ร้าน kfc ใน เครือ qsr มีที่ไหนบ้าง

KFC ในไทย หลายสาขา หลายเจ้าของ แต่แบรนด์เดียว (วิเคราะห์)

ว่ากันด้วยเรื่องของ KFC นี่คือแบรนด์สัญชาติอเมริกันที่อยู่ภายใต้บริษัท Yum! Brands, Inc

และไม่ใช่แค่ KFC แต่เท่านั้นแต่ Yum! Brands, Inc ยังเป็นเจ้าของอีกสองแบรนด์ชื่อดังอย่าง Pizza Hut และ Taco Bell ด้วยเช่นกัน

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม KFC ในไทย ถึงได้อยู่ในมือของหลายบริษัทเหลือเกิน

ถ้าอย่างนั้นคงต้องเล่าย้อนกลับไปในอดีต

หลัง CRG หรือ Central Restaurants Group บริษัทอาหารในเครือเซ็นทรัลประสบความสำเร็จจากการนำแบรนด์ Mister Donut เข้ามาในไทย

CRG ก็เลยอยากจะนำแบรนด์อาหารอื่น ๆ ของต่างประเทศเข้ามาขยายธุรกิจเพิ่มเติม และในปี 2527 ก็กลายมาเป็น KFC สาขาแรกที่เซ็นทรัลลาดพร้าว

เมื่อเห็นว่ามีแนวโน้มในการเติบโต บริษัทแม่ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ KFC จึงได้ลงมาทำตลาดสาขาของตัวเองบ้าง (ณ ตอนนั้นยังไม่ได้ใช้ชื่อบริษัทว่า Yum! Brands, Inc)

กระทั่งปี 2016 Yum! Brands, Inc ได้ปรับกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ เน้นหารายได้จากการขายลิขสิทธิ์แฟรนไชส์มากกว่าการลงไปขายไก่เองเหมือนเดิม

และในปีเดียวกันนั้นเอง ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Yum! Brands, Inc ก็ได้ปรับกลยุทธ์ตามบริษัทแม่ และได้ตัดสินใจให้ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด หรือ RD กลายมาเป็นพาร์ตเนอร์รายใหม่

ซึ่งก็หมายความว่าสาขาของ KFC นั้นอยู่ในมือของ 2 รายด้วยกัน
คือ RD และ CRG

จากนั้นในปี 2017 บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย หรือ QSA ที่อยู่ในเครือของไทยเบฟฯ ก็ได้เข้ามาเป็นแฟรนไชซีจนถึงปัจจุบัน

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดความสงสัย ว่าในเมื่อ KFC มีแฟรนไชซีมากถึง 3 ราย แล้วแต่ละรายแบ่งงบในการทำการตลาด จัดโปรโมชั่นอย่างไร

คำตอบก็คือทาง Yum ประเทศไทย จะเป็นคนทำการตลาดและโปรโมชั่นประมาณ 99% เพื่อความเป็นมาตรฐานของแบรนด์

ส่วนอีก 1% ที่เหลือจะแบ่งให้แฟรนไชซีแต่ละเจ้าไปทำการตลาดกันเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าบางทำเลบางสาขา พฤติกรรมของผู้บริโภคก็ไม่เหมือนกัน

และควรจะต้องทำการตลาดที่มีความใกล้ชิดกับคนในพื้นที่ เพื่อทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคในบริเวณนั้น ๆ ได้มากขึ้น

 FYI KFC ในไทย

– เมื่อวานนี้ KFC ฝั่ง CRG ได้เปิดตัวบริการแบบไร้เงินสด-ไร้สัมผัส-และ Self Pick-up เพื่อประหยัดเวลาให้ลูกค้าไม่ต้องมารอคิวในร้านเหมือนเดิมอีกต่อไป

– ส่วน KFC จากทางฝั่ง RD ก็ได้ออกมาบอกว่าภายในปีนี้ จะเพิ่มการลงทุนอีก 2 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มจำนวนสาขาใหม่ รวมถึงนำงบมาปรับปรุงร้านเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัยมากขึ้น

โดยใน 3 ปีที่ผ่านมา RD เปิดร้านใหม่รวม 85 ร้าน และจะเปิดเพิ่มอีก 15 ร้านภายในต้นปีหน้า

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

Restaurants Development ผู้บริหารร้าน KFC ในประเทศไทย เตรียมขายร้าน KFC กว่า 236 สาขาที่บริษัทได้สิทธิ์บริหารให้กับผู้ที่สนใจซื้อกิจการต่อ โดยคาดว่ามูลค่าอาจสูงถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 11,000 ล้านบาท

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับดีลนี้ว่า Restaurants Development (RD) ได้ติดต่อกับที่ปรึกษาการเงินเพื่อที่จะหาความเป็นไปได้ในการขายกิจการนี้ โดยก่อนหน้านี้ในปี 2020 ทาง RD เองเคยมีแผนที่จะขายร้าน KFC ทั้งหมดมาแล้ว แต่ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องพับแผนดังกล่าวไป

คาดว่าผู้ที่สนใจซื้อร้าน KFC ไปบริหารต่อนั้นน่าจะเป็น Central Restaurants Group (CRG) หรือไม่ก็ QSR of Asia ซึ่งเป็นธุรกิจลูกของเครือไทยเบฟ ซึ่งทั้ง 2 รายนี้เป็นบริษัทได้สิทธิ์บริหารร้าน KFC ในไทยเช่นกัน

สำหรับ RD นั้นก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยมีพนักงานกว่า 5,000 คน มีร้าน KFC มากถึง 236 สาขา ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าในปี 2020 ที่มีสาขาราวๆ 200 สาขาเท่านั้น นอกจากนี้บริษัทยังรายงานว่าในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทได้ทำยอดขายสูงสุดเท่าที่เคยทำมาอีกด้วย

ในบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) นั้นมองว่าราคาซื้อขายเฉลี่ยต่อสาขาของ RD จะอยู่ที่ 46 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับตอน QSR of Asia ซื้อสาขาของ KFC ในปี 2017 ที่เฉลี่ยอยู่ราวๆ 47 ล้านบาทต่อสาขา

จำนวนสาขา KFC ในปัจจุบันคือ CRG 304 สาขา ขณะที่ QSR of Asia มีจำนวน 350 สาขา ซึ่งถ้าหาก 1 ใน 2 รายนี้ได้สาขาทั้งหมดของ KFC ไปจะทำให้กลายเป็นผู้ถือสิทธิ์บริหารร้าน KFC รายใหญ่ของไทยทันที

Note: อัพเดตข้อมูลเมื่อ 13:51 เพิ่มจำนวนสาขาของ KFC ในไทยที่แต่ละเจ้าถือสิทธิ์ และเพิ่มมุมมองจากบทวิเคราะห์