เมแทบอลิซึม คือ ปฏิกิริยาเคมีทั้งหมดที่เกิดในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต แบ่งเป็น 2 ประเภท - คะตะบอลิซึม (catabolism) เป็นปฏิกิริยาสลายสารชีวโมเลกุล เป็นสารโมเลกุลเล็ก (เช่น กรดแลกติก, กรดแอซีติก, คาร์บอนไดออกไซด์, แอมโมเนีย, ยูเรีย) เป็นผลให้มีการปล่อยพลังงานเคมีที่สะสมในสารโมเลกุลใหญ่ออกมาและถูกนำ ไปใช้สังเคราะห์สารพลังงานสูง (ATP) ซึ่งเป็นพลังงานเคมีรูปที่เซลล์นำ ไปใช้ได้ - อะนาบอลิซึม (anabolism) เป็นปฏิกิริยาสังเคราะห์สารชีวโมเลกุลขึ้นมาจากสารตั้งต้นหรือหน่วยย่อยของสารเหล่านี้ อะนาบอลิซึมต้องใช้พลังงาน ATP ที่ได้จากคะตะบอลิซึม เมแทบอลิซึมของสารใดสารหนึ่ง จะมีทั้งคะตะบอลิซึมและอะนาบอลิซึมเกิดขึ้นในเซลล์ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ปฏิกิริยาย้อนกลับ และมีการควบคุมแยกจากกัน เพราะการสลายสารและการสังเคราะห์สารชีวโมเลกุล ไม่ใช่ปฏิกิริยาเดี่ยวแต่ประกอบด้วยปฏิกิริยาย่อยๆ ที่เปลี่ยนแปลงสารไปทีละขั้น สารที่เกิดขึ้นระหว่างเปลี่ยนแปลงเป็นสารผลิตภัณฑ์ เรียกว่า สารอินเทอร์มีเดียทหรือสารเมทาบอไลต์ (intermediate หรือ metabolite) ทุกปฏิกิริยาในเมแทบอลิซึมเกิดขึ้นได้ต้องมีปัจจัยต่างๆ เหมาะสม และต้องมีเอนไซม์เฉพาะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา กระบวนการทางเคมีของเมตาบอลิซึมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ กระบวนการสลาย และกระบวนการสร้าง โดยร่างกายจะจัดระบบการทำงานของกระบวนการทั้ง 2 ส่วนนี้ให้เกิดความสมดุลในด้านต่าง ๆ แก่ร่างกาย กระบวนการทางเคมีทั้ง 2 ส่วนมีรายละเอียดการทำงาน ดังนี้
นอกจากนี้ ร่างกายจะมีอัตราการเผาผลาญ (Metabolic Rate) หรือพลังงานที่ใช้ไปมากน้อยเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 อย่าง ได้แก่ อัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกาย พลังงานที่ใช้ระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ และพลังงานที่ใช้ย่อยอาหาร ซึ่งปัจจัยแต่ละอย่างมีความสำคัญที่แตกต่างกัน ดังนี้
ปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อเมตาบอลิซึม เมตาบอลิซึมคือกระบวนการที่ช่วยควบคุมการทำงานของส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้ตามปกติ หากเกิดปัญหาสุขภาพบางอย่างขึ้นมา อาจส่งผลต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมได้ โดยปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อเมตาบอลิซึมแบ่งออกเป็น 2 อย่าง ได้แก่ ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับฮอร์โมน และโรคทางพันธุกรรม ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
เมตาบอลิซึมสำคัญอย่างไร ? ผู้คนมักเข้าใจว่าการมีน้ำหนักตัวมากขึ้นเป็นผลจากกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ทำงานช้าลง แท้จริงแล้ว การทำงานของเมตาบอลิซึมที่ช้าลงนั้นเป็นสาเหตุของภาวะน้ำหนักเกินที่พบได้ไม่บ่อย ทั้งนี้ พลังงานที่ได้จากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันคือปัจจัยที่ส่งผลต่อน้ำหนักตัวโดยตรง โดยกระบวนการเมตาบอลิซึมมีความสำคัญต่อร่างกายอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ เปลี่ยนอาหารและเครื่องดื่มให้เป็นพลังงาน และส่งผลต่อน้ำหนักตัว ดังรายละเอียดต่อไปนี้
เร่งอัตราการเผาผลาญของเมตาบอลิซึมได้อย่างไร ? วิธีเร่งอัตราการเผาผลาญของกระบวนการเมตาบอลิซึมยังไม่ปรากฏชัดเจน เนื่องจากการเร่งอัตราเผาผลาญของร่างกายนั้นทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม การควบคุมจำนวนแคลอรี่ที่ใช้เผาผลาญในการทำกิจกรรมต่าง ๆ สามารถทำได้ด้วยการออกแรงหรือเคลื่อนไหวร่างกาย หากเคลื่อนไหวร่างกายมาก ก็จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากตามไปด้วย วิธีที่ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานได้มากนั้น มีดังนี้
|