ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ


Router, Access Point และ Extender ต่างกันอย่างไร

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป หลายคนอาจยังสับสนกับอุปกรณ์ 3 ประเภทนี้ ซึ่งใครที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตคงต้องเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง เพราะในปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านี้เข้าถึงผู้ใช้งานทั่วไปตามบ้านเรือน จึงไม่แปลกเลยที่เราจะหาซื้อได้ง่ายและพบเห็นตามร้านไอทีทั่วไป ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักอุปกรณ์พวกนี้กันสักหน่อย ว่าทั้ง 3 ตัวนี้ ต่างกันอย่างไร และเราจะเลือกซื้ออะไรไปตอบโจทย์การใช้งานที่บ้าน

Router นั้นเปรียบเสมือนประตูสู่โลกภายนอก เพราะการที่เราจะต่อ Internet จากอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านหรือองค์กรของเรา (วง LAN ภายใน) ออกไปยังระบบ Network ของฝั่งผู้ให้บริการ ก็ต้องเชื่อมต่อผ่านตัว Router นั่นเอง อีกทั้งยังทำการหาเส้นทางในการส่งผ่านข้อมูลที่ดีที่สุด และเป็นตัวกลางในการส่งต่อข้อมูลไปยังเครือข่ายอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วตัว Router ก็จะแบ่งพอร์ทที่มีมาให้เป็นสองชุดใหญ่ๆ ก็คือพอร์ท WAN และพอร์ท LAN โดยพอร์ท WAN จะใช้รับสัญญาณจากผู้ให้บริการ ส่วนพอร์ท LAN ที่เหลือก็ไว้ใช้ต่อกับอุปกรณ์ภายในของเรา รวมถึงสามารถปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ได้ รวมถึง Router เองยังสามารถทำงานเป็น Access Point ได้อีกด้วย

Access Point (AP) คืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการกระจายสัญญาณ Wi-Fi เป็นหลัก ซึ่งนิยมนำไปวางกระจายตามจุดต่างๆ ให้รัศมีของสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุม เพื่อให้อุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi เชื่อมต่อเข้ามาอยู่ใน วง LAN เดียวกัน ดังนั้นมักเห็นได้ว่า AP ส่วนใหญ่มีพอร์ทสาย LAN ให้แค่ 1 พอร์ท เพื่อที่จะเชื่อมต่อเข้ากับ Network Switch หรืออาจเชื่อมเข้ากับ Router เลยก็ได้เพื่อออกสู่ Internet ของผู้ให้บริการ แต่ AP บางยี่ห้อ เช่นของ LINK นั้น ก็มีพอร์ทมาให้ถึง 2 พอร์ท โดยเป็นความเร็ว 10/100/1000 Mbps และ 10/100 Mbps ไว้เป็น Option เพิ่มให้ลูกค้าเผื่อใช้งาน รวมถึงยังรองรับ PoE อีกด้วย

Extender เป็นอุปกรณ์ทวนสัญญาณ Wi-Fi เพื่อเพิ่มรัศมีสัญญาณให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยนิยมนำไปวางในจุดที่รับสัญญาณ Wi-Fi ได้ค่อนข้างอ่อน เมื่อเรานำ Extender ไปติดตั้งไว้ ตัวมันเองจะรับสัญญาณ Wi-Fi จาก Router หรือ Access Pointจากนั้นทำการทวนสัญญาณและปล่อยสัญญาณ Wi-Fi จากตัวมันเอง โดยผู้ใช้งานก็จะจับสัญญาณ Wi-Fi ที่เป็นชื่อของ Extender แทน หรือพูดง่ายๆ เราใช้งานใกล้อุปกรณ์ตัวไหนก็จับ Wi-Fi ตัวนั้น เหมือนเราไปเพิ่มจุดปล่อย Wi-Fi นั่นเอง แต่ก็จะมีข้อเสียตรงที่ความเร็วก็จะดรอปลงไปบ้าง เนื่องจากตัว Extender เป็นการรับสัญญาณจาก Router หรือ Access Point มาขยายรัศมีการส่ง จึงทำให้เกิดการลดทอนความเร็วลงไป

4.4 อุปกรณ์ที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์

  1. โมเด็ม (Modem)

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://www.buycoms.com/buyers-guide/modem/index.asp
        


       โมเด็มเป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณแอนะล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิตัล เมื่อข้อมูลถูกส่งมายังผู้รับละแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นแอนะล็อก เมื่อต้องการส่งข้อมูลไปบนช่องสื่อสาร  กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณดิจิตัลให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก เรียกว่า มอดูเลชัน (Modulation) โมเด็มทำหน้าที่ มอดูเลเตอร์ (Modulator) กระบวนการที่โมเด็มแปลงสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อก ให้เป็นสัญญาณดิจิตัล เรียกว่า ดีมอดูเลชัน (Demodulation) โมเด็มหน้าที่ ดีมอดูเลเตอร์ (Demodulator)โมเด็มที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมี 2 ประเภทโมเด็กในปัจจุบันทำงานเป็นทั้งโมเด็มและ เครื่องโทรสาร เราเรียกว่า Faxmodem

     2.การ์ดเครือข่าย (Network  Adapter) หรือ การ์ด LAN

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://www.itdestination.com/articles/lancard1000base/


        เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่สื่อสารระหว่างเครื่องต่างกันได้ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นหรือยี่ห้อเดียวกันแต่หากซื้อพร้อมๆกันก็แนะนำให้ซื้อรุ่นและยีห้อเดียวกันจะดีกว่า
และควรเป็น การ์ดแบบ PCI เพราะสามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆมักจะไม่มี Slot ISA ควรเป็นการ์ดที่มีความเร็วเป็น 100 Mbpsซึ่งจะมีราคามากกว่าการ์ดแบบ 10 Mbps ไม่มากนัก แต่ส่งขอมูลได้เร็วกว่า นอกจากนี้คุณควรคำหนึงถึงขั้วต่อหรือคอนเน็กเตอร์ของการ์ดด้วยโดยทั่วไปคอนเน็กเตอร์ ของการ์ด LAN จะมีหลายแบบ เช่น BNC , RJ-45 เป็นต้น ซึ่งคอนเน็กเตอร์แต่ละแบบก็จะใช้สายที่แตกต่างกัน

      3. เกตเวย์ (Gateway)

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://www3.ipst.ac.th/research/assets/web/mahidol/computer(10)/network/net_wan9.htm


         เกตเวย์ เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยในการสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์หน้าที่หลักคือช่วยให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์  2 เครือข่ายหรือมากกว่า ซึ่งมีลักษณะไม่เหมือนกันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เหมือนเป็นเครือข่ายเดียวกัน

     4. เราเตอร์ (Router)

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=417552

          เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงให้เครือข่ายที่มีขนาดหรือมาตรฐานในการส่งข้อมูลต่างกัน สามารถติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ เราเตอร์จะทำงานอยู่ชั้น Network หน้าที่ของเราเตอร์ก็คือ ปรับโปรโตคอล (Protocol) (โปรโตคอลเป็นมาตรฐานในการสื่อสารข้อมูลบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์) ที่ต่างกันให้สามารถสื่อสารกันได้

     5. บริดจ์ (Bridge)

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ


          บริดจ์มีลักษณะคล้ายเครื่องขยายสัญญาณ บริดจ์จะทำงานอยู่ในชั้น Data Link บริดจ์ทำงานคล้ายเครื่องตรวจตำแหน่งของข้อมูล โดยบริดจ์จะรับข้อมูล จากต้นทางและส่งให้กับปลายทาง โดยที่บริดจ์จะไม่มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงใดๆแก่ข้อมูลบริดจ์ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายมีประสิทธิภาพลดการชนกัน ของข้อมูลลง บริดจ์จึงเป็นสะพานสำหรับข้อมูลสองเครือข่าย

   

 6. รีพีตเตอร์ (Repeater)

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ


      รีพีตเตอร์ เป็นเครื่องทบทวนสัญญาณข้อมูลในการส่งสัญญาณข้อมูลในระยะทางไกลๆสำหรับสัญญาณแอนะล็อกจะต้องมีการขยายสัญญาณข้อมูลที่เริ่มเบาบางลงเนื่องจากระยะทาง และสำหรับสัญญาณดิจิตัลก็จะต้องมีการทบทวนสัญญาณเพื่อป้องกันการขาดหายของสัญญาณเนื่องจากการส่งระยะทางไกลๆเช่นกัน รีพีตเตอร์จะทำงานอยู่ในชั้น Physical

    7.สายสัญญาณ

          เป็นสายสำหรับเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆในระบบเข้าด้วยกัน หากเป็นระบบที่มีจำนวนเครื่องมากกว่า 2 เครื่องก็จะต้องต่อผ่านฮับอีกทีหนึ่ง โดยสายสัญญาณสำหรับเชื่อมต่อเครื่องในระบบเครือข่าย จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ

สาย Coax  
  

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
    
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://en.wikipedia.org/wiki/Coaxial_cable
สาย Coax  มีลักษณะเป็นสายกลม  คล้ายสายโทรทัศน์  ส่วนมากจะเป็นสีดำสายชนิดนี้จะใช้กับการ์ด LAN ที่ใช้คอนเน็กเตอร์แบบ BNC สามารถส่งสัญญาณได้ไกลประมาณ 200 เมตร  สายประเภทนี้จะต้องใช้ตัว T Connector สำหรับเชื่อมต่อสายสัญญาณกับการ์ด LAN ต่างๆในระบบ และต้องใช้ตัว Terminator ขนาด 50 โอห์ม  สำหรับปิดหัวและท้ายของสาย

สาย UTP (Unshied  Twisted  Pair)  
เป็นสายสำหรับการ์ด  LAN ที่ใช้คอนเน็กเตอร์แบบ RJ-45  สามารถส่งสัญญาณได้ไกล
ประมาณ 100 เมตร หากคุณใข้สายแบบนี้จะต้องเลือกประเภทของสายอีก โดยทั่วไปนิยมใช้กัน 2 รุ่น  คือ  CAT 3 กับ CAT5 ซึ่งแบบ CAT3 จะมีความเร็วในการส่งสัญญาณ10 Mbps และแบบ CAT 5 จะมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่ 100 Mbps แนะนำว่าควรเลือกแบบ CAT 5 เพื่อการอัพเกรดในภายหลังจะได้ไม่ต้องเดินสายใหม่  ในการใช้งานสายนี้  สาย 1 เส้นจะต้องใช้ตัว RJ - 45 Connector จำนวน 2 ตัว  เพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างสายสัญญาณจากการ์ด LAN ไปยังฮับหรือเครื่องอื่น เช่นเดียวกับสายโทรศัพท์ ในกรณีเป็นการเชื่อมต่อเครื่อง 2 เครื่องสามารถใช้ต่อผ่านสายเพียงเส้นเดียได้แต่ถ้ามากกว่า 2 เครื่อง ก็จำเป็นต้องต่อผ่านฮับ

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
       
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://www.digitalfocus.co.th/network.php
          

     8. ฮับ (HUB) 

ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ
ข้อใดคืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ทวนสัญญาณ

ที่มารูปภาพ: http://it.stoulaws.com/2008/12/hub/

          เป็นอุปกรณ์ช่วยกระจ่ายสัญญาณไปยังเครื่องต่างๆที่อยู่ในระบบ หากเป็นระบบเครือข่ายที่มี 2 เครื่องก็ไม่จำเป็นต้องใช้ฮับสามารถใช้สายสัญญาณเชื่อมต่อ ถึงกันได้โดยตรง  แต่หากเป็นระบบที่มีมากกว่า 2 เครื่องจำเป็นต้องมีฮับเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ในการเลือกซื้อฮับควรเลือกฮับที่มีความเร็วเท่ากับความเร็ว ของการ์ด เช่น  การ์ดมีความเร็ว  100 Mbps ก็ควรเลือกใช้ฮับที่มีความเร็วเป็น 100 Mbps ด้วย ควรเป็นฮับที่มีจำนวนพอร์ตสำหรับต่อสายที่เพียงพอกับ เครื่องใช้ในระบบ  หากจำนวนพอร์ตต่อสายไม่เพียงพอก็สามารถต่อพ่วงได้  แนะนำว่าควรเลือกซื้อฮับที่สามารถต่อพ่วงได้  เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต