กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ฝ่ายฝึกอบรม (Training & Development) จะเรียกสั้นๆ ว่า กรมพัฒฯ ฝ่ายฝึกอบรมต้องทำงานกับร่วมกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยังไง มีหน้าที่อะไร (ฉบับย่อ) ส่งเสริมและประสานความร่วมมือให้ภาครัฐและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการ เกี่ยวกับการฝึกอบรมฝีมือแรงงาน มาตรฐานฝีมือแรงงาน การรับรองความรู้ความสามารถ และการส่งเสริม เครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการเกี่ยวกับการเป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศ (ฉบับเต็ม) อ่านได้ที่ http://www.dsd.go.th/DSD/Home/Mission ทำไมต้องติดต่อกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน – ผู้ประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องยื่นขอรับรองหลักสูตรกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เงื่อนไข – ต้องจัดฝึกอบรมให้กับพนักงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนลูกจ้างเฉลี่ยในรอบปี คำนวณยังไงดูเลยจ้า หมายเหตุ
ขั้นตอนการดำเนินการ แบบฟอร์มดาวน์โหลด กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน http:// http://www.dsd.go.th/DSD/Doc/index2559?CATEGORY_DOCUMENT_ID=1538&filter= 1. ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบกิจการ (แบบ สท.1 และ สท.4) – กรณีมีสาขาให้นับรวมจำนวนลูกจ้างทุกสาขามารวมกัน ขึ้นทะเบียนที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ 2. ดำเนินการจัดฝึกอบรม ให้ครบตามสัดส่วนแต่ละปี และยื่นรับรองหลักสูตร รายการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายใน 60 วัน นับจากวันอบรม (แต่ไม่เกินวันที่ 15 มกราคมของปีถัดไป) 2.1 จัดอบรม ดำเนินการเองฝึกเอง (In-house Training) ยื่นแบบ ฝย/ฝป 1, 2-1,32.2. ส่งฝึกอบรมภายนอก (Public Training) ยื่นแบบ ฝย/ฝป 1, 2-22.3
ชี้แจงค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมที่ผ่านการรับรอง สามารถยกเว้นภาษีเงินได้กับกรมสรรพากรได้เพิ่มอีก 100% (เฉพาะกรณีการดำเนินการฝึกเอง ส่วนกรณีส่งฝึกอบรมภายนอก กรมสรรพากรจะพิจารณาค่าใช้จ่ายจากใบเสร็จที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมเรียกเก็บโดยไม่ต้องผ่านกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน) ***ผู้ประกอบกิจการที่มีสำนักงานสาขา ให้ยื่นแบบแสดงการส่งเงินสมทบ (สท.2) รวมกัน ณ หน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ สถานที่ยื่นคำขอ
อย่างที่แจ้งไว้ ยังมีกรณีที่องค์กรไม่ได้จัดอบรม หรือจัดไม่ครบตามสัดส่วน จ่ายชำระล่าช้า จะต้องดำเนินการอย่างไรมาเล่าให้ฟังอีกในครั้งหน้าค่ะ ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อ้างจาก https://gethr.co นางศิริลักษณ์ ฮั้วรุ่งเรือง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 22 นครศรีธรรมราช กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสถานประกอบกิจการเป็นจำนวนมากรัฐบาลจึงสั่งการให้หน่วยงานภาครัฐกำหนดมาตรการช่วยเหลือแรงงาน และสถานประกอบกิจการที่ได้รับผลกระทบ โดยในส่วนของ กพร. ได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือสถานประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายบังคับตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 รวม 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ 1 ลดอัตราเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานจากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.1 ของค่าจ้างที่ผู้ประกอบกิจการจ่ายในปี พ.ศ. 2564 ตามสัดส่วนจำนวนลูกจ้างที่ไม่ได้จัดให้มีการพัฒนาฝีมือแรงงาน (เพื่อช่วยเหลือกรณีที่ ปี 2564 ผู้ประกอบกิจการพัฒนาฝีมือแรงงานไม่ครบตามสัดส่วนและต้องชำระเงินสมทบในปี 2565) มาตรการที่ 2 ขยายระยะเวลาการยื่นแบบแสดงการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานสำหรับปี พ.ศ. 2563 จากเดิมต้องยื่นแบบภายในเดือนมีนาคม 2564 เป็นยื่นแบบภายในเดือนกรกฎาคม 2564 มาตรการที่ 3 ขยายระยะเวลาการยื่นขอรับรองหลักสูตรและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม สำหรับปี พ.ศ. 2564 จากเดิมภายใน 60 วัน เป็นภายใน 90 วัน นับแต่วันเสร็จสิ้นการฝึก แต่ต้องไม่เกินวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 22 นครศรีธรรมราช เลขที่ 79 หมู่ที่ 1 ถนนนครศรี - ปากพนัง ตำบลบางจาก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช โทรศัพท์ 0 7539 9297 |