ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการนำเสนองานมีอะไรบ้าง

2.Prezi

         ก่อนที่จะมี Canva นั้น Prezi เป็นโปรแกรมสร้างสื่อที่คนสนใจใช้งานมาก เพราะว่ามีลูกเล่นการนำเสนอที่แปลกตา คือ แทนที่สร้างงานนำเสนอแบบเปิดเนื้อหาไปทีละสไลด์ จะเป็นการสร้างงานนำเสนอแบบหน้าเดียว และใช้วิธีซูมเข้าออกตามจุดต่าง ๆ ของหน้านำเสนอ เพื่อไปยังเนื้อหาแต่ละส่วน โดยมีเทมเพลตงานนำเสนอให้เลือกตามความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของงานนำเสนอ เช่น ต้นไม้ จะเหมาะกับงานนำเสนอเนื้อหาเป็นขั้นตอน ซึ่งการใช้ Prezi จะเหมาะกับงานนำเสนอที่ไม่มีข้อความมากนัก และสามารถนำเสนอแบบออนไลน์ร่วมกับเว็บอื่น ๆ ได้

3. Google Slide

         สุดท้ายนี้คือ Google Slide ซึ่งเป็นเครื่องมือของ Google นั่นเอง มีรูปแบบการใช้งานที่ใกล้เคียงกับ PowerPoint ที่สุด หากเทียบกับ 2 โปรแกรมก่อนหน้า โดยสามารถสร้างหรืออัปโหลดงานนำเสนอที่มีอยู่ขึ้นไปทำงานบน Google Slide ได้ แต่ฟังก์ชันบางอย่างอาจใช้งานได้ไม่เท่า PowerPoint นัก เช่น การสร้างรูปร่าง การจัดการภาพประกอบในงานนำเสนอ

ซอฟแวร์นำเสนอ เป็นโปรแกรมที่ใช้นำเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่สามารถนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตัวอักษร ตาราง กราฟ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ทำให้งานนำเสนอมีรูปแบบที่หลากหลาย ส่งผลให้ผู้รับสารสนใจและเข้าใจเนื้อหาได้มากยิ่งขึ้น โดยซอฟต์แวร์นำเสนอในปัจจุบันมีเครื่องมือที่สร้างเทคนิคและลูกเล่นต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถสร้างได้อย่างง่ายดายในเวลาที่รวดเร่ว ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงานเฉพาะอย่างที่ต้องการ การทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ในงานเฉพาะด้าน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระบบผู้ใช้จำเป็นต้องเลือกหาซอฟต์แวร์ให้ตรงตามความต้องการนั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น การจัดพิมพ์ รายงาน นำเสนองาน จัดทำบัญชี ตกแต่งภาพ ออกแบบเว็บไซต์ ซอฟแวร์นำเสนอที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ ซอฟแวร์กรรมสิทธิ์ (proprietary software) ที่ผู้ใช้ต้องซื้อจากบริษัทผู้เป็นเจ้าของ ได้แก่ ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ โลตัสฟรีแลนซ์กราฟิก โครเรล พรีเซ็นเทชัน กราฟิก และซอฟต์แวร์เปิดเผยรหัส (open source) ได้แก่ โอเพน ออฟฟิศ ปลาดาวออฟฟิศ อิมเพรส ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี

มีตัวเลือกซอฟต์แวร์การนำเสนอหลายร้อยตัวในตลาดปัจจุบัน และเราทราบดีว่ายากที่จะลองใช้ PowerPoint อย่างสะดวกสบาย จะเกิดอะไรขึ้นหากซอฟต์แวร์ที่คุณกำลังอพยพเกิดขัดข้องกะทันหัน เกิดอะไรขึ้นถ้ามันไม่เป็นไปตามความคาดหวังของคุณ?

โชคดีที่เราได้ดูแลทั้งหมด งานที่น่าเบื่อ สำหรับคุณ (และนั่นหมายถึงการทดสอบซอฟต์แวร์การนำเสนอมากกว่าโหลในระหว่างทาง) เพื่อนำเสนอ ซอฟต์แวร์นำเสนอฟรีที่ดีที่สุดด้านล่าง 

ไม่ว่าอะไรก็ตาม ประเภทของการนำเสนอ คุณต้องการสร้างที่นี่ คุณจะได้รู้ว่าใครคือโซลเมทแพลตฟอร์มการนำเสนอของคุณ!

• Presentation Software คืออะไร?
• ซอฟต์แวร์แบบโต้ตอบ
• ซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช่เชิงเส้น
• ซอฟต์แวร์ภาพ
• ซอฟต์แวร์อย่างง่าย
• ซอฟต์แวร์วิดีโอ
• ตารางเปรียบเทียบ
• เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AhaSlides

Presentation Software คืออะไร?

ซอฟต์แวร์การนำเสนอคือแพลตฟอร์มดิจิทัลใดๆ ที่ช่วยอธิบายรายละเอียดและอธิบายประเด็นของผู้นำเสนอผ่านลำดับภาพ เช่น กราฟิก ข้อความ เสียง หรือวิดีโอ

ซอฟต์แวร์การนำเสนอแต่ละบิตมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีคุณลักษณะที่คล้ายคลึงกัน 3 ประการ:

• ระบบสไลด์โชว์เพื่อแสดงแต่ละไอเดียอย่างต่อเนื่อง
• การปรับแต่งสไลด์ เช่น การจัดกลุ่มข้อความ การแทรกรูปภาพ การเลือกพื้นหลัง หรือการเพิ่มภาพเคลื่อนไหวลงในสไลด์
• ตัวเลือกการแชร์สำหรับผู้นำเสนอเพื่อแชร์งานนำเสนอกับเพื่อนร่วมงาน

ซอฟต์แวร์การนำเสนอแต่ละบิตมีคุณลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน และเราได้จำแนกซอฟต์แวร์เหล่านี้ออกเป็นซอฟต์แวร์การนำเสนอ 5 ประเภทด้านล่าง มาดำน้ำกันเถอะ!

ซอฟต์แวร์การนำเสนอแบบโต้ตอบ

การนำเสนอแบบโต้ตอบคือการนำเสนอที่มีองค์ประกอบที่ผู้ชมสามารถโต้ตอบได้ เช่น แบบสำรวจ แบบทดสอบ เวิร์ดคลาวด์ เป็นต้น ซึ่งจะเปลี่ยนประสบการณ์ที่เฉยเมยและเฉยเมยให้กลายเป็นการสนทนาที่แท้จริงกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง 

• 64% ของผู้คนเชื่อว่าการนำเสนอที่ยืดหยุ่นด้วยการโต้ตอบแบบสองทางคือ มีส่วนร่วมมากขึ้น มากกว่าการนำเสนอเชิงเส้น (ดูอาร์เต).
• 68% ของผู้คนเชื่อว่าการนำเสนอแบบโต้ตอบคือ ข้อมูลเพิ่มเติม ที่น่าจดจำ (ดูอาร์เต).

พร้อมที่จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ชมในการนำเสนอของคุณแล้วหรือยัง ต่อไปนี้คือตัวเลือกซอฟต์แวร์การนำเสนอแบบโต้ตอบสองสามตัวเลือกให้คุณทดลองใช้ฟรี

#1 – AhaSlides

เราทุกคนได้เข้าร่วมการนำเสนอที่น่าอึดอัดใจอย่างน้อยหนึ่งครั้งที่เราแอบคิดกับตัวเอง – ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่นี้.

ไหนจะเสียงหึ่งของการสนทนาที่กระตือรือร้น "Ooh" และ "Aah" และเสียงหัวเราะจากผู้ชมที่จะขจัดความอึดอัดนี้? 

นั่นคือสิ่งที่มีซอฟต์แวร์การนำเสนอแบบโต้ตอบเช่น Ahaสไลด์ มีประโยชน์ มันดึงดูดฝูงชนด้วยเนื้อหาที่มีฟีเจอร์มากมายและเต็มไปด้วยแอ็คชั่นฟรี คุณสามารถเพิ่มแบบสำรวจ แบบทดสอบสนุกๆ คลาวด์คำ และเซสชันถาม & ตอบเพื่อกระตุ้นผู้ชมของคุณและให้พวกเขาโต้ตอบกับคุณอย่างมีความหมาย

✅ ข้อดี:

• ไลบรารีเทมเพลตที่สร้างไว้ล่วงหน้าที่พร้อมใช้งานเพื่อประหยัดเวลาและแรงของคุณ
• รายงานหลังเหตุการณ์มีประโยชน์สำหรับทุกคนที่ต้องการดูว่าการโต้ตอบเป็นอย่างไร
• คุณสามารถนำเข้างานนำเสนอ PowerPoint, Google สไลด์ และฝังวิดีโอ YouTube เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
• ฝ่ายบริการลูกค้าตอบสนองได้ดีมาก

❌ จุดด้อย:

• เมื่อคุณนำเข้าสไลด์ PowerPoint ภาพเคลื่อนไหวจะหายไป
• ภาพเคลื่อนไหวสไลด์และการจัดเรียงข้อความไม่มีความยืดหยุ่นมากนัก

???? ราคา: 

• AhaSlides คือ ฟรี กับ คุณสมบัติไม่ จำกัด และ การเข้าถึงแบบไม่ จำกัด ที่ให้คุณโฮสต์ได้ถึง 7 คน
• แผนสำคัญ: $4.95/เดือน (จ่ายเป็นรายปี) รองรับผู้เข้าร่วมสดได้มากถึง 50 คน
• แผนเพิ่มเติม: $10.95/เดือน (จ่ายเป็นรายปี) รองรับผู้เข้าร่วมสดได้มากถึง 200 คน
• แผน Pro: $15.95/เดือน (จ่ายเป็นรายปี) รองรับผู้เข้าร่วมสดได้มากถึง 10,000 คน
• มีแผนแบบครั้งเดียวและแผนการศึกษา

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา ผู้ฝึกสอน นักพูดในที่สาธารณะ
• ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่
• บุคคลที่ต้องการเป็นเจ้าภาพคืนควิซ

ใช้ AhaSlides ฟรี!

#2 – Mentimeter

ลีเมตร เป็นซอฟต์แวร์การนำเสนอแบบโต้ตอบอีกตัวหนึ่งที่ให้คุณเชื่อมต่อกับผู้ชมและกำจัดความเงียบที่น่าอึดอัดใจผ่านชุดของโพล แบบทดสอบ หรือคำถามปลายเปิดในแบบเรียลไทม์

✅ ข้อดี:

• ง่ายที่จะเริ่มต้นได้ทันที
• คำถามประเภทหนึ่งที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์

❌ จุดด้อย:

• ไม่มีการผสานรวม PowerPoint หรือ Google สไลด์
• เวอร์ชันฟรีมีข้อจำกัดอย่างมาก คุณสามารถสร้างคำถามได้ 2 ข้อในการนำเสนอเท่านั้น

???? ราคา: 

• Mentimeter ให้บริการฟรี แต่อนุญาตให้สร้างคำถามได้สูงสุด 2 คำถามต่อการนำเสนอและสูงสุด 5 สไลด์แบบทดสอบ
• แผน Pro: $11.99/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)
• แผน Pro: $24.99/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)
• มีแผนการศึกษา

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา ผู้ฝึกสอน นักพูดในที่สาธารณะ
• ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่

ซอฟต์แวร์การนำเสนอที่ไม่ใช่เชิงเส้น

การนำเสนอที่ไม่เป็นเชิงเส้นคือสิ่งที่คุณไม่ได้นำเสนอสไลด์ในลำดับที่เข้มงวด แต่คุณสามารถกระโดดลงไปในสไลด์ใดๆ ที่เลือกไว้ภายในสำรับ

ซอฟต์แวร์การนำเสนอประเภทนี้ช่วยให้ผู้นำเสนอมีอิสระมากขึ้นในการจัดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ฟัง รวมทั้งปล่อยให้การนำเสนอเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ 

#3 – รีเลย์โต

จัดระเบียบและแสดงภาพเนื้อหาได้ง่ายกว่าที่เคยด้วย รีเลย์แพลตฟอร์มประสบการณ์เอกสารที่เปลี่ยนการนำเสนอของคุณให้เป็นเว็บไซต์เชิงโต้ตอบที่ชวนดื่มด่ำ

เริ่มต้นด้วยการนำเข้าเนื้อหาสนับสนุนของคุณ (ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง) และ RELAYTO จะรวบรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเว็บไซต์การนำเสนอที่สมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นสำนวนการขายหรือข้อเสนอทางการตลาด 

✅ ข้อดี: 

• คุณลักษณะการวิเคราะห์ซึ่งวิเคราะห์การคลิกและการโต้ตอบของผู้ดู ให้ข้อเสนอแนะแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับเนื้อหาที่มีส่วนร่วมกับผู้ชม
• คุณไม่จำเป็นต้องสร้างงานนำเสนอตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากคุณสามารถอัปโหลดงานนำเสนอที่มีอยู่ในรูปแบบ PDF/PowerPoint ได้ แล้วซอฟต์แวร์จะทำงานให้คุณเอง

❌ จุดด้อย:

• วิดีโอแบบฝังมีข้อจำกัดด้านความยาว
• คุณจะอยู่ในรายชื่อสำรองหากต้องการลองใช้แผนฟรีของ RELAYTO
• มีราคาแพงสำหรับการใช้งานเป็นครั้งคราว

???? ราคา: 

• RELAYTO ฟรีโดยจำกัดประสบการณ์ 5 ครั้ง
• แผนเดี่ยว: $80/ผู้ใช้/เดือน (ชำระเป็นรายปี)
• แผนทีม Lite: $120/ผู้ใช้/เดือน (ชำระเป็นรายปี)
• แผนทีม Pro: $200/ผู้ใช้/เดือน (ชำระเป็นรายปี)

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

#4 – เพรซิ

เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายสำหรับโครงสร้างแผนที่ความคิด Prezi ให้คุณทำงานกับผืนผ้าใบที่ไม่มีที่สิ้นสุด คุณสามารถบรรเทาความเบื่อหน่ายในการนำเสนอแบบเดิมๆ ได้โดยการเลื่อนดูหัวข้อต่างๆ ซูมเข้าในรายละเอียด และดึงกลับเพื่อแสดงบริบท 

กลไกนี้ช่วยให้ผู้ฟังเห็นภาพรวมทั้งหมดที่คุณอ้างถึง แทนที่จะดูแต่ละมุมทีละส่วน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความเข้าใจในหัวข้อโดยรวมของพวกเขา

✅ ข้อดี: 

• แอนิเมชั่นที่ลื่นไหลและการออกแบบการนำเสนอที่สะดุดตา
• สามารถนำเข้างานนำเสนอ PowerPoint
• ไลบรารีเทมเพลตที่สร้างสรรค์และหลากหลาย

❌ จุดด้อย:

• ใช้เวลาในการทำโครงการสร้างสรรค์
• บางครั้งแพลตฟอร์มจะหยุดทำงานเมื่อคุณแก้ไขออนไลน์
• สามารถทำให้ผู้ชมของคุณเวียนหัวด้วยการเคลื่อนไหวไปมาอย่างต่อเนื่อง

???? ราคา: 

• Prezi ให้บริการฟรีโดยจำกัด 5 โครงการ
• แผนเพิ่มเติม: $12/เดือน
• แผนพรีเมียม: $16/เดือน
• มีแผนการศึกษา

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา.
• ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่

ซอฟต์แวร์นำเสนอภาพ

การนำเสนอด้วยภาพมุ่งเน้นไปที่การสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมด้วยการออกแบบที่สวยงาม แบบที่ดูเหมือนส่งตรงมาจากฮาร์ดไดรฟ์ของนักออกแบบมืออาชีพ

ต่อไปนี้คือซอฟต์แวร์การนำเสนอภาพบางส่วนที่จะยกระดับการนำเสนอของคุณ รับพวกเขาบนหน้าจอและไม่มีใครจะมีเงื่อนงำเดียวหากได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญเว้นแต่คุณจะบอกพวกเขา😉

#5 – สไลด์ 

สไลด์ เป็นเครื่องมือนำเสนอโอเพ่นซอร์สที่น่าสนใจที่ช่วยให้ปรับแต่งเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เขียนโค้ดและนักพัฒนา UI แบบลากและวางที่เรียบง่ายยังช่วยให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการออกแบบสร้างงานนำเสนอได้อย่างง่ายดาย

✅ ข้อดี:

• รูปแบบโอเพนซอร์ซเต็มรูปแบบที่ช่วยให้มีตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายโดยใช้ CSS
• โหมดนำเสนอสดให้คุณควบคุมสิ่งที่ผู้ดูเห็นบนอุปกรณ์ต่างๆ
• ให้คุณแสดงสูตรคณิตศาสตร์ขั้นสูง (มีประโยชน์มากสำหรับครูสอนคณิตศาสตร์)

❌ จุดด้อย:

• เทมเพลตมีจำกัด ซึ่งอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก หากคุณต้องการสร้างงานนำเสนออย่างรวดเร็ว
• หากคุณใช้แผนบริการฟรี คุณจะไม่สามารถปรับแต่งได้มากนักหรือดาวน์โหลดสไลด์เพื่อดูแบบออฟไลน์
• เลย์เอาต์ของเว็บไซต์ทำให้ติดตามสไลด์ได้ยาก 

???? ราคา: 

• สไลด์ใช้งานได้ฟรีพร้อมงานนำเสนอ 250 รายการและพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด XNUMXMB
• แผน Lite: $5/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)
• แผน Pro: $10/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)
• แผนทีม: $20/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา.
• นักพัฒนาที่มีความรู้ HTML, CSS และ JavaScript

#6 – ลูดุส

ถ้า Sketch และ Keynote มีทารกอยู่ในคลาวด์ มันจะเป็น Ludus (อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เว็บไซต์อ้างว่า) หากคุณคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของนักออกแบบ ฟังก์ชันอเนกประสงค์ของ Ludus จะทำให้คุณติดใจ แก้ไขและเพิ่มเนื้อหาประเภทใดก็ได้ ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และอื่นๆ ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด

✅ ข้อดี: 

• สามารถผสานรวมกับสินทรัพย์การออกแบบมากมายจากเครื่องมือออกแบบ เช่น Figma หรือ Adobe XD
• สไลด์สามารถแก้ไขได้พร้อมกันกับบุคคลอื่น
• คุณสามารถคัดลอกและวางอะไรก็ได้ในสไลด์ของคุณ เช่น วิดีโอ YouTube หรือข้อมูลแบบตารางจาก Google ชีต และมันจะแปลงเป็นแผนภูมิที่สวยงามโดยอัตโนมัติ

❌ จุดด้อย:

• เราพบข้อบกพร่องมากมาย เช่น ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อพยายามเลิกทำ หรือการไม่สามารถบันทึกงานนำเสนอได้ ซึ่งส่งผลให้สูญเสียงานบางส่วน
• Ludus มีช่วงการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลาในการไปถึงจุดสูงสุด หากคุณไม่เชี่ยวชาญในการออกแบบสิ่งต่างๆ

???? ราคา: 

• คุณสามารถทดลองใช้ Ludus ได้ฟรี 30 วัน
• Ludus ส่วนตัว (1 ถึง 15 คน): $14.99
• องค์กร Ludus (มากกว่า 16 คน): ไม่เปิดเผย
• การศึกษาของ Ludus: $4/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักออกแบบ
• นักการศึกษา.

#7 – สวย.ai

สวย เป็นตัวอย่างสำคัญของซอฟต์แวร์นำเสนอที่มีทั้งรูปลักษณ์และการใช้งาน การกังวลว่าสไลด์ของคุณจะดูธรรมดาจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะเครื่องมือนี้จะนำกฎของการออกแบบไปใช้เพื่อจัดระเบียบเนื้อหาของคุณในลักษณะที่น่าดึงดูดใจโดยอัตโนมัติ

✅ ข้อดี:

• เทมเพลตการออกแบบที่สะอาดและทันสมัยที่ให้คุณแสดงงานนำเสนอต่อผู้ชมได้ในเวลาไม่กี่นาที
• คุณสามารถใช้เทมเพลต Beautiful.ai บน PowerPoint ด้วย Beautiful.ai เพิ่มใน.

❌ จุดด้อย:

• แสดงผลได้ไม่ดีบนอุปกรณ์มือถือ
• มีคุณสมบัติที่จำกัดมากในแผนทดลองใช้

???? ราคา: 

• Beautiful.ai ไม่มีแผนฟรี อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลองใช้แผน Pro และ Team เป็นเวลา 14 วัน
• สำหรับบุคคลทั่วไป: $12/เดือน (ชำระเป็นรายปี)
• สำหรับทีม: $40/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพกำลังลงสนาม
• ทีมธุรกิจที่มีเวลาจำกัด

ซอฟต์แวร์การนำเสนออย่างง่าย

มีความสวยงามในความเรียบง่าย และนั่นเป็นสาเหตุที่ผู้คนจำนวนมากกระหายซอฟต์แวร์การนำเสนอที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย และตรงประเด็น 

สำหรับซอฟต์แวร์การนำเสนอง่ายๆ เหล่านี้ คุณไม่จำเป็นต้องมีความชำนาญด้านเทคโนโลยีหรือมีแนวทางในการสร้างงานนำเสนอที่ยอดเยี่ยมในทันที ตรวจสอบออกด้านล่าง👇

#8 – โซโหโชว์

โซโหโชว์ เป็นโปรแกรมที่เทียบเท่ากับ PowerPoint หรือ Google สไลด์ แต่มีคุณสมบัติเหมือนโซเชียลมีเดียที่โดดเด่นกว่า เช่น แชทสดและฟีเจอร์การแสดงความคิดเห็น 

นอกจากนั้น Zoho Show ยังมีรายการการผสานการทำงานข้ามแอปที่ครอบคลุมมากที่สุด คุณสามารถเพิ่มงานนำเสนอไปยังอุปกรณ์ Apple และ Android ของคุณ แทรกภาพประกอบจาก มนุษย์, ไอคอนเวกเตอร์จาก ขนนกและอื่น ๆ

✅ ข้อดี: 

• เทมเพลตระดับมืออาชีพที่หลากหลายสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
• คุณสมบัติการถ่ายทอดสดช่วยให้คุณนำเสนอได้ทุกที่
• ตลาดส่วนเสริมของ Zoho Show ทำให้การแทรกสื่อประเภทต่างๆ ลงในสไลด์ของคุณได้อย่างง่ายดาย

❌ จุดด้อย:

• คุณอาจประสบปัญหาการขัดข้องของซอฟต์แวร์หากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณไม่เสถียร
• มีเทมเพลตไม่มากนักสำหรับกลุ่มการศึกษา

???? ราคา: 

• Zoho Show ฟรี

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
• องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร

#9 – ไฮกุเด็ค

ไฮกุเด็ค ลดความพยายามของคุณในการสร้างงานนำเสนอด้วยชุดสไลด์ที่เรียบง่ายและดูดี หากคุณไม่ต้องการแอนิเมชั่นที่ฉูดฉาดและอยากจะพูดตรง ๆ ตรงประเด็นมากกว่า นี่แหละ!

✅ ข้อดี: 

• พร้อมใช้งานบนเว็บไซต์และระบบนิเวศ iOS
• ไลบรารีเทมเพลตขนาดใหญ่ให้เลือก
• คุณสมบัติใช้งานง่ายแม้สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน

❌ จุดด้อย:

• รุ่นฟรีไม่ได้ให้อะไรมาก คุณไม่สามารถเพิ่มเสียงหรือวิดีโอเว้นแต่คุณจะจ่ายสำหรับแผนของพวกเขา 
• หากคุณต้องการการนำเสนอที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ Haiku Deck ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ

???? ราคา: 

• Haiku Deck มีแผนให้บริการฟรี แต่ให้คุณสร้างงานนำเสนอได้เพียงรายการเดียว ซึ่งไม่สามารถดาวน์โหลดได้
• แผน Pro: $9.99/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)
• แผนพรีเมียม: $29.99/เดือน (ชำระเป็นรายปี)
• มีแผนการศึกษา

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา.
• นักเรียน

ซอฟต์แวร์นำเสนอวิดีโอ

การนำเสนอวิดีโอคือสิ่งที่คุณได้รับเมื่อคุณต้องการทำให้เกมการนำเสนอของคุณมีไดนามิกมากขึ้น พวกมันยังคงเกี่ยวข้องกับสไลด์ แต่ส่วนใหญ่หมุนไปรอบๆ แอนิเมชั่น ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างรูปภาพ ข้อความ และกราฟิกอื่นๆ 

วิดีโอมีประโยชน์มากกว่าการนำเสนอแบบเดิมๆ ผู้คนจะแยกแยะข้อมูลในรูปแบบวิดีโอได้ง่ายกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการอ่านข้อความ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเผยแพร่วิดีโอของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา

#10 – โพทูน

PowToon ทำให้ง่ายต่อการสร้างการนำเสนอวิดีโอโดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องการตัดต่อวิดีโอมาก่อน การแก้ไขใน Powtoon ให้ความรู้สึกเหมือนกับการแก้ไขงานนำเสนอแบบดั้งเดิม ด้วยชุดสไลด์และองค์ประกอบอื่นๆ มีวัตถุ รูปทรง และอุปกรณ์เคลื่อนไหวมากมายที่คุณสามารถนำไปปรับปรุงข้อความของคุณได้

✅ ข้อดี: 

• ดาวน์โหลดได้ในหลายรูปแบบ: MP4, PowerPoint, GIF เป็นต้น
• เทมเพลตและเอฟเฟกต์แอนิเมชั่นต่างๆ เพื่อสร้างวิดีโอสั้นๆ

❌ จุดด้อย:

• คุณจะต้องสมัครแผนแบบชำระเงินเพื่อดาวน์โหลดงานนำเสนอเป็นไฟล์ MP4 โดยไม่มีเครื่องหมายการค้า Powtoon
• ใช้เวลานานในการสร้างวิดีโอ

???? ราคา: 

• Powtoon เสนอแผนฟรีพร้อมฟังก์ชันที่จำกัดมาก
• แผน Pro: $20/เดือน (จ่ายเป็นรายปี)
• แผน Pro+: $60/เดือน (ชำระเป็นรายปี)
• แผนเอเจนซี: $100/เดือน (ชำระเป็นรายปี)

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา.
• ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

#11 – VideoScribe

การอธิบายทฤษฎีและแนวคิดเชิงนามธรรมให้กับลูกค้า เพื่อนร่วมงาน หรือนักเรียนของคุณอาจเป็นงานที่ยุ่งยาก แต่ VideoScribe จะช่วยยกภาระนั้น 

VideoScribe เป็นแอปพลิเคชั่นตัดต่อวิดีโอที่รองรับแอนิเมชั่นและงานนำเสนอสไตล์ไวท์บอร์ด คุณสามารถวางวัตถุ แทรกข้อความ หรือแม้แต่สร้างวัตถุของคุณเองเพื่อใส่ลงในผ้าใบไวท์บอร์ดของซอฟต์แวร์ และโปรแกรมจะสร้างภาพเคลื่อนไหวสไตล์วาดด้วยมือเพื่อให้คุณใช้ในงานนำเสนอของคุณ

✅ ข้อดี: 

• ฟังก์ชันลากแล้วปล่อยทำความคุ้นเคยได้ง่าย โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น
• สามารถใช้ลายมือและภาพวาดส่วนตัวนอกเหนือจากที่มีอยู่ในไลบรารีไอคอน
• ตัวเลือกการส่งออกที่หลากหลาย: MP4, GIF, MOV, PNG และอื่นๆ

❌ จุดด้อย:

• หากคุณมีองค์ประกอบมากเกินไปในเฟรม บางส่วนจะไม่ปรากฏขึ้น
• มีรูปภาพ SVG ที่มีคุณภาพไม่เพียงพอ

???? ราคา: 

• VideoScribe ให้ทดลองใช้งานฟรี 7 วัน
• แผนรายเดือน: $17.50/เดือน
• แผนรายปี: $96/ปี

️ ความง่ายดายในการใช้งาน: ⭐⭐⭐

👤 ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ: 

• นักการศึกษา.
• ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

ตารางเปรียบเทียบ

หมดแรง – ใช่ มีเครื่องมือมากมายอยู่ที่นั่น! ดูตารางด้านล่างเพื่อเปรียบเทียบสั้นๆ ว่าอะไรอาจดีที่สุดสำหรับคุณ