เอกสาร สมัครประกันสังคม มาตรา 33

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ค. เห็นชอบอนุมัติให้กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ใน 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา ได้รับการเยียวยา ชดเชยรายได้จากรัฐบาล

กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน กำหนดรูปแบบการให้ความช่วยเหลือ คือ กลุ่มแรงงานสัญชาติไทย ที่อยู่ในระบบผู้ประกันสังคม ตามมาตรา 33 จะได้รับความช่วยเหลือเงินจำนวน 2,500 บาท จำนวน 1 เดือน ขณะที่แรงงานผู้ประกันตน มาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทย จะได้รับความช่วยเหลือ คนละ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน โดยกลุ่มที่เป็นผู้ประกันมาสังคม ตามตรา 39 และมาตรา 40 ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน

-นายจ้าง/ผู้ประกอบการ กรณีที่มีลูกจ้าง

ให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม มาตรา 33 ภายในเดือน ก.ค. 64 เพื่อผู้ประกอบการจะได้รับเงินช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คนในอัตรา 3,000 บาท/หัว/สถานประกอบการ

-ลูกจ้างสัญชาติไทยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,500 บาท/คน กรณีที่ไม่มีลูกจ้าง

ให้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม มาตรา 40 ภายในเดือน ก.ค. 64 จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท

ส่วนผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ในโครงการคนละครึ่ง-เราชนะ ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคมเพราะไม่มีลูกจ้าง ให้ดำเนินการลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตาม มาตรา 40 เพื่อรับความช่วยเหลือรายละ 5,000 บาท ด้วย 1 เดือน

สำหรับวิธีการเตรียมเอกสาร รับเงิน 5,000 บาท รัฐบาลให้หลักการว่า จำกัดเอกสารให้น้อยที่สุด เพื่อลงทะเบียน และจ่ายเงินเยียวยาคนที่ได้รับผลกระทบให้มากที่สุด ดังนี้

วิธีเตรียมเอกสาร

-หลักฐานการเป็นลูกจ้างในกิจการที่ถูกสั่งปิดเพราะประกาศ คำสั่ง ของรัฐบาล

-บัตรประชาชน

-หลักฐานจ่ายเงินสบทบประกันสังคม ตามมาตรา 39 และมาตรา 40

-เอกสารจ่ายเงินสมทบ 6 เดือนย้อนหลัง

-เอกสารการรับเงินจากนายจ้าง หรือคู่ค้า ครั้งสุดท้าย

วิธีสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40

สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 สามารถทำได้ผ่าน 7 ช่องทาง

-สมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่

-สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506

-เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขา

-ธนาคาร ธ.ก.ส. ทุกสาขา

-Big c ซุปเปอร์เซ็นเตอร์

-เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ

-สมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม

วิธีสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม

-เข้าไปที่เว็บไซต์ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคม

-เลื่อนลงมาด้านล่างเพื่อเข้าโปรแกรม ลงทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ถ้าเป็นโทรศัพท์ เคลื่อนที่โปรแกรมจะอยู่ตรงกลางหน้าจอหากเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์โปรแกรมจะอยู่ด้านขวามือ ของหน้าจอ

-เลือกแถบเมนู ลงทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จะปรากฏหน้าจอให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จนเสร็จสิ้นกระบวนการรับสมัครขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ระบบ จะแจ้งยืนยันผ่านทาง SMS ทันที

-การสมัครจึงจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว

วิธีสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ผ่านช่องทางออนไลน์สำนักงานประกันสังคม เช็กเลยมีเงื่อนไขอะไรบ้าง

ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือ ผู้ประกันตนโดยสมัครใจเป็นบุคคลที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จ่ายเงินสมทบก่อนออกจากงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน แล้วลาออก แต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมโดยได้รับการคุ้มครอง 6 กรณี ดังนี้

  • กรณีเจ็บป่วย
  • กรณีทุพพลภาพ
  • กรณีคลอดบุตร
  • กรณีตาย
  • กรณีสงเคราะห์บุตร
  • กรณีชราภาพ

ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคม อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้ด้วยการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ผ่านระบบออนไลน์โดยมีเอกสาร-วิธีการดังนี้

หลักฐานการสมัครมาตรา 39

  • แบบขอเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 (สปส.1-20)
  • บัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่มีรูปถ่าย ซึ่งทางราชการออกให้พร้อมสำเนา

วิธีการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 แบบออนไลน์

1. ดาวน์โหลดเอกสาร แบบขอเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 (สปส.1-20)
2. แนบบัตรประชาชน หรือบัตรอื่นที่มีเลขบัตรประชาชนและรูปถ่ายที่ราชการออกให้ พร้อมสำเนา
3. ส่งแบบคำขอและเอกสารการสมัครมาตรา 39 ผ่านช่องทางที่สะดวก

  • สมัครทางสำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน
  • สมัครทางไปรษณีย์ระบบลงทะเบียน
  • สมัครทางโทรสาร (FAX)
  • สมัครทางออนไลน์ผ่านระบบอีเมลล์
  • สมัครทางออนไลน์ผ่านระบบไลน์

4. ตรวจสอบผลการสมัครมาตรา 39 อย่างใกล้ชิด

เงินสมทบที่ต้องนำส่ง

  • เดือนละ 432 บาท โดยเป็นเงินที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบ คือ เดือนละ 4,800 บาท เท่ากันทุกคน คิดจากอัตราเงินสมทบ 9% (9% x 4,800 = 432)

วิธีจ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 39

  1. จ่ายที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา พร้อมแบบส่งเงินสมทบฯ (สปส. 1-11)
  2. หักจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์มี 6 ธนาคาร ดังนี้
    • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
    • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
    • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
    • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
    • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
    • ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)

หมายเหตุ

  • กรณีหักผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ขอรับหนังสือยินยอมให้หักเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาที่เปิดบัญชี หรือ สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่)
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ปรับลดค่าธรรมเนียมรายการละ 5 บาท (เดิมคิดค่าธรรมเนียม 10 บาท)

จ่ายด้วยเงินสดที่

  1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  3. ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
  4. จ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7- ELEVEN ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมรายการละ 10 บาท สามารถจ่ายเงินสมทบได้ทุกสาขา
  5. จ่ายเป็นธนาณัติ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ พร้อมแบบส่งเงินสมทบ สปส. 1-11 ถึงสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา (กรณีจ่ายผ่านธนาณัติ แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ด้วยว่า สั่งจ่าย ตู้ ป.ณ. ใด)
  6. จ่ายผ่านเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ จะมีค่าธรรมเนียมรายการละ 10 บาท
  7. จ่ายผ่านเคาน์เตอร์เพย์สบายที่มีสัญลักษณ์ "แจ๋ว" ทุกสาขาทั่วประเทศ จะมีค่าธรรมเนียม 10 บาท

หน้าที่ของผู้ประกันตนตามมาตรา 39

  1. ต้องนำส่งเงินสมทบภายในวันที่ 15 ของทุกเดือน หากเกินกำหนดต้องเสียเงินเพิ่ม ในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน
  2. แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงให้สำนักงานประกันสังคมดังนี้
    • กรณีเปลี่ยนแปลงสถานที่ติดต่อ ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ตามแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงสถานที่ติดต่อ (สปส. 1-34)
    • กรณีเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ต้องแจ้งทันทีพร้อมแนบสำเนาหลักฐาน
    • กรณีประสงค์ลาออกหรือกลับเข้าทำงานและมีสถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรทันทีตามแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 (สปส.1-21)

เหตุที่ทำให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน

  • ตาย
  • กลับเข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33
  • ลาออก
  • ไม่ส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน (สิ้นสภาพตั้งแต่เดือนแรกที่ไม่ส่งเงินสมทบ)
  • ภายในระยะเวลา 12 เดือน ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน (สิ้นสภาพในเดือนที่ส่งเงินสมทบไม่ครบ 9 เดือน)

หมายเหตุ

สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้เข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ทำงานในสถานประกอบการ/นายจ้างใหม่) นายจ้างหรือผู้รับมอบอำนาจสามารถดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนได้ภาย ใน 30 วันนับแต่วันที่เข้าทำงาน โดยผู้ประกันตนไม่ต้องไปดำเนินการลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (สปส.1-21) แต่อย่างใด

ยกเว้น กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 มีการค้างชำระเงินสมทบจะต้องไปดำเนินการแจ้งการลาออก (สปส.1-21) ด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา ที่สมัครไว้