เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ แม็คโคร

“การเลือกสินค้า” ควรมีสินค้าและบริการหลายหลากตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด การเลือกจำนวนสินค้าแต่ละกลุ่มสินค้าได้อย่างเหมาะสม จะสามารถทำให้ร้านค้าได้ยอดขายและกำไรสูงสุด

1. สินค้าจำเป็น (กลุ่มสินค้าหลักเพื่อสร้างยอดขาย)

สินค้าที่ขายดีเป็นที่ต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ และดึงให้ลูกค้ามาซื้อของในร้าน จำเป็นต้องมีขายตลอดเวลา ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค

2. สินค้าใหม่ สินค้าเฉพาะ และสินค้าตามเทศกาล(เพิ่มยอดขายและกำไร)

สินค้ากลุ่มนี้ช่วยเพิ่มยอดขาย กำไร และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของร้าน ว่ามาที่ร้านแล้วได้สินค้าครบทุกครั้งทุกโอกาส ได้แก่ สินค้าใหม่ที่ออกโฆษณา, สินค้าเฉพาะที่หาซื้อยาก หรือสินค้าตามเทศกาล ซึ่งเจ้าของร้านควรพิจารณานำ สินค้ามาจำหน่ายในปริมาณที่เหมาะสม ที่สำคัญต้องมีการติดประชาสัมพันธ์เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าร้านเรามีสินค้า กลุ่มใหม่ๆจำหน่าย

3. บริการเฉพาะของร้าน(เพิ่มจำนวนคนเข้าร้านและเพิ่มลูกค้าใหม่)

สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และดึงดูดความสนใจลูกค้า เจ้าของร้านควรพิจารณา บริการเสริมต่างๆมาให้บริการในร้าน เช่น ตู้กดน้ำ, เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ, บริการเติมเงิน เป็นต้น บริการดังกล่าวควรสอดคล้องกับความต้องการ ของลูกค้าแต่ละพื้นที่ และคำนึงถึงพื้นที่และความพร้อมของร้าน

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวบรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อผู้ประกอบการมาจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่องาน “อิเล็กโทรพลัส” ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม- 24 กันยายนนี้ ที่แม็คโคร 90 กว่าสาขาทั่วประเทศ พร้อมข้อเสนอพิเศษมากมาย อาทิ รับเงินคืนสูงสุด 1,000 บาท เมื่อซื้อครบ 8,000 บาท และผ่อน 0% นานสูงสุด 18 เดือน

นางศิริพร กล่าวว่า การจัดโปรโมชั่นครั้งนี้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบการซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน โดยเฉพาะประเภท ตู้แช่แข็ง มีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ “ครัวชุมชน” ในการเจาะตลาดโชห่วยระดับท้องถิ่น ขณะที่เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญถือเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้ใหม่ๆ ส่วนตู้เย็นขนาดใหญ่จำเป็นสำหรับใช้บริหารจัดการสต๊อกสินค้าอาหารสด นอกจากนี้ ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก อาทิ เครื่องทำทาโกยากิ เครื่องทำวาฟเฟิล เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องปั่นสำหรับมืออาชีพ ฯลฯ ถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“แนวโน้มเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบการยังมีอัตราการเติบโตอย่างน่าสนใจ แม็คโครจึงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจสร้างกลยุทธ์และวางแผนการตลาดใหม่ๆ บุกตลาดกลุ่มนี้ต่อไป เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ๆ ในอาชีพ ให้การประกอบกิจการเติบโต มีรายได้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการร้านค้าในชุมชนให้มีความแข็งแกร่ง”

นางศิริพร กล่าวว่า ลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย มีมูลค่ารวม 2.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น สมาร์ทโฟน 100,000 ล้านบาท เครื่องปรับอากาศ 35,000 ล้านบาท โทรทัศน์ ทีวี 27,000 ล้านบาท โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ 30,000 ล้านบาท เครื่องซักผ้า 30,000 ล้านบาท ตู้เย็น 27,000 ล้านบาท กล้อง 7,000 ล้านบาท

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่