ต้องมองให้รอบทุกด้าน เพราะนอกจากภาพความสำเร็จสวยหรู ไม่ว่าจะเป็นการได้รับผลตอบแทนสูงในรูปของกำไร โอกาสที่จะร่ำรวย การได้เป็นนายของตนเอง หรือการได้รับการยอมรับนับถือในสังคม ยังมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกมาก เช่น เงินลงทุนที่จะใช้ การต้องทำงานหนักขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น ต้องแก้ปัญหาหลาย ๆ อย่าง รวมถึงการมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน หรือเลิกกิจการ และสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ดังนั้น ก่อนตัดสินใจก้าวออกมาเป็นผู้ประกอบการ ก็จะต้องต้องศึกษาข้อมูล เรียนรู้ให้มากที่สุด และวิเคราะห์อย่างรอบคอบ เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้าตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ Show
สำรวจตนเอง: พร้อมที่จะทำธุรกิจหรือไม่ ?
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจมักจะมีลักษณะหลาย ๆ อย่างคล้ายคลึงกัน อันได้แก่ 1. มีความรู้ความเข้าใจ และมีความสามารถในการบริหารธุรกิจ ลองสำรวจตนเองว่าเรามีความรู้ความเข้าใจและมีความสามารถเพียงพอในการบริหารธุรกิจนั้น ๆ หรือไม่ 2. มีจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ คนเรามีบุคลิกลักษณะทั้งภายในและภายนอกที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลให้มีความเหมาะสมในการประกอบอาชีพที่แตกต่างกัน นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีจิตวิญญาณของผู้ประกอบการซึ่งเป็นแรงผลักดันภายในและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ลองสำรวจว่าเรามีสิ่งเหล่านี้หรือไม่ หรือจะสร้างมันให้เป็นสัญชาตญาณของเราได้อย่างไร
เริ่มต้นลงมือ : แผนธุรกิจเป็นอย่างไร ?
01 จากแนวคิด…สู่แผนธุรกิจการทำธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ควรเริ่มต้นจากการทำแผนธุรกิจ ซึ่งทำได้ง่าย ๆ โดยจัดระบบความคิดของตนเอง แล้วถ่ายทอดลงบนกระดาษ อาจใช้ตัวอักษร ตัวเลข หรือรูปภาพ เพื่อให้สื่อสารเข้าใจได้ ซึ่งแผนธุรกิจนี้นอกจากจะช่วยให้ความคิดของเราตกผลึกหรือทำให้ตัวเราเองมองเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าจะดำเนินธุรกิจอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายแล้ว ยังสามารถใช้ในการสื่อสารเพื่อหาผู้ร่วมลงทุน หาพันธมิตรทางธุรกิจ หรือขอกู้เงินจากธนาคารได้อีกด้วย แผนธุรกิจควรประกอบด้วยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในองค์กรธุรกิจ เป้าหมายของธุรกิจ แผนการตลาด แผนการผลิต (หรือแผนการให้บริการ) แผนการเงิน แผนการบริหารจัดการภายใน และแผนฉุกเฉิน 02 การจัดทำแผนธุรกิจเพื่อขอสินเชื่อในกรณีที่เราต้องการขอสินเชื่อธุรกิจจากสถาบันการเงินแผนธุรกิจเป็นเอกสารสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อ การขาดแผนธุรกิจที่ดีเป็นเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจไม่ได้รับสินเชื่อ ซึ่งทั้งองค์กรภาครัฐ เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำแผนธุรกิจทาง website สิ่งพิมพ์ ตลอดจนจัดหลักสูตรอบรม และสัมมนาเชิงปฏิบัติการอยู่เป็นระยะ ผู้สนใจจะทำธุรกิจจึงควรหมั่นศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยเราอาจศึกษาข้อมูลเบื้องต้นได้จากคู่มือการจัดทำแผนธุรกิจเพื่อขอสินเชื่อ จัดทำโดย สสว. เลือกประกอบธุรกิจในรูปแบบใด ?เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะสร้างกิจการของตนเอง เรื่องต่อมาที่ต้องตัดสินใจ คือจะจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมกับกิจการของตนเอง ซึ่งมีทั้งเจ้าของคนเดียวห้างหุ้นส่วน และบริษัทจำกัด โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ มีต้นทุนต่ำ และมีกำไรสูง เราสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจ และการจดทะเบียนธุรกิจประเภทต่าง ๆ ได้โดยตรงจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งการเปรียบเทียบรูปแบบธุรกิจประเภทต่าง ๆ สามารถสรุปได้คร่าว ๆ ตามตารางด้านล่าง ที่มา: สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) ควรบริหารจัดการด้านการเงินอย่างไร ? ข้อแนะนำเบื้องต้นปัญหาที่พบโดยทั่วไปของผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการรายใหม่ คือ การขาดระบบบัญชีและงบการเงินที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการจัดการด้านการเงิน และสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน หรืออาจทำให้ขาดคุณสมบัติที่จะขอความช่วยเหลือหรือการส่งเสริมตามมาตรการของภาครัฐ ซึ่ง ศคง. มีข้อแนะนำดังนี้ ควรแสดงตัวตนให้สถาบันการเงินรู้จัก เช่น การเปิดบัญชีและทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีธนาคาร เพื่อให้เกิดรายการหมุนเวียน ซึ่งแสดงถึงปริมาณการค้าหรือรายได้ของธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บเอกสารหลักฐานทางการค้า เอกสารเกี่ยวกับภาษี และการบันทึกบัญชีรับ-จ่าย ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ในการควบคุมด้านการเงิน และใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจภายในกิจการแล้ว ยังสามารถใช้ยื่นต่อสถาบันการเงินเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่ออีกด้วย อาจใช้ประโยชน์จากความรู้และประสบการณ์ของผู้สอบบัญชี ให้เข้ามาช่วยวางระบบบัญชี และจัดทำงบการเงินที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับงบการเงินองค์ประกอบของงบการเงิน
งบดุล คือ สิ่งที่สะท้อนฐานะทางการเงินของกิจการ ณ วันสิ้นงวดบัญชี งบดุลจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายแสดงรายการสินทรัพย์ และฝั่งขวาแสดงรายการของผู้ที่มีส่วนในสินทรัพย์ ซึ่งมีอยู่ 2 ฝ่าย คือ เจ้าหนี้ (หนี้สิน) และเจ้าของธุรกิจ (ทุน) โดยที่จำนวนเงินทั้ง 2 ฝั่งจะต้องเท่ากันพอดี ตามสมการ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน งบกำไรขาดทุน คือ สิ่งที่สะท้อนความสามารถในการทำกำไร หรือสะท้อนผลประกอบการในรอบระยะเวลา (งวดบัญชี) หนึ่ง โดยแสดงให้เห็นตัวเลขรายได้ ต้นทุนสินค้าขาย กำไรขั้นต้น ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และกำไรสุทธิของกิจการ งบกระแสเงินสด คือ สิ่งที่แสดงความเคลื่อนไหวหรือการไหลเวียนของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด โดยแบ่งออกตามกิจกรรม ได้แก่ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน กระแสเงินสดจากการลงทุน และกระเงินสดจากการจัดหาเงินทุน
|