ข้อดี ของการสร้างเว็บไซต์ด้วย โปรแกรม ระบบ CMS 12 ข้อ

เราจะมาพูดถึงการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress (เวิร์ดเพรสส์) คือโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในการสร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ประเภท Contents Management System หรือที่เรียกย่อๆ ว่า CMS ซึ่งเขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL โดยมีส่วนประกอบโครงสร้างหลักๆ คือ

Theme เป็นส่วนที่กำหนดดีไซน์หรือรูปแบบการแสดงผล

Plugin เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ WordPress เช่น ระบบสร้างหน้าเว็บไซต์ ระบบจัดการสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย แล้วแต่การเลือกใช้ของเรา

WordPress Core เป็นซอฟต์แวร์หลัก ใช้จัดการข้อมูลเว็บไซต์ เนื้อหาและบทความต่างๆ

WordPress มีระบบจัดการบทความ หรือที่เรียกว่า ระบบหลังบ้าน ซึ่งระบบหลังบ้านนั้นจะเป็นในส่วนที่เอาไว้จัดการข้อมูลบนเว็บไซต์ของเรา จะทำให้เกิดความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น

 WordPress ยังสามารถใช้สร้างและจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ โดยใช้งานออนไลน์ได้เลยครับ ซึ่งในส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องโหลดโปรแกรมมาติดตั้งในเครื่องเลยครับ และที่ง่ายไปกว่านั้นก็คือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาเขียนโค้ดเองเลยครับ และไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องโค้ด ก็สามารถจัดการข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราได้อย่างง่ายไม่ซับซ้อน นอกจากนี้  WordPress ยังเพิ่มความเข้าใจที่ง่ายขึ้นโดยมีเอกสารคู่มือการใช้งาน เพราะในส่วนนี้ถือได้ว่า CMS เป็นอันดับหนึ่งที่มีการใช้งานกันทั่วโลก

 

เรามาดูกันต่อเลยว่าข้อดีของการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress มีอะไรบ้าง

1. WordPress มีนักพัฒนาเก่งๆ นำมาใช้จำนวนมาก

เนื่องจากเป็นโปรแกรม Opensource ใครจะเอาไปใช้หรือพัฒนาก็ได้ฟรีๆ ทำให้มีนักพัฒนาเก่งๆ อยู่ทั่วโลกเลยครับ เพราะฉะนั้นมั่นใจในตัวโปรแกรมได้เลยว่าจะไม่ถูกลอยแพหรือทิ้งไม่ได้รับการพัฒนาได้เลย WindSITE ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่นำ WordPress มาใช้ในการพัฒนาระบบตามความเหมาะสมของเว็บไซต์ที่ รับทำเว็บไซต์ แล้วแต่ลักษณะธุรกิจของลูกค้าของเรา

 

2. ประหยัดเวลาและต้นทุนในการทำเว็บไซต์

เมื่อเราคิดอยากจะทำเว็บไซต์ไม่ว่าจะด้วยธุรกิจหรืออะไรก็ตาม แต่เราไม่มีความรู้เรื่องของการเขียนโค้ดเลย ก็คงทำให้เรานั้นต้องเสียเวลาไปศึกษาโค้ดภาษาคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ถ้าหากได้ใช้ WordPress เราก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องโค้ดภาษาคอมพิวเตอร์ก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ครับ และถ้าหากเราจ้างเขาทำ แล้วเขาใช้ WordPress ก็ทำให้เสียเงินน้อยกว่าการทำเว็บไซต์ด้วยการเขียนโค้ดอีกครับ

 

3. อัปเดตง่ายและสม่ำเสมอ

WordPress นั้นขึ้นชื่อเรื่องการปล่อยตัวอัปเดตอยู่ตลอดเวลานั่นหมายความว่าระบบมีการพัฒนาเทคโนโลยีการใช้งานตลอดเวลาเนื่องจากมีฐานคนใช้งานอยู่มาก เมื่อมีการอัปเดตบ่อยก็หมายความว่ามีการรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น 

ผู้ใช้ WordPress มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง และถ้าต้องมีการอัปเดต ทางโปรแกรมก็จะแจ้งเตือนให้ทราบ แถมการอัปเดตก็ทำได้ง่ายๆ อีกด้วยครับ

 

4. มีธีมให้เลือกใช้อย่างมากมายทั้งแบบฟรีและไม่ฟรี

คุณสามารถมีเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม โดยที่ไม่ต้องออกแบบใหม่เพราะ WordPress นั้นมีธีมให้เลือกอย่างมากมายหลากหลายรูปแบบความสวยงาม

 

5. มี Plugin หรือ ระบบส่วนเสริม ให้ใช้เยอะมากๆ 

 Plugin WordPress ในส่วนนี้ จะทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมเพิ่มคุณสมบัติให้กับเว็บไซต์ของคุณ เช่น ทำให้ภาพสไลด์ได้ ทำฟอร์มส่ง Email ช่วยสนับสนุนการทำ SEO แบ่ง Layer เว็บไซต์ เพิ่มความเร็ว และอื่นๆ อีกมากมาย

 

6. เป็นมิตรกับ SEO หรือ การค้นหาผ่าน Google Search

WordPress เป็นระบบที่เป็นมิตรต่อการทำให้คนรู้จักเว็บไซต์ของเรามากขึ้นเป็นอย่างมาก มี Plugin ให้ปรับแต่งเว็บไซต์อย่างมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีตัวช่วยในการทำ SEO ด้วย ทำให้เราทำ SEO ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับ Responsive ยิ่งเพิ่มคะแนนการติดอันดับของ Google ทำให้ WordPress นั้นได้เปรียบในการทำ SEO มากกว่า CMS อื่นๆ ทั้งหมดครับ

ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการทำเว็บไซต์เพียงแค่เคยพิมพ์หรือเคยโพสข้อความในอินเทอร์เน็ต ก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้
  • ไม่เสียเวลาในการพัฒนาเว็บไซต์ ไม่เสียเงินจำนวนมาก
  • ง่ายต่อการดูแล เพราะมีระบบจัดการทุกอย่างให้เราหมด
  • มีระบบจัดการที่เราสามารถหามาใส่เพิ่มได้มากมาย อย่างเช่น ระบบแกลลอรี่
  • สามารถเปลี่ยนหน้าตาเว็บไซต์ได้ง่ายๆ เพียงแค่โหลดทีม (Theme) ของ CMS นั้นๆ
  • ข้อเสีย

    1. ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการออกแบบทีม (หน้าตาของเว็บ) เอง จะต้องใช้ความรู้มากกว่าปรกติ เนื่องจาก CMS มีหลายๆระบบมารวมกันทำให้เกิดความยุ่งยาก สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้
    2. ผู้ใช้จะต้องศึกษาระบบ CMS ที่ผู้พัฒนาสร้างขึ้นมา เช่น จะต้องใส่ข้อความลงตรงไหน จะต้องแทรกภาพอย่างไร ซึ่งจะลำบากเพียงแค่ช่วงแรกเท่านั้น
    3. ในการใช้งานจริงนั้นจะมีความยุ่งยากในการ set up ครั้งแรกกับ web server แต่ปัจจุบันก็มีผู้บริการ web server มากมายที่เสนอลงและ set up ระบบ CMS ให้ฟรีๆโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

      สำหรับบล็อกเกอร์ หรือผู้ที่อยากมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์นำเสนอข้อมูลองค์กรหรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ควรจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับ CMS (Content Management System) แต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นต้องดูว่าเว็บไซต์ของเรามีจุดประสงค์อะไร ถ้าเน้นเป็นเว็บไซต์ข่าว บทความ WordPress อาจเหมาะมากกว่า ถ้าจะทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ถ้ามีสินค้าจำนวนไม่มาก WooCommerce ของ WordPress ก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน แต่หากมีสินค้าเป็นจำนวนมาก OpenCart หรือ Magento ที่เป็นระบบ E-Commerce โดยตรง ก็จะรองรับได้ดีกว่า

      ข้อดีของ CMS มีอะไรบ้าง

      ข้อดีของ CMS ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการทำเว็บไซต์ เพียงแค่เคยพิมพ์ หรือเคยโพสข้อความในอินเทอร์เนต ก็สามารถมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้ ไม่เสียเวลาในการพัฒนาเว็บไซต์ ไม่เสียเงินจำนวนมาก ง่ายต่อการดูแล เพราะมีระบบจัดการทุกอย่างให้เราหมด มีระบบจัดการที่เราสามารถหามาใส่เพิ่มได้มากมาย อย่างเช่น ระบบแกลลอรี่

      การสร้างเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมระบบ CMS คืออะไร

      ระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System : CMS) คือ ระบบที่พัฒนา คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดทรัพยากรในการพัฒนา (Development) และบริหาร (Management) เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ในการสร้างและควบคุมดูแลไซต์

      CMS เข้ามามีบทบาทอย่างไรกับการสร้างเว็บ

      CMS (Content Management System) เป็นระบบที่ช่วยสร้างและบริหารเว็บไซต์สำเร็จรูป ทำให้สามารถลดกำลังคน เวลา และต้นทุนไปได้มาก ซึ่งการใช้งาน CMS นั้น ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้ เพียงแต่ศึกษาการใช้งานระบบนั้นๆ ก่อน ทั้งยังมีโปรแกรมหรือปลั๊กอินต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชั่น ...

      ข้อใดคือการพัฒนาเว็บไซต์โดยใช้ระบบ CMS ช่วยในการสร้างเว็บไซต์

      CMS ย่อมาจาก Content Management System คือระบบการจัดการเนื้อหาในเว็บไซต์ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างและบริหารจัดการข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางภาษาคอมพิวเตอร์ ก็สามารถสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ได้ ส่วนใหญ่มักจะพัฒนามาจาก PHP+SQL และเป็นโอเพนซอร์ซ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี