Show
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่านครับ
บทความนี้ ครูอาชีพดอทคอม ขอนำเสนอบทความแนวทางการใช่เทคนิคบันได 6 ขั้น ในการแก้ปัญหา เด็กอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้ คุณครูสามารถนำเทคนิค ไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมบันได 6 ขั้น เพื่อแก้ไขปัญหานักเรียนต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่ นวัตกรรมโดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น pdf โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เผยผลสำรวจพบว่า เด็กไทยอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบแจกลูกสะกดคำและส่งเสริมแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการพัฒนาสมอง (Brain Based Lerning : BBL) เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ทางโครงการภาคีพูนพลังครู ดำเนินงานโดยองค์กรภาคีเครือข่ายดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาครู จำนวน 23 ภาคี ได้รวมครูในเครือข่ายต่างๆ มาร่วมแบ่งปันความรู้และทักษะ และร่วมเรียนรู้ ในเวทีพูนพลังครูครั้งที่ 1 ครูผู้สร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดี ทำให้พบว่ามีครูหลายๆ ท่าน มี HOW TO ในการเรียนการสอนแบบใหม่ๆ ที่ได้ผล หนึ่งในนั้นคือ “ครูศิริลักษณ์ ชมพูคำ” จากโรงเรียนบ้านหินลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ภายใต้ศูนย์พัฒนาวิชาการเพื่อการเรียนรู้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่มี HOW TO การแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ทั้งโรงเรียนด้วยจิตอาสา ด้วยบันได 6 ขั้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการสนับสนุนของ สพฐ.ในขณะนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เพื่อนครูทั่วประเทศได้ร่วมเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับนักเรียนของตนเอง มูลนิธิสยามกัมมาจล ขอนำเสนอเรื่องราวของครูท่านนี้สู่สาธารณชน
เมื่อครูตุ้มเห็นว่าการอ่านไม่ออกเขียนสะกดคำไม่ได้ เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนต้องแก้ให้เร็วที่สุด ครูจึงออกแบบเครื่องมือใช้ทำกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับปัญหา เพื่อแก้ปัญหานี้
ครูศิริลักษณ์คิดค้นวิธีด้วยการใช้บันได 6 ขั้นสร้างการเรียนรู้ร่วมกับการชักชวนนักเรียนที่มีทักษะด้านภาษาไทยค่อนข้างดี
กระบวนการ บันได 6 ขั้นกระบวนการ บันได 6 ขั้น พัฒนาให้อ่านออกเขียนได้ โดยจุดเด่นของเทคนิคนี้คือ การแบ่งเนื้อหาให้เด็กเริ่มเรียนรู้จากง่ายไปยากและซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้ครูกำหนดเป้าหมายการพัฒนาเด็กไปทีละขั้นโดยไม่ข้ามขั้น ทำให้เห็นผลสำเร็จง่ายและเด็กก็จะเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนขั้นต่อไป โดยสรุปแนวทางได้ 6 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 ฝึกอ่านทุกวัน จากง่ายไปยากผลสัพธ์ >> การฝึกอ่านซ้ำๆ และมีขั้นตอนชัดเจน ทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการอ่านอย่างมีเป้าหมาย และเห็นพัฒนาการของตนเองแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน จึงทำให้นักเรียนเกิดกำลังใจ มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออกมากขึ้น ขั้นที่ 2 การฝึกเขียนตามคำบอก จากสิ่งที่อ่านผลสัพธ์ >> การฝึกด้วยการอ่านควบคู่กับการเขียน ทำให้นักเรียนสามารถจดจำรูปคำและคุ้นเคยกับคำต่างๆ นอกจะจำคำที่เห็นจากการอ่านแล้ว (Input) ยังได้ฝึกถ่ายทอดสิ่งที่คิดได้ (Output) ผ่านการเขียนได้อย่างถูกต้อง ขั้นที่ 3 คัดลายมือผลสัพธ์ >> การคัดลายมือทำให้นักเรียนได้ฝึกสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้นานขึ้น และนอกจากจะทำให้นักเรียนมีลายมือที่สวยงาม สะอาดแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังระเบียบวินัยในการเขียนซึ่งจะส่งผลดีต่อการเรียนและการทำงานในทุกวิชา ขั้นที่ 4 วาดรูปประกอบคำผลสัพธ์ >> การให้นักเรียนวาดรูปสิ่งที่ตนเองรู้จัก เป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ถ่ายทอดความรู้ความคิด (Output) ได้ฝึกสมองด้านขวาผ่านงานศิลปะ ส่วนการเขียนแจกรูปคำ หรือเขียนคำที่มีความหมายสัมพันธ์กับรูป เป็นการฝึกเชื่อมโยงและสื่อสาร ได้ฝึกใช้สมองได้ซ้ายและขวาให้ทำงานสัมพันธ์กัน ทำให้นักเรียนเข้าใจและจดจำได้ง่ายขึ้น ขั้นที่ 5 แต่งประโยค ตามรูปภาพที่วาดหรือเหตุการณ์ผลสัพธ์ >> การนำคำมาแต่งเป็นประโยคสื่อสารรูปหรือเหตุการณ์จริง เป็นการฝึกคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ด้วยตนเอง ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ความหมายและหน้าที่ รวมถึงฝึกการเขียนอย่างถูกต้อง ขั้นที่ 6 เขียนคำตามภาพวาดผลสัพธ์ >> การเขียนอิสระตามความคิดของนักเรียน เป็นการรวบยอดบูรณาการใช้ทักษะต่างๆ ที่ได้ฝึกมาตั้งแต่ขั้นแรกเข้าด้วยกัน ทั้งความรู้ความหมายของคำ การคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ และการเขียน เพื่อให้นักเรียนสามารถสื่อสารด้วยการเขียนได้อย่างถูกต้อง ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ตัวอย่างการใช้เทคนิค บันได 6 ขั้นกระบวนการ 6 ขั้นนี้ เด็กๆ จะต้องผ่านไปทีละขั้นโดยมีนักเรียนอาสาและครูตุ้มคอยช่วยกัน และเมื่อครบ 6 ขั้นแล้ว ก็เริ่มสอนขั้นที่ 1-6 ใหม่ขยับจากยากขึ้นมาทีละน้อยๆ ทำอย่างนี้ทำให้เห็นผลงานที่ออกมามองเห็นเด็กมีความภูมิใจในตัวเองเพราะการอ่านออกเขียนได้ ตัวอย่าง เด็กชายศิรินันท์ แสงห้าว หรือน้องเดียว เป็นนักเรียนพิเศษที่ครูรับเข้ามาดูแลตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เป็นคนเฉื่อยชาการรับรู้ช้า เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมทำให้ผลการอ่านการเขียนเริ่มพัฒนาดีขึ้นเมื่อน้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 น้องเดียวสามารถอ่านหนังสือในบทเรียนได้ การเขียนลายมือสวย สะอาด การเขียนอิสระใช้ภาษาสละสลวยมากขึ้น เรื่องราวไม่วกวนสื่อความหมายได้ชัดเจน ใช้ภาษาถูกต้อง และพี่จิตอาสาคือเด็กหญิงช่อผกา ทินน้อย ที่ดูแลน้องเป็นอย่างดี ส่วนผู้ปกครอง นางจันทร์ ขาลเกตุ ผู้ปกครองเด็กหญิงกฤตยา ขาลเกตุ ได้เห็นพัฒนาการของลูกอย่างชัดเจน ร่วมสะท้อนการสอนของครูว่า ลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาล 1 ที่โรงเรียนบ้านหินลาด ซึ่งปกติน้องฝันจะเป็นคนที่สมองช้า เอาแต่ใจตัวเอง ขี้หงุดหงิด ขี้โมโหง่าย ติดอ่างพูดช้า มีปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
เพื่อนที่โรงเรียนจะไม่ชอบน้องฝันแต่ทางบ้านก็พยายามแก้ไขสอนให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ก็ไม่ดีขึ้นจนมาระยะหลังเห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น หลังน้องฝันไปเรียนพิเศษกับคุณครูตุ้มช่วงพักเที่ยงทุกวัน ทำให้น้องอ่านออกเขียนได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ของน้องฝันได้ ดิฉันดีใจมากที่ลูกมีผลการเรียนที่ดีขึ้น เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความรับผิดชอบมากขึ้น และตอนนี้น้องฝันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สามารถอ่านหนังสือในชั้นเรียนได้แล้ว เขียนหนังสือลายมือสวย สะอาด ต้องขอบคุณคุณครูศิริลักษณ์ ชมพูคำ
ที่เอาใจใส่ดูแลจนน้องฝันดีขึ้น และตอนนี้น้องฝันบอกว่าน้องจะช่วยดูแลนักเรียนพิเศษรุ่นน้องเพื่อช่วยคุณครู จะทำให้น้องอ่านออกเขียนได้เหมือนคุณครูดูแลน้องฝันค่ะ ตัวอย่างแผนการสอนเทคนิคบันได 6 ขั้นขอนำเสนอตัวอย่าง แผนการจัดการเรียนรู้เทคนิคบันได 6 ขั้น เป็นการใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น การอ่านจับใจความ
อ้างอิงจากคู่มือฝึกอบรมพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูง ขอบคุณที่มา: Facebook ไอเดียครูดี บทความที่เกี่ยวข้อง
|