นางสาวภัคจิรา วชิรศรีสุนทรา Show บทคัดย่อ สารนิพนธ์เรื่อง กลยุทธ์การตลาดเเละปัจจัยของการเลือกใช้เครื่องสำอางของญี่ปุ่นประเภทเมคอัพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยในการเลือกใช้ พฤติกรรมในการเลือกใช้ เเละความพึงพอใจของผู้บริโภคในการเลือกใช้เครื่องสำอางประเภทเมคอัพของญี่ปุ่น เเละศึกษากลยุทธ์การตลาดเครื่องสำอางของเเบรนด์ KANEBO โดยการเก็บข้อมูลเเบบสอบถามทางอินเตอร์เน็ตจากกลุ่มผู้บริโภคเครื่องสำอางประเภทเมคอัพของญี่ปุ่นจำนวน 405 คน เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เเละวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการทางสถิติเพื่อหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย เเละค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้บริโภคเครื่องสำอางประเภทเมคอัพของญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 21-40 ปี เเละมีรายได้ต่อเดือนต่ากว่า 10,000 บาท โดยมีเเหล่งที่มาของรายได้จากการทำงาน ข้อมูลพฤติกรรมการเลือกซื้อพบว่า ส่วนใหญ่สนใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทเมคอัพด้านตกเเต่งผิวหน้า ส่วนใหญ่เลือกใช้หรือซื้อผลิตภัณฑ์เเบรนด์ Biore บ่อยที่สุด ความถี่ในการเลือกซื้อเครื่องสำอางคือ 2-3 เดือนต่อครั้ง ค่าใช้จ่ายในเเต่ละครั้งประมาณ 501-1,000 บาท โดยเลือกซื้อจากเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า โดยรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากทางอินเตอร์เน็ต ข้อมูลปัจจัยที่มีอิทธิพลในการตัดสินใจเลือกซื้อพบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์พบว่าคุณภาพของสินค้ามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อมากที่สุด ข้อมูลปัจจัยด้านราคาพบว่าเรื่องราคาเหมาะสมกับคุณภาพมีอิทธิพลมากที่สุด ข้อมูลปัจจัยด้านช่องทางการจัดจำหน่ายพบว่าการที่เเหล่งจำหน่ายสินค้ามีความน่าเชื่อถือมีอิทธิพลมากที่สุดเเละข้อมูลปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดพบว่าการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อมากที่สุด เเละผู้บริโภคเครื่องสำอางประเภทเมคอัพของญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในการเลือกซื้อ/ใช้เครื่องสาอางประเภทเมคอัพของญี่ปุ่นอยู่ในระดับมากที่สุด เเละนอกจากนี้จากผลการศึกษาพบว่า เเบรนด์ KANEBO มีการวางเเผนกลยุทธ์การตลาดเพื่อเเข่งขันทางการตลาดเเละต้องการยกระดับเเบรนด์ให้อยู่ในระดับสากลโดยการปรับโฉมของเเบรนด์ใหม่ มีการเปิดตัวเเบรนด์เเละผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของเเบรนด์ให้เป็นเครื่องสำอางระดับพรีเมียมหรือสินค้ามีราคาเเละคุณภาพที่สูง มีการรักษาฐานลูกค้าเดิมเเละต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยการให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์เเละโฆษณาเเบรนด์ยิ่งขึ้นผ่านสื่อต่างๆทางอินเตอร์เน็ตเเละเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าในเเถบประเทศเอเชียเป็นหลักโดยทางเเบรนด์คาดว่าหลังจากการปรับเปลี่ยนเเผนกลยุทธ์ทางการตลาด เเล้วจะต้องมีส่วนเเบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า บทความวิจัยฉบับเต็ม Views: 87 หัวข้อ : วารสาร K Sme Inspried นวัตกรรมนำความล้ำ ทำให้ชีวิตง่าย ขยายโอกาสธุรกิจ วิถีชีวิตผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจกับสุขภาพและอาหารการกินที่ดีมากขึ้น ทำให้มูลค่าสินค้าออร์แกนิกเฉพาะในไทยสูงถึงเกือบ 3 พันล้านบาท และมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ ภายใต้นโยบายสนับสนุนของภาครัฐที่ส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ เช่น
น่าจะทำให้อุปสงค์และอุปทานตลาดออร์แกนิกในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 5 ผลิตภัณฑ์อาหาร ที่มีบทบาทในตลาดออร์แกนิกนอกเหนือจากสินค้าออร์แกนิกรูปแบบเดิม ๆ ที่วางจำหน่ายในตลาดแล้ว มีการคาดการณ์ว่า กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกที่มาพร้อมนวัตกรรมและตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคหรือการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เข้ามามีบทบาทในตลาดออร์แกนิกมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มต่อไปนี้
3 กลุ่มเป้าหมายสำคัญของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
3 ปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้าออร์แกนิก1. ราคาจับต้องได้-ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ พฤติกรรมผู้บริโภค
กลยุทธ์ทางการตลาด
กลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ
2. เข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภค
กลยุทธ์ทางการตลาด
กลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ
3. มุ่งเน้นคุณภาพความปลอดภัยด้านอาหาร ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ให้คุณค่าเฉพาะ (Functional Food Product) พฤติกรรมผู้บริโภค
กลยุทธ์ทางการตลาด
กลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในตลาดออร์แกนิกการจะอยู่ในธุรกิจออร์แกนิกนั้น นอกเหนือจากการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์แล้ว ปัจจัยความสำเร็จของผู้ประกอบการยังขึ้นอยู่กับ 1) การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ เช่น การได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก จากองค์กรหรือสถาบันที่ได้รับการยอมรับ การรีวิวจากผู้บริโภค/ผู้ใช้จริง 2) สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งในเรื่องของนวัตกรรมอาหาร การออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น อาหารออร์แกนิกสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน (ฟรีซพร้อมอุ่นสำหรับสังคมเมือง) ข้าวออร์แกนิกน้ำตาลต่ำ (สำหรับกลุ่มที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก) อาหารออร์แกนิกกลุ่มฟรีฟอร์ม (สำหรับคนแพ้กลูเตน) เป็นต้น 3) การเพิ่มช่องทางการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น
Published on 15 September 2020 |