ธุรกิจ E-Business มี อะไรบ้าง

E-business คืออะไร

ธุรกิจ E-Business มี อะไรบ้าง

e-Business คือ การดำเนินกิจกรรมทาง “ธุรกิจ”ต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและอินเทอร์เน็ต เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจ มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของคู่ค้า และลูกค้าให้ตรงใจ และรวดเร็วและเพื่อลดต้นทุน และขยายโอกาสทางการค้า และการบริการ เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลจะมีคำศัพท์ที่ได้ยินบ่อยๆ อาทิ

1. BI=Business Intelligence : การรวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านตลาด ข้อมูลลูกค้า และ คู่แข่งขัน
2. EC=E-Commerce : เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เกิดการสั่งซื้อ การขาย การโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต
3. CRM=Customer Relationship Management : การบริหารจัดการ การบริการ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจกับทั้งสินค้า บริการ และ บริษัท – ระบบ CRM จะใช้ไอทีช่วยดำเนินงาน และ จัดเตรียมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการบริการลูกค้า
4. SCM=Supply Chain Management : การประสาน ห่วงโซ่ทางธุรกิจ ตั้งแต่แหล่งวัตถุดิบ ผู้ผลิต ผู้จัดส่ง ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก จนถึงมือผู้บริโภค
5. ERP=Enterprise Resource Planning : กระบวนการของสำนักงานส่วนหลัง และ การผลิต เช่น การรับใบสั่งซื้อการจัดซื้อ การจัดการใบส่งของ การจัดสินค้าคงคลัง แผนและการจัดการการผลิต– ระบบ ERP จะช่วยให้ประบวนการดังกล่าวมีประสิทธิภาพและลดต้นทุน

E-Commerce คืออะไร

E-Commerce มีชื่อที่แปลเป็นภาษาไทยว่า “พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” โดยความหมายของคำว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีผู้ให้คำนิยามไว้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีคำจำกัดความใดที่ใช้เป็นคำอธิบายไว้อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีดังนี้
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์” (ศูนย์พัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2542)”

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์” (WTO, 1998)

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ ธุรกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทั้งในระดับองค์กรและส่วนบุคคล บนพื้นฐานของ การประมวลและการส่งข้อมูลดิจิทัลที่มีทั้งข้อความ เสียง และภาพ” (OECD, 1997)

จากความหมายของ e-business กับ e-commerce จะเห็นได้ว่าสองคำนี้มีความหมายที่ใกล้เคียงกัน แต่อันที่จริงแล้วมีความหมายต่างกัน โดย e-business สรุปความหมายได้ว่าคือ การทำกิจกรรมทุกๆอย่าง ทุกขั้นตอนผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีขอบเขตกว้างกว่า แต่ e-commerce จะเน้นที่การซื้อขายสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนตเท่านั้น

E-Commerce ย่อมาจากคำว่า Electronic Commerce แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการทำธุรกิจโดยซื้อขายสินค้าหรือโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อกลางในการใช้งานที่มากที่สุดในปัจจุบัน คืออินเตอร์เน็ตนั่นเอง การทำธุรกิจแบบE-commerce สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง และทำให้ลดค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี ผู้บริหารหลายๆคนจึงนิยมใช้E-Commerce แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งการทำธุรกิจต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่ายคือผู้ซื้อและผู้ขาย คณะบริหารธุรกิจจึงจะมาอธิบายว่ารูปแบบการทำธุรกิจของ E-Commerce มีอะไรบ้าง

หลายคนที่จะหันมาทำธุรกิจออนไลน์อาจจะยังมีคำถามมากมาย ธุรกิจ e-Commerce คืออะไร การเติบโตของธุรกิจนี้ยังจะมีโอกาสและเหมาะกับการลงทุนอยู่หรือไม่ ในวันที่หลายคนก็ทันมาทำธุรกิจออนไลน์เป็นอาชีพเสริมและอาชีพหลักกันหมด ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักธุรกิจ e-Commerce และโอกาสทางการเติบโตในประเทศไทยกัน

e-Commerce คืออะไร

e-Commerce หรือที่รู้จักกันในชื่อ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการทำธุรกิจซื้อ – ขาย และเปลี่ยนสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม   หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ซึ่งการซื้อขายทางออนไลน์เริ่มเป็นเทรนด์ที่หลายคนเคยใช้บริการกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคที่อินเทอร์ได้รับการพัฒนาในช่วงแรก ๆ และยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับการพัฒนาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เมื่อมีอินเทอร์เน็ตและสินค้าค้าในมือ การเริ่มเป็นเจ้าของธุรกิจ e-Commerce ก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป

6 ประเภทธุรกิจ e – Commerce 

  1. ธุรกิจ B2C ( Business to Consumer )  คือการทำธุรกิจซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคโดยตรง เช่นการขายสินค้า เสื้อผ้า อาหาร เป็นต้น
  1. ธุรกิจ B2B (Business to Business) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้ประกอบการ อย่างการขายส่งสินค้าจากโรงงานไปยังห้างร้านสำหรับนำไปขายให้ผู้บริโภค เป็นต้น
  1.  ธุรกิจ B2G (Business to Government) คือการทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ ซึ่งจะเป็นในด้านการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่จำเป็นสำหรับการใช้สอยภายในหน่วยงานผ่านทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
  1. ธุรกิจ C2C (Consumer to Consumer) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้บริโภคและผู้บริโภคด้วยกัน เช่นการซื้อ – ขาย สินค้ามือ 2 เป็นต้น
  1. ธุรกิจ G2C (Government to Consumer)  คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและประชาชน เช่นการใช้บริการต่าง ๆ ของภาครัฐผ่านทางอินเทอร์เน็ต การเสียภาษีออนไลน์ จดทะเบียนการค้า เป็นต้น

6. ธุรกิจ G2G (Government to Government) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและภาครัฐ การทำข้อตกลงหรือการแรกเปลี่ยนข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

โอกาสของธุรกิจ e – Commerce ในไทย โตติดอันดับ 1 ในอาเซียน 

การเติบโตของธุรกิจ e-commerce ยังคงมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่พัฒนามากขึ้นในทุก ๆ วันและปริมาณประชาชนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะจากปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการระบาดของโรค Covid – 19 ทำให้ความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น จากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปี 2563 โดย ETDA (สำนักงานพัฒนาธุรกกรมทางอิเล็กทรอนิกส์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เพิ่งเผยออกมาว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 11 ชั่วโมง 25 นาที เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 1 ชั่วโมง 3 นาทีเลยทีเดียว

อีกทั้งรายงานผลสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ปี 2562 ยังพบตัวเลขที่เป็นสัญญาณที่ดีอีกว่า ในปี 2562 ธุรกิจ e-commerce มีมูลค่าการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 4,027,277 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2561 กว่า 6.911 % และโตติดอันดับที่ 1 ในอาเซียนอีกด้วย

e – Commerce ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศษฐกิจไทย

ในปี 2020 ที่ประชาชนหลายคนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตและวิถีการทำธุรกิจไปอย่างกะทันหันด้วยสถานการณ์ Covid – 19 ที่ทำให้เศรษฐกิจการซื้อขายสินค้าผ่านทางหน้าร้านต้องหยุดชะงัก แต่ด้วยเทคโนโลยี้อินเทอร์เน็ตที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก็ได้เปิดโอกาสให้เศษรฐกิจได้เดินหน้าต่อไปด้วยการหันมาทำธุรกิจ e – Commerce ซื้อ – ขายสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านทางออนไลน์แทน และได้กลายเป็นแนวทางธุรกิจและแนวทางการช้อปที่ประชาชนหลายคนปรับตัวให้สอดรับตามมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

รู้จักฟีเจอร์ของเรา             สมัครสมาชิก

4 ประโยชน์ของ e-Commerce ต่อผู้ซื้อและผู้ขาย

  • เพิ่มตัวเลือก ลดโอกาสผูกขาด

ธุรกิจ e-Commerce ช่วยเพิ่มตัวเลือกในการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภคมาขึ้น เกิดสินค้าใหม่ ๆ ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแข่งขันกันในตลาด ลดโอกาสผูกขาดสินค้าของนายทุนเจ้าใหญ่ ๆ 

  • เปรียบเทียบราคา ได้สินค้าราคาถูก 

เมื่อไม่มีการผูกขาดสินค้า ก็จะทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกมากยิ่งขึ้น มีสินค้าที่หลากหลายให้เปรียนเทียบกันในด้านราคาและคุณภาพ เกิดการแข่งขันภายในธุรกิจที่ต้องผลิตของที่คุณภาพดีและราคาเหมาะสมออกมาสู่ท้องตลาดมากขึ้น

  • กระตุ้นเศรษฐกิจในยุคโควิด ให้ก้าวต่อไปได้ 

แม้การขายสินค้าผ่านทางหน้าร้านจะต้องหยุดชะงัก แต่การขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ยังคงคึกคัก ผู้ขายสามารถทำธุรกิจและส่งตรงสินค้าสู่ผู้บริโภคได้ง่าย และอาจจะขยายฐานลูกค้าออกไปได้มากขึ้นอีกด้วย

  • กระตุ้นการปรับตัวของผู้บริโภค สู่สังคมไร้เงินสด 

ผู้บริโภคสามารถปรับตัวสู่การซื้อสินค้าออนไลน์และการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่มีความสะดวกสบายกว่าได้อย่างดี ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจ e-Commerce ที่สามารถเติบโตต่อไปได้จากการปรับตัวนี้เอง

แม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ว่าจะขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Social Commerce หรือ e-Marketplace นอกจากการเลือกขายบนช่องทางที่สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างถูกต้องแล้ว การบริการหลังการขายก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าเสริมระบบหลังบ้านให้พร้อมขายในทุกช่องทางกับ Fillgoods ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ จัดสต๊อกและออเดอร์ง่าย เรียกขนส่งสะดวก รับ COD รวดเร็ว เพื่อการขายอย่างคล่องตัวไม่มีสะดุด ขายช่องทางไหนก็รับมือได้ไม่มีเหนื่อย

E

ประเภทของ E-commerce 1. Business to Business – B2B) 2. Business to Consumer - B2C 3. Business to Government – B2G 4. Consumer to Consumer - C2C 5. Government to Consumer -G2C 6. Government to Government -G2G.

E

e-Business นั้น คือ การดำเนินกิจกรรมทาง “ธุรกิจ”ต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและอินเทอร์เน็ต เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจ มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของคู่ค้า และลูกค้าให้ตรงใจ และรวดเร็วและเพื่อลดต้นทุน และขยายโอกาสทางการค้า และการบริการ

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์คืออะไร มีความสําคัญอย่างไรในปัจจุบัน

ประโยชน์ของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร ลดค่าใช้จ่ายของสำนักงาน อาทิเช่น กระดาษ จดหมาย เป็นต้น เพิ่มช่องทางในการขยายตลาด เช่น การเปิดร้านค้าออนไลน์ ซึ่งสามารถให้บริการกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถขายสินค้าได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างธุรกิจ E

สินค้าอะไรขายผ่าน E-commerce ได้บ้าง?.
สินค้าที่จับต้องไม่ได้ หรือสินค้าดิจิทัล (Digital Good) เช่น แอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ เพลง หนัง รูปภาพ รหัส หรือไอเท็มในเกม.
บริการ เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก บริการสปา คลินิกเสริมความงาม.