แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง


แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

กฤษดา ทองทับ
(พยาบาลวิชาชีพ)


หลายคนคงเคยมีความรู้สึกท้อ ไม่สบายใจ ไม่อยากมาทำงาน หรือไม่อยากทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกนั้น คือ การขาดแรงจูงใจ

แรงจูงใจ เป็นสิ่งสำคัญที่นำพาให้คนเราสามารถปฏิบัติงานหรือกระทำในสิ่งต่างๆ ให้เกิดผลสำเร็จไปได้ด้วยดี แรงจูงใจในการทำงานนั้น มีแรงผลักดันหรือแรงกระตุ้นจาก 2 ทาง คือ

แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

แรงกระตุ้นภายใน

1. การตั้งเป้าหมายในการทำงานอย่างชัดเจน เพื่อกำหนดอนาคตและความก้าวหน้าในอาชีพการงาน

2. ความท้าทาย เป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้จะกลายเป็นความท้าทายที่ทำให้เราก้าวไปจนประสบความสำเร็จ แต่ที่สำคัญเป้าหมายจะต้องไม่ไกลเกินตัว เพราะจะกลายเป็นความเพ้อฝันไม่มีวันจบสิ้น

3. ความมั่นใจ เราต้องมั่นใจในตัวเอง มั่นใจในความสามารถ ความพยายาม ความพากเพียรและความอดทน ซึ่งจะนำมาสู่ความสำเร็จได้

4. คำมั่นสัญญา เราต้องมีคำมั่นสัญญากับตัวเราในการที่จะทำให้เป้าหมายที่วางเอาไว้ประสบความสำเร็จให้ได้ คำมั่นสัญญานี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เราสร้างวินัยในตัวเอง เพื่อความสำเร็จที่ตั้งเอาไว้

แรงกระตุ้นภายนอก

1. บรรยากาศของสถานที่ทำงาน สภาพแวดล้อม เชื่อว่าถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีย่อมทำให้เรามีแรงจูงใจที่ดีด้วย

2. เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ผู้บริหาร

3. กฎ กติกา ระเบียบ และการลงโทษ

4. การให้คำชมเชย หรือของรางวัลในความสำเร็จ

5. คำตำหนิ หรือการสอนสั่งต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เราประสบความสำเร็จ

6. สิทธิ ผลประโยชน์ รายได้ หรือสวัสดิการต่างๆ ที่พอเหมาะพอเพียง

แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

เทคนิคง่ายๆ ในการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน คือ

1. รู้จักใช้ สร้างความฝันอย่างชาญฉลาด

2. ตั้งเป้าหมาย วางแผนการทำงานให้รอบคอบ เพื่อความสำเร็จในผลงานนั้น

3. หาความรู้รอบตัวมาประยุกต์ใช้

4. รู้จักแบ่งขอบเขตเรื่องงานกับเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ

5. อย่าหยุดพัฒนาตนเอง

แม้บางเวลาอาจท้อถอย แต่หากเรายังมีฝัน เรายังมีพลังก้าวเดินต่อไป แรงจูงใจเป็นสิ่งกระตุ้นให้เราทุกคนทำความฝันให้เป็นจริง ที่สำคัญคือทำให้เราสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายในปัจจุบันด้วยรอยยิ้ม ด้วยความตั้งใจ บนพื้นฐานของความสำเร็จและเป้าหมายที่คาดหวังเอาไว้

  • ค้นหาแพทย์และนักบำบัด

  • โทรนัดหมายแพทย์
  • ติดต่อสอบถาม
  • แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

    7 วิธีการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน มีกำลังใจทำงานมากขึ้น

    สำหรับพนักงานออฟฟิศแล้ว เมื่อต้องทำงานเดิมๆ ซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน อาจทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่ท้าทายในงานที่ตัวเองกำลังทำ หรือที่เรามักจะเรียกติดปากกันว่า หมดไฟ นั่นเอง

    ภาวะหมดไฟนั้น มีผลเป็นอย่างมากต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงาน หากปล่อยไว้นานๆ เข้าก็อาจส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงาน รวมไปถึงมีอัตราที่จะย้ายงาน หรือลาออกค่อนข้างมาก

    มาพบกับ 7 วิธีสร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟให้พนักงานบริษัทของคุณมี Passion ที่จะทุ่มเทกับงาน เสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น!

    1. จัดอบรมเพิ่มความสามารถ สร้างแรงจูงใจให้พนักงาน

    หนึ่งในสิ่งที่ทำให้พนักงานรู้สึกหมดไฟนั้น อาจมาจากเหตุผลที่ว่า ไม่มีอะไรใหม่ให้เรียนรู้ จึงไม่มีความท้าทายในงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่

    เพราะฉะนั้น มาส่งเสริม และการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน ใหม่ให้พวกเขาผ่านการอบรม หรือสัมมนา สนับสนุนให้มีทักษะที่เพิ่มขึ้นเพื่อนำมาพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน รวมไปถึงความก้าวหน้าในสายอาชีพของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น

    • การอบรมภายใน หรือภายนอกองค์กร (In-house and Public Training): จัดอบรมเพื่อเพิ่มความรู้ และทักษะใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสายอาชีพ เพื่อนำมาปรับใช้ในการทำงาน
    • การหมุนเวียนงาน (Job Rotation): การสับเปลี่ยน หรือโยกย้ายตำแหน่งงานของพนักงานนั้น จะช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาตนเอง และมีทักษะที่หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเบื่อหน่ายของงานที่ทำอยู่ได้อีกด้วย

    แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

    2. สร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีในการทำงาน

    การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน สภาวะแวดล้อมโดยรอบของที่ทำงานนั้น ก็มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่จะลดความเบื่อหน่าย และสร้างแรงบันดาลในการทำงานของพนักงาน ยกตัวอย่างเช่น

    • อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การทำงาน: อย่างเช่น เก้าอี้เพื่อสุขภาพที่นั่งนานๆ ก็ไม่เมื่อย หรือคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยสร้างความสุขในการทำงานของพนักงานได้อย่างมากเลยทีเดียว
    • การตกแต่งออฟฟิศที่ร่มรื่น: อย่างเช่น การเพิ่มต้นไม้ ก็สามารถทำให้พนักงานสามารถพักสายตาจากการทำงานไปมองบรรยากาศที่ร่มรื่นภายในออฟฟิศได้
    • มุมพักผ่อนหย่อนใจ: จะดีแค่ไหนถ้าทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วมีโซฟานุ่มๆ ให้ทิ้งตัวลงไปนั่งเล่นพักผ่อน หรืออาจเสริมด้วยการเพิ่มชั้นหนังสือ หรือเครื่องเล่นเกม ให้พนักงานได้มีมุมที่สามารถผ่อนคลายจากภาระงานที่ตัวเองถือไว้ได้

    3. ปรับเวลาทำงานให้มีความยืดหยุ่น

    การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน เพราะพนักงานแต่ละคนมีช่วงเวลาที่ Productive ไม่เหมือนกัน การให้เวลากับพวกเขามากๆ จึงจะช่วยสร้างประสิทธิภาพ และแรงบันดาลที่ดีได้มากกว่า โดยการปรับเวลาการทำงานให้มีความยืดหยุ่น ดังนี้

    • เวลาการ เข้า-ออก ที่ยืดหยุ่น: อุปสรรคที่ทำให้หลายๆ คนท้อแท้กับการมาทำงาน นั่นก็คือการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนที่แออัด หากสามารถปรับเวลาการเข้า-ออกงานให้มีความยืดหยุ่นได้ จะช่วยลดความอึดอัดใจในการเดินทางมาทำงานได้เป็นอย่างมาก
    • ขยายเวลาพักทานอาหาร: บางทีการพักทานอาหารแค่ 1 ชั่วโมงนั้นก็อาจจะน้อยเกินไป หากลองคำนวณดีๆ กว่าที่ร้านจะทำอาหารเสร็จ กว่าจะเดินทางไป ก็ใช้เวลานานพอสมควรแล้ว เพราะฉะนั้น หากสามารถขยายเวลาในส่วนนี้ให้พวกเขามีเวลาได้พักผ่อนก่อนทำงานบ้าง จะช่วยให้งานออกมามีประสิทธิภาพได้มากขึ้น
    • วันลาหยุดที่สมเหตุสมผล: การให้พนักงานลาหยุดไปท่องเที่ยว หรือใช้เวลาของตัวเอง จะช่วยให้พวกเขาได้เติมพลัง และมีแรงที่จะกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น จะต้องไม่ลืมเตรียมวันหยุดพักร้อนให้สมเหตุสมผลกับที่พวกเขาจะได้รับ

    แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

    4. ให้ความสำคัญกับชิ้นงาน หรือความพยายามมากกว่ากฏระเบียบ

    หลายๆ บริษัทนั้นประเมินผลงานด้วยการทำตามระเบียบข้อบังคับ มากกว่าคุณภาพของงาน หรือความพยายามที่พนักงานได้แสดงให้เห็น ซึ่งเป็นการตัดกำลังใจของพนักงานลงเป็นอย่างมาก

    มีเสียงจากพนักงานบริษัทจำนวนมากที่บอกว่าบริษัทของพวกเขานั้นมองข้ามความพยายามของพวกเขา และโฟกัสไปที่เรื่องของกฏระเบียบมากจนดูเหมือนการจับผิด เช่น กฏระเบียบในการแต่งตัว กฏระเบียบด้านการใช้โทรศัพท์มือถือในการทำงาน ฯลฯ ซึ่งหลายๆ เรื่องก็ดูเป็นกฏระเบียบเล็กน้อยที่สามารถอนุโลมได้

    เพราะฉะนั้น การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานอย่าประเมินโดยมองไปที่กฏระเบียบข้อบังคับเพียงอย่างเดียว หากพวกเขาทำผิดกฏก็สามารถว่ากล่าวตักเตือนได้ แต่อย่าให้มันมาบังความพยายามที่พวกเขาทำ และบริษัทของคุณจะเป็นที่รักของพนักงานมากทีเดียว

    5. จัดกิจกรรม หรืองานเลี้ยงสังสรรค์กระชับมิตร

    ใครล่ะจะไม่อยากทำงานในที่ที่มีแต่เพื่อนฝูงรายล้อม ในบางครั้งการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานก็อาจสร้างได้จากการเข้าสังคม จึงเป็นเหตุผลที่ควรมีกิจกรรม หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของเหล่าพนักงานในออฟฟิศเข้าด้วยกัน

    การมีเพื่อนที่สามารถสนิทใจกันได้ภายในที่ทำงาน จะทำให้ไม่รู้สึกเหมือนตัวเองต้องทำงานคนเดียว และมีคนคอยหนุนหลัง คอยรับฟัง ช่วยเหลือ และแชร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่หมดไฟในการทำงานง่ายๆ

    แรงจูงใจในการทํางาน มีอะไรบ้าง

    6. รางวัลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ

    การสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน แน่นอนว่าเงินเดือนนั้น เป็นเหมือนกำลังใจหล่อเลี้ยงตอบแทนความพยายามในการทำงานของพวกเขา จึงสามารถคิดได้ง่ายๆ ว่าถ้ามีรางวัลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ พวกเขาก็ย่อมมีแรงบันดาลใจในการทำงาน เช่น การขึ้นเงินเดือนรายปี หรือโบนัสประจำปี

    7. สวัสดิการที่สนับสนุนความมั่นคงในชีวิต

    ความมั่นคงในชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ว่าใครก็อยากมีในอนาคต ซึ่งการสนับสนุนจากบริษัทนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขามีแรงบันดาลใจในการทำงาน ยกตัวอย่างเช่น

    หลายๆ คนมักที่จะมีปัญหาด้านการเก็บออมเงินไว้ แต่หากบริษัทมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่เป็นการออมเงินเอาไว้เผื่ออนาคต จะทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจที่จะทำงาน โดยรู้ว่ามีเงินทุนหนุนหลังเอาไว้เป็นจำนวนหนึ่งแล้ว

    โดยปกติพนักงานประจำจะมีหลักประกันคุ้มครองสุขภาพโดยประกันสังคมอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ครอบคลุมทุกกรณี รวมไปถึงการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุนั้นเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งเงินที่พวกเขาต้องจ่ายในแต่ละครั้งก็ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

    หากมีประกันสุขภาพแบบกลุ่มที่ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายจากการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะช่วยให้พนักงานเห็นว่าคุณเอาใจใส่ดูแลพวกเขาดีแค่ไหน และรู้สึกปลอดภัย อยากอยู่กับบริษัทของคุณไปอีกนาน

    หากคุณคือเจ้าของบริษัทที่กำลังมองหาสวัสดิการเพื่อสุขภาพให้กับพนักงานของคุณ Cigna มีประกันสุขภาพแบบกลุ่มที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรของคุณ

    • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
    • ประกันสุขภาพแบบกลุ่ม

    ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในประกันสุขภาพที่ยาวนานในหลายประเทศ Cigna พร้อมที่จะให้บริการแก่บริษัท และพนักงานของคุณด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับโลก พร้อมมอบความคุ้มครองค่าใช้จ่ายดังตัวอย่างต่อไปนี้

    • ค่ารักษาพยาบาล และค่ายา
    • ค่าห้อง ค่าอาหาร
    • ค่ารถพยาบาล
    • ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    • ค่าผ่าตัด
    • ค่าแพทย์

    นอกจากนี้ยังมีแผนความคุ้มครองเพิ่มเติมให้คุณเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ตามความต้องการขององค์กร

    หากคุณสนใจแผนประกันกลุ่มของ Cigna เพื่อความคุ้มครองที่ดียิ่งขึ้นสำหรับพนักงานในองค์กร สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือติดต่อฝ่ายขายองค์กรได้ที่