ข้อสอบ คำบุพบท สันธาน อุทาน

แบบทดสอบก่อนเรียน

คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

๑.  คำที่ใช้เรียกชื่อ  คน  สัตว์  สิ่งของ  เรียกว่าอะไร

    ก.  คำกริยา
    ข.  คำนาม
    ค.  คำสรรพนาม
    ง.  คำบุพบท
     
๒.  เขาไปโรงเรียน  คำว่า  "เขา"  ในประโยค  เป็นคำชนิดใด
 
    ก.  คำกริยา
    ข.  คำนาม
    ค.  คำสรรพนาม
    ง.  คำวิเศษณ์
     
๓.  ประโยคในข้อใดมีคำสรรพนามบุรุษที่ ๒

    ก.  หนังสือของเธออยู่ที่นี่
    ข.  เขาเป็นเพื่อนของฉัน
    ค.  คุณปู่ท่านไม่ค่อยสบาย
    ง.  ผมไม่ได้เป็นตำรวจ

๔.  ครูสอนนักเรียน  คำว่า  "สอน"  ในประโยค  เป็นคำชนิดใด

    ก.  คำสรรพนาม
    ข.  คำบุพบท
    ค.  คำวิเศษณ์
    ง.  คำกริยา

๕.  บ้านของฉันอยู่ใกล้ที่ทำงาน  คำว่า "ใกล้"  ในประโยค  เป็นคำชนิดใด

    ก.  คำสรรพนาม
    ข.  คำวิเศษณ์
    ค.  คำกริยา
    ง.  คำบุพบท

๖.  เขามาจากต่างจังหวัด  คำว่า  "จาก"  ในประโยค  เป็นคำชนิดใด

    ก.  คำสันธาน
    ข.  คำบุพบท
    ค.  คำวิเศษณ์
    ง.  คำกริยา

๗.  ผมต้องการพูดกับเขา  แต่เขาไม่ยอมพูดกับผม  คำว่า "แต่"  ในประโยค  เป็นคำชนิดใด

    ก.  คำสันธาน
    ข.  คำบุพบท
    ค.  คำวิเศษณ์
    ง.  คำกริยา

๘.  ประโยคในข้อใดมีคำอุทาน

    ก.  ถ้าได้ไปทำงานก็ดีซิ
    ข.  พ่อแม่ไม่ใช่หัวหลักหัวตอนะ
    ค.  เธอจะสู้หรือจะยอมแพ้
    ง.  ใครทำแก้วแตก

๙.  คำใดต่อไปนี้เป็นลักษณนาม

    ก.  นก
    ข.  จดหมาย
    ค.  แท่ง
    ง.  เดิน

๑๐.  ชนิดของคำมีกี่ชนิด

    ก.  ๔  ชนิด
    ข.  ๕  ชนิด
    ค.  ๖  ชนิด
    ง.  ๗  ชนิด

แบบทดสอบหลังเรียน

๑.  ประโยคในข้อใดมีสามานยนาม

          ก.  นักเรียนช่วยกันเก็บขยะรอบอาคารเรียน

          ข.  ถ้าอยากเป็นคนดีควรทำความดีให้มาก ๆ

          ค.  จังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดหนึ่งของภาคอีสาน

          ง.  แม่น้ำเจ้าพระยากำลังอยู่ในภาวะน้ำเสียอย่างรุนแรง

๒.  คำในข้อใดเป็นวิภาคสรรพนาม

          ก.  ที่ 

          ข.  ซึ่ง

          ค.  ต่าง 

          ง.  ที่นั่น

๓.  ประโยคในข้อใดมีวิกรรตถกริยา

          ก.  แมวเป็นสัตว์ที่น่ารัก 

          ข.  พ่อกับแม่เดินไปตักบาตรที่วัด 

          ค.  เด็กควรเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ 

          ง.  เด็ก ๆ เล่นกระโดดยางด้วยกันที่ลานหน้าบ้าน     

๔.  ประโยคในข้อใดมีคำวิเศษณ์บอกจำนวน

          ก.  ยายตื่นนอนแต่เช้าทุกวัน  

          ข.  เธอเป็นคนพูดจาอ่อนหวาน

          ค.  ฉันชอบดื่มนมมากกว่ากาแฟ

          ง.  เด็ก ๆ ไม่ควรนอนดึกเพราะจะตื่นสาย

๕.  คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดทำหน้าที่เป็นบุพบทนำหน้าคำนาม

ก.  สมุดของคุณตกลงพื้น

ข.  น้ำขวดนี้ใช้สำหรับดื่ม    

            ค.  เธอเขียนจดหมายถึงเขา

            ง.  ฉันพบศักดิ์สิทธิ์ในร้านอาหาร 

๖.  “ฉันมาโรงเรียนตั้งแต่น้องยังไม่ตื่น”  คำที่ขีดเส้นใต้เป็นคำชนิดใด

            ก.  บุพบททำหน้าที่หน้าประโยค

ข.  บุพบททำหน้าที่นำหน้าคำนาม   

            ค.  บุพบททำหน้าที่นำหน้าคำกริยา     

            ง.  บุพบททำหน้าที่นำหน้าคำวิเศษณ์     

๗.  คำที่ขีดเส้นใต้ในประโยคใดเป็นคำสันธาน

            ก.  แม่ไปทำงานแต่เช้าตรู่    

            ข.  ฉันกับน้องชอบเล่นฟุตบอล 

            ค.  ยายแบ่งข้าวออกเป็น  ๒  ส่วนเท่า ๆ กัน          

            ง.  ฉันเห็นกับตาตัวเองทีเดียวว่าเขาเดินมาด้วยกัน      

๘.  ประโยคในข้อใดมีคำอุทานเสริมบท

            ก.  โอ๊ย ! เจ็บจังเลย   

            ข.  ฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา  

            ค.  ต๊าย  ตาย ! จานชามตกแตกหมดแล้ว

            ง.   เขาบิดรถมอเตอร์ไซด์เสียงดังแอ่น  แอ๊น !  

๙.  คำในข้อใดเป็นอาการนาม

          ก.  การเรียน

          ข.  การพลังงาน

          ค.  การปิโตรเลียม

          ง.  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

๑๐.  “ฉันเถียงน้องอย่างไม่ยอม   .............”  ควรเติมคำในข้อใดลงในช่องว่าง  

          ก.  ลดราวาศอก

          ข.  อาบน้ำอาบท่า   

          ค. หนังสือหนังหา 

          ง.  กระดูกกระเดี้ยว   

๑๑.  ประโยคในข้อใดมีนิยมสรรพนาม

          ก.  ตัวอะไรเกาะอยู่บนกิ่งไม้   

          ข.  นี่เป็นเสื้อตัวที่ฉันรักมากที่สุด

          ค.  เขายากจนมากจนไม่มีอะไรจะกิน 

          ง.  ใครจะไปซื้อของที่ตลาดกับฉันบ้าง 

๑๒.  “บ้านฉันอยู่ไกล”   คำที่ขีดเส้นใต้เป็นคำวิเศษณ์ชนิดใด

          ก.  คำวิเศษณ์บอกเวลา 

          ข.  คำวิเศษณ์บอกระยะทาง

          ค.  คำวิเศษณ์บอกลักษณะ

          ง.  คำวิเศษณ์บอกจำนวน 

๑๓.  คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดเป็นวิภาคสรรพนาม

          ก.  สัตว์ในสวนสัตว์บ้างก็กินอาหารบ้างก็นอนบ้างก็ห้อยโหน 

          ข.  สัตว์ในสวนสัตว์บ้างก็กินอาหารบ้างก็นอนบ้างก็ห้อยโหน 

          ค.  สัตว์ในสวนสัตว์บ้างก็กินอาหารบ้างก็นอนบ้างก็ห้อยโหน   

          ง.  สัตว์ในสวนสัตว์บ้างก็กินอาหารบ้างก็นอนบ้างก็ห้อยโหน   

๑๔.  “กริยาที่มีใจความไม่สมบูรณ์  ขาดความชัดเจน  ต้องมีกรรมมารับข้างท้าย”  คือข้อใด

          ก.  วิกรรตถกริยา

          ข.  อกรรมกริยา 

          ค.  สกรรมกริยา 

          ง.  กริยานุเคราะห์ 

๑๕.  “ฉันดื่มน้ำเย็นเจี๊ยบ”  คำที่ขีดเส้นใต้เป็นคำวิเศษณ์ชนิดใด

          ก.  คำวิเศษณ์ประกอบคำวิเศษณ์   

          ข.  คำวิเศษณ์ประกอบคำนาม 

          ค.  คำวิเศษณ์ประกอบคำกริยา 

          ง.  คำวิเศษณ์ประกอบสรรพนาม  

๑๖.  คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดไม่ใช่คำบุพบท 

          ก.  น้องเล่นอยู่นอกบ้าน 

          ข.  พ่อนอนอยู่ชั้นบน  

          ค.  บ้านฉันอยู่ใกล้ตลาดน้ำ 

          ง.  เขายืนอยู่ข้างในศาลาที่พักผู้โดยสาร    

๑๗.  “งูเงี้ยวเขี้ยวขอ”  ควรเติมลงในประโยคใด 

          ก.  เด็กคนนี้น่ารักเธอเป็น  ................  กันนะ    

ข.  หญ้ารกมากให้ระวัง  ................  จะกัดเอานะ   

          ค.  เด็กดีควรทำความเคารพ  ................  ครูทุกครั้ง     

          ง.  เดือนนี้ฝนตกหนักอย่างไม่  ................  เลยทีเดียว  

๑๘.  ข้อใดเป็นคำสันธานที่เชื่อมความให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

          ก.  เขาเป็นคนดีดังนั้นทุกคนจึงรักเขา  

          ข.  น้ำท่วมอำเภอเวียงสระถนนจึงเสียหายมาก 

          ค.  อย่างไรก็ดีวันพรุ่งนี้คุณต้องมาช่วยเราทำงานให้ได้ 

ง.  เธอต้องขยันอ่านหนังสือไม่เช่นนั้นเธออาจสอบได้คะแนนน้อย 

๑๙.  ข้อใดเป็นคำสันธานเชื่อมความที่ขัดแย้งกัน

          ก.  พี่ล้างจานและฉันเป็นคนเก็บจาน  

          ข.  เธอไม่มาทำงานเพราะเธอป่วยหนัก  

          ค.  เขาชอบฟังเพลงแต่ฉันชอบอ่านหนังสือ

          ง.  เธอจะไปตลาดหรือจะไปดูหนัง

๒๐.  คำในข้อใดเป็นคำอุทาน

          ก.  สักแต่ว่า  

          ข.  ไม่  .............  ก็  

          ค.  ตึกรามบ้านช่อง

          ง.  ดังนั้น  .............  จึง