ประเทศที่อันตรายที่สุด สํา ห รับ ผู้หญิง

อินเดียขึ้นแท่นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลกสำหรับผู้หญิงจากการจัดอันดับในรายงานฉบับล่าสุดของมูลนิธิ Thomson Reuters เนื่องจากมีอัตราความเสี่ยงสูงของการประทุษร้ายทางเพศและใช้แรงงานหนัก ขณะที่อัฟกานิสถานและซีเรียซึ่งติดหล่มปัญหาความไม่สงบภายในประเทศตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ส่วนสหรัฐอเมริกาติดอันดับ 10

 

การสำรวจโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจำนวน 550 ชีวิต พบว่าอินเดียเป็นชาติที่มีอัตราการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงสูง นอกจากนี้ยังมีปัญหาการบังคับแต่งงาน การใช้ผู้หญิงเป็นทาสทางเพศ และการค้ามนุษย์เพื่อใช้แรงงาน

 

ที่ผ่านมาอินเดียมีสถิติการก่อคดีข่มขืนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและนับวันจะยิ่งเลวร้ายลง โดยเมื่อไม่นานนี้ก็มีคดีข่มขืนเด็กและเยาวชนอายุ 8 และ 16 ปี ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับประชาชนจนออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผลักดันปัญหาทารุณกรรมทางเพศเป็นวาระสำคัญของชาติ

 

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประชาชนอินเดียหลายพันคนได้รวมตัวกันประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายที่เข้มงวดพร้อมบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นเพื่อปกป้องผู้หญิงจากการถูกคุกคามทางเพศ การประท้วงครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดคดีข่มขืนนักศึกษาบนรถประจำทางในกรุงนิวเดลีเมื่อปี 2012

 

แม้ว่ารัฐสภาอินเดียจะผ่านกฎหมายเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นทั้งการขยายโทษจำคุกและโทษประหารชีวิต แต่สถิติการเกิดคดีความรุนแรงทางเพศยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 100 คดีในปัจจุบัน และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติปัญหาอาชญากรรมแห่งชาติของอินเดีย พบว่ามีการแจ้งความเรื่องการประทุษร้ายทางเพศผู้หญิงเกือบ 39,000 ครั้งในปี 2016 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 12% จากปีก่อนหน้า

 

สำหรับ 10 อันดับแรกของประเทศที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้หญิงในรายงานของ Thomson Reuters ได้แก่

 

  1. อินเดีย
  2. อัฟกานิสถาน
  3. ซีเรีย
  4. โซมาเลีย
  5. ซาอุดีอาระเบีย
  6. ปากีสถาน
  7. สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
  8. เยเมน
  9. ไนจีเรีย
  10. สหรัฐอเมริกา

 

อ้างอิง:

  • edition.cnn.com/2018/06/25/health/india-dangerous-country-women-survey-intl/index.html?utm_content=2018-06-26T05%3A15%3A04&utm_term=image&utm_source=twCNNi&utm_medium=social

    อันดับที่ 10 เอสโตเนีย 🇪🇪 | 0.873 คะแนน

    อันดับที่ 9 แคนาดา 🇨🇦 | 0.876 คะแนน

    อันดับที่ 8 เนเธอร์แลนด์กับสวีเดน 🇳🇱🇸🇪 | 0.879 คะแนน

    อันดับที่ 7 ลักเซมเบิร์ก 🇱🇺 | 0.880 คะแนน

    อันดับที่ 6 สหราชอาณาจักร 🇬🇧 | 0.883 คะแนน

    สำหรับทั้ง 8 ปัจจัยประกอบด้วย การกระทำชำเราทางเพศของคู่ครอง / ความไม่เท่าเทียมทางเพศ / การที่ผู้หญิงถูกกีดกันทางความคิด / การเลือกปฏิบัติทางกฎหมาย / การเดินทางยามวิกาล / เหตุข่มขื่น / ความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย และ ก่อเหตุฆาตรกรรมโดยเจตนา

    อีกมุมของ “เกาะเต่า” ที่ถูกขนานนามว่า “สวรรค์ของนักดำน้ำ”

    เปิดแฟ้มคดีชาวต่างชาติจบชีวิตบน “เกาะเต่า”

    และประเทศไทย จัดอยู่ในลำดับที่ 10 ด้วยคะแนน D+ โดยมี 3 ปัจจัยที่ผลสำรวจมองว่าอยู่ในระดับ 75-100 ที่อันตรายที่สุด คือ การกระทำชำเราทางเพศของคู่ครอง / ความไม่เท่าเทียมทางเพศ และ การที่ผู้หญิงถูกกีดกันทางความคิด นอกจากนี้ ยังมีระดับความอันตราย 50-75 คือการเลือกปฏิบัติทางกฎหมาย ส่วนการเดินทางยามวิกาล  เหตุข่มขื่น และความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย อยู่ในระดับ 25-50 คะแนน ส่วนคะแนนที่น้อยที่สุดคือ 0-25 สำหรับประเทศไทยมีเพียงข้อเดียวคือ ก่อเหตุฆาตรกรรมโดยเจตนา

    ประเทศที่อันตรายที่สุด สํา ห รับ ผู้หญิง

    ขณะที่ประเทศที่ถูกจัดอันดับว่า อันตรายสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวมากที่สุด คือ เซาท์แอฟริกา ซึ่งอยู่ในเกรด  F  ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีความปลอดภัยทางการเดินทางบนท้องถนนหรืออื่นๆ ซึ่งมักถูกเตือนไม่ให้ขับรถหรือไปไหนมาไหนคนเดียว โดยในอดีตมีการปฏิบัติอย่างโหดร้ายกับผู้หญิง โดยระดับความอันตราย สีแดง หรือ 75-100 คะแนน มีทั้งความอันตรายในการเดินทางตอนกลางคืน เหตุฆาตรกรรม การข่มขื่น ขณะที่ ระดับความอันตราย 50-75 (สีส้ม) และสีเหลือง 25-50 คะแนน มีทั้ง การกระทำชำเราทางเพศของคู่ครอง ความไม่เท่าเทียมทางเพศ และการที่ผู้หญิงถูกกีดกันทางความคิด การเลือกปฏิบัติทางกฎหมาย และความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย

    "อินเดีย" ครองแชมป์ประเทศที่เป็นอันตรายสำหรับผู้หญิง

    “ฟินแลนด์” ครองแชมป์ประเทศน่าเที่ยวธรรมชาติที่สุด

    ประเทศที่อันตรายที่สุด สํา ห รับ ผู้หญิง

    ลำดับที่ 2 คือ ประเทศบราซิล อยู่ในระดับ D- ตามด้วย รัสเซีย  เม็กซิโก และอิหร่าน ตามลำดับ โดยทั้ง 3 ประเทศ อยู่ในลำดับ เกรด D แต่เป็นที่สังเกตว่าไม่มีประเทศไหนได้เกรด A ตามผลสำรวจ แต่มี 3 ประเทศที่ได้ระดับ B+ คือ ไอร์แลนด์  สิงคโปร์ และสเปน

    ประเทศที่อันตรายที่สุด สํา ห รับ ผู้หญิง

    และเมื่อวิเคราะห์ให้ลึกลงไปอีก มี 2 เหตุผลในมุมมองของนักท่องเที่ยวที่มีต่อประเทศไทย มองว่า ยังประเทศที่ผู้ชายมีความคิดเป็นใหญ่ รวมถึง ยังมีความรุนแรงในครอบครัวและชีวิตคู่สูง

    ผลสำรวจจาก World Population Review ปี 2022 เผยว่า ‘ประเทศไทย’ ติดอันดับ 10 เมืองอันตรายที่สุดในโลกสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิง จากทั้งหมด 50 ประเทศทั่วโลก โดยรวบรวมข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่สำรวจความคิดเห็นผู้หญิงชาวอเมริกันที่เคยเดินทางท่องเที่ยวภายในหนึ่งปี ไม่ว่าจะไปคนเดียวหรือไปหลายคน ทั้งหมดประมาณ 32 ล้านคน 

    ประเทศที่อันตรายที่สุด สํา ห รับ ผู้หญิง
    ประเทศที่อันตรายที่สุด สํา ห รับ ผู้หญิง

    เกณฑ์การให้คะแนนพิจารณาจากสภาพแวดล้อมและสังคมเป็นหลัก เช่น ความไม่ปลอดภัยบนท้องถนน การเลือกปฏิบัติทางกฎหมาย ความรุนแรงทางเพศ ความไม่เท่าเทียมทางเพศ และทัศนคติต่อความรุนแรง ซึ่งคะแนนเต็มทั้งหมด 800 คะแนน โดยผลสรุป 10 อันดับแรกจากทั้งหมด 50 ประเทศทั่วโลก ได้แก่

    – อันดับ 1 แอฟริกาใต้ 772 คะแนน 
    – อันดับ 2 บราซิล 624 คะแนน 
    – อันดับ 3 รัสเซีย 593 คะแนน 
    – อันดับ 4 เม็กซิโก 576 คะแนน 
    – อันดับ 5 อิหร่าน 553 คะแนน 
    – อันดับ 6 สาธารณรัฐโดมินิกัน 551 คะแนน 
    – อันดับ 7 อียิปต์ 547 คะแนน 
    – อันดับ 8 โมร็อกโก 543 คะแนน 
    – อันดับ 9 อินเดีย 541 คะแนน
    – อันดับ 10 ไทย 533 คะแนน

    ทางสัญจรอันตราย

    เมื่อวิเคราะห์ในรายละเอียดจะพบว่า ด้านความไม่ปลอดภัยบนท้องถนนของไทยได้ 45 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน แม้ว่าตัวเลขอาจจะดูไม่สูงมากนัก แต่เมื่อดูข้อมูลชาวต่างชาติที่บาดเจ็บจากท้องถนนไทยก็นับว่ามีจำนวนไม่น้อย

    อ้างอิงจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ (Thai RSC) เผยจำนวนนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บบนท้องถนนปี 2022 มีทั้งหมด 6,427 คน และเสียชีวิต 482 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับตัวเลขปี 2021 ที่มีนักท่องเที่ยวได้รับอุบัติเหตุ 3,611 คน และเสียชีวิต 357 คน

    หากสังเกตข่าวในหลายปีที่ผ่านมา เช่น นักปั่นจักรยานชาวต่างชาติเสียชีวิตในไทย หรือปั่นจักรยานชมเมืองแต่โดนรถชนจนบาดเจ็บหนัก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักได้รับอุบัติเหตุจากการสัญจร เช่น ป้ายสัญญาณเตือนต่างๆ บอกข้อมูลไม่ชัดเจน สัญญาณไฟจราจรที่คนท้องถิ่นมักรู้กันเอง หรือสี่แยกวัดใจที่ไม่มีการควบคุมการจราจร

    มากไปกว่านั้นคือ เรื่องกฎหมายที่ไม่เคร่งครัด ส่งผลให้คนขับไม่ระมัดระวังในการสัญจร และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่ายมากขึ้น ยิ่งผู้ถูกกระทำเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆ ในไทยก็อาจจะทำให้เสียเปรียบในการร้องเรียนหรือเอาผิดกับผู้กระทำได้

    ความรุนแรงเต็ม 100

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ในด้านทัศนคติต่อความรุนแรงของไทยได้คะแนนเต็ม 100 อย่างการใช้ความรุนแรงทางวาจาและร่างกาย เช่น การรุมซ้อมทำร้ายร่างกาย การเหยียดเพศหรือเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่น เหล่านี้สร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้หญิงในการท่องเที่ยว ยิ่งช่วงกลางคืนยิ่งรู้สึกไม่สบายใจในการออกไปเที่ยวข้างนอก เพราะกังวลว่าจะถูกชิงทรัพย์หรือโดนคุกคามทางเพศ

    อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าเป็นห่วงนั่นคือ ความรุนแรงทางเพศของคู่นอนได้ 98 คะแนนเต็มร้อย ข้อมูลนี้สะท้อนถึงชาวต่างชาติถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างไม่เต็มใจ หรือได้รับความรุนแรงจากคู่รัก ซึ่งสร้างภาพจำไม่ดีเกี่ยวกับคนไทยมากเข้าไปอีก

    สภาพแวดล้อมดีและมีกฎเคร่งครัด

    เมื่อเปรียบเทียบกับ 5 อันดับประเทศที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวอเมริกัน ได้แก่ อันดับ 1 สเปน อันดับ 2 สิงคโปร์ อันดับ 3 ไอร์แลนด์ อันดับ 4 ออสเตรีย และอันดับ 5 สวิตเซอร์แลนด์ เหล่านี้ล้วนเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมเมืองปลอดภัย ด้วยระบบการสัญจรที่มีมาตรฐาน การใช้กฎหมายที่เคร่งครัด รวมถึงผู้คนที่เป็นมิตร ไม่หลอกลวงหรือทำร้ายร่างกายคนอื่น ผ่านสถิติอุบัติเหตุและเหตุการณ์ความรุนแรงมีจำนวนน้อย

    ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เห็นภาพง่ายๆ ใกล้บ้านเรา อย่างประเทศสิงคโปร์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง ‘Universal Design’ ซึ่งเป็นการออกแบบสำหรับคนทุกกลุ่ม เช่น ขนส่งสาธารณะ ทางเดินเท้า หรือป้ายสัญลักษณ์บอกข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน 

    มากไปกว่านั้น สิงคโปร์ยังมีกฎหมายควบคุมเมืองที่เคร่งครัด เช่น เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนแรง มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี หรือเสียค่าปรับประมาณ 25,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ รวมถึงควบคุมการเกิดอุบัติเหตุโดยติดกล้อง CCTV ทั่วทั้งเมือง หากขับรถชนจนคนเสียชีวิต ก็มีสิทธิ์ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี ปรับเงิน 80,000 บาท และถูกสั่งห้ามขับรถตลอดชีวิต

    ทั้งนี้ ข้อมูลการจัดอันดับดังกล่าวเป็นผลสำรวจของนักท่องเที่ยวผู้หญิงชาวอเมริกันเพียงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่จำนวนทั้งหมดทั่วโลก แต่อย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นว่า ในสายตาคนภายนอกที่มองเข้ามาบ้านเรา มีหลายคนที่รู้สึกอันตรายที่จะเข้ามาท่องเที่ยว แม้ว่าภาพโฆษณาท่องเที่ยวประเทศไทยจะสวยหรู แต่หากปัญหาต่างๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระยะยาว ก็คงไม่มีใครอยากมาซ้ำสองให้เจ็บใจอีกครั้ง