เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงมีความฝันอยากจะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเที่ยว เรียน หรือทำงาน ออกไปหาประสบการณ์ใช้ชีวิตในต่างแดนดูบ้างว่าจะเป็นอย่างไร วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีอีกหนึ่งโครงการดี ๆ มาแนะนำ นั่นก็คือ Work and Holiday ของประเทศออสเตรเลีย หรือ ที่เรียกกันว่า WAH ซึ่งเป็นวีซ่าที่ให้เราได้ทั้งเรียน เที่ยว และทำงาน ได้อย่างถูกต้อง ภายในระยะเวลา 1 ปี ใครอยากรู้ว่าจะมีกฎเกณฑ์ ขั้นตอน กำหนดการสมัคร ปี 2565 และเอกสารที่ต้องใช้ยังไงบ้าง พี่เห็ดรวบรวมมาให้ที่นี่แล้วจ้าาา Show
วีซ่า Work and Holiday ประเทศออสเตรเลีย คืออะไร?ก่อนอื่นอยากให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของ วีซ่า Work and Holiday ออสเตรเลียกันค่ะ โครงการนี้ถูกจัดตั้งขึ้น โดยความร่วมมือของรัฐบาลไทย และรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทย ที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี สามารถเดินทางไปศึกษา ท่องเที่ยว พร้อมทำงานในประเทศออสเตรเลีย ได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งข้อตกลงนี้ มีขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2005 ซึ่งโดยปกติจะมีโควตาประเภทนี้อยู่ที่ 500 คนต่อปีงบประมาณ แต่เมื่อปี 2020 ก็ให้โควตาที่ ปีละ 2,000 คน เลยทีเดียว **ส่วนในปี 2022 นี้มีโควตาอยู่ที่ 1,000 คน Tips : ผู้สมัคร วีซ่าออสเตรเลีย ประเภทนี้ สามารถทำงานกับนายจ้างแต่ละแห่งได้นานสุดไม่เกิน 6 เดือน ถ้าทำงานถึง 6 เดือนแล้วจะต้องเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานว่า มีเงินเพียงพอในกรณีไม่มีงานทำ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียได้โดยไม่ลำบากอะไร คุณสมบัติของผู้สมัคร1. มีสัญชาติไทย ข้อควรทราบเพิ่มเติมจากทาง ดย.– ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัคร และ / หรือจัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ และอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้ เอกสารที่ต้องใช้ยื่นประกอบ วีซ่า Work and Holidayเอกสารส่วนตัว– พาสปอร์ตตัวจริง (รวมถึงพาสปอร์ตเล่มเก่าๆ ถ้ามี รวมถึงประวัติการเดินทาง) อายุพาสปอร์ตต้องเหลือมากกว่า 6 เดือน (สแกนหน้าแรกและหน้าที่มีตราประทับเดินทางทุกหน้า) Tips : ในการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย ควรแนบ หลักฐานการทำงาน ไปด้วย เพราะจะแสดงให้เห็นถึงประวัติของเราว่าทำงานอะไรมาบ้างค่ะ ในกรณี Sponsor ตัวเอง– หลักฐานการเงิน ในการยื่นเอกสารกับทางสถานฑูตออสเตรเลีย (เอกสารที่แนะนำให้แนบไปด้วยเลยคือ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD) ในกรณี Sponsor โดยบุคคลอื่น– จดหมายรับรองค่าใช้จ่าย (เขียนเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเซ็นรับรอง) Tips : ทางสถานทูต จะขอดู ที่มาของเงิน ในช่วง 6 เดือนก่อนยื่นวีซ่า หากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาทีเดียว เราต้องสามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินนั้นให้ได้ พร้อมแนบหลักฐานด้วย เช่น จดหมายจากบุคคลที่โอนเงินเข้ามาให้เราว่าโอนให้เพราะอะไร อย่างไร แสดงที่มาของเงินเข้า-ออก และมีความสัมพันธ์อะไรกับเรา เป็นต้น Credit : unsplash.comกำหนดการรับสมัคร Work and Holiday ออสเตรเลีย 2022กำหนดการลงทะเบียนและสมัครขอใบรับรองออนไลน์ – รอบแรก22 – 30 กรกฎาคม 2565 : ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับ Username และ Password สำหรับใช้ Log in เข้าระบบในวันกดโควต้า ทางเว็บไซต์ http://www.dcy.go.th/ เปิดระบบ 22 มิ.ย. 65 เวลา 09.00 น., ปิดระบบ 30 มิ.ย. 65 เวลา 16.00 น. 12 กรกฎาคม 2565 : ทดสอบระบบสมัครออนไลน์ เวลา 09.00 – 15.00 น. หรือปิดระบบเมื่อครบจำนวน (ไม่บังคับ) 26 กรกฎาคม 2565 : กดโควตาจริง เวลา 09.00 – 15.00 น. หรือปิดระบบเมื่อครบจำนวน โควตา 1,000 คน สำรอง 300 คน และประกาศรายชื่อในวันเดียวกัน 27 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2565 : ผู้ได้รับโควตา 1,000 คน และสำรอง 300 คน ส่งเอกสารทางไปรษณีย์แบบ EMS และ E-mail นับวันที่ประทับตราส่งเอกสาร ภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2565 และแจ้งหมายเลขพัสดุผ่านฟอร์มออนไลน์ 15 – 31 สิงหาคม 2565 : ตรวจเอกสารพิจารณาคุณสมบัติ กันยายน 2565 : ประกาศผลการพิจารณาผ่านทางระบบออนไลน์, ออกหนังสือรับรอง (มีอายุการใช้งาน 90 วัน), ผู้ผ่านคุณสมบัติ มารับหนังสือรับรองด้วยตนเอง กำหนด 3 วันทำการ ณ ชั้น 1 อาคารกระทรวง พม. กำหนดการลงทะเบียนและสมัครขอใบรับรองออนไลน์ – รอบ 226 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2565 : ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับ Username และ Password สำหรับใช้ Log in เข้าระบบในวันกดโควต้า ทางเว็บไซต์ http://www.dcy.go.th/ เปิดระบบ 26 ต.ค. 65 เวลา 09.00 น., ปิดระบบ 4 พ.ย. 65 เวลา 16.00 น. / จำกัดจำนวนวันละ 200 คน ทั้งหมด 2,000 คน 7 พฤศจิกายน 2565 : ทดสอบระบบสมัครออนไลน์ เวลา 09.00 – 15.00 น. หรือปิดระบบเมื่อครบจำนวน (ไม่บังคับ) 9 พฤศจิกายน 2565 : กดโควตาจริง เวลา 09.00 – 15.00 น. หรือปิดระบบเมื่อครบจำนวน โควตา 1,600 คน 10 พฤศจิกายน 2565 : ประกาศรายชื่อผู้ได้รับโควตา 11 – 21 พฤศจิกายน 2565 : ผู้ได้รับโควตา 1,600 คน ส่งเอกสารทางอีเมล [email protected] และ Google Form : https://forms.gle/GHFDxTrPzhjuhnoy5 ภายในวัน ที่ 21 พ.ย. 2565 ไม่เกิน 16.00 น. 22 พฤศจิกายน – 22 ธันวาคม 2565 : ตรวจเอกสารพิจารณาคุณสมบัติ ธันวาคม 2565 – มกราคม 2566 : ประกาศผลการพิจารณาผ่านทางระบบออนไลน์, ออกหนังสือรับรอง (มีอายุการใช้งาน 90 วัน), ผู้ผ่านคุณสมบัติ มารับหนังสือรับรองด้วยตนเอง กำหนด 3 วันทำการ ณ ชั้น 1 อาคารกระทรวง พม. ที่มา : กรมกิจการเด็กเเละเยาวชน รายละเอียดและขั้นตอนในการยื่นขอวีซ่า Work and Holidayก่อนสมัครขอใบรับรองได้จะต้องลงทะเบียนรับ Username และ Password ก่อน โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อกรอกในขั้นตอนลงทะเบียน ดังนี้
**ต้องเช็กข้อมูลให้ถูกต้องก่อนคอนเฟิร์มทุกครั้ง** ข้อมูลประกอบการสมัครผ่านระบบออนไลน์ (กดโควต้า)– หลังจากได้รับ Username และ Password แล้วต้องนำมาล็อคอินสำหรับสมัครขอใบรับรองในเว็บไซต์ www.dcy.go.th ตามวันและเวลาที่ระบุไว้
* หลักฐานและข้อมูลที่ต้องเตรียมในการขอใบรับรองคุณสมบัติจาก ดย. จะคล้าย ๆ กับเอกสารที่เราต้องไปยื่นตอนขอวีซ่านะคะ สำหรับ วีซ่า Work and Holiday ประเทศออสเตรเลีย สามารถขอได้เลยหลังจากที่ได้รับใบรับรอง เพราะทางสถานทูตออสเตรเลียเริ่มนับโควต้าใหม่ทุกวันที่ 1 ก.ค. ของทุกปี แต่ใบรับรองของดย. จะหมดอายุภายใน 3 เดือนหลังจากได้รับมา จึงควรต้องรีบขอวีซ่า (ค่าวีซ่าประมาณ 495 AUD) โดยเราสามารถไปกรอก วีซ่าออสเตรเลีย ออนไลน์ได้ที่ https://immi.homeaffairs.gov.au/ เมื่อกรอกพร้อมชำระค่าวีซ่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องไปเก็บลายนิ้วมือที่ VFS (ค่าบริการของ VFS ประมาณ 734 บาท) จากนั้นก็รอผลวีซ่าได้เลย และต้องขอย้ำว่า **การได้รับใบรับรองไม่ได้แปลว่าได้วีซ่านะคะ** Credit : pixabay.comค่าใช้จ่าย ในการทำวีซ่า Work and Holidayค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเข้าร่วมโครงการ Work and holiday พี่เห็ดจะแยกออกเป็น 2 ส่วนนะคะ ค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัว :– ค่าวีซ่าโดยประมาณ 12,000 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรเช็ก ณ วันที่ยื่นวีซ่า Work and Holiday อีกครั้ง) ค่าใช้จ่ายส่วนตัว :– ค่าตั๋วเครื่องบิน 12,000-35,000 บาท (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาบิน และสายการบินนั้นๆ) เห็นแบบนี้แล้วมีเพื่อน ๆ คนไหนสนใจเดินทางไปหาประสบการณ์ดี ๆ กับ โครงการ Work and Holiday นี้บ้างไหมคะ พี่เห็ดชักอยากไปบ้างแล้วสิ อย่างไรก็ตาม ในการยื่นเอกสารเกี่ยวกับวีซ่า ไม่ว่าจะเป็น วีซ่าออสเตรเลีย หรือวีซ่าประเทศอื่น ๆ ควรศึกษาและอัปเดตข้อมูลก่อนการยื่นทุกครั้ง เพื่อจะได้เตรียมให้ครบและถูกต้อง ตามกระบวนการที่แต่ละสถานทูตได้กำหนดมา และนี่ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ที่พี่เห็ดนำมาฝากทุกคน เกี่ยวกับวีซ่าที่สามารถให้ได้ทั้งการท่องเที่ยว และทำงานในต่างประเทศ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ สำหรับใครที่อยากไปทำงานในต่างประเทศในระยะสั้น เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ถ้าใครสนใจก็รอติดตามการอัปเดตในปีต่อ ๆ ไป พร้อมเมื่อไหร่ก็สมัครกันได้เลย Work and Holiday เปิดรับช่วงไหนวิธีสมัครเข้าโครงการ Work and Holiday 2022
ลงทะเบียนออนไลน์เพื่อรับ Username และ Password ผ่านเว็บไซต์ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) www.dcy.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 22-30 มิถุนายน 2565. เลือกสมัครได้ประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้นตั้งแต่วันลงทะเบียน และไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
Work and Holiday Australia กี่เดือนTips : ผู้สมัคร วีซ่าออสเตรเลีย ประเภทนี้ สามารถทำงานกับนายจ้างแต่ละแห่งได้นานสุดไม่เกิน 6 เดือน ถ้าทำงานถึง 6 เดือนแล้วจะต้องเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานว่า มีเงินเพียงพอในกรณีไม่มีงานทำ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียได้โดยไม่ลำบากอะไร
รอวีซ่าออสกี่วัน 2022วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียจะใช้ระยะเวลารอผลประมาณ 15 วันทำการ และหลังจากวันที่ยื่นใบสมัครไปแล้วนั้น ทั้งนี้ ระยะเวลาอาจจะเร็วหรือช้า จะขึ้นอยู่กับปริมาณของใบสมัครวีซ่าในช่วงเวลานั้น ซึ่งเราแนะนำผู้ขอวีซ่าไม่ควรจะทำการจองตั๋วเครื่องบินแบบ Non-Refund เพราะวีซ่าอาจจะออกมาไม่ทันกำหนดระยะเวลาที่จะเริ่มเดินทางได้
Work and Holiday ต้องมีอะไรบ้างหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ฉบับจริง พร้อมสำเนา อย่างละ 1 ชุด ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา อย่างละ 1 ชุด พาสปอร์ตที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา อย่างละ 1 ชุด บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา อย่างละ 1 ชุด
|