หวังว่าวังจื๋อจะใช้วิธีพิเศษจับตัวจูต้าซ่านเหยินและช่วยถังฟั่นออกมา วังจื๋อรู้ดีว่าบุคคลนี้เป็นถึงชั้นอ๋อง ย่อมต้องกระทบถึงเกียรติยศฝ่ายใน จึงยังไม่ได้ตัดสินใจตามคำของสุยโจว

อีกด้านหนึ่งนั้น ภายในคุกลับในจวนอ๋อง จูต้าซ่านเหยินได้เผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้ถังฟั่นเห็น เพื่อช่วยตั่วเอ๋อร์ลา ถังฟั่นจงใจด่าทอฝ่ายตรงข้ามเพื่อแลกกับชีวิตรอดของนาง

ขณะที่จูต้าซ่านเหยินกำลังจะทำร้ายถังฟั่น เจี่ยขุยคนของวังจื๋อก็มาถึงและหยุดพฤติกรรมเขาได้ทัน เจี่ยขุยพาจูต้าซ่านเหยินไปพบวังจื๋อ วังจื๋อได้แต่ด่าทอแต่ไม่ได้จับตัวเขาไว้เนื่องจากยังรักษาเกียรติของฝ่ายใน  ได้แต่นำความผิดทั้งหมดไปลงที่ถัวซาน  ถังฟั่นกับตั่วเอ๋อร์ลาออกมาจากคุกและทันเห็นวิธีจัดการของวังจื๋อ ถังฟั่นไม่เห็นด้วยเลย แต่ในเวลานั้นก็ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม เพื่อจับตัวคนร้ายที่แท้จริงให้ได้ ถังฟั่นจึงคิดหาวิธีล่อให้จูต้าซ่านเหยินยอมรับความผิดตัวเองให้ได้ ซึ่งความผิดของเขานั้นใหญ่หลวงนัก แม้ฝ่ายในคิดจะปกป้องก็คงยาก แต่เมื่อเบื้องบนในราชสำนักรู้เรื่องนี้ กลับไม่พอใจถังฟั่นและลดตำแหน่งเขาถึง 3 ขั้นพร้อมให้ย้ายไปเมืองทงโจว

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 16 วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน 2563

ไทเฮามีพระประสงค์ประทานการสมรสให้สุยโจว โดยเป็นการแต่งกับอวี๋ซิ่วเหลียนคุณหนูสามของตระกูลอวี๋ แต่อวี๋เจิ้งเผิง ผู้เป็นพี่ชายคนโตกลับไม่พอใจ เขาคิดว่าเรื่องแต่งงานเรื่องเล็ก เรื่องสำคัญตอนนี้คือต้องแก้แค้นวังจื๋อให้กับบิดา เมื่อสังหารวังจื๋อได้แล้วจึงค่อยมาแต่งน้องสาว คำพูดดังกล่าว ฉูจื่อจางพ่อครัวประจำจวนอวี๋ได้ยินเข้าก็ตัดสินใจจะลอบฆ่าวังจื๋อ เพราะเขาเป็นผู้ที่แอบรักคุณหนูสามมานานแล้ว

การลอบฆ่าล้มเหลว วังจื๋อเหยียดหยามอวี๋เจิ้งเผิงให้ได้อับอาย จนอวี๋เจิ้งเผิงไปลงมือกับฉูจื่อจาง ขณะเดียวกัน ถังฟั่นที่ถูกโยกย้ายไปทงโจวกลับมีความสุขดี เขาไปหาถังอวี๋พี่สาวและเฮ่อเฉิงหลานชาย แต่กลับพบว่านางไม่มีความสุขนักในบ้านสกุลเฮ่อ รวมถึงหลานชายที่มักถูกพ่อทุบตีเป็นประจำ ถังฟั่นโมโหและพูดออกหน้าแทนพี่สาว และรับพวกเขาทั้งคู่ออกไปอยู่กับตัวเอง

เวลานั้นเอง เผยหวาย ตั่วเอ๋อร์ลา อูหยุนปู้ลาเก๋อและตงเอ๋อร์ต่างก็มาเยี่ยมถังฟั่น ในบ้านเล็กๆแต่เต็มไปด้วยผู้คนทั้งเด็กผู้ใหญ่ ทุกคนกินหม้อไฟกันอย่างมีความสุข แต่ความสุขมักอยู่ได้ไม่นาน บ้านเฮ่อไม่ยอมให้เฮ่อหลินไปกับถังฟั่น จึงวางแผนหลอกเอาตัวเฮ่อหลินไป ถังอวี๋เสียใจมาก ส่วนถังฟั่นก็โกรธ จึงวางแผนจะลงโทษบ้านพี่เขยร่วมกับทุกคน

เป็นเวลาเดียวกันที่สุยโจวรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ในเมืองหลวง เขาไม่มีกะจิตกะใจจะแต่งงาน จึงจะไปบอกปฎิเสธที่บ้านตระกูลอวี๋ แต่ทันทีที่ถึงกลับพบว่าเกิดการฆาตกรรมยกครัว โชคดีที่อวี๋เจิ้งหลินคุณชายรองและคุณหนูอวี๋ยังรอดมาได้ เมื่อเรื่องนี้แพร่ออกไป บุคคลที่น่าสงสัยที่สุดคือวังจื๋อที่กำลังมีความแค้นระหว่างกัน ดังนั้นวังจื๋อที่กำลังสืบเรื่องหลอมตะกั่วเป็นเงินอยู่ ต้องหยุดภารกิจและรับการสอบสวน

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 17 วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2563

อวี๋เจิ้งหลิน คุณชายรองบ้านตระกูลอวี๋กลับมาเมืองหลวงด้วยเรื่องฆาตกรรมภายบ้าน เขาโกรธมากและประกาศให้รางวัลคนที่หาหลักฐานมามัดตัววังจื๋อได้ ทั้งยังสาบานจะสู้กับวังจื๋อให้ถึงที่สุด สุยโจวได้รับคำสั่งให้สืบรายละเอียดของเรื่องนี้ เขาได้รับแรงกดดันจากหลายฝ่าย ศัตรูของวังจื๋อต่างอยากใช้โอกาสนี้กำจัดวังจื๋อ แต่สุยโจวก็ไม่หวั่นไหว เขาตั้งใจแล้วว่าจะต้องหาตัวฆาตกรที่แท้จริงมาให้ได้

แต่เนื่องจากการประกาศให้รางวัลของอวี๋เจิ้งหลิน จึงมีคนมาหลอกอยากได้เงินอยู่ตลอดเวลา สร้างอุปสรรคให้สุยโจวอยู่ไม่น้อย จนทำให้งานสืบสวนแทบไม่มีความคืบหน้า

ส่วนวังจื๋อนั้น แม้โดนคนรุมประณาม แต่เขาก็ไม่สนใจและยังออกจากเมืองหลวงไปหาถังฟั่นที่ทงโจว เป็นเวลาเดียวกับที่ถังฟั่นกำลังคิดแก้เผ็ดบ้านสกุลเฮ่อ เมื่อไปถึงบ้านถังฟั่น วังจื๋อไม่ได้พูดถึงสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังประสบ บอกแต่เพียงจะนำคดีขุนนางที่หยุนเหอนำตะกั่วมาหลอมเป็นเงินโอนให้ถังฟั่นดูแล

ถังฟั่นเห็นท่าทางของวังจื๋อก็รู้สึกแปลกใจ และแค่เพียงทายนิดเดียวก็รู้ถึงสถานการณ์อันยากลำบากของเขา ถังฟั่นเชิญให้วังจื๋ออยู่ต่อ และยังเสนอความคิดจะช่วยเขาปิดคดี แต่วังจื๋อกลับปฎิเสธซึ่งทำให้ถังฟั่นคาดไม่ถึง ก่อนจากไป วังจื๋อยังย้ำเรื่องคดีหลอมตะกั่วเป็นเงิน ทำให้ถังฟั่นชื่นชมในตัวเขามากขึ้น และตัดสินใจจะช่วยวังจื๋อ

เมื่อวังจื๋อกลับถึงเมืองหลวง เรื่องที่เขาแอบออกไปนอกเมืองมีคนนำไปรายงานเบื้องบนเสียแล้ว เบื้องบนจึงมีคำสั่งให้เขาพักงานแล้วขังในคุกหลวง

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 18 วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2563


เมื่อถังฟั่นมอบหมายแผนตอบโต้บ้านเฮ่อให้กับตงเอ๋อร์ ตั่วเอ๋อร์ลาและอูหยุนปู้ลาเก๋อแล้ว ก็รีบเข้าเมืองหลวง ซึ่งหน้าที่ของทั้งสามคือ ให้ตงเอ๋อร์ปลอมตัวเป็นเด็กขายยา นำตัวยาชนิดหนึ่งที่หายากมากไปขายให้กับเฮ่อหลิน จากนั้นตั่วเอ๋อร์ลาและอูหยุนปู้ลาเก๋อค่อยออกมาแสดงตัวเป็นเศรษฐีต่างเมือง ขอซื้อยาดังกล่าวในราคาสูง ด้วยความโลภของเฮ่อหลิน เขานำทรัพย์สินทั้งหมดของบ้านเฮ่อไปจำนองเพื่อซื้อของหายากจากตงเอ๋อร์ แต่ทว่าตั่วเอ๋อร์ลากับคนใช้กลับหายตัวไปเสียแล้ว ของในมือเฮ่อหลินขายไม่ออก ทรัพย์สินทั้งหมดของบ้านเฮ่อพลอยเสียหายไปด้วย


ทางด้านถังฟั่นที่กลับมาถึงเมืองหลวงก็ได้ช่วยเหลือสุยโจวทำคดีฆาตกรรมบ้านอวี๋ จากการชันสูตรศพของเผยหวายทำให้ทราบว่า ในคืนเกิดเหตุ คนในบ้านได้กินโจ๊กที่มียานอนหลับลงไป ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงโดนสังหารยามหลับ และมีเพียงฉูจื่อจางที่มีบาดแผลไม่เหมือนคนอื่น หลังจากนั้น สุยโจว ถังฟั่นยังคาดคะเนจากรอยแตกหักของตู้ว่าฆาตกรไม่ใช่ใครอื่น ย่อมเป็นฉูจื่อจาง มูลเหตุเกิดจากเขาถูกอวี๋เจิ้งเผิงดูถูก ประกอบกับสารภาพรักกับคุณหนูอวี๋ซิ่วเหลียนแล้วนางปฎิเสธ ด้วยความโกรธแค้นจึงวางยาคนทั้งบ้านจากนั้นค่อยสังหาร สุดท้ายฆ่าตัวตาย


เมื่อความจริงปรากฏ วังจื๋อก็พ้นจากข้อกล่าวหา ทางด้านถังฟั่นก็ไม่อยู่เมืองหลวงต่อ รีบรุดกลับไปยังทงโจว เวลานี้เฮ่อหลินถูกพวกเงินกู้บีบบังคับจนกลับบ้านไม่ได้แล้ว ถังฟั่นจึงออกหน้าและได้ทีสั่งสอนเฮ่อ หลิน เขาคืนเงินที่เฮ่อหลินจ่ายให้ตงเอ๋อร์ แต่แลกกับสิทธิเลี้ยงดูเฮ่อเฉิง


ทางด้านสุยโจว ขณะนี้ก็กำลังตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากเขายืนยันจะพิสูจน์ว่าวังจื๋อเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำให้กลายเป็นเสี้ยนตำตาสำหรับผู้บังคับบัญชาอย่างว่านทง ดังนั้นจึงหาความผิดมาลงที่เขาและปลดเขาออกจากตำแหน่งขุนนาง

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 19 วันพุธที่ 1 กรกฎาคม 2563

วังจื๋อได้รับอิสระอีกครั้ง และพยายามให้ถังฟั่นไปเป็นนายอำเภอหยุนเหอ เพราะสำหรับวังจื๋อ คดีที่หยุนเหอเกี่ยวพันถึงบ้านเมือง และมีความซับซ้อนยุ่งยาก แต่เขาเชื่อว่าถังฟั่นจะทำคดีนี้ได้ เมื่อถังฟั่นได้รับภารกิจก็รีบจากทงโจวมายังเมืองหลวง แต่เมื่อถึงเมืองหลวงแล้ว กลับพบว่าสุยโจวกำลังลำบาก เขาอยากเรียกคืนความยุติธรรมให้สุยโจวแต่สุยโจวห้ามไว้ สุยโจวบอกให้เขาไปทำงานที่หยุนเหอให้เรียบร้อยก่อน ถังฟั่นจำใจปฎิบัติตาม


ก่อนวันเดินทางไม่นาน ถังฟั่นคิดถึงตั่วเอ๋อร์ลาและอยากเชิญนางไปด้วยกัน แต่เพราะใช้คำพูดผิด ทำให้ตั่วเอ๋อร์ลาโกรธจนไล่เขากลับ ถังฟั่นใจคอห่อเหี่ยว แล้วยังมาเจอสุยโจวที่โดนเหยียดหยามอีก ทั้งนี้ก่อนหน้าจะมาเป็นขุนนาง สุยโจวเคยทำให้พวกเศรษฐีวางอำนาจไม่พอใจ บัดนี้เขาไร้ยศตำแหน่งแล้ว คนเหล่านี้จึงได้โอกาสกลับมาแก้แค้น
ถังฟั่นทนเห็นสุยโจวโดนรังแกไม่ได้ จึงพยายามโน้มน้าวให้สุยโจวไปหยุนเหอด้วยกัน วันที่ออกเดินทาง ถังฟั่นไม่เห็นตั่วเอ๋อร์ลามาส่ง ก็ได้แต่เศร้าไปตลอดทาง กระทั่งมาถึงกลางทางพวกเขาก็ได้พบกับตั่วเอ๋อร์ลากับอูหยุนปู้ลาเก๋อ อูหยุนปู้ลาเก๋ออธิบายให้ถังฟั่นฟังว่าตั่วเอ๋อร์ลาขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วเพื่อเดินทางไปพร้อมกับถังฟั่น ถังฟั่นซาบซึ้งใจมากและทั้งคู่ก็ชัดเจนในความรู้สึกของกันและกัน


ก่อนจะเข้าถึงตัวเมืองหยุนเหอ คณะเดินทางหลงมาถึงเขานอกเมือง และได้พบกับหลี่เม่า หัวหน้าเมืองลับแลบนเขาแห่งนี้ จากคำพูดของหลี่เม่า ถังฟั่นได้รู้ว่าเมืองหยุนเหอนี้ถูกเศรษฐีหม่าหลินผู้ไร้คุณธรรมยึดครองอยู่ หลี่เม่ากับพวกจึงหลบมาอยู่บนเขาและใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย จากนั้นถังฟั่นก็เข้าเมือง โดยมีหม่าหลินอยู่ในขบวนที่ออกมาต้อนรับด้วย

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 20 วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2563

หม่าหลินตัวจริงที่ถังฟั่นพบต่างจากภาพที่ถังฟั่นคิดไว้ เขาดูเป็นมิตรมาก ทั้งยังเตรียมอาหารคาวหวานไว้ให้ ถังฟั่นเห็นอาหารก็ยิ้มปากไม่หุบ เขากับหม่าหลินสนทนากันราวกับเพื่อนที่คบกันมานาน นอกจากนั้น หม่าหลินยังเตรียมบ้านหรูพร้อมหญิงสาว 8 นางไว้คอยรับใช้เขา ถังฟั่นจำใจรับไว้ ในขณะที่ตั่วเอ๋อร์ลาเห็นแล้วโกรธมาก จึงเก็บเสื้อผ้าแล้วขี่ม้าออกไป 

ทางด้านวังจื๋อ เขายังติดตามแอบสืบเรื่องหยุนเหออยู่ตลอด แต่ข่าวคราวที่ได้คือบุคคลที่เกี่ยวข้องตายไปอย่างน่าอัศจรรย์แล้ว 3 ราย ซึ่งวังจื๋อรู้สึกถึงความไม่ปกติ นอกจากนั้น นายพลเฉินเยวี่ยที่วังจื๋อรู้จักตอนประจำอยู่เหลียวตงได้เข้าเมืองหลวงมา และพบกับวังจื๋ออย่างบังเอิญ ที่แท้เขามาครั้งนี้ก็เพื่อยื่นขอเสบียงจากราชสำนัก แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ วังจื๋อจึงออกหน้าแก้ปัญหาให้ เฉินเยวี่ยซาบซึ้งใจมาก

ทางด้านหยุนเหอ วันที่ถังฟั่นเข้ารับตำแหน่ง หม่าหลินพาถังฟั่นชมรอบเมือง แต่กลับพบคนงานเหมืองแร่ก่อเรื่องขึ้นกลางทาง ถังฟั่นให้สุยโจวนำหัวโจกมาสอบสวน แม้สุยโจวไม่พอใจนักแต่ก็ยอมทำตาม ทั้งนี้หนึ่งในหัวขบวนผู้ก่อกวนมีบุตรชายหม่าหลินอยู่ด้วย

หลังจากนั้นหม่าหลินจัดโต๊ะเลี้ยงอาหารถังฟั่นอีกแล้ว ถังฟั่นเมากลับบ้านและได้เห็นสุยโจวกับตงเอ๋อร์วาดแผนที่ทั้งเมืองหยุนเหอ สุยโจวไม่พอใจพฤติกรรมของถังฟั่น และเตือนถึงวัตถุประสงค์ที่ถังฟั่นมายังเมืองนี้  ถังฟั่นโกรธมาก ทั้งคู่จึงขัดใจกัน วันถัดมา หม่าหลินรีบมาขอความช่วยเหลือจากถังฟั่น เพราะหยวนชง บุตรชายของเขาถูกโจรจับตัวไป สุยโจวกับถังฟั่นปรึกษากันเพื่อช่วยหยวนชง แต่เมื่อสืบไปแล้วถังฟั่นกลับรู้สึกว่ามีความน่าสงสัยอยู่  ทางด้านวังจื๋อที่อยู่เมืองหลวงก็พบกับปัญหาอีกครั้ง ว่านอันสืบพบว่าคำร้องของเสบียงของเฉินเยวี่ยเป็นเรื่องเท็จ และมีวังจื๋อเป็นผู้อนุมัติพิเศษให้ วังจื้อจึงตกที่นั่งลำบาก

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 21 วันพุธที่ 8 กรกฎาคม 2563

วังจื๋อรีบออกเดินทางจนได้พบกับเฉินเยวี่ยกลางทาง จึงเข้าถามไถ่เรื่องของเสบียงทหาร เฉินเยวี่ยบอกความจริงกับวังจื๋อว่า ที่ผ่านมาราชสำนักส่งเสบียงน้อยกว่าความจริงมาตลอด โดยเฉพาะสองสามปีมานี้ยิ่งน้อยลงอีก เพื่อให้เหล่าทหารอิ่มท้อง เฉินเยวี่ยจึงจำเป็นยื่นเรื่องเท็จเพื่อให้ได้เสบียงมา วังจื๋อฟังแล้วก็รู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวพันถึงการหลอมตะกั่วเป็นเงินที่หยุนเหอ จึงตัดสินใจควักเงินตัวเองปิดให้เรื่องจบลง แล้วปล่อยเฉินเยวี่ย กลับเหลียวตง


ทางด้านหยุนเหอ จากเบาะแสต่างๆ ถังฟั่นทายถูกว่าหยวนชงจัดฉากถูกลักพาตัวขึ้นมาเอง เพราะต้องการเงินให้กับหลี่เม่าผู้เป็นอาจารย์ที่อยู่บนเขา ถังฟั่นขึ้นเขามาพาตัวหยวนชงกลับไปหาหม่าหลินด้วยตัวเอง จากเรื่องนี้ทำให้หม่าหลินไว้ใจถังฟั่น และถังฟั่นเองก็ถือเป็นพวกเดียวกับหม่าหลินอย่างสนิทใจ กระทั่งสั่งสุยโจวให้จับตัวหลี่เม่าเข้าคุก เดิมทีสุยโจวเห็นถังฟั่นเปลี่ยนไปก็ไม่พอใจอยู่แล้ว บวกกับเรื่องจับตัวหลี่เม่าทำให้เขาคิดไปจากถังฟั่น แต่ในที่สุดถังฟั่นก็อธิบายต่อสุยโจวว่าตัวเองนั้นแกล้งทำเป็นรับสินบน เพื่อให้หม่าหลินตายใจและสะดวกต่อการสืบเรื่องราว


ส่วนตั่วเอ๋อร์ลาเมื่อไปจากถังฟั่น ก็ได้เปิดร้านซุปแพะอยู่ที่หยุนเหอ เดิมทีนางโกรธถังฟั่น แต่เมื่อเขาอธิบายนางก็เข้าใจและยอมยกโทษให้ ทั้งสองจึงกลับมาคืนดีกัน


ด้านเมืองหลวง เพื่ออุดรายจ่ายจากบัญชีของเฉินเยวี่ย วังจื๋อจำใจเอาเครื่องเคลือบที่ว่านกุ้ยเฟยมอบให้ไปจำนำ เขาไม่รู้ว่าเงินที่ชดเชยไปนั้นที่แท้กลับเข้ากระเป๋าของขุนนางกังฉินว่านอัน ไม่เพียงเท่านั้น เรื่องที่วังจื๋อนำของในวังออกไปจำนำกลายเป็นไพ่สำคัญในมือซั่งหมิง ผู้บัญชาการสำนักบูรพา ซั่งหมิงนำเรื่องนี้ขึ้นรายงาน เพื่อสร้างความขัดแย้งและโค่นอำนาจของวังจื๋อ 

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 22 วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม 2563


ร้านซุปแพะของตั่วเอ๋อร์ลาขายไม่ดีเลย ถังฟั่นจึงช่วยคิดหาสาเหตุ ที่แท้เป็นเพราะตั่วเอ๋อร์ลากับอูหยุนปู้ลาเก๋อไม่รู้วิธีปรุงแพะแบบชาวใต้ ถังฟั่นจึงแอบให้ตงเอ๋อร์สอบถามเคล็ดลับการปรุงจากสุยโจว เมื่อได้เคล็ดลับนี้มาแล้ว ร้านของตั่วเอ๋อร์ลาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีลูกค้ามาไม่ขาดสาย แต่ทว่าความจริงนั้นเป็นการจัดฉากของหม่าหลินที่จ้างคนมาอุดหนุนร้านของนาง เพื่อให้ถังฟั่นพอใจอีกต่อหนึ่ง ถังฟั่นย่อมรู้เจตนาของเขา จึงจงใจขอบคุณหม่าหลินยกใหญ่ ที่จริงแล้วตอนนี้ถังฟั่นอยากจะเดินหน้าอีกขั้น จึงถามหม่าหลินเกี่ยวกับเงินของทางการ แต่หม่าหลินหลบเลี่ยงอย่างดี ทำให้ถังฟั่นสืบต่อไม่ได้ แถมพฤติกรรมของเขาแพร่ไปยังเมืองหลวง กระทั่งวังจื๋อยังเริ่มสงสัยในตัวเขา


ทางด้านตัววังจื๋อ เขาอยากหาตัวคนที่คอยจับตาทุกฝีก้าวของเขา วังจื๋อรู้ว่าการที่ซั่งหมิงจะถือไพ่เหนือกว่าเขาได้ย่อมต้องมีผู้มีฝีมือคอยช่วยเหลือ แต่ไม่ว่าวังจื๋อจะสืบอย่างไรก็ไร้ผล ทั้งนี้ เขาไม่มีทางรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั่นคือหัวหน้าของเฉียนไท่ – หลีจื่อหลง อันเป็นคนชั่วกลุ่มเดียวกันกับว่านอัน หม่าหลิน


ทางด้านหยุนเหอ ในที่สุดถังฟั่นก็หาทางให้หม่าหลินยอมรับเขาอย่างเต็มอก เขาสร้างเรื่องให้เหมืองแร่มีการหยุดงานและก่อกวน จากนั้นแกล้งใช้ทั้งไม้แข็ง ไม้อ่อนจัดการเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้หม่าหลินก็เชื่อใจถังฟั่นเต็มที่ และพาเขาเข้าไปยังห้องลับโรงผลิตเงิน จนถังฟั่นได้รู้ว่าเขาสลับสับเปลี่ยนเงินของทางการโดยไม่มีใครรู้ได้อย่างไร

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 23 วันพุธที่ 15 กรกฎาคม 2563


หม่าหลินเล่ารายละเอียดให้ถังฟั่นฟังจบก็กลับจวนที่พัก และได้พบกับแขกที่ไม่คาดฝัน คนผู้นั้นคือหลีจื่อหลง หลีจื่อหลงไม่พอใจที่หม่าหลินเชื่อใจถังฟั่น พร้อมทั้งบอกหม่าหลินว่าถังฟั่นเคยปิดคดีที่เมืองหลวงมาแล้วอย่างไร เชื่อว่าครั้งนี้ก็มาเพื่อทำคดีอีกเช่นกัน หม่าหลินไม่เห็นด้วยทั้งยังพยายามบอกให้หลีจื่อหลิงเชื่อถังฟั่น หลีจื่อหลงจึงบอกให้หม่าหลินแนะนำเขาต่อถังฟั่น เขาจะตัดสินถังฟั่นเอง


อีกด้านหนึ่ง เมื่อถังฟั่นบอกสุยโจวถึงความลับในโรงหลอมเงินแล้ว สุยโจวแนะนำว่าให้รีบจับตัวคนผิด แต่ถังฟั่นยังอยากให้เวลาเขาอีกหน่อย เพื่อหม่าหลินจะได้แฉคนที่อยู่ในราชสำนักออกมาด้วย สุยโจวเป็นห่วงความปลอดภัยของถังฟั่น เขารู้ว่าเมื่อเวลายิ่งผ่านไปถั่งฟั่นก็จะยิ่งอันตราย ขณะเดียวกันทางด้านเมืองหลวง วังจื๋อไม่ได้รับข่าวคราวจากถังฟั่น จึงเกิดความระแวงและส่งเจี่ยขุยไปเหอหยุนเพื่อสืบดูความเคลื่อนไหว


หม่าหลินจัดงานเลี้ยงให้หลีจื่อหลงได้พบกับถังฟั่น แม้ถั่งฟั่นมองหลีจื่อหลงไม่ค่อยออกนัก แต่ฝ่ายหลี จื่อหลงรู้ดีว่าแผนการหลายครั้งของเขาถูกถังฟั่นทำลาย รวมถึงหลี่มั่นบุตรชายก็ถูกถังฟั่นจับกุมและสุดท้ายต้องเสียชีวิต ระหว่างสนทนากัน 3 คน ถังฟั่นพยายามถามถึงเส้นสายของหม่าหลินในราชสำนัก รวมถึงขุนนางสูงสุด แต่หลีจื่อหลงห้ามหม่าหลินไว้ทัน หม่าหลินรู้ตัวว่าพลาดไปจึงไม่พูดอะไรอีก


หลังมื้ออาหาร ถังฟั่นขอตัวลากลับที่พัก ในขณะที่หลีจื่อหลงตัดสินใจจะฆ่าปิดปากถังฟั่นเสีย ส่วนเจี่ยขุยเมื่อมาถึงหยุนเหอและได้ฟังคำอธิบายจากสุยโจวก็เข้าใจ และร่วมกันคุ้มครองถังฟั่น ถังฟั่นยังไม่ยอมจับหม่าหลินจนกว่าจะได้รู้ว่าใครคือผู้บงการสูงสุด ในที่สุดหลังแผนการอันแยบยล หม่าหลินก็ยอมบอกความจริงทั้งหมดต่อถังฟั่นว่าตำแหน่งบนสุดนั่นคือขุนนางกังฉินว่านอัน เมื่อวังจื๋อได้รับข่าวนี้ก็รีบเคลื่อนไหวทันที แต่ติดที่ว่านอันเป็นขุนนางสามแผ่นดิน จึงไม่สามารถทำอะไรเขาได้นัก นอกจากให้คืนเงินทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในจวน ว่านอันต้องเสียเงินที่ตัวเองสะสมมาทั้งชีวิตก็แค้นมาก เขาติดต่อหลีจื่อหลง และร่วมกันวางแผนที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 24 วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2563

เมื่อถังฟั่นปิดคดีได้ไม่นาน ก็มีคำสั่งจากเมืองหลวงให้เขากลับไปปฎิบัติภารกิจที่กรมอาญา ก่อนจากไปเขาขอเข้าพบหม่าหลินเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เคยหลอกหม่าหลินไว้ ประกอบกับเขานับถือความสามารถทางการค้าของหม่าหลินจึงขอราชสำนักผ่อนปรนโทษของหม่าหลินให้ไม่ถึงกับต้องโทษประหารชีวิต  หม่าหลินขอบคุณถังฟั่น และย่อมนึกไม่ถึงว่าตัวเองรอดพ้นจากโทษของราชสำนักแล้ว แต่ไม่พ้นการฆ่าปิดปากจากหลีจื่อหลง ถังฟั่นเพิ่งเดินจากไป นักฆ่าที่หลีจื่อหลงส่งมาก็เข้าสังหารหม่าหลินทันที

ระหว่างทางไปเมืองหลวงของถังฟั่น เขาได้ขอโทษตั่วเอ๋อร์ลาอีกครั้ง เพราะเขาเป็นต้นเหตุให้นางต้องขายทรัพย์สินแล้วติดตามเขาอีก ตั่วเอ๋อร์ลาฟังแล้วไม่คิดเช่นนั้น เพราะนางคิดว่าคนที่รักกันก็ควรได้อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียวเพียงใด ดังนั้นเงินทองของนอกกายทั้งหลายล้วนไม่สำคัญ ถังฟั่นได้ยินดังนั้นก็ซาบซึ้งมาก ทั้งสองยิ่งมีความผูกพันต่อกัน

แต่เจี่ยขุยกับสุยโจวไม่ได้ผ่อนคลายเท่าถังฟั่น ทั้งคู่รู้ว่าการปิดคดีครั้งนี้ของถังฟั่นกระทบถึงคนจำนวนมาก ย่อมต้องมีคนต้องการแก้แค้นระหว่างทางเป็นแน่ เดิมทีถังฟั่นไม่เชื่อ แต่เมื่อเกือบเกิดเหตุร้ายขึ้น จะไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว  พวกเขาปรึกษากันแล้วตัดสินใจว่าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ถังฟั่นไม่เห็นด้วย จนตั่วเอ๋อร์ลาต้องทุบถังฟั่นให้สลบ แล้วนำตัวเขากับตงเอ๋อร์ปลอมตัวไปกับเจี่ยขุย ส่วนนางเองก็ปลอมเป็นถังฟั่นตามสุยโจวและอูหยุนปู้ลาเก๋อเดินทางเข้าเมืองหลวง

เมื่อถังฟั่นฟื้นขึ้นมาก็ไม่พอใจมาก แต่ยังดีที่พวกเขาสามคนเข้าเมืองหลวงได้อย่างราบรื่น ไม่เหมือนกลุ่มของตั่วเอ๋อร์ลาที่พบกับกับดักของหลีจื่อหลงจนเกือบหลุดออกมาไม่ได้ และแม้เมื่อหลุดพ้นออกมาแล้วตั่วเอ๋อร์ลาก็ยังโชคร้ายโดนธนูอยู่ดี 

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 25 วันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2563

เมื่อถังฟั่นปิดคดีได้ไม่นาน ก็มีคำสั่งจากเมืองหลวงให้เขากลับไปปฎิบัติภารกิจที่กรมอาญา ก่อนจากไปเขาขอเข้าพบหม่าหลินเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เคยหลอกหม่าหลินไว้ ประกอบกับเขานับถือความสามารถทางการค้าของหม่าหลินจึงขอราชสำนักผ่อนปรนโทษของหม่าหลินให้ไม่ถึงกับต้องโทษประหารชีวิต  หม่าหลินขอบคุณถังฟั่น และย่อมนึกไม่ถึงว่าตัวเองรอดพ้นจากโทษของราชสำนักแล้ว แต่ไม่พ้นการฆ่าปิดปากจากหลีจื่อหลง ถังฟั่นเพิ่งเดินจากไป นักฆ่าที่หลีจื่อหลงส่งมาก็เข้าสังหารหม่าหลินทันที

ระหว่างทางไปเมืองหลวงของถังฟั่น เขาได้ขอโทษตั่วเอ๋อร์ลาอีกครั้ง เพราะเขาเป็นต้นเหตุให้นางต้องขายทรัพย์สินแล้วติดตามเขาอีก ตั่วเอ๋อร์ลาฟังแล้วไม่คิดเช่นนั้น เพราะนางคิดว่าคนที่รักกันก็ควรได้อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะสุดหล้าฟ้าเขียวเพียงใด ดังนั้นเงินทองของนอกกายทั้งหลายล้วนไม่สำคัญ ถังฟั่นได้ยินดังนั้นก็ซาบซึ้งมาก ทั้งสองยิ่งมีความผูกพันต่อกัน

แต่เจี่ยขุยกับสุยโจวไม่ได้ผ่อนคลายเท่าถังฟั่น ทั้งคู่รู้ว่าการปิดคดีครั้งนี้ของถังฟั่นกระทบถึงคนจำนวนมาก ย่อมต้องมีคนต้องการแก้แค้นระหว่างทางเป็นแน่ เดิมทีถังฟั่นไม่เชื่อ แต่เมื่อเกือบเกิดเหตุร้ายขึ้น จะไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว  พวกเขาปรึกษากันแล้วตัดสินใจว่าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ถังฟั่นไม่เห็นด้วย จนตั่วเอ๋อร์ลาต้องทุบถังฟั่นให้สลบ แล้วนำตัวเขากับตงเอ๋อร์ปลอมตัวไปกับเจี่ยขุย ส่วนนางเองก็ปลอมเป็นถังฟั่นตามสุยโจวและอูหยุนปู้ลาเก๋อเดินทางเข้าเมืองหลวง

เมื่อถังฟั่นฟื้นขึ้นมาก็ไม่พอใจมาก แต่ยังดีที่พวกเขาสามคนเข้าเมืองหลวงได้อย่างราบรื่น ไม่เหมือนกลุ่มของตั่วเอ๋อร์ลาที่พบกับกับดักของหลีจื่อหลงจนเกือบหลุดออกมาไม่ได้ และแม้เมื่อหลุดพ้นออกมาแล้วตั่วเอ๋อร์ลาก็ยังโชคร้ายโดนธนูอยู่ดี 

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 26 วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2563

ถังฟั่นและพรรคพวกเหยียบเท้าเข้าสู่เมืองหลวงแล้ว เมื่อถังฟั่นรู้ว่าตั่วเอ๋อร์ลาถูกธนูยิงบาดเจ็บก็โกรธมาก ไประบายลงที่สุยโจว สุยโจวก็ได้แต่รองรับอารมณ์นั้น

เกิดเหตุการณ์หลี่เฟยกับหลี่โหยวสองพี่น้องปลอมตัวเป็นองครักษ์เสื้อแพร และแอบอ้างชื่อสุยโจวจับตัวขุนนางไปรีดไถข่มขู่ ขุนนางดังกล่าวไปหาวังจื๋อเพื่อฟ้องว่าถูกองครักษ์เสื้อแพรกระทำ วังจื๋อออกตัวว่าจะช่วยจัดการให้ แต่ขณะเดียวกันก็สงสัยและสั่งให้เจี่ยขุยออกไปสืบเรื่องนี้

ทางด้านว่านทงรู้พฤติกรรมของหลี่เฟยกับหลี่โหยวแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพราะพวกเขาจะใช้เรื่องนี้มากำจัดวังจื๋อ 

เผยหวายรักษาจนตั่วเอ๋อร์ลาหายดี เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบกับถังฟั่นที่แสนจะเป็นห่วงนาง จากเหตุการณ์นี้ถังฟั่นตัดสินใจขอตั่วเอ๋อร์ลาแต่งงาน ขณะที่ประกาศให้ทุกคนได้ทราบ เรื่องที่เผยหวายกำลังคบกับถังอวี๋ก็เปิดเผยขึ้นเช่นกัน เป็นบรรยากาศที่ทุกคนยินดีมาก แต่นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ ตั่วเอ๋อร์ลาจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด เมื่อตรวจอีกครั้ง ก็พบว่าธนูดอกนั้นเป็นธนูอาบยาพิษ

สุยโจวเข้าขอความช่วยเหลือจากสำนักประจิม ติงหยงวิเคราะห์สัดส่วนของพิษแล้วก็ยังสรุปออกมาไม่ได้ว่าเป็นพิษชนิดไหน สุยโจวหวังว่าวังจื๋อจะหาหมอหลวงมาช่วยรักษาตั่วเอ๋อร์ลาให้ได้ แต่เมื่อหมอหลวงมาตรวจอาการ ก็ไม่สามารถกำจัดพิษได้เช่นกัน ได้แต่แนะนำให้ใช้น้ำแข็งมาทำให้พิษกระจายตัว เพื่อค้นหาน้ำแข็ง สุยโจวตามตัวเพื่อนเก่าที่ชื่อซุนต๋าจนพบ ซึ่งขณะนี้เป็นผู้เฝ้าถ้ำน้ำแข็งของวัง ซุนต๋าบอกว่าน้ำแข็งทั้งหมดนี้ถือเป็นของหลวง จึงไม่อาจช่วยได้ หากสุยโจวรีบใช้ต้องไปหาซื้อจากตลาดมืดเท่านั้น

ถังฟั่นรู้ว่าอาการของตั่วเอ๋อร์ลาหนักเต็มทีก็แทบจะเป็นบ้า สุยโจวแม้เห็นดังนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ในที่สุดเพื่อให้ได้น้ำแข็งจากตลาดมืดเขายอมให้คนดูถูกโดยไม่ปริปาก เมื่อได้มาแล้วกลับนึกไม่ถึงว่าระหว่างทางจะเอาน้ำแข็งไปให้ตั่วเอ๋อร์ลา จะถูกว่านทงใส่ร้ายจนต้องเข้าคุก

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 27 วันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563

ในช่วงเวลาที่รักษาตัว ถังฟั่นและตั่วเอ๋อร์ลายิ่งเห็นใจกันมากขึ้น และตัดสินใจแต่งงานกันก่อนที่จะเสียชีวิต ถังอวี๋เสียใจมากและพยายามให้เผยหวายรักษาทั้งคู่ แต่เผยหวายบอกว่าเขาวิเคราะห์ตัวพิษไม่ออก จึงจำใจเห็นทั้งคู่พิษค่อยๆกระจายทั่วร่างไปจนกว่าเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ คนรอบตัวถังฟั่นและตั่วเอ๋อร์ลาจึงเตรียมจัดงานแต่งให้พวกเขา แต่ทางด้านสุยโจวยังไม่ยอมแพ้ เขายังหวังว่าจะได้น้ำแข็งจากซุนต๋า แต่ซุนต๋าที่เฝ้าถ้ำน้ำแข็งของวังยังยืนยันไม่สามารถช่วยสุยโจวได้

อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วซุนต๋าก็ได้ให้น้ำแข็งมาบางส่วน ทว่าระหว่างทางกลับบ้าน สุยโจวถูกองครักษ์เสื้อแพรก่อกวนอีกแล้ว ในช่วงคับขัน หลี่เฟยกับหลี่โหยวสองพี่น้องได้เข้ามาช่วยเขาไว้ และดึงเขาเข้าไปค้าขายด้วย สุยโจวแกล้งทำเป็นยินยอมเพื่อจะฝังตัวเป็นสายสืบข้างกายสองพี่น้องคู่นี้

ทางด้านวังจื๋อ เขาสั่งติงหยงให้สืบหาสิ่งที่ช่วยหลีจื่อหลงหนีไปได้ มันคล้ายอาวุธในคดีหนึ่งเมื่อสามปีก่อน วังจื๋อเริ่มต้นสืบจากจุดนี้แต่ก็ไม่ได้ผล เดิมทีวังจื๋ออยากปิดบังฮ่องเต้เรื่องอาวุธดังกล่าว แต่ทุกย่างก้าวของเขาอยู่ในสายพระเนตรของฮ่องเต้มาตลอดจึงปิดไม่มิด ความกลัวของวังจื๋อถูกขันทีติงหม่านมองออก ติงหม่านจึงพาเขาออกนอกวังและปลอบใจ แต่ทว่า เมื่อวังจื๋อออกไปแล้วติงหม่านกลับแอบไปพบหลีจื่อหลง และแอบได้สูตรของยาพิษที่ใช้กับตั่วเอ๋อร์ลา

ขณะเดียวกัน สุยโจวโน้มน้าวให้หลี่เฟยกับหลี่โหยวปล่อยเขาเพื่อไปร่วมงานแต่งของถังฟั่นกับตั่วเอ๋อร์ลา ซึ่งก่อนวันงาน ตั่วเอ๋อร์ลามีความสุขมาก .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 28 วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2563

ในงานแต่งของถังฟั่นกับตั่วเอ๋อร์ลา สุยโจวที่ยังอยู่กับพวกหลี่เฟยหลี่โหยวแอบออกมาร่วมงานด้วย น่าเสียดายที่เขาถูกจับไปขณะที่งานดำเนินไปได้เพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังถูกเซวียหนิงเห็นเข้า สุยโจวรีบเข้ามาตีเขาให้สลบและทิ้งเบาะแสของโจรไว้ให้ ที่แท้หลี่เฟยและหลี่โหยวเป็นหัวหน้าของพวกทหารปลดประจำการ ทหารกลุ่มนี้ไม่ได้รับการปฎิบัติที่ดีประกอบกับจนตรอกจึงหันมาเป็นโจร สุยโจวอยู่กับพวกเขามาระยะหนึ่งแล้วและพยายามหาโอกาสหยุดพวกเขากระทำความผิด หลี่เฟยและหลี่โหยววางแผนจะปล้นร้านแลกเงิน แล้วนำเงินเหล่านั้นแจกจ่ายให้บรรดาทหารเก่ากลับบ้าน 

ขณะเดียวกัน งานแต่งของถังฟั่นกับตั่วเอ๋อร์ลายังดำเนินต่อไป ติงหม่านปลอมเป็นชายลึกลับเอายาแก้พิษมาให้ตงเอ๋อร์ แต่ยาแก้นี้มีเพียงขวดเดียว แปลว่าช่วยได้เพียงคนเดียว ถังฟั่นยินดีสละตัวเองเพื่อช่วยตั่วเอ๋อร์ลาแต่ถูกทุกคนห้ามไว้ ระหว่างที่ทุกคนลำบากใจ เผยหวายเสนอให้เสี่ยงนำยามาวิเคราะห์ก่อนเผื่อปรุงเพิ่มและรักษาได้ทั้งสองคน ขณะเดียวกัน เซวียหนิงฟื้นขึ้นมาแล้วและเห็นสัญลักษณ์ที่สุยโจวทิ้งไว้ให้ จึงรีบไปนำกำลังจากกองปราบฝ่ายเหนือไปสนับสนุนสุยโจว 

ด้านสุยโจว พวกโจรปล้นร้านแลกเงินได้อย่างราบรื่น เดิมทีคิดจะซ่อนตัวก่อนแล้วแบ่งเงินกัน แต่องครักษ์เสื้อแพรมาทันล้อมพวกเขาไว้เสียก่อน  อย่างไรก็ตาม  สุยโจวถูกหลี่เฟยกับหลี่โหยวพาตัวหนีเข้าไปยังหอฮวานอี้ พอดีกับที่วังจื๋อก็อยู่ในนั้นและกำลังถามชุยมามาถึงเรื่องหลีจื่อหลง ทั้งหมดเกิดการต่อสู้กันขึ้น

นอกหอฮวานอี้ ว่านทงรู้ว่าวังจื๋ออยู่ด้านในจึงคิดใช้โอกาสนี้บุกเข้าไปฉวยโอกาสฆ่าทั้งวังจื๋อและสุยโจว

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 29 วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563


ในหอฮวานอี้ หลี่เฟยกับหลี่โหยวรู้ว่าวังจื๋อผู้บัญชาการสำนักประจิมอยู่ภายในอาคารเดียวกัน จึงอยากได้ตัวเขามาเป็นตัวประกัน แต่สุยโจวเข้าคุ้มครองวังจื๋อ และเกิดการต่อสู้กันขึ้น ด้านนอกของหอฮวานอี้ก็เช่นกัน ซั่งหมิงมาถึงแล้ว เขากับว่านทงจะถือโอกาสวางเพลิงเผาหอแห่งนี้เพื่อตัดรากถอนโคนวังจื๋อ เดิมทีติงหยงคิดห้ามไว้ แต่ถูกซั่งหมิงหลอกล่อให้อยู่เฉยไว้รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เซวียหนิงจึงจำเป็นต้องเข้าไปเพียงลำพัง หวังเพียงช่วยสุยโจวถ่วงเวลาไว้ เมื่อตงเอ๋อร์รู้เรื่องเข้าก็ร้อนใจ รีบบอกถังฟั่นให้ช่วยเหลือสุยโจว


ถังฟั่นไม่อาจนิ่งเฉย ถึงแม้พิษใกล้กระจายทั่วร่างตัวเองแล้ว ก็ยังตามเข้าไปในหอฮวานอี้ ทั้งถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อร่วมมือกันต่อสู้จนพากันออกจากวงล้อมได้ แต่เวลานั้นเองพิษในร่างถังฟั่นก็กำเริบจนเขาหมดสติ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าเผยหวายคิดค้นยาแก้สำเร็จ จนช่วยชีวิตทั้งถังฟั่นและตั่วเอ๋อร์ลาไว้ได้


หลังจากผ่านความเป็นความตายมา ทุกคนกลับมาสู่บรรยากาศแห่งความสงบ แต่ไม่นานนักก็มีคดีใหญ่มาอีก ซุนต๋าเพื่อนเก่าของสุยโจวจู่ๆแวะมาเยี่ยม และขอให้สุยโจวช่วยเหลือ เนื่องจากเขาพบว่ามีการขโมยเกิดขึ้นในถ้ำน้ำแข็ง แต่โจรไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย หากเรื่องนี้แพร่ออกไปเขาคงได้ถูกฆ่าล้างตระกูลเป็นแน่ ถังฟั่นและสุยโจวลองตรวจดูแล้วไม่พบเบาะแส จึงคิดเริ่มสืบจากตลาดมืด แต่หนึ่งในสองคนต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิง ซึ่งได้แม่นางชิงเกอแห่งหอฮวานอี้มาช่วยแต่งตัว .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 30 วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563


ถังฟั่นปลอมตัวเป็นชุยมามาแห่งหอฮวานอี้เข้าไปยังตลาดมืด เป้าหมายคือหาตัวการใหญ่ของพวกขายน้ำแข็ง ซึ่งในที่สุดก็เจอจินซันเย๋ ถังฟั่นและสุยโจวพยายามจนได้รับความเชื่อใจจากจินซันเย๋ และมั่นใจว่าจินซันเย๋นี่เองคือตัวการขโมยน้ำแข็ง แต่ขณะเดียวกันทั้งคู่ก็ได้รู้ว่าจินซินเย๋คือโจรผู้ขโมยจากคนรวยไปให้คนจน เงินที่พวกเขาได้มาล้วนแล้วแต่นำไปบริจาคให้คนจนที่อยู่โดยรอบ ข้อมูลนี้ทำให้ถังฟั่นและสุยโจวเกิดความลำบากใจ


ขณะเดียวกัน วังจื๋อมาหาถังฟั่นเพื่อให้เขาช่วยตามหาร่องรอยของหลีจื่อหลง ถังฟั่นรู้ว่าหลีจื่อหลงเป็นคนเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อน จึงบอกวังจื๋อว่าข้อมูลที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ไม่สามารถจับตัวหลีจื่อหลงได้แน่ ต้องวางแผนระยะยาว แต่สิ่งที่ทั้งสองไม่รู้ก็คือ บัดนี้หลีจื่อหลงซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงรอคอยเวลาสำหรับแผนการของเขา สายของเขาก็คือแม่นางชิงเกอคนดังแห่งหอฮวานอี้นั่นเอง โชคร้ายไม่ได้มาหนเดียว ตั่วเอ๋อร์ลาได้ยินว่าถังฟั่นใกล้ชิดกับชิงเกอก็โกรธมาก ไม่ฟังที่ถังฟั่นอธิบาย ถังฟั่นให้เผยหวายช่วยแต่เหมือนจะยิ่งแย่ลง
ในที่สุด แม้ความรักของถังฟั่นจะทำให้ตั่วเอ๋อร์ลาอ่อนลงและยอมยกโทษให้ แต่ก็ได้รับรู้ว่าตั่วเอ๋อร์ลากำลังกังวลเรื่องการปรากฏตัวของคนรักเก่า ถังฟั่นเองก็ลำบากใจ ได้แต่บ่นกับสุยโจว แต่สุยโจวผู้ด้านชาไม่สนใจ ตอนนี้เขามีเพียงคดีขโมยน้ำแข็ง เพราะก่อนหน้านี้หลี่เฟยกับหลี่โหยวต้องตายไปอย่างน่าอนาจ สุยโจวยังจำได้ไม่ลืม เขาตัดสินใจว่าครั้งนี้จะต้องชิงลงมือจับจินซันเย๋ก่อน มิฉะนั้นจินซันเย๋อาจต้องตายเหมือนสองพี่น้องแซ่หลี่ .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 31 วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2563


สุยโจวตัดสินใจจะเข้าจับจินซันเย๋ แล้วจะเตือนพวกเขาให้กลับตัวกลับใจเสีย แต่ยังไม่ทันลงมือกลับมีชายชุดดำบุกโจมตีพวกจินซันเย๋เสียก่อน สุยโจวและถังฟั่นฉวยโอกาสช่วงชุลมุนช่วยคนออกมาได้ ระหว่างถูกติดตาม โชคไม่ดีจินซันเย๋ถูกยิงด้วยลูกธนู ถังฟั่นรีบพาเขาไปรักษากับเผยหวาย


เมื่อรักษาแล้ว ทุกคนจึงได้รู้ว่าจินซันเย๋ผู้โด่งดังในตลาดมืดที่แท้เป็นผู้หญิง ชื่อจริงของนางคือจินซันเหนียง เมื่อจินซันเหนียงฟื้นขึ้นก็ซาบซึ้งที่สุยโจวกับถังฟั่นเป็นผู้ช่วยชีวิตตนไว้ ทั้งยังตั้งใจกลับตัวเสียใหม่อย่างที่สุยโจวแนะนำ พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยความลับของตระกูลจินว่า บรรพบุรุษของจินซันเหนียงคือแรงงานที่สร้างถ้ำน้ำแข็ง ดังนั้นตระกูลจินจึงรู้ทางลับที่เชื่อมต่อโลกภายนอกกับในวังจนขนน้ำแข็งออกมาได้ตามต้องการ เพราะเหตุนี้หลีจื่อหลงจึงส่งคนมาจับจินซันเหนียง เพื่อให้นางบอกตำแหน่งของทางลับดังกล่าว แต่การเข้ามาแทรกของถังฟั่นและสุยโจวทำให้แผนของหลีจื่อหลงต้องเสียหาย


แม้โกรธแค้นมาก แต่หลีจื่อหลงไม่ยอมเสียเวลากับความพ่ายแพ้ จดหมายลับของติงหม่านได้บอกข้อมูลใหม่ให้เขา เขาเบี่ยงความสนใจไปยังชายแดนระหว่างต้าหมิงกับเผ่าหว่าล่า ซึ่งขณะนี้มีทหารจากกลุ่มลับของหว่าล่าเริ่มบุกตีต้าหมิงแล้ว แต่กลับโดนอาวุธลับสังหารหมด องค์ชายรองแห่งหว่าล่าเกรงกลัวอาวุธดังกล่าวนี้มาก และเริ่มมีปฎิบัติการใต้ดินต่อต้าหมิง


ทางด้านเมืองหลวง ถังฟั่นยังไม่รู้ว่าอันตรายเริ่มเข้ามาใกล้ตัว เขายังกลุ้มใจเรื่องคนรักเก่าของตั่วเอ๋อร์ลา จากการชี้แนะของชิงเกอ ถังฟั่นตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างแล้วช่วยตั่วเอ๋อร์ลาตามหาคนรักเก่าของนางที่ชื่ออาลาซือ จากการวิเคราะห์ตัวยาลึกลับของเผยหวาย ถังฟั่นเดาว่าอาลาซืออาจอยู่ในวังหลวง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้วังจื๋อตื่นตัวขึ้นด้วย

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 32 วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563


แม้สุยโจวได้กลับสู่กองปราบฝ่ายเหนือ แต่ว่านทงก็ยังบีบเขาทุกทาง สุยโจวทำเหมือนไม่สนใจแต่ภายในใจเกิดความกดดันอย่างมาก จนฝันร้ายจากการทำศึกในอดีตกลับมาหลอกหลอน และครั้งหนึ่งเกือบทำร้ายตงเอ๋อร์โดยไม่ตั้งใจ


ถังฟั่น เซวียหนิงและสหายทั้งหลายล้วนเป็นห่วงอาการทางใจของสุยโจว ต่างพากันนำเคล็ดลับต่างๆของครอบครัวมาเสนอเผื่อช่วยสุยโจวได้ แม้ดูไปแล้วเป็นเรื่องเหลวไหลแต่ความเป็นห่วงเป็นใยที่มีต่อสุยโจวนั้นก็น่านับถือ ขณะที่พวกถังฟั่นยังหัวเราะกันได้ ทางเผ่าหว่าล่าได้เริ่มลงมือกันแล้ว อาลาซือที่ถังฟั่นและตั่วเอ๋อร์ลาพยายามหาตัว ที่แท้คือติงหม่าน


ติงหม่านได้รับคำสั่งลับจากทางเผ่าให้จับราชบุตรเขยหวังเซวียน หวังเซวียนคนนี้เดิมเป็นนักประดิษฐ์อาวุธใหม่ๆ ที่อยู่ในกองทัพ อาวุธร้ายที่เคยถล่มกองทัพหว่าล่าในอดีตก็มาจากหวังเซวียนคนนี้ ถังฟั่นไม่รู้ว่าขณะที่เขาตามหาอาลาซือ นั่นเท่ากับเข้าใกล้โฉมหน้าอันแท้จริงของติงหม่านไปด้วย ส่วนทางชิงเกอก็ได้รับคำสั่งจากหลีจื่อหลงให้เข้าใกล้ตั่วเอ๋อร์ลา เพื่อหาโอกาสขโมยข้อมูลจากถังฟั่น


ในขณะที่ความจริงทุกอย่างกำลังจะเปิดเผย ติงหม่านก็ชิงลงมือก่อน หวังเซวียนถูกพวกเขาจับไปจนได้ เรื่องนี้สร้างความตื่นตระหนักให้กับราชสำนักอย่างมาก ฮ่องเต้มีพระราชบัญชาให้ขุนนางตามตัวราชบุตรเขยหวังเซวียนกลับมาให้ได้ แต่ทรงมีพระดำรัสส่วนตัวกับวังจื๋อด้วยว่า หากไม่สามารถนำตัวหวังเซวียนเป็นๆกลับมาได้ ถึงตายก็ห้ามให้หว่าล่าเอาตัวเขาไป

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 33 วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2563

ราชบุตรเขยถูกจับตัวไปเป็นเรื่องใหญ่ สุยโจวและวังจื๋อเชิญถังฟั่นมาช่วยเหลือ ระหว่างตรวจศพ ถังฟั่นได้พบเบาะแสอย่างหนึ่ง เขาคาดคะเนว่าชาวหว่าล่าที่ก่อเรื่องน่าจะซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนฆ่าสัตว์ในย่านเถี่ยซือ จากเบาะแสนี้ สุยโจวนำองครักษ์เสื้อแพรเข้าค้นทุกบ้านในเมืองดังกล่าว ส่วนวังจื๋อสืบหาเบาะแสจากชีวิตประจำวัน และการทำงานของราชบุตรเขย ในระหว่างนี้วังจื้อก็ได้พบองค์หญิงกู้อัน ผู้เป็นภรรยา นางเป็นห่วงสามีมากและขอร้องให้วังจื๋อช่วยหวังเซวียนกลับมาให้ได้

วังจื๋อยังได้พบจางก่งจู้ ผู้ช่วยของหวังเซวียนด้วย วังจื๋อคาดไม่ถึงว่าจางก่งจู้ก็เป็นห่วงความปลอดภัยของหวังเซวียน และเน้นกับเขาเรื่องที่หวังเซวียนเป็นนักประดิษฐ์อาวุธ วังจื๋อไม่พบอะไรใหม่ แต่ทางด้านสุยโจวมีความคืบหน้าบางส่วน

ขณะเดียวกัน ถังฟั่นยังตามหาอาลาซือจากเบาะแสยาแก้พิษ จนเจอร่องรอยของอาลาซือในวัง จู่ๆ ตั่วเอ๋อร์ลากลับเปลี่ยนใจ ขอให้ถังฟั่นเลิกตามหาคนผู้นี้ ถังฟั่นไม่เข้าใจ ชิงเกอบอกกับเขาว่าเป็นไปได้ที่ตั่วเอ๋อร์ลาอาจได้พบกับอาลาซือแล้ว ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้น เพราะการที่สุยโจวกับองครักษ์เสื้อแพรติดตามอย่างจริงจัง ทำให้อาลาซือที่จับตัวหวังเซวียนหมดทางไป จึงมาขอความช่วยเหลือจากตั่วเอ๋อร์ซือคนรักเก่า ถังฟั่นผู้ฉลาดเฉลียวจับเอาปริศนาเรื่องอาลาซือกับราชบุตรถูกจับตัวไปมาเชื่อมเข้าด้วยกัน ก็ตกใจมากและรีบไปถามความจริงจากตั่วเอ๋อร์ลา ส่วนชิงเกอที่แฝงตัวอยู่ข้างกายถังฟั่นมานานก็ได้รู้ในสิ่งที่หลีจื่อหลงต้องการ .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 34 วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2563


เพื่อหยุดไม่ให้ถังฟั่นตามหาอาลาซืออีก ตั่วเอ๋อร์ลาใช้เหตุผลการไปเยี่ยมพ่อแม่ที่หว่าล่ามาเป็นเหตุผลหลอกล่อถังฟั่น ถังฟั่นหลงกลและไม่ตามหาอีก แต่เมื่อเขาพบกับสุยโจวและวังจื๋อ จากข้อมูลของทั้งคู่ ถังฟั่นรู้สึกว่าเรื่องนี้มีความผิดปกติ ประกอบกับการไล่ถามของวังจื๋อ ในที่สุดถังฟั่นก็เชื่อมโยงเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทั้งสามคนเห็นตรงกันว่าติงหม่านก็คืออาลาซือ ผู้เป็นสายลับที่หว่าล่าส่งมาเข้าวังหลวง

เพื่อไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ทั้งสามคนวางแผนล่องูออกจากถ้ำ เพื่อจับพวกหว่าล่าพร้อมช่วยหวังเซวียนออกมาอย่างราบรื่น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ถังฟั่นเป็นห่วงความปลอดภัยของตั่วเอ๋อร์ลา จึงเข้าไปหานางเพียงลำพัง และได้พบกับอาลาซือโดยไม่คาดฝัน เดิมทีอาลาซือจะขอให้ตั่วเอ๋อร์ลากลับไปยังหว่าล่า แต่ตั่วเอ๋อร์ลาบอกกับเขาไปตรงๆว่านางมีคนรักใหม่แล้ว นั่นก็คือถังฟั่น อาลาซือโกรธมากและรู้ว่าสถานะตัวเองไม่เป็นความลับอีกต่อไป เขาตีถังฟั่นจนหมดสติ และหวังว่าจะใช้ร่างถังฟั่นเป็นโล่กำบังหนีออกจากวงล้อม ตั่วเอ๋อร์ลารู้เข้าก็ตามไปด้วย

อีกด้านหนึ่งสุยโจวกับวังจื๋อที่วางกับดักเรียบร้อยแล้วเห็นถังฟั่นถูกจับตัวไปต่างก็เป็นกังวล สุยโจวเป็นห่วงความปลอดภัยของถังฟั่น วังจื๋อเป็นห่วงว่าอาลาซือจะพาหวังเซวียนหนีไปได้ เพราะกลัวงานเสียหายวังจื๋อ จึงสั่งให้พลปืนเล็งไปที่อาลาซือและถังฟั่น เขายอมให้ถังฟั่นบาดเจ็บดีกว่าเกิดความผิดพลาด ในช่วงเวลาคับขัน สุยโจวออกมาปกป้องถังฟั่นจากปากกระบอกปืนจนสำเร็จ
อาลาซือพาถังฟั่นหนีไปขึ้นรถม้าพร้อมกับตั่วเอ๋อร์ลา เขาโต้เถียงกับถังฟั่น แม้ทั้งคู่จะมีจุดยืนที่ต่างกัน แต่ต่างก็อยากปกป้องตั่วเอ๋อร์ลา ระหว่างที่โต้แย้งกัน ตั่วเอ๋อร์ลาเผลอไปจุดระเบิดจนไฟลุกขึ้น ในจังหวะที่ทั้งสามจะต้องไหม้เป็นจุลไปด้วยกัน ตั่วเอ๋อร์ลาผลักถังฟั่นออกนอกตัวรถ เหลือตัวเองกับอาลาซือฝังร่างอยู่ในกองเพลิง .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 35 วันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563


เมื่อสามปีก่อน ตอนถังฟั่นเพิ่งสอบติดราชการ เนื่องจากราชสำนักขาดคน จอหงวนอันดับหนึ่งอย่างเขาจึงถูกลดขั้นไปเป็นอันดับ 4 และให้อยู่ในตำแหน่งงานไม่สำคัญ ทำให้ถังฟั่นเบื่อหน่ายต่อสังคมรอบข้าง ในเวลาเดียวกันด้านวังจื๋อ ก็เป็นเพียงขันทีตัวน้อยที่คอยฝนหมึกในห้องทรงอักษร แม้ได้รับความเมตตาจากฮ่องเต้ แต่ก็ไร้อำนาจ ส่วนสุยโจว เขาเพิ่งกลับมาจากประจำที่ชายแดน และเข้ารับราชการในกองปราบฝ่ายเหนือองครักษ์เสื้อแพร เนื่องจากนิสัยเย็นชาและชาติตระกูลดี จึงมักถูกปัดแข้งปัดขาจากพวกเซวียหนิง

ในเวลานั้นเอง ห้องเสบียงของกองทัพเกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น รอบด้านลุกเป็นไฟเสียหายมาก ถังฟั่น สุยโจวและวังจื๋อล้วนตกตะลึงกับภาพตรงหน้า การระเบิดครั้งนี้เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิตคนทั้งสาม ถังฟั่นเห็นชาวบ้านที่ลำบากยากเข็ญจึงละทิ้งความโกรธแค้นและอคติ กระโดดลงมาช่วยเหลืออย่างเต็มตัว ด้านสุยโจวที่เพิ่งกลับมาจากการออกศึก บาดแผลในใจฝึกให้เขาเป็นคนด้านชา แต่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เขายินดีกระโดดเข้าไปในกองเพลิงลุกโหมนั้น ส่วนวังจื๋อ ฮ่องเต้เห็นราษฎรเดือดร้อนจึงอยากเสด็จออกนอกวังโดยไม่เปิดเผยพระองค์และให้วังจื๋อเป็นผู้จัดการเรื่องนี้ วังจื๋อใช้ความฉลาดจัดการตามที่ฮ่องเต้ต้องการ ทั้งในยามคับขันก็ยังปกป้องความปลอดภัยของพระองค์ได้

เมื่อเหตุการณ์ระเบิดจบลง ถังฟั่นเก็บความหุนหันพลันแล่นของตนแล้วก้าวเข้าศาลซุ่นเทียนอย่างหนักแน่น การเป็นผู้พิพากษายศไม่สูงสำหรับเขาแล้ว หากได้ช่วยเหลือราษฎรอย่างแท้จริงย่อมดีกว่าลาภยศจอมปลอม ส่วนสุยโจวที่มุ่งมั่นทำภารกิจสุดตัว ก็ได้รับการยอมรับจากพวกเซวียหนิง และยินดีติดตามเขาอย่างจริงใจ ตัวสุยโจวเองก็ดีขึ้นมากจากความเจ็บปวดที่เกิดจากสงคราม ในสามคนนี้ มีความสำเร็จมากที่สุดคือวังจื๋อ เพราะมีผลงานที่ปกป้องฮ่องเต้ จนได้เป็นผู้บัญชาการสำนักประจิมที่ไม่เคยมีมาก่อน และเป็นขุนนางที่ฮ่องเต้ไว้พระทัย .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 36 วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม 2563

แรงระเบิดจากอาวุธของอาลาซือและตั่วเอ๋อร์ลาสั่นสะเทือนไปถึงเมืองหลวง รวมถึงฮ่องเต้ที่อยู่ภายในพระราชวังต้องห้าม ฮ่องเต้และว่านกุ้ยเฟยคิดว่าโศกนาฎกรรมเมื่อ 3 ปีก่อนเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงรับสั่งให้วังจื๋อเข้าวังโดยด่วน วังจื๋อรายงานสถานการณ์แล้วพบว่าฮ่องเต้ทรงกริ้วมาก เนื่องจากได้มีคำสั่งให้หยุดการวิจัยอาวุธลักษณะนี้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้มันกลับปรากฏขึ้นในเมืองหลวงอีก แปลว่าย่อมมีผู้คิดร้ายต่อต้าหมิงอยู่เป็นแน่ ดังนั้นฮ่องเต้จึงมีพระบัญชาให้วังจื๋อไปสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจน

ความตายของตั่วเอ๋อร์ลาสร้างความสะเทือนใจให้ถังฟั่นมาก เพราะความเศร้าทำให้เขาโยนความผิดทั้งหมดไปที่สุยโจว ถังฟั่นกล่าวโทษว่าสุยโจวดึงตัวเขาไว้จนช่วยตั่วเอ๋อร์ลาไม่ได้ ซึ่งไม่มีเหตุผลเลย จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดความสัมพันธ์กัน

แต่ในความเป็นจริงแล้วสุยโจวเองก็เสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อย และทำให้บาดแผลทางใจของเขาที่เคยหายดีแล้วปะทุขึ้นมาอีก ทั้งยังรุนแรงกว่าเดิม ตงเอ๋อร์กับเผยหวายเป็นห่วงอาการของสุยโจวมาก แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าคนที่จะรักษาอาการนี้ได้มีเพียงถังฟั่น ทว่าสภาพถังฟั่นตอนนี้อยู่ในอาการหมดอาลัยตายอยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการช่วยเหลือสุยโจวเลย ดังนั้นทั้งคู่จึงเป็นที่ห่วงใยของญาติและมิตรอยู่มาก

ชิงเกอฉวยโอกาสนี้เข้าปลอบใจถังฟั่นและล้วงข้อมูลที่หลีจื่อหลงต้องการ ซึ่งสิ่งที่หลีจื่อหลงอยากรู้มากที่สุดตอนนี้คือที่อยู่ของราชบุตรเขยหวังเซวียนนักประดิษฐ์อาวุธผู้มีฝีมือ ทางด้านวังจื๋อ เพื่อปิดคดีอาวุธสงครามเขาไม่รอช้าแย่งชิงตัวหวังเซวียนมาทรมานในสำนักประจิม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับองค์หญิงกู้อันเป็นอย่างมาก องค์หญิงกู้อันพยายามหาทางช่วยสามีออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งนี้ แม้วังจื๋อจับตัวหวังเซวียนมาได้แล้ว แต่การสืบสวนก็ยังไม่ราบรื่น สำนักประจิมจึงเรียกตัวจางก่งจู้มาสอบปากคำเพิ่มเติม ท่าทีของเขาดูแปลกไปจากเดิม ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็น .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 37 วันพุธที่ 2 กันยายน 2563

ชิงเกอแอบพบกับหลีจื่อหลง เขาสั่งให้นางช่วยถังฟั่นออกจากความเศร้า และรีบกลับสู่สภาวะเดิมเพื่อมาสืบคดีต่อ เพราะมีเพียงถังฟั่นที่จะปิดคดีอาวุธนี้ได้แล้วหลีจื่อหลงก็จะบรรลุเป้าหมาย ดังนั้นจากการให้กำลังใจจากชิงเกอและการกระตุ้นจากวังจื๋อ ในที่สุดถังฟั่นก็ตั้งต้นได้ใหม่ และเริ่มเข้าสู่การสืบคดี

ราชบุตรเขยหวังเซวียนที่เป็นโรคความจำเสื่อมและไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ แต่จากความตั้งใจของถังฟั่นทำให้เขาค่อยๆเปิดใจยอมรับ ในเวลาเดียวกันจางก่งจู้เดินทางมายังสำนักประจิมแล้วเสนอตัวช่วยเหลือการสืบ แต่การปรากฏตัวของเขาทำให้หวังเซวียนเข้าสู่อาการกลัวมากอีกครั้ง จนปิดใจไม่ยอมสื่อสารกับใคร การสืบสวนเข้าสู่ภาวะกดดัน ถังฟั่นขอร้องให้วังจื๋อเสี่ยงขอบันทึกที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากราชสำนักมาดู

ทางด้านการสืบของสุยโจวกับเซวียหนิงมีความคืบหน้า ทั้งคู่ได้เบาะแสจากเศษระเบิดที่หลงเหลืออยู่มาเปิดความลับของหวังเซวียน และได้พบกับตัวเลขวันที่ที่เหมือนกับการบันทึกรหัสลับ พวกเขานำเอารหัสดังกล่าวมาให้ถังฟั่นช่วยตีความ ขณะเดียวกัน จางก่งจู้ก็นำเบาะแสบางอย่างจากบันทึกมาให้ถังฟั่น ถังฟั่นประกอบสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันและสืบพบผู้อยู่เบื้องหลังการทำอาวุธประเภทนี้เมื่อหลายปีก่อน คนคนนั้นคือผู้ช่วยจากกรมทหารจางก่งจู้นั่นเอง

ชิงเกอเมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวก็รีบนำไปบอกหลีจื่อหลงที่ซ่อนตัวอยู่ แต่หลีจื่อหลงฟังแล้วก็แปลกใจ เขานึกไม่ออกว่าทำไมจางก่งจู้ต้องเปิดเผยตัวเพื่อมารับโทษแทนหวังเซวียนด้วย .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 38 วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2563

เมื่อถังฟั่นและสุยโจวรู้ว่าคนบงการเบื้องหลังคือจางก่งจู้ก็รีบไปแจ้งวังจื๋อที่สำนักประจิม และได้รับการยืนยันจากปากหวังเซวียนเอง สำนักประจิมจึงร่วมมือกับองครักษ์เสื้อแพรทำคดีนี้ หมายจะจับตัวจางก่งจู้ให้ได้ แต่ทั้งสองหน่วยงานก็ได้แต่คว้าน้ำเหลวเพราะจางก่งจู้จากไปแล้ว

หลีจื่อหลงคาดเดาถึงสถานะที่แท้จริงของผู้บงการคนนี้ว่าต้องเป็นการปลอมตัวของบุตรสาวของอ๋องในฮ่องเต้องค์ที่แล้ว นั่นก็คือองค์หญิงกู้อัน หลีจื่อหลงเดาว่าสาเหตุมาจากพระบิดาของนางทำให้นางแค้นเคืองฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน  ดังนั้นจึงแอบสร้างอาวุธชนิดนี้ขึ้นมาเพื่อแผนการใหญ่  หลีจื่อหลงต้องการพิสูจน์ความคิดของตัวเอง  จึงส่งชิงเกอให้แอบเข้าไปยังจวนแล้วจับตาดูองค์หญิง ในที่สุดก็เป็นจริงดังที่เขาคาด หลีจื่อหลงมาปรากฏตัวที่จวนองค์หญิง เพื่อโน้มน้าวให้นางมาเป็นพันธมิตร

องค์หญิงกู้อันยอมให้สถานะของจางก่งจู้เปิดเผยเพื่อช่วยชีวิตหวังเซวียน นางวิงวอนหลายครั้งจนฮ่องเต้รับปากจะลดโทษให้หวังเซวียน เมื่อหลีจื่อหลงรู้ความคิดขององค์หญิงกู้อัน จึงตั้งใจทำลายแผนของนางและดึงนางมาเป็นพวกให้ได้ เขาส่งชิงเกอไปแอบเตือนถังฟั่นที่กรมอาญา ในที่สุดจากการชี้นำของชิงเกอ ถังฟั่นก็เดาสถานะที่แท้จริงของจางก่งจู้ออก เขากับวังจื๋อขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้กลางดึก เพื่อแก้ไขราชโองการที่ลดหย่อนโทษให้หวังเซวียน 

ขณะเดียวกัน อาการป่วยทางใจของสุยโจวนับวันก็ยิ่งแย่ลงทุกที กระทั่งเริ่มใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้คน ตงเอ๋อร์เห็นเช่นนี้ก็เป็นห่วงมาก นางกับเผยหวายบอกถึงความรุนแรงของอาการสุยโจวให้ถังฟั่นฟัง และขอร้องให้เขาช่วยรักษาสุยโจวด้วย เบื้องหน้าถังฟั่นดูเย็นชาไร้อารมณ์ แต่ในใจนั้นก็เป็นห่วงมาก ดังนั้นเขาจึงเริ่มหาวิธีช่วยสุยโจว ทางด้านองค์หญิงกู้อัน จู่ๆก็ได้ข่าวว่าหวังเซวียนต้องโทษประหาร นางโกรธฮ่องเต้มากที่กลับคำ จึงหันมายอมรับข้อเสนอของหลีจื่อหลงและร่วมมือกับเขา

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 39 วันพุธที่ 9 กันยายน 2563

หลีจื่อหลงตั้งเงื่อนไขว่าจะช่วยหวังเซวียนแลกกับระเบิดในมือของกู้อัน ซึ่งนางก็ได้แต่จำใจยอม จากนั้น กู้อันแต่งตัวเป็นจางก่งจู้มามอบตัวยังสำนักประจิม และลบเครื่องสำอางต่อหน้าทุกคนให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง ระหว่างการสอบสวน กู้อันใช้ระเบิดที่นางวางไว้ทั่วเมืองหลวงมาเป็นไพ่ตาย ขู่เรียกร้องให้วังจื๋อไปขอร้องฮ่องเต้ให้ยกเว้นโทษประหารให้กับหวังเซวียนเสีย สำนักประจิมกับองครักษ์เสื้อแพรจึงรีบไปจัดการระเบิดเหล่านี้ โดยมีถังฟั่นเฝ้ากู้อันไว้

แม้ถังฟั่นและวังจื๋อจะแปลกใจในท่าทีของถังฟั่น แต่เวลามีจำกัด ทั้งคู่จึงต้องรีบไปจัดการกับระเบิดก่อน เมื่อทั้งคู่ไปแล้ว ถังฟั่นจึงเปิดเผยแผนของกู้อัน เขารู้ว่ากู้อันไม่มีทางเชื่อฮ่องเต้อีก ดังนั้นสิ่งที่นางทำย่อมเป็นการล่อเสือให้ออกจากถ้ำ รอผู้ช่วยเหลือมามากกว่า

กู้อันแปลกใจที่ถังฟั่นรู้ความจริงแล้วยังเอาตัวเองมาเสี่ยง ถังฟั่นจึงบอกนางว่าเขาอยากใช้โอกาสนี้ช่วยรักษาแผลใจให้สุยโจวด้วย ขณะที่ทั้งคู่กำลังสนทนากัน หลีจื่อหลงก็นำคนมาถึง เพราะตอนนี้สำนักประจิมนำกำลังไปตรวจหาระเบิด ภายในจึงว่างเปล่าจนหลีจื่อหลงเข้ามาถึงคุกได้โดยง่ายดาย หลีจื่อหลงได้พบกับถังฟั่นอีกครั้ง เขาสั่งให้ชิงเกอฆ่าถังฟั่นเสีย แต่ชิงเกอทำไม่ลง ระหว่างพวกเขาโต้แย้งกัน สุยโจวพลันฉุกคิดขึ้นได้และรีบกลับมายังสำนักประจิม ทั้งหมดเกิดการปะทะกัน ซึ่งหลีจื่อหลงมีการเตรียมการไว้ก่อนแล้ว ระหว่างชุลมุนเขาจึงพาตัวหวังเซวียนและกู้อันหนีออกจากสำนักประจิม

จากการช่วยถังฟั่นครั้งนี้สุยโจวเองก็ได้ปลดปล่อยความรู้สึกตัวเองจนความเครียดที่อยู่ในใจลดน้อยลง  แม้หวังเซวียนกับกู้อันหนีไปได้ แต่พวกเขาก็เก็บระเบิดได้ไม่น้อย ยังถือว่าพอเป็นผลงานได้บ้าง เมื่อทุกอย่างคลี่คลายลง สุยโจวเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ถังฟั่นฟัง ถังฟั่นพิจารณาแล้วรู้สึกสงสัยจึงรีบกลับสำนักประจิมอีกครั้ง 

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 40 วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2563

หลีจื่อหลงเมื่อช่วยกู้อันกับหวังเซวียนออกมาแล้ว ก็ขอให้หวังเซวียนทำตามข้อตกลง นั่นคือนำระเบิดที่เหลือมาประกอบให้เสร็จสมบูรณ์ ตอนแรกหวังเซวียนไม่ตกลง แต่หลีจื่อหลงใช้ชีวิตของกู้อันมาบีบคั้นเขาจึงจำใจยอม ที่แท้ถังฟั่นและพรรคพวกหลงกลหลีจื่อหลง ระเบิดที่กู้อันบอกว่ามีทั่วเมืองหลวงนั้นที่จริงมีเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งที่เหลือยังอยู่ในมือของหลีจื่อหลง 

ขณะเดียวกัน ถังฟั่นมาถึงสำนักประจิมแล้ว เมื่อคำนวณถึงวัตถุดิบกับปริมานที่เขียนอยู่ในบันทึกแล้ว ถังฟั่นกับวังจื๋อก็พบความจริง ทั้งคู่ตกใจมาก วังจื๋อโกรธมากจนแทบจะไม่มองหน้าถังฟั่น ทั้งคู่พยายามสงบสติอารมณ์ แล้วนำแผนที่มาวิเคราะห์ที่ซ่อนระเบิดที่เหลือ จากการวิเคราะห์บวกกับรหัสลับที่สุยโจวพบเมื่อคราวก่อน รวมถึงสิ่งที่เขียนในบันทึก ถังฟั่นคิดว่าระเบิดที่เหลือน่าจะซ่อนอยู่ในสถานที่ที่กู้อันกับหวังเซวียนพบกันครั้งแรก นั่นคือ ลานจุดดอกไม้ไฟในวัง ดังนั้นถังฟั่นกับวังจื๋อจึงรีบนำกำลังจากสำนักประจิมไปที่นั่น

ตอนที่ไปถึงหวังเซวียนติดตั้งระเบิดทั้งหมดพอดี  เมื่อหลีจื่อหลงเห็นสำนักประจิมกำลังมาเขารีบหลบฉากและสั่งให้ลูกน้องจุดไฟ ในยามคับขัน ถังฟั่นพยายามยกความรักของหวังเซวียนมาโน้มน้าวองค์หญิงกู้อันจนสามารถเปลี่ยนทิศทางของจรวดและขึ้นระเบิดกลางท้องฟ้า พระราชวังต้องห้ามจึงรอดพ้นจากอันตรายมาได้ สุยโจวเห็นระเบิดก็รีบมาช่วยถังฟั่นจากเศษซากปรักหักพัง ครั้งนี้ทั้งคู่สร้างผลงานจนได้รับพระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้ สุยโจวได้กลับไปประจำตำแหน่งเดิม ส่วนถังฟั่นนั้นพระองค์อยากเลื่อนให้มาอยู่กรมทหารในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ถังฟั่นปฎิเสธพร้อมยืนยันว่าตัวเองอยากกลับไปทำหน้าที่สืบคดีที่ศาลซุ่นเทียน ฮ่องเต้จึงจำใจรับปากเขา

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 41 วันพุธที่ 16 กันยายน 2563

เหตุการณ์ระเบิดเกี่ยวพันถึงสายลับที่ชาวหว่าล่าส่งมาซ่อนตัวในต้าหมิง เพื่อผ่อนความตึงเครียดกับต้าหมิง ผู้นำของหว่าล่าตัดสินใจปล่อยนักโทษที่ติดคุกมาแล้วหลายปี ซึ่งในนั้นรวมถึงเกาอี้ขุนนางฝีมือดี ฮ่องเต้รับทราบแล้วทรงดีพระทัยมาก รับสั่งให้มีงานเลี้ยงต้อนรับ รวมถึงพระราชทานรางวัลพร้อมตั้งเป็นขุนนางชั้นสูง แต่นึกไม่ถึงว่าฮูหยินของเกาอี้กลับมาปรากฎตัวที่ศาลซุ่นเทียน และร้องเรียนว่าผู้ที่กลับมานั้นเป็นเกาอี้ตัวปลอม ไม่ใช่ตัวจริง นี่เป็นคดีแรกหลังจากถังฟั่นกลับมายังศาลซุ่นเทียน และเป็นคดีที่ฮ่องเต้สนพระทัยมาก ดังนั้นถังฟั่นไม่อาจชักช้า ต้องรีบลงมือสืบคดี

สุยโจว ถังฟั่นและวังจื๋อแยกกันสืบเรื่องเกาอี้ สุยโจวไปพบเกาอี้ด้วยตัวเอง เพราะต่างก็เป็นทหารประจำชายแดนมาก่อนย่อมพอพิจารณากันออก หลังจากการสนทนาครั้งนี้ สุยโจวตัดสินได้ว่าเป็นเกาอี้ตัวจริง แต่ก็ยังมีจุดที่เขาสงสัยนั่นคือคนที่ผ่านความทุกข์มานานย่อมมีสภาพจิตใจที่หดหู่ โดยเฉพาะอย่างเกาอี้ที่เป็นเชลยศึกมาแล้วถึง 30 ปี ทำไมเขาถึงยังมีการวางท่าคุยโตโอ้อวดได้ ประเด็นนี้สุยโจวยังไม่เข้าใจนัก ทางด้านวังจื๋อได้ส่งเจี่ยขุยไปสืบที่หว่าล่า เจี่ยขุยไม่ได้ข่าวคราวอะไรกลับมาแถมยังไปฆ่าคน ส่วนถังฟั่นได้พบกับเกาฮูหยินแล้ว เขาได้ผลสรุปว่าจะต้องสืบทางเกาฮูหยิน

จากการวิเคราะห์ของสุยโจวและถังฟั่น ในที่สุดทั้งคู่ลงความเห็นว่าคนที่โกหกคือเกาฮูหยิน เพราะก่อนหน้านี้นางแอบมีลูกกับคนอื่นและกลัวคนจับได้จึงต้องโกหก แต่จากประเด็นที่สุยโจวยังสงสัย ทำให้ถังฟั่นยังไม่วางใจในตัวเกาอี้ผู้นี้ จึงตัดสินใจนัดเขาออกมาทานอาหาร เป็นช่วงเดียวกับที่องค์ชายรองแห่งหว่าล่าได้มาถึงเมืองหลวง เขาได้ยินว่าเกาอี้ตกที่นั่งลำบาก จึงคิดชวนเขากลับไปหว่าล่า  ทางด้านหลีจื่อหลง หลังจากเหตุการณ์ระเบิดแล้ว เขามีแผนใหม่และแอบเริ่มลงมือปฎิบัติการแล้ว

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 42 วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2563


ถังฟั่นไปพบเกาอี้เพียงลำพัง ถังฟั่นเปิดประเด็นถามเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เกาอี้ตอบตามความจริงอย่างไม่ปิดบังว่า 30 ปีนี้ เขาสวามิภักดิ์ต่ออ๋องหว่าล่าคนก่อน และสร้างผลงานออกศึกไว้ไม่น้อยจนได้ฉายาว่านายพลดำ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรับบุตรชายคนรองของท่านอ๋องเป็นศิษย์และรักราวกับบุตรของตัวเอง กล่าวถึงตรงนี้ องค์ชายรองแห่งหว่าล่าก็เดินเข้ามาพอดี องค์ชายขอให้เกาอี้กลับไปสร้างผลงานต่อที่หว่าล่า พร้อมบอกว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ในเมืองหลวง เขาต้องการความช่วยเหลือจากเกาอี้ เกาอี้ตกลงรับคำ ก่อนจากไปองค์ชายรองขอให้เกาอี้สังหารถังฟั่น เกาอี้ก็รับปาก

ทางด้านวังจื๋อเมื่อได้รับข้อมูลของเกาอี้จากเจี่ยขุยจึงนำไปรายงานต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้จึงมีพระบัญชาให้เขารีบนำกำลังไปจับตัวเกาอี้ไว้ ระหว่างทางวังจื๋อพบกับสุยโจว ที่แท้สุยโจวก็ได้ข่าวมาว่าถังฟั่นกำลังอยู่ในอันตราย ดังนั้นคนทั้งคู่จึงรีบออกเดินทางไปจับเกาอี้และช่วยถังฟั่น แต่เมื่อถึงจุดหมายทั้งเกาอี้และถังฟั่นก็ได้จากไปแล้ว

ถังฟั่นฟื้นขึ้นมาและพบว่าตัวเองถูกเกาอี้มัดไว้ แต่เขาไม่ตกใจและได้กล่าวถึงสิ่งที่อยู่ในใจเกาอี้ ที่แท้เกาอี้สวามิภักดิ์ต่อหว่าล่าก็เพื่อต้าหมิง เขานำทัพไปช่วยหว่าล่าตีทางทิศตะวันตก ซึ่งช่วยให้ชาวบ้านต้าหมิงที่ อยู่ตามชายแดนได้ว่างเว้นจากการทำศึกบ้าง นอกจากนั้น เขากับองค์ชายรองของหว่าล่าก็ไม่ได้ผูกพันกันจริง เกาอี้ยอมรับว่าถังฟั่นพูดถูก จากนั้นคิดจากไปแต่ถูกถังฟั่นหลอกล่อให้ต้องอยู่ด้วยกัน เกาอี้จำใจพาถังฟั่นไปยังสถานที่นัดหมายคุยแผนลับ ซึ่งก็คือหอฮวานอี้


ถังฟั่นปลอมตัวแอบเข้าห้องที่เจรจาด้วย และได้รู้ว่าผู้บงการเบื้องหลังคือศัตรูของตัวเองด้วย นั่นคือหลีจื่อหลง หลีจื่อหลงประสานทุกแคว้นรอบๆต้าหมิง หมายจะโค่นล้มต้าหมิง แต่ไม่ได้เผยรายละเอียดออกมา ถังฟั่นอยากได้ข้อมูลเบื้องลึกมากขึ้น จึงเสนอให้เกาอี้นำตัวเขาไปแลกเปลี่ยนกับหลีจื่อหลง ในที่สุดเกาอี้กลับมาสำนักประจิมเพียงคนเดียว เขาบอกวังจื๋อว่าหลีจื่อหลงมีแผนลอบสังหารฮ่องเต้

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 43 วันพุธที่ 23 กันยายน 2563


เมื่อวังจื๋อรู้ว่าหลีจื่อหลงวางแผนลอบสังหารฮ่องเต้ในงานพิธีฉลองเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ หรือพิธีลี่ชุน ก็ยิ่งรู้สึกกดดัน และรีบสั่งลูกน้องให้เพิ่มการคุ้มกัน แต่ไม่ว่าจะเตรียมการอย่างไร เขาก็ยังไม่มั่นใจหากเป็นการโจมตีจากระยะไกล เจี่ยขุยแนะนำเขาให้ไปปรึกษาเพื่อนเก่านักแม่นธนู นั่นคืออูหยุนปู้ลาเก๋อ
สุยโจวรับฟังเรื่องที่ถังฟั่นถูกจับตัวไปได้อย่างไรจากเกาอี้ และตัดสินใจจะไปช่วยถังฟั่น จึงไม่ได้สนใจวังจื๋อที่กำลังกังวลเรื่องลอบสังหารฮ่องเต้ เขาพาเซวียหนิงไปช่วยหาเบาะแส ส่วนวังจื๋อก็ปรึกษาอูหยุนปู้ลาเก๋อว่าจะต้องป้องกันสถานที่จัดงานให้ปลอดภัยได้อย่างไร


ขณะเดียวกัน ในคุกลับของหลีจื่อหลง ถังฟั่นฟื้นจากสลบแล้ว เขาจำได้ว่าหลีจื่อหลงจะฆ่าเขา แต่มีหญิงสาวปิดบังใบหน้าคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องหลีจื่อหลงไว้มาช่วย เขาคาดคะเนว่าหญิงสาวผู้นี้น่าจะเป็นชิงเกอ องค์ชายรองแห่งหว่าล่ากังวลว่าความลับจะแพร่ออกไป จึงต้องการฆ่าปิดปากถังฟั่น แต่ยังดีได้ชิงเกอช่วยโน้มน้าวหลีจื่อหลงให้เก็บถังฟั่นไว้ก่อน
อีกด้านหนึ่ง จากความพยายามหาทางช่วยเหลือถังฟั่น ในที่สุดสุยโจวกับเซวียหนิงได้พบเบาะแสของขบวนรถม้าของหลีจื่อหลง และได้รู้ว่าผู้ขับรถม้าคือจินซันเหนียงที่เขาเคยติดต่อด้วย เมื่อได้เบาะแสดังกล่าวแล้วสุยโจวกับเซวียหนิงก็รีบติดตามต่อ
ในสถานที่จัดงานพิธีลี่ชุน อูหยุนปู้ลาเก๋อช่วยสาธิตการลอบทำร้ายชนิดต่างๆ และแสดงจุดที่โจมตีได้ง่าย วังจื๋อกับติงหยงจัดการป้องกันตามการวิเคราะห์ของอูหยุนปู้ลาเก๋อจนไร้ที่ติ แต่เพื่อความไม่ประมาท แม้แต่อูหยุนปู้ลาก็ยังต้องนำตัวไปขังไว้ในสำนักประจิมไว้ก่อน .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 44 วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน 2563


สุยโจวมั่นใจว่าคนขับรถม้าให้หลีจื่อหลงคือจินซันเหนียง ดังนั้นเขากับเซวียหนิงจึงไปยังพื้นที่ของจินซันเหนียงอีกครั้ง แต่ลูกน้องของจินซันเหนียงเห็นสุยโจวเป็นองครักษ์เสื้อแพรจึงจงใจไม่ให้ความร่วมมือ ทว่า หลังจากการประฝีมือกันแล้ว พวกเค้าต่างยอมรับสุยโจวและพาไปพบจินซันเหนียงที่ตอนนั้นลมหายใจรวยริน

ที่แท้จินซันเหนียงพบว่าถังฟั่นถูกจับตัวไว้จึงคิดช่วยเหลือ แต่หลีจื่อหลงกลับฆ่านางปิดปาก อย่างไรก็ตาม สุยโจวพยายามช่วยจินซันเหนียงเต็มที่จนนางฟื้นขึ้นมา สุยโจวรู้จากนางว่าตอนนี้ถังฟั่นถูกขังไว้ในย่านเถี่ยซื่อ

ทางด้านถังฟั่นที่อยู่ในคุกก็วิเคราะห์จากแสงและกลิ่นของอาหารได้ว่าตัวเองอยู่ในย่านเถี่ยซื่อ ส่วนหลีจื่อหลงรับฟังข้อเสนอของชิงเกอแล้วก็พักเรื่องฆ่าถังฟั่นไว้ชั่วคราว หันมากล่อมถังฟั่นว่าให้แลกชีวิตฮ่องเต้กับความปลอดภัยของราษฎร ถังฟั่นยืนยันจุดยืนของตัวเอง แต่เมื่อเห็นระเบิดในมือหลีจื่อหลงความคิดของเขาก็เริ่มสั่นคลอน

ที่จริงหลีจื่อหลงกับพวกไม่สามารถหาระเบิดที่เหลืออยู่เจอ เพราะสำนักประจิมได้เก็บไปหมดแล้ว ทำให้แผนการลอบสังหารฮ่องเต้รวนไปด้วย ชิงเกอเสนอหลีจื่อหลงว่าให้ปล่อยถังฟั่นไปเสีย แล้วใช้เขาเป็นตัวหาระเบิดที่เหลืออยู่ หลีจื่อหลงรับฟังความคิดของชิงเกอ แต่เขาไม่รู้ว่าที่จริงแล้วชิงเกอแค่หาข้ออ้างให้ปล่อยถังฟั่นไป

แม้ถังฟั่นได้รับอิสรภาพแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยของชาวบ้าน เขาไม่รู้ตัวเลยว่าหลงกลหลีจื่อหลงแล้ว เขารีบไปโน้มน้าววังจื๋อให้พาเขากับสุยโจวไปที่เก็บระเบิด และได้เห็นว่าระเบิดทั้งหมดยังอยู่ปกติดีในโกดัง แต่ยังไม่ทันได้หายใจคล่องคอ ภายนอกก็มีเสียงดังขึ้น เป็นหลีจื่อหลงกับองค์ชายรองติดตามมาเพื่อเอาระเบิดคืน 

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 45 วันพุธที่ 29 กันยายน 2563

เกิดการต่อสู้กันนอกโกดังเก็บระเบิด ในเวลาคับขัน ทหารหว่าล่ากินยาสูตรลับ ภายในพริบตาก็เพิ่มจำนวนขึ้นทันทีจนสุยโจวกับพวกรับมือไม่ไหว สุดท้ายฝ่ายตรงข้ามก็ขนระเบิดไปได้จนหมดโกดัง ถังฟั่นจึงเพิ่งรู้ตัวว่าหลงกลเสียแล้ว แต่ตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือตั้งสติและหาเบาะแสตามหาระเบิดกลับมา

ถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อพยายามคิดหาวิธีติดตามระเบิด แต่ก็ไม่พบร่องรอย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าหลีจื่อ หลงหาคนมารับช่วงต่อขนออกนอกเมืองหลวงไปแล้ว ถังฟั่นที่อยู่ในอารมณ์โมโหไปหาชิงเกอที่หอฮวานอี้ แต่กลับพบหลีจื่อหลงที่รออยู่ หลีจื่อหลงเตือนเขาอีกครั้งว่าแค่สละชีวิตฮ่องเต้คนเดียวราษฎรก็จะปลอดภัย ถังฟั่นลาจากมาทั้งที่ยังคิดไม่ตก

เมื่อได้พบวังจื๋อ ถังฟั่นแนะนำให้เขายกเลิกพิธีลี่ชุนเสีย แต่ข้อเสนอนี้ถูกฮ่องเต้ปฎิเสธลงมา ถังฟั่นไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพยายามโน้มน้าวอีก โดยอ้างถึงความปลอดภัยของฮ่องเต้ว่า ในเวลาคับขันให้นำตัวฮ่องเต้ออกนอกวังเสีย วังจื๋อรับปากข้อเสนอนี้

ในวันงานพิธีฉลองเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ทุกอย่างสงบเงียบปกติดี แต่ในจังหวะที่ทุกคนเริ่มผ่อนคลาย หลีจื่อหลงก็บุกโจมตีเข้ามา พวกเขานำระเบิดมาผูกไว้กับโคมลอยลงมาจากฟ้า ซึ่งเป็นวิธีที่สุยโจวและถังฟั่นคาดไม่ถึง ในช่วงเวลาอันตราย สุยโจว ถังฟั่น วังจื๋อยังมีสติดี สุยโจวนำกำลังองครักษ์เสื้อแพรต่อสู้ศัตรู ถังฟั่นบอกให้วังจื๋อปล่อยอูหยุนปู้ลาเก๋อออกมายิงต่อสู้กับพวกหลีจื่อหลง วังจื๋อนำฮ่องเต้ออกจากวังตามแผนที่เตรียมไว้ สุยโจว ถังฟั่น วังจื๋อต่างบอกลากันสั้นๆ แล้วลงไปต่อสู้ในสนามของตัวเอง .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 46 วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2563

ถังฟั่นนำพลยิงธนูยิงโคมที่ลอยลงมาจากฟ้า ภายใต้ความพยายามของทุกคนโคมทั้งหมดก็ตกลงสู่พื้นดิน ทางด้านสุยโจวเขาได้ปะทะกับองค์ชายรองแห่งหว่าล่าและเอาชนะได้ ส่วนวังจื๋อก็พาฮ่องเต้ออกไปพำนักที่หอฮวานอี้ได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเรื่องน่าจะจบแล้ว สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอีก จู่ๆว่านอันก็นำกำลังมาปิดประตูวังหลวง โดยให้เหตุผลว่าพวกถังฟั่นคือพวกลอบสังหารฮ่องเต้ แล้วสั่งให้ฆ่าถังฟั่นกับอูหยุนปู้ลาเก๋อ ยังดีที่มีอูหยุนปู้ลาเก๋อ เขาช่วยให้ถังฟั่นหนีออกไปได้

เวลาเดียวกันนั้น ในสนามรบของสุยโจว องครักษ์เสื้อแพรเพิ่งบุกโจมตีจนทหารหว่าล่าถอยไปได้ ว่าน ทงกับลูกน้องก็ตามมา เขาจะดึงเอากำลังทหารกลับไปโดยไม่ฟังที่สุยโจวอธิบาย สุยโจวรู้ว่าที่หอฮวานอี้ต้องมีอันตรายแน่ จึงไม่ยอมปฎิบัติตามคำสั่งและฝ่าวงล้อมออกไปจนได้

ด้านหอฮวานอี้ ฮ่องเต้กำลังพิโรธสิ่งที่วังจื๋อทำลงไปโดยไม่รายงานก่อน ทว่า จู่ๆ ลูกน้องของหลีจื่อหลงก็มาล้อมหอฮวานอี้ไว้ จังหวะที่วังจื๋อยังไม่รู้จะทำอย่างไรดี สุยโจวก็เสี่ยงตายบุกเข้ามา ทั้งสองคนตกลงกันว่าให้วังจื๋อทำหน้าที่ล่อศัตรู ส่วนสุยโจวนำฮ่องเต้หนีไปทางทางลับ

จังหวะเดียวกับที่ถังฟั่นมาถึงหอฮวานอี้และทันเห็นวังจื๋อกับฮ่องเต้กำลังบุกออกไป แต่กลับโดนคนของหลีจื่อหลงล้อมไว้ ทันใดนั้นซั่งหมิงนำคนของสำนักบูรพามาถึงพอดี พวกหลีจื่อหลงจึงรีบถอยทัพ ถังฟั่นโล่งใจแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อคนของซั่งหมิงเข้าสังหารวังจื๋อ และฮ่องเต้ที่อยู่ข้างกายเขากลับไม่ใช่ตัวจริง เป็นเจี่ยขุยปลอมตัวมา ถังฟั่นเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็เสียใจมาก ร้องไห้คร่ำครวญถึงวังจื๋อ แต่จู่ๆวังจื๋อก็มาปรากฏกายข้างตัวเขา ที่แท้คนที่ตายไปคือหยางฝู ไม่ใช่วังจื๋อ ถังฟั่นรีบถามถึงฮ่องเต้ บัดนี้ ภายใต้การคุ้มกันของสุยโจว ฮ่องเต้หนีไปได้อย่างปลอดภัยและซ่อนตัวอยู่ที่วัดฝ่าหยวน .

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ตอนที่ 47 วันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563

ถังฟั่นกับวังจื๋อช่วยกันสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทั้งคู่มองออกแล้วว่าแผนของหลีจื่อหลงคืออะไร แท้จริงแล้วสิ่งที่หลีจื่อหลงแสดงออกล้วนเป็นแผน ระเบิดที่เขากล่าวอ้างจะทำลายเมืองหลวงก็ไม่ใช่เรื่องจริง วัตถุประสงค์ของเขาคือทำให้ฮ่องเต้ออกจากวังหลวง เพื่อเขาจะได้มีโอกาสจับตัวฮ่องเต้ไปได้ อันเป็นก้าวแรกของการโค่นอำนาจ เป้าหมายของหลีจื่อหลงชัดเจนมาก เขาไม่ได้ต้องการทำลายต้าหมิง แต่อยากครอบครองอำนาจทั้งหมดเอาไว้เอง ดังนั้นเขาจึงร่วมมือกับขุนนางชั่วว่านอัน ซั่งหมิง ว่านทง โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า หากหลีจื่อหลงควบคุมฮ่องเต้ไว้ได้ ขุนนาง 3 คนที่ว่านี้จะได้เป็นใหญ่ในวังหลวง หลังจากนั้นพวกเขา 4 คนก็จะเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถังฟั่นและวังจื๋อก็ตกใจมาก ทั้งคู่นึกถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งแรกจึงตัดสินใจแยกกันซ่อนตัว ถังฟั่นรับหน้าที่วางแผน ส่วนวังจื๋อทำหน้าที่ติดต่อผู้มีอำนาจทุกฝ่าย สิ่งแรกที่ต้องทำคือหาตัวสุยโจวกับฮ่องเต้ให้เจอก่อน เพราะ 3 ขุนนางชั่วมีสายอยู่ทั่วเมืองหลวง และถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อ ก็เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของพวกเขา

ถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อไม่สะดวกออกหน้ามาพบกัน พวกเขาจำเป็นต้องอาศัยตงเอ๋อร์ เสี่ยวหนีชิว อวี๋ซิ่วเหลียนเป็นผู้ช่วยประสาน นอกจากนั้นเพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น วังจื๋อยังติดต่อติงหยงและว่านกุ้ยเฟยที่อยู่ในวังด้วย ภายใต้แผนที่ถังฟั่นวางไว้ อีกไม่นานจะเปิดฉากตอบโต้ได้ แต่ในคืนก่อนลงมือ ถังฟั่นได้รู้ว่าตงเอ๋อร์ได้เปิดเผยแผนของเขาต่อชิงเกอโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ท้อใจมากแต่จะเปลี่ยนแผนก็คงไม่ทัน จึงต้องเดินหน้าต่อและทำแผนซ้อนแผน

ด้วยเหตุนี้ทุกจุดจึงอันตราย ดังเช่นติงหยงหักหลังวังจื๋อจนถูกซั่งหมิงจับตัวเข้าคุกสำนักบูรพา สุยโจวติดกับดักในกองปราบฝ่ายเหนือองครักษ์เสื้อแพร กองทัพทหารหญิงของว่านกุ้ยเฟยจะออกไปรับฮ่องเต้นอกพระราชวังต้องห้ามก็ถูกว่านอันกำราบไว้ แต่ที่อันตรายที่สุดคือฮ่องเต้ หลีจื่อหลงนำกำลังไปล้อมวัดฝ่าหยวนไว้แล้ว

เรื่องย่อ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ (ตอนจบ) ตอนที่ 48 วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม 2563

ถังฟั่นรีบให้ตงเอ๋อร์ไปช่วยวังจื๋อ จากนั้นตัวเองรีบไปกองปราบฝ่ายเหนือช่วยสุยโจว ตงเอ๋อร์ไปถึงสำนักบูรพาช้าไปก้าวหนึ่ง ถังฟั่นจึงให้เสี่ยวหนีชิวช่วยตามหาไพ่ใบสุดท้ายของวังจื๋อ นั่นคือชุยมามา เพราะที่จริงแล้วชุยมามาคือยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ นางกับเจี่ยขุยร่วมกันช่วยวังจื๋อ และเข้าคุมตัวติงหยงกับซั่งหมิงไว้ได้ ส่วนถังฟ่านกับสุยโจวนำกำลังแบ่งเป็นสองกลุ่ม สุยโจวไปหากำลังหนุนจากจวนอู่อัน เพราะที่นั่นนายพลเจิ้งอิงมีทหารส่วนตัวและทหารกล้าตายจำนวนหนึ่ง ด้านถังฟั่นมุ่งหน้าไปจุดที่อันตรายที่สุดคือวัดฝ่าหยวน เพื่อช่วยฮ่องเต้

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ถังฟั่นสืบจนรู้ความเป็นมาอันแสนรันทดของชิงเกอกับพ่อ ซึ่งเป็นเหตุให้นางต้องเดินทางมืด ถังฟั่นพยายามหาทางพบกับนางตามลำพังนอกวัดฝ่าหยวน แล้วใช้เรื่องของพ่อนางมาโน้มน้าวจนชิงเกอเปลี่ยนใจหันมาช่วยถังฟั่นพาฮ่องเต้หนีออกไปได้ จากนั้นถังฟั่นจัดการให้ฮ่องเต้พบกับวังจื๋อ แต่เวลานี้แล้วสุยโจวยังมาไม่ถึง กำลังทหารที่มีอยู่ก็น้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่มากจึงยังต้องซ่อนตัวอยู่

ทางด้านวังหลวง ไทเฮาที่ไม่ลงรอยกับว่านกุ้ยเฟยมาตลอดปรากฏตัวขึ้น และสั่งให้ว่านอันเปิดทางให้ว่านกุ้ยเฟย ว่านอันไม่กล้าขัดคำสั่งจึงจำใจถอยทัพไป ว่านกุ้ยเฟยนำกำลังทหารหญิงบุกออกนอกวังไปช่วยฮ่องเต้ แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้หลีจื่อหลงกับองค์ชายรองของหว่าล่า เพราะทั้งคู่หาร่องรอยของฮ่องเต้ไม่พบ พวกเขาเห็นว่านกุ้ยเฟยแล้วก็คิดแผนร้ายได้ทันที หลีจื่อหลงรู้ว่าฮ่องเต้โปรดว่านกุ้ยเฟยที่สุด ดังนั้นจึงตั้งใจจับนางเป็นเหยื่อล่อบีบให้ฮ่องเต้ปรากฏตัว ซึ่งแผนนี้ได้ผล ฮ่องเต้ไม่ยอมให้สนมรักต้องตายในเงื้อมมือขององค์ชายรอง พระองค์แสดงตัวออกมาช่วยว่านกุ้ยเฟย

โชคดีที่สุยโจวนำกำลังมาช่วยไว้ได้ทัน หลังการปะทะกันอย่างรุนแรง หลีจื่อหลงตายด้วยลูกธนู องค์ชายรองถูกเกาอี้นำตัวกลับหว่าล่า ส่วน 3 ขุนนางชั่วได้รับการลงโทษอย่างสาสม จบเหตุการณ์นี้แล้ว สุยโจวกับถังฟั่นต่างได้กลับไปยังตำแหน่งเดิมของตัว เป็นกองหน้าสู้เพื่อความยุติธรรมให้กับประชาราษฎร์ทั่วหล้าต่อไป

สำหรับ “รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่”  ออกอากาศ ทาง True4U (ทรูโฟร์ยู) ช่อง 24 และ แอปทรูไอดี ระบบเสียง 2 ภาษาพร้อมซับภาษาไทย เวลา 22.00 น. และ รีรันวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 13.00 น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

>> เรื่องย่อละคร รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ ช่อง True4U

>> รู้ก่อนดู!! ส่องคาแรคเตอร์ นักแสดงนำ รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ จากนิยายดังสู่ซีรีส์ที่ต้องติดตาม

>> เอาใจคอซีรีส์จีน!! ทรูโฟร์ยู พาฟินจิกหมอนไปกับซีรีย์สืบสวนสุดโรแมนติก รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่