ตัวอย่างโครงการขับขี่ปลอดภัย

TOYOTA bZ4X มอเตอร์คู่หน้า-หลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ชาร์จเต็มวิ่งไกล 411 กิโลเมตร ราคา 1,836,000 บาท

Toyota bZ4X มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 71.4 kWh เมื่อชาร์จไฟจนเต็มทำระยะทางได้ประมาณ 411 กิโลเมตร มีการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว เพื่อคงประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ทั้งในขณะที่ให้กำลังไฟฟ้าและเก็บประจุไฟ รวมถึงการปิดผลึกแบตฯทั้งลูกให้มีความทนทานสูงเป็นพิเศษ สามารถวิ่งผ่านน้ำท่วมขังในระดับ 30 เซนติเมตรได้อย่างปลอดภัย ระบบเฉลี่ยพลังงานไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อน ช่วยทำให้วิ่งได้ไกลขึ้น แบตเตอรี่แบบใหม่ มีเป้าหมายการรักษาความจุไฟฟ้าอันน่าประทับใจที่ 90% หลังจากผ่านการใช้งานนาน 10 ปี หรือที่ระยะทางประมาณ 240,000 กิโลเมตร แบตเตอรี่วางราบกับพื้นเพื่อกระจายน้ำหนักและไม่ทำให้กินพื้นที่ของโซนห้องโดยสาร Toyota ไม่ได้เปิดเผยถึงซัพพลายเออร์ที่ผลิตแบตเตอรี่ แต่แบตเตอรี่ 71.4 kWh ของ BYD นั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก ทั้งหมดที่รู้ของ bZ4X ก็คือระบบไฟ 355 V และระบายความร้อนชุดแบตฯ ประสิทธิภาพสูงด้วยของเหลว

Toyota ได้ตัดสินใจที่จะใช้ใน bZ4X - e-axles ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบบูรณาการ พร้อมระบบเกียร์แบบความเร็วเดียว และชุดอินเวอร์เตอร์แปลงกระแสไฟที่มีศักยภาพในการแปลงกระแส สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Toyota bZ4X ที่เข้ามาทำตลาดในไทยมีแค่รุ่นเดียวก็คือ

bZ4X AWD
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่นำเข้ามาขายในไทย มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 80 กิโลวัตต์ สองตัว (ตัวหนึ่งอยู่ที่เพลาด้านหน้าและอีกตัวหนึ่งอยู่ที่เพลาด้านหลัง) ให้กำลังรวม 160 กิโลวัตต์ หรือ 218 แรงม้า น่าแปลกใจเล็กน้อยที่ความแตกต่างระหว่างรถทั้งสองรุ่นเพียงแค่ 10 กิโลวัตต์ หรือ 13 แรงม้าเท่านั้น ส่วนมอเตอร์ขับเคลื่อน Toyota เรียกมอเตอร์ประเภทนี้ว่า "เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับแบบซิงโครนัส" ซึ่งเป็นมอเตอร์ซิงโครนัสแบบแม่เหล็กถาวร หรือมอเตอร์ซิงโครนัสแบบ externally excited synchronous motor ด้านหน้า เหนือเพลาอิเล็กทรอนิกส์ มีหน่วยจ่ายไฟฟ้า (ESU) ที่รวมฟังก์ชันการชาร์จและการจ่ายพลังงานของรถติดตั้งอย่างเรียบร้อยและดูแข็งแรง ช่วงล่างหน้าแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบน ปีกนกคู่ 

Toyota bZ4X สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ใน 6.9 วินาที รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ตะกายจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กม./ชม. ด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 7 วินาทีเล็กน้อย มันพุ่งออกตัวได้ราวกับรถสปอร์ต GR86 การเร่งความเร็วออกตัวจากจุดหยุดนิ่งด้วยความเสถียร ทำให้รถควบคุมได้ง่าย เกิดขึ้นจากจากการส่งกำลังของมอเตอร์ขับเคลื่อนทั้งด้านหน้าและด้านหลังในแบบ AWD ลักษณะการวางแบตเตอรี่ในแพลตฟอร์ม eTNGA และการปรับตั้งช่วงล่างกับการตอบสนองของพวงมาลัยไฟฟ้าที่เนียนเอาเรื่อง 

สำหรับระบบชาร์จกระแสไฟ แท่นชาร์จแบบออนบอร์ด Wall Box เป็นแบบเฟสเดียว 6.6 กิโลวัตต์ ในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2565 จะมีหน่วยสามเฟส 11 กิโลวัตต์ ส่วนตัวเลือกการชาร์จเร็ว DC ชาร์จไฟจาก 10 จนถึง 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที กำลังชาร์จสูงสุดจะอยู่ที่ 150 กิโลวัตต์ ซึ่งมากกว่า 2C ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย Toyota อาจมีการนำเสนอหลังคาโซลาร์รูฟเสริมสำหรับสถานีชาร์จ ซึ่งเพิ่มจุดชาร์จที่ครอบคลุมต่อการขับใช้งานระยะไกล 

สเปกของ bZ4X EV ดูเหมือนจะเหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจีนแบบห่างไกล ในด้านของความเสถียร ความง่ายในการดเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ความแข็งแรงของระบบขับเคลื่อน การทรงตัวในย่านความเร็วสูง อัตราเร่ง วัสดุภายใน และความเชื่อมั่นในด้านบริการหลังการขาย แน่นอนว่า bZ4X นั้นมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้ายุโรปอย่าง BMW iX1 ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในไทย โดยแยกตัวอย่างชัดเจนเพื่อทำตลาดให้อยู่คนละกลุ่มกับ MG4 Mulan / BYD ATTO 3 / ORA Good Cat  เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าระดับบนของเยอรมนี ที่มีค่าตัวประมาณ 2.4 ล้าน เจ้า bZ4X สามารถต่อสู้ได้อย่างสบายๆ จากการขับที่ดีของมัน นับเป็น BEV คันแรกที่ขับได้อย่างยอดเยี่ยม และพัฒนาโดยแบรนด์ Toyota พร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล กับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ทั้งการใช้งานที่ทนทาน ศูนย์บริการที่อยู่หัวแถว ราคา 1,836,000 บาท มีความเหมาะสมกับประสิทธิภาพที่จะได้รับละครับ บอกตรงๆ เลยว่า ขับได้ดีสูสีกับ Lexus NX450h + Premium ในราคาพอๆ กับ Fortuner Legender นั่นถือว่าดีเลยทีเดียว!! 

ขนาดและสัดส่วนของ bZ4X EV นั้นคล้ายกับ Toyota RAV4 มันใหญ่กว่า Honda CR-V เล็กน้อย แต่ก็เล็กกว่า Mazda CX-8 อย่างไรก็ตาม Toyota bZ4X นั้นทำตัวเป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ต้องดูเฉียบคมและมีตัวเลขแอโรไดนามิกเหนือกว่าจากการที่ไม่ต้องมีช่องรับอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ Toyota bZ4X ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่เริ่มแรกในโครงการรถยนต์ EV สัดส่วนความสูงที่เตี้ยกว่า ส่วนท้ายสไตล์คูเป้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของพี่โต มีลักษณะสปอร์ตแพลตฟอร์ม EV ทำให้ bZ4X มีระยะโอเวอร์แฮงก์สั้นกุด ฐานล้อยาวเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในเทียบได้กับซีดาน D-segment (Toyota Camry)

การออกแบบให้แผงหน้าปัดและตำแหน่งของแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลอยู่ในระดับต่ำ ช่วยเพิ่มความรู้สึกของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ในขณะเดียวกัน มีการปรับปรุงทัศนวิสัยการมองเห็นให้ครอบคลุม bZ4X รุ่น AWD ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่พัฒนาร่วมกับ Subaru ส่วนออปชั่นหลังคาโซลาร์รูฟสำหรับชาร์จแบตเตอรี่เมื่อรถจอดอยู่กับที่ ไม่ได้ระบุไว้ในรุ่นข้อมูลจำเพาะของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา การผลิต Toyota bZ4X สเปกสหรัฐฯ จะมีขึ้นในโรงงาน Toyota ที่ญี่ปุ่น

Cockpit แห่งอนาคตของครอสโอเวอร์ไฟฟ้าห้าที่นั่ง ถูกรวมเข้ากับเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ระบบความบันเทิงและระบบความปลอดภัยแบบใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ของงานตกแต่งภายในที่ทันสมัย หน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia ขนาด 12.3 นิ้ว ออกแบบให้ยกตำแหน่งขึ้นจากคอนโซลกลางตรงกลางแผงหน้าปัด ทำให้ฟังก์ชันทั้งหมดของระบบสามารถเข้าถึงได้ง่าย ช่วยให้ควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่ใช้งานง่ายและสะดวก

หน้าจอสัมผัสขนาดยักษ์ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มช่วงเวลาในการขับขี่แบบสปอร์ต ให้ผู้ขับเข้าถึง HMI ใหม่ ยกระดับการโต้ตอบผ่านการจดจำภาพ การสัมผัส และแม้แต่การจดจำเสียง ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานระบบได้ด้วยการพูดว่า "Hey Toyota" นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ปลายทางด้วยการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ไร้สาย, Android หน้าจอภาพมาตรวัด Multi-Information Screen ขนาด 7.0 นิ้ว ด้านหน้าคนขับ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับรถ ความเร็ว การใชัพลังงาน สภาพอากาศ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และอื่นๆ

มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 4,688 มิลลิเมตร กว้าง 1,859 มิลลิเมตร และสูง 1,651 มิลลิเมตร Toyota bZ4X มีขนาดประมาณ RAV4 อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Toyota ได้ออกแบบ bZ4X ให้เป็นยานยนต์ EV ตั้งแต่เริ่มต้น รูปทรงของรถจึงดูปราดเปรียวมากกว่า RAV4 ระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ 2,849 มิลลิเมตร ช่วยในเรื่องของไดนามิกและพื้นที่เบาะหลัง

ยานยนต์ EV ขนาดกะทัดรัดที่ผลิตขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มเฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบการขับเคลื่อน RWD หรือขับเคลื่อนล้อหลัง สำหรับ Toyota bZ4X รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อท็อปสุด มีมอเตอร์สองตัว มอเตอร์หนึ่งตัววางคร่อมเพลาขับหน้าและอีกหนึ่งตัวอยู่บนเพลาขับด้านหลัง โดยแต่ละตัวให้กำลัง 80 กิโลวัตต์ (107 แรงม้า) แรงบิดมอเตอร์หน้า 265 นิวตันเมตร แรงบิดมอเตอร์หลัง 168 นิวตันเมตร กำลังขับรวมของมอเตอร์คู่ทำออกมาได้เฉลี่ย 218 แรงม้า ผู้ขับสามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ขับเคลื่อนได้โดยใช้ตัวเปลี่ยนเกียร์แบบแป้นหมุน ซึ่งเกียร์แบบนี้ ถูกใช้เป็นครั้งแรกในรถยนต์ Toyota

Aspect Specification
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)
มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ตำแหน่ง
มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 107 แรงม้า (AWD)
มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง กำลัง 107 แรงม้า (AWD)
กำลังรวมสูงสุด 218 แรงม้า (AWD)
แรงบิดมอเตอร์ด้านหน้า 265 นิวตันเมตร 196 lb.-ft. (FWD & AWD)
แรงบิดมอเตอร์ด้านหลัง 168 แรงม้า 124 lb.-ft. (AWD)
แรงบิดรวม 337 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ Battery Pack Type Lithium-ion
ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 71.4 kWh (AWD)
แรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่ 355 V (FWD & AWD)
ระบบชาร์จมาตรฐาน AC Charging Input 6.6 kW (FWD & AWD)
ระบบชาร์จเร็ว DC Charging Input 150 kW (FWD)/100 kW (AWD)
ชาร์จเต็มวิ่งไกล 411 กิโลเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 71.4 kWh มีแรงดันไฟฟ้าใช้งานที่ 355 V สำหรับระยะทางต่อการชาร์จแบตฯ จนเต็มอยู่ที่ 411 กิโลเมตร กำลังชาร์จสูงสุดสำหรับไฟ AC กระแสสลับคือ 6.6 กิโลวัตต์ การชาร์จจนเต็มด้วยเครื่องชาร์จระดับ 2 หรือชาร์จไฟบ้าน 220 โวลต์ ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเมื่อขับกลับถึงบ้านก็เสียบชาร์จไฟไปเลยแล้วปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน พอเช้าไฟจะเต็มแบตฯ 100% สำหรับการชาร์จ DC สูงสุดของระบบชาร์จกระแสตรง bZ4X รุ่นมอเตอร์คู่อยู่ที่ 100 กิโลวัตต์! ข้อมูลจำเพาะของ bZ4X รุ่นที่จำหน่ายในไทย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD แบบใหม่ พัฒนาร่วมกับ Subaru พร้อมกับ X-Mode และ Grip-Control X-Mode เป็นคุณลักษณะที่ร่วมกับโหมด Snow/Dirt โหมดดังกล่าว ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและการยึดเกาะของรถบนพื้นผิวที่ลื่นและสกปรก นอกจากนี้ ยังมีโหมด หิมะ/โคลน สำหรับถนนที่ไม่ลาดยางและเป็นหลุมเป็นบ่อ ระบบเบรกสะสมพลังงาน regenerative braking เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป Grip-Control เป็นฟังก์ชันเพิ่มเติมของ X-Mode และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการลื่นบนถนนที่ขรุขระ เนื่องจากแรงบิดของมอเตอร์

ในช่วงของการพัฒนา วิจัยและทดสอบ Toyota ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบขับเคลื่อนของ bZ4X มีความทนทาน ชุดแบตเตอรี่จะต้องใช้งานได้เต็มช่วงสูงสุด 90% แม้จะผ่านการใช้งานไปแล้วนานสิบปี Masahiko Maeda ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Toyota กล่าวว่าความคงทนและความเสถียรของ bZ4X เป็นหนึ่งในเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ ซึ่งถูกทดสอบอย่างหนักหน่วงมากที่สุดเพื่อทำให้ผู้ที่เลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota มีความมั่นใจสูงสุด

การป้องกันชุดแบตฯ ด้วยการปิดผลึกอย่างแน่นหนา พร้อมระบบระบายความร้อนชุดแบตเตอรี่ที่ทำงานอัตโนมัติ กลายเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ Toyota กำลังดำเนินมาตรการในด้านต่างๆ เช่น โครงสร้างที่จะห่อหุ้มแพ็กแบตเตอรี่ การเลือกวัสดุ และการออกแบบระบบควบคุม การออกแบบซอฟต์แวร์ เพื่อป้องกันการเกิดความเสื่อมโทรมในแบตเตอรี่ Keiji Kaita ประธานศูนย์พัฒนาวิศวกรรมขั้นสูงของ Toyota กล่าวว่า ต้นทุนแบตเตอรี่สูงขึ้นมาก และเป็นข้อดีอีกอย่างของ bZ4X ที่ใช้แบตเตอรี่ที่พัฒนาโดย BYD

Daisuke Ido วิศวกรของ Toyota รับผิดชอบการพัฒนา bZ4X แจ้งว่า แบตเตอรี่ของ bZ4X จะมีความทนทานเป็นพิเศษ ด้วยการทดลองกับวัสดุที่หลากหลายของแบตเตอรี่ และการจัดการอุณหภูมินานถึง 20 ปี มาแล้ว ทำให้ Toyota สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ให้ยาวนานเป็นพิเศษได้ แนวทางดังกล่าว คือการมุ่งเน้นด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่เรียบง่ายแต่มีความคงทน เป็นแนวคิดในอดีตของ Toyota ในด้านความน่าเชื่อถือ คล้ายกับระบบส่งกำลังแบบเก่า นั่นก็คือ เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE ของ Toyota ซึ่งรู้กันดีว่า เครื่องยนต์เหล่านั้นใช้งานได้ยาวนานมากกว่า 500,000 กิโลเมตร และมีราคาขายต่อที่พอรับได้ในตลาดรถยนต์มือสอง เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลสำหรับ Toyota ที่จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านความคงทนกับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์

Toyota bZ4X สเปกอเมริกา มาพร้อมออปชั่นมาตรฐาน เช่น ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ยาง 235/50R20 ระบบมัลติมีเดีย Toyota Audio Multimedia จอภาพขนาด 12.3 นิ้ว การเชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth สองเครื่อง Apple CarPlay แบบไร้สาย Android Auto, Digital Key แบบแชร์ได้, ที่วางเท้าด้านหน้าแบบเรืองแสง ระบบเสียง JBL Premium Audio พร้อมลำโพง 9 ตัว แอมพลิฟายเออร์ HiD-watt 8 แชนเนล ซับวูฟเฟอร์ขนาด 9 นิ้ว บริการเชื่อมต่อมาตรฐาน toyota t connect พร้อม Toyota App ควบคุมระบบไฟหน้าของ bZ4X สั่งอุ่นเบาะที่นั่งก่อนขึ้นรถในฤดูหนาว /ระบบฟอกอากาศ / ไล่ฝ้า / ฮีตเตอร์ / ฝาประตูท้ายไฟฟ้าแบบมีเซนเซอร์ใต้กันชนหลัง ระบบตรวจสอบการชาร์จระยะไกล สามารถทำได้ด้วยการเชื่อมต่อแอป ช่วยตรวจสอบสถานะของการชาร์จ ตั้งแต่เริ่มจนถึงหยุดการชาร์จ และแก้ไขตารางการชาร์จเพื่อปรับให้สอดรับกับระยะทางที่จะต้องไปให้ถึง

bZ4X เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Toyota ที่วางขายในไทย มาพร้อมแพ็กเกจความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 (TSS 3.0) สำหรับ TSS 3.0 ประกอบด้วย เรดาร์และกล้องมองข้างเดียวที่มีช่วงการตรวจจับที่กว้างขึ้น มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในแต่ละฟังก์ชันของ Toyota Safety Sense สำหรับ v3.0 นอกจากนี้ ยังเพิ่มฟังก์ชันใหม่เพื่อช่วยในสภาวะการขับขี่ปกติ ตัวอย่างเช่น ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ระบบ Pre-Collision ตรวจจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในเวลากลางวัน การตรวจจับผู้ขี่จักรยานในสภาวะแสงน้อย และการตรวจจับช่องทางเดินรถรอบตัว รวมถึง Lane Recognition ซึ่งมีการปรับปรุงการทำงานของ Lane Tracing Assist ใหม่หมด Toyota ตั้งล็อกพวงมาลัย lock-to-lock ไว้ที่ประมาณ 150 องศา ทำให้กลับรถและจอดรถได้ง่ายขึ้น

Toyota กำลังกำลังดำเนินการทางการตลาดอย่างมุ่งมั่น เพื่อสร้างความนิยมให้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อมกับสร้างสังคมปลอดคาร์บอน โดยพยายามดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ท่ีกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า ให้ไปยังตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์สามห่วงมากขึ้น ผ่านการจองแบบออนไลน์ นอกจากรถยนต์ Toyota รุ่นปลั๊กอินไฮบริด เซลล์เชื้อเพลิงไฟฟ้าไฮโดรเจน และไฮบริดแล้ว Toyota ยังจัดแสดง bZ4X ที่สำนักงานใหญ่ย่านบางนา (ใกล้เซ็นทรัลบางนา) ราคาของ bZ4X อยู่ที่  1,836,000 บาท กับการขับที่ดีเยี่ยมราวกับ Lexus NX450h+  บอกเลยว่า ไม่แพงครับ.