กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น

Show

กินยาคุมฉุกเฉินมีโอกาสท้องกี่เปอร์เซ็นต์ ?

กระทู้คำถาม

ตั้งครรภ์ ความรักวัยรุ่น ปัญหาความรัก

กินยาคุมฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 30 นาที มีโอกาส ตั้งครรถ์กี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ ??

แท็กผิดห้องขออภัยน่ะค่ะ

กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น
กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น
กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น

0

0

กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น

สมาชิกหมายเลข 1819136

กำลังโหลดข้อมูล...

แสดงความคิดเห็น

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

เข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

มีใครกินยาคุมฉุกเฉินแล้วตั้งครรภ์บ้างไหมค่ะ?

:( คือดิฉันกับแฟนมีไรกันแล้วถุงยางแตก ทราบตอนที่ถอดถุงยางออก และอีก 18 ชั่วโมงได้กินยาคุมฉุกเฉินเข้าไป เม็ดแรก เม็ดที่สองกินหลังจากกินเม็ดแรก 12 ชั่วโมงช่วงที่ถุงยางแตกเป็นช่วงก่อนประจำเดือนจะมาประมาณ

สมาชิกหมายเลข 1572647

ตั้งครรภ์

กินยาคุมฉุกเฉินแล้วจะท้องมั้ย?

มีประจำเดือนวันจันทร์ที่11 แล้วประจำเดือนหมดวันพุธ แล้ววันพฤหัสที่ 14 ก็มีอะไรกับแฟนแล้วหลั่งใน กินยาคุมฉุกเฉินไป 1 แผง หลังจากนั้น ในวันจันทร์ที่ 18 ก็มี มีอะไรกับแฟนอีก แฟนหลั่งใน พอเสร็จก็กินยาคุมฉ

สมาชิกหมายเลข 779683

ตั้งครรภ์

สุขภาพกาย

ตรวจครรภ์หลังมีเพศสัมพันธุ์ ใช้เวลากี่วันจึงจะทราบผลที่แน่นอนครับ ?

ตรวจครรภ์หลังมีเพศสัมพันธุ์ ใช้เวลากี่วันจึงจะทราบผลที่แน่นอนครับ ? **อยากทราบทั้ง** 1.ตรวจด้วยปัสสาวะ 2.ไปตรวจที่ รพ. ใช้ระยะเวลากี่วันหลังจาก พสพ จึงจะทราบผลที่แน่นอน

สมาชิกหมายเลข 1033050

โรงพยาบาล

สุขภาพกาย

แพทย์

เซเว่นมียาคุมฉุกเฉินขายมั้ยคะ

ไปร้ายขายยาแล้วเภสัชชอบพูดเสียงดัง ถามเยอะ คนในร้านก็เยอะ

สมาชิกหมายเลข 2255795

ยา

ตั้งครรภ์

แพทย์

เภสัชกร

7-Eleven

กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนจะมาตอนไหนคะ

ประมาณว่า มีเพศสัมพันธ์กับแฟนประมาณวันที่ 18 เดือนที่แล้ว ไม่ได้ใส่ถุงยางแต่ไม่เสร็จ แล้วกินยาคุมไปค่ะ อีก 7 วันก็มีเลือดออกมาประมาณ 2 วัน แล้วประจำเดือนจะมาอีกทีประมาณวันที่ 5-6 เดือนนี้ แต่วันนี้วัน

สมาชิกหมายเลข 2515513

การคุมกำเนิด (contraception)

ประจำเดือน (Menstruation)

ยาเม็ดคุมกำเนิด

ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)

เพศสัมพันธ์

มีเพศสัมพันธ์แล้วปล่อยใน แล้วเป็นประจำเดือนยังจำเป็นที่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะ(วันมามาก)

สมาชิกหมายเลข 7270680

หลังกินยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนไม่มาภายใน7วันท้องไหม

ประจำเดือนมาวันที่28 ก.ย หมดวันที่5 ตุลาคม มีอะไรกับแฟนวันที่10 ตอนกลางคืน2ครั้งสวมถุงยางอนามัย ตื่นเช้ามาวันที่11 มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงแต่สอดใส่3-5นาที ไม่แตก เรากลัวเลยไปให้แฟนไปซื้อยาคุมฉุกเฉิน

สมาชิกหมายเลข 7180512

ประจำเดือนไม่มาประมาณ 3 วัน แล้วไปมีเพศสัมพันธ์จะท้องมั้ย.?

ขอสอบถามผู้รู้นะครับ พอดีแฟนผมประจำเดือนไม่มาประมาณ 3 วัน แล้วผมกับแฟนก็มีเพศสัมพันธ์กัน แต่หลังจากเสร็จภารกิจ ผมก็ให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวไป อยากทราบว่าจะท้องมั้ยครับ? ขอบคุณครับ

สมาชิกหมายเลข 7267198

มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ผ่านมา19วัน แล้ว ตรวจขึ้น1ขีด มั่นใจได้ไหมคะ ว่าจะไม่ตั้งครรภ์

อีก2วันจะตรวจอีกรอบค่ะ จะเป็น3สัปดาห์ หรือ21วันแล้ว ครั้งที่ผ่านๆมาขึ้น1ขีดหมดเลยค่ะ 3-4วันตรวจ1ครั้งค่ะ (ตอนที่พสพ.กินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปแล้วด้วยค่ะ) แต่มีความเครียดมากๆ ว่าจะตั้งครรภ์

สมาชิกหมายเลข 7247737

กินยาคุมก่อนเป็นประจำเดือน 1 วันแล้วเมนส์ไม่มาสักทีท้องไหม?

สวัสดีค่ะทุกคนคือเราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอยากจะถามทุกคนว่า เคยมีใครกินยาคุมฉุกเฉินก่อนเป็นประจำเดือน 1 วันมั้ยคะ คือเรากินแล้วตอนนี้ผ่านมา8-9วันแล้วประจำเดือนยังไม่มาเลยแบบนี้มีโอกาสท้องไหมแล้วเมนส

สมาชิกหมายเลข 7263683

อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ตั้งครรภ์ ความรักวัยรุ่น ปัญหาความรัก

✅ บทความนี้ได้รับการตรวจสอบแล้ว

KEY POINTS:


  • การใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่ควรใช้บ่อยๆ หรือใช้แทนการคุมกำเนิดระยะยาว เพราะจะทำให้เป็นอันตราย จากโรคต่างๆ มากมาย เช่น โรคมะเร็งทางนารีเวช รวมถึงยังลดประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์อีกด้วย
  • การกินยาคุมฉุกเฉินต้องกินเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน เม็ดที่ 2 หลักจากกินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน ไมเกรนชนิดมีอาการเตือน ไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉิน เพราะจะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น


Table of Contents
การคุมกำเนิดฉุกเฉินคืออะไร?
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคืออะไร?
ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท?
ข้อควรรู้ในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน

วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน
ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน
ข้อห้ามในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉิน




การคุมกำเนิดฉุกเฉินคืออะไร?

การคุมกำเนิดฉุกเฉิน คือ การป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือ ล้มเหลวในการป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัยหลุด การไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด ลืมกินยาคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด หรือยาฝังคุมกำเนิดหลุด รวมไปถึงการถูกข่มขืน


ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินคืออะไร?

ยาคุมฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pills, Morning-after Pills และ Post-coital Contraceptives) คือยาคุมกำเนิดที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์หลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่คาดคิดหรือไม่พึงประสงค์ ไปจนถึงการป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการคุมกำเนิด


ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท?


กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น

การกินยาคุมฉุกเฉิน คือ การรับประทานฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่สูงมาก โดยยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจะยับยั้งหรือทำให้การตกไข่ในร่างกายเลื่อนออกไป ซึ่งในปัจจุบันมียาคุมฉุกเฉินทั้งหมด 3 ชนิด โดย 2 ชนิดแรกนั้น เป็นยาคุมฉุกเฉินที่ใช้ฮอร์โมนในการคุมกำเนิด ในขณะที่ยาคุมฉุกเฉินชนิดที่ 3 นั้น เป็นการใช้ตัวยาในการยับยั้งการตกไข่และฮอร์โมนของร่างกาย ซึ่งยาคุมแต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกันต่อไปนี้


1. ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Estrogen-Progestin)

ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวม หรือ เรียกว่า Yupze Regimen เป็นยาที่ได้รับการคิดค้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974 โดยใช้กลไกในการเพิ่มระดับฮอร์โมนให้สูงขึ้นในร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยสองฮอร์โมนหลัก ได้แก่ estrogen และ progesterone ในการที่จะยับยั้ง หรือ เลื่อนเวลาของการตกไข่เยื่อบุโพรงมดลูกให้ไม่เหมาะสมกับการฝังตัว และยังมีผลต่อการทำงานของรังไข่ด้วย

โดยการรับประทานยาจะมีส่วนประกอบของ ethinyl estradiol 100 มคก. และ levonogestrel 1 มก. โดยกินหลังการมีเพศสัมพันธ์โดยทันที หรือภายใน 72 ชั่วโมง และ รับประทานซ้ำอีกครั้ง 2 เม็ด จำนวน 2 ครั้งห่างกัน 12 ชั่วโมง


2. ยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนเดียวโพรเจสติน (Progestin Only)

ยาคุมฉุกเฉินที่ใช้การทำงานของฮอร์โมนตัวเดียว คือ โพรเจสโตเจน ตัวยาที่นิยมใช้ในยาคุมฉุกเฉินก็คือ Levonorgestrel ซึ่งเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ในกลุ่มของโพรเจสตินที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการตกไข่ โดยยาคุมฉุกเฉินแบบฮอร์โมนเดียวนั้น สามารถรับประทานทีเดียว 1 โดส (Dose) โดสละ 1.5 mg หรือจะรับประทานแยกแบ่งเป็น 2 โดส โดสละ 0.75 mg ห่างกัน 12 ชั่วโมง และจะต้องรับประทานโดสแรกภายใน 72 ชั่วโมง ก็มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดเช่นเดียวกัน รวมถึงผลข้างเคียงที่ได้รับก็ไม่ต่างกัน

ยาคุมฉุกเฉินประเภทนี้ได้รับการยืนยันจาก US FDA และ WHO ว่าใช้ได้ผลดีถึงแม้จะรับประทานหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 3-5 วัน โดยไม่มีผลกระทบที่เป็นอันตรายถึงชีวิต จะมีเพียงอาการคลื่นไส้ อาเจียน เพียงแค่ 24% น้อยกว่ายาคุมฉุกเฉินแบบฮอร์โมนรวมอย่างเห็นได้ชัด


3. ยาคุมฉุกเฉินชนิด Selective Progesterone Modulator

ยาคุมฉุกเฉินประเภทนี้ จะมีหลักการโดยการใช้สารต้าน progesterone ไปแย่งจับกับตัวรับปฏิกิริยา ทำให้ progesterone ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ ทำให้มดลุกไม่สามารถที่จะมีสภาพในการฝังตัวอ่อนได้ ซึ่งการที่ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ ulipristal และ mifeprisone (RU486) โดยกลุ่มยานี้จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่ากลุ่มยาสองชนิดแรก มักพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน

โดยการใช้ ulipristal รับประทานครั้งเดียว 30 มก. ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และในส่วนของ mifepristone การรับประทานครั้งเดียว 600 มก. ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์



ข้อควรรู้ในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน


  1. ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถใช้ในการทำแท้งได้ เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีกลไกในการยับยั้งการตกไข่ และป้องกันการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูก เพราะฉะนั้นหากมีไข่ที่ผสมกับอสุจิและฝังตัวอยู่ที่ผนังมดลูกเรียบร้อยแล้ว ยาคุมฉุกเฉินจะไม่สามารถเข้าไปทำลาย หรือยุติการตั้งครรภ์ดังกล่าวได้
  2. ยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการหลังกินยาคุมฉุกเฉิน ไปจนถึงผลข้างเคียงระยะยาว ซึ่งระยะแรกอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่ในระยะยาวหากมีการกินยาคุมฉุกเฉินอยู่บ่อยครั้ง อาจส่งผลต่อการท้องนอกมดลูกได้ในอนาคต
  3. การกินยาคุมฉุกเฉินควรกินให้เร็วที่สุดหลังการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน และต้องกินยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงและตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะสามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 75% แต่อย่างไรก็ตามหากทานภายใน 24 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ จะช่วยเพิ่มการป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากถึง 85%
  4. ยาคุมฉุกเฉิน ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
  5. ยาคุมฉุกเฉินไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ครั้งใหม่ และไม่ส่งผลให้การตั้งครรภ์ครั้งต่อไปช้าลง หรือมีโอกาสในการตั้งครรภ์น้อยลง

วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่ที่มีขายในประเทศไทยจะมี 2 เม็ดในหนึ่งกล่อง ซึ่งตัวยามีขนาดเม็ดละ 0.75 mg โดยสามารถกินยาคุมฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนี้


  • กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือภายใน 72 ชั่วโมงแรก
  • กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมง

ทั้งนี้การกินยาคุมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดไม่ควรเกิน 3-5 วัน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่


ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉิน


กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น

การกินยาคุมฉุกเฉินเป็นการเพิ่มฮอร์โมนจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งอาจจะส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งผลข้างเคียงหลังจากการกินยาคุมฉุกเฉินจะมีอาการดังต่อไปนี้


  • อาการวิงเวียนศีรษะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดหัวอย่างรุนแรง
  • ปวดท้อง
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • มีเลือดออกทางช่องคลอด
  • เสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูก

หากมีอาการดังกล่าวอย่างรุนแรงควรพบแพทย์ทันที ทั้งนี้หากมีอาการอย่างอื่นนอกจากที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้พบแพทย์ เพื่อปรึกษาหาสาเหตุต่อไป


ข้อห้ามในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน

เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อร่างกาย ดังนั้นผู้ที่มีโรคประจำตัวดังต่อไปนี้ ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินโดยเด็ดขาด


  • ผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม
  • ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับตับ เช่น ตับแข็ง โรคตับเฉียบพลัน ไปจนถึงมะเร็งตับ
  • ผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคลิ่มเลือดอุดตัน
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่มีการทำงานของไตและหลอดเลือดผิดปกติ
  • ผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่จัด เป็นโรคไขมันในเลือดสูงและมีภาวะอ้วน
  • ผู้ที่เป็นไมเกรนชนิดที่มีอาการเตือน

หากผู้ที่มีอาการดังกล่าวกินยาคุมฉุกเฉินเข้าไป อาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง ดังนั้นหากมีความจำเป็นจะต้องป้องกันการตั้งครรภ์แบบฉุกเฉิน ควรปรึกษาแพทย์หรือใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ ติดต่อกันเพราะจะทำให้ร่างกายดื้อยา และลดโอกาสป้องกันการตั้งครรภ์ รวมถึงเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมอีกด้วย


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉิน


1. ยาคุมฉุกเฉินราคาเท่าไหร่?

ยาคุมฉุกเฉินในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่วางขายในท้องตลาด โดยมีราคาตั้งแต่ 40 บาทขึ้นไป จนถึง 80 บาท ตามแต่ยี่ห้อที่เลือกใช้


2. ยาคุมฉุกเฉินรับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันได้ไหม?

ยาคุมฉุกเฉินสามารถกินพร้อมกันสองเม็ด โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ต่างกับการกินทีละเม็ด แต่การกินสองเม็ดพร้อมกันอาจจะก่อให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียนมากกว่าการกินทีละเม็ด


3. กินยาคุมฉุกเฉินบ่อยอันตรายหรือไม่?

การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก และนอกจากนั้น การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ จะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์น้อยลง และประจำเดือนมาไม่ปกติ


4. กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่ 2 ช้า มีผลอะไรหรือไม่?

ไม่มีผลหากกินช้าไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่หากกินหลังจากนั้นแล้ว ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ของยาคุมฉุกเฉินจะน้อยลง หากเกิน 24 ชั่วโมง แต่ยังไม่เกิน 120 ชั่วโมง ให้ซื้อยาคุมฉุกเฉินมาใหม่อีกแผงหนึ่ง แล้วกิน 2 เม็ดภายในครั้งเดียว




✅ ตรวจสอบข้อมูลโดย


กินยาคุมฉุกเฉินกันได้กี่เปอร์เซ็น




แหล่งข้อมูล