สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริบางประการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ซึ่งมีใจความดังต่อไปนี้ “การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชนั้น ควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม ความสนใจ และเกิดความปิติที่จะทำการศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีสอน การอบรมและให้ความรู้สึกกลัวว่า หากไม่อนุรักษ์แล้วจะเกิดผลเสียเกิดอันตรายแก่ตนเอง จะทำให้เด็กเกิดความเครียด ซึ่งจะเป็นผลเสียแก่ประเทศในระยะยาว” โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริจัดตั้งงาน “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” เพื่อเป็นสื่อในการสร้างจิตสำนึกด้านอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยให้เยาวชนนั้นได้ใกล้ชิดกับพืชพรรณไม้ เห็นคุณค่าประโยชน์ ความสวยงาม เกิดความรัก และหวงแหน อันจะก่อให้เกิดความคิดที่จะอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป สวนพฤกษศาสตร์ คือ แหล่งที่รวบรวมพันธุ์พืชชนิดต่างๆ ที่มีชีวิต จัดปลูกตามความเหมาะสมกับสภาพถิ่นอาศัยเดิม มีห้องสมุด สถานที่เก็บรวบรวมตัวอย่างพรรณไม้รักษาสภาพ อาจเป็นตัวอย่างแห้งหรือตัวอย่างดอง หรือเก็บรักษาด้วยวิธีอื่นๆ พันธุ์พืชที่ทำการรวบรวมไว้นั้นจะเป็นแหล่งข้อมูลและการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ นอกจากนี้สามารถใช้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจซึ่งสามารถดำเนินการสวนพฤกษศาสตร์ในพื้นที่ของโรงเรียน โดยมีองค์ประกอบดังกล่าว เป็นสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่าว อีกทั้งใช้ในการศึกษาและเป็นประโยชน์ในการสอนวิชาต่างๆ จากพระราชดำริและพระราโชวาทของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเรื่องของสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ซึ่งมีความสอดคล้องกับงานปกติในเรื่องของการเรียนการสอน และในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งเน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นทางโรงเรียนจึงได้มีการประชุมหารือกับองค์การบริหารส่วนตำบลซับตะเคียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลซับตะเคียน และเห็นควรที่จะสนองราชดำริ ดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนบ้านหนองโกวิทยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โรงเรียนบ้านหนองโกวิทยา จังหวัดลพบุรี เป็นโรงเรียนที่จัดสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงามและเป็นโรงเรียนที่มีพรรณไม้ธรรมชาติเป็นจำนวนมาก โรงเรียนได้เอาใจใส่ดูแลพรรณไม้เป็นอย่างดีแต่ยังขาดการสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนมีความรักความร่มรื่นสวยงามของพรรณไม้เท่าที่ควร จึงมีแนวคิดสอดคล้องกับงานสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรียนตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน คือแหล่งรวบรวมพืชพรรณไม้ต่าง ๆ ที่มีชีวิต จัดปลูกตามความเหมาะสม ในสภาพที่คล้ายกับถิ่นอาศัยเดิมใช้เป็นแหล่งข้อมูลเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพืชพรรณได้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เพื่อเป็นสื่อให้เยาวชนนั้นได้ใกล้ชิดกับพืชพรรณไม้ เห็นคุณค่าประโยชน์ ความสวยงาม อันก่อให้เกิดความคิดที่จะอนุรักษ์พันธุกรรมพืชต่อไป นอกจากนี้กิจกรรมทั้งหลายสามารถดำเนินการได้ในพื้นที่โรงเรียน เพื่อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าและการเรียนการสอนวิชาต่าง ๆ ๒.รายละเอียดของโครงการ (ขั้นตอนการดำเนินงาน) กิจกรรมที่ รายละเอียดกิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ ๑. สำรวจพันธุ์พืชในสถานศึกษา พฤษภาคม ๒๕๖๐ – มิถุนายน ๒๕๖๐ นายกุลเกียรติ เสริมกูลเกียรติ ๒. จัดทำแผนที่ต้นไม้ในสถานศึกษา กรกฎาคม ๒๕๖๐ – สิงหาคม ๒๕๖๐ ๓. จัดทำป้าย ชื่อต้นไม้ กรกฎาคม ๒๕๖๐ – สิงหาคม ๒๕๖๐ ๔. บันทึกลักษณะ และ สรรพคุณของต้นไม้ สิงหาคม ๒๕๖๐ – กันยายน ๒๕๖๐ ๕. เก็บเมล็ดพันธุ์ไม้ท้องถิ่นจากป่าชุมชนเพื่อทดลองเพาะกล้าไม้ ตุลาคม ๒๕๖๐ – มกราคม ๒๕๖๑ ๖. ปลูกป่าร่วมกับชุมชนเพื่อปลูกฝังการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือน จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเพื่อบำรุงต้นไม้ ดาวน์โหลด คู่มือ “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริฯ (pdf) >>>คลิก<<<ดาวน์โหลด ขั้นตอนการสมัครสมาชิก “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” (pdf) >>>คลิก<<<
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดาริบางประการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช “การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสานึกในการอนุรักษ์พันธ์พืชนั้น ควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม ความน่าสนใจ และเกิดความปิติ ที่จะทาการศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีการสอนหรือการอบรมที่ให้ความรู้สึกกลัวว่า หากไม่อนุรักษ์แล้วจะเกิดผลเสียเกิดอันตรายต่อตนเอง จะทาให้เด็กเกิดความเครียด ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อประเทศในระยะยาว” โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริฯ ได้ดาเนินการตอบสนองพระราชดาริ จัดตั้งงาน “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน”เพื่อเป็นสื่อในการสร้างจิตสานึกด้านอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยให้เยาวชนนั้นใกล้ชิดกับพืชพรรณไม้ เห็นคุณค่าประโยชน์ ความสวยงามอันก่อให้เกิดความคิดที่จะอนุรักษ์พรรณพืชต่อไป โรงเรียนภู่วิทยา จึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดาริ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นปีแรก ซึ่งได้ดาเนินตามโครงการเพื่อขอรับป้ายสนองพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน” ได้ตระหนักและเห็นคุณค่าของการสอนและอบรมให้นักเรียนมีจิตสานึกในการอนุรักษ์พืชพรรณ โดยการปลูกฝังให้เห็นความงดงาม ความน่าสนใจ เกิดความปีติที่จะทาการศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณให้ครบทุกองค์ ประกอบ ทั้งสาระธรรมชาติแห่งชีวิต สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว และประโยชน์แท้แก่มหาชน ทั้งนี้เพื่อเป็นการดาเนินการตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี สืบไป ๒. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้เยาวชนได้ร่วมสนองพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เข้าใจงาน เข้าใจทรัพยากรรอบกาย และเข้าใจหน้าที่ของตนเอง ๒. เพื่อให้เยาวชนเกิดจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรพืช เข้าถึงปัจจัยทางชีวภาพ และกายภาพที่เกี่ยวพันกับพรรณพืช ๓. เพื่อแสวงหาแนวทางในการอบรมสั่งสอนนักเรียนให้เรียนรู้จริงจากธรรมชาติรอบกายมีจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร เกิดมีความรู้ทิ้งทางวิทยาการและทางปัญญา ๔. เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพืชพรรณไม้ต่างๆ ๕. เพื่อให้โรงเรียนเป็นแหล่งรวบรวม ตัวอย่างพรรณไม้ ข้อมูลพรรณไม้และการเก็บรักษา ๓. เป้าหมาย ๑. ด้านปริมาณ นักเรียนโรงเรียนภู่วิทยา จานวน ๖๔๕ คน ครูโรงเรียนภู่วิทยา จานวน ๔๖ คน ๒. ด้านคุณภาพ นักเรียนมีความรู้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพืชกับปัจจัยทางชีวภาพและกายภาพ สามารถนาความรู้ ประสบการณ์ไปใช้ประโยชน์ เห็นคุณค่าของพรรณไม้และการจัดการเรียนรู้ และโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ในการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน พื้นที่ดำเนินงาน โรงเรียนภู่วิทยา ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๖ หมู่ ๔ ตำบลโนนแดง อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่ ๔๓ไร่ ๙๙ ตารางวา วิธีการดำเนินงาน 1. ประชุมวางแผนดาเนินงาน และแจ้งให้หมวด/ฝ่ายรับทราบ เพื่อให้เข้าใจจุดประสงค์ของโครงการ และผลงานหรือกิจกรรมที่แต่ละหมวด/ฝ่ายต้องรับผิดชอบ 2. ดำเนินงานตามขั้นตอนองค์ประกอบ ๕ ขั้น ในการดาเนินงานสวนพฤกษศาสตร์ 3. ศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เกิดความรู้และเชี่ยวชาญในพืชพรรณที่สนใจที่มีประโยชน์ในชีวิตประจาวันเพื่อนาไปใช้ประโยชน์ 4. ศึกษาให้ได้รายละเอียดของพืชที่สนใจคือขิงเพิ่มเติม รวมทั้งศึกษาความสัมพันธ์กับปัจจัยชีวภาพ โดยศึกษาธรรมชาติของชีวิต (รูปลักษณะ การเจริญเติบโต วงจรชีวิต)และพฤติกรรมของสัตว์ที่มีต่อพืชชนิดนั้น โดยใช้วิธีเผ้าสังเกตและเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ศึกษาเกี่ยวพันกันระหว่างปัจจัยชีวภาพ ปัจจัยทางกายภาพ วิเคราะห์ศักยภาพให้เกิดประโยชน์ โดยเน้นประโยชน์ที่บังเกิดขึ้นแล้วมหาชนได้รับประโยชน์ทั่วกันเป็นการสร้างธรรมะขึ้นในจิตใจของเยาวชน เกิดเป็น “ประโยชน์แท้แก่มหาชน” ซึ่งมีหลักการ คือต้องเป็นประโยชน์ที่กับคนส่วนใหญ่หรือในชุมชน เป็นประโยชน์ที่สืบทอดยาวนาน เป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นแล้วก่อให้เกิดความสะดวกทางกาย และก่อให้เกิดความเบิกบานทางจิตใจ 5. บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์เข้าสู่การเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ในแต่ละเนื้อหาสาระนั้น ๆ เพื่อร่วมกันศึกษาหาแนวทางในการนาศักยภาพไปใช้ประโยชน์ |