มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

รถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ รถแต่ละรุ่นก็จะมีระบบการขับเคลื่อนที่ไม่เหมือนกัน โดยระบบการขับเคลื่อนของรถจักรยานยนต์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระบบ คือ ระบบลูกโซ่และระบบสายพาน ซึ่งจะหมายถึงการทำงานและความคงทนที่แตกต่างกันรวมทั้งการบำรุงรักษาและลักษณะการใช้งานอีกด้วย

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

สายพานกับโซ่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างอย่างไร

สายพาน – รถจักรยานยนต์ที่ใช้สายพานจะเป็นรถประเภทออโตเมติกหรือที่ชอบเรียกกันว่ารถ เกียร์ออโต้ รถที่ขับเคลื่อนโดยใช้สายพานจะขับง่ายกว่ารถเกียร์ธรรมดา เพราะไม่ต้องเข้าเกียร์เองบิดคันเร่งอย่างเดียว ชุดชามและสายพานจะปรับระดับเองตามความเร็วของรถจักรยานยนต์ ทำให้คนส่วนมากนิยมใช้รถแบบสายพานหรือรถออโตเมติกกันมากกว่า

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

ข้อดี – สายพานการขับเคลื่อนจะมีอัตราการเร่งที่ดีกว่า เวลาขับเคลื่อนรถที่ใช้สายพานจะมีเสียงที่เบากว่าโซ่ และมีน้ำหนักที่น้อยกว่าและสายพานทนอุณหภูมิได้ต่ำกว่า

ข้อเสีย -คือสายพานจะ มีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าโซ่ ราคาสายพานต่อเส้นจะแพงกว่า ถ้าสายพานมีการชำรุดไม่สามารถซ่อมได้ต้องหาสายพานเส้นใหม่มาเปลี่ยนอย่าง เดียว

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

โซ่-ชิ้นส่วนของระบบขับเคลื่อนน้อยกว่า แต่มีเฟืองเกียร์ คันเกียร์ ระบบโซ่สามารถซ่อมได้ง่ายอะไหล่ไม่แพง 1 ปีก็เปลี่ยน 1 ครั้ง

ข้อเสีย – แบบโซ่ผู้ขับขี่ต้องใช้ทักษะในการใช้งานที่ค่อนข้างสูง ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์เอง การบำรุงรักษายุ่งยากกว่าแบบสายพานเพราะ โซ่ต้องปรับตั้งความตึง และหยอดน้ำมันหล่อลื่น   เสียงดังเวลาโซ่แห้ง อาจจะดีดกระเด็นเลอะเวลา หยอดน้ำมันมากไป เวลาขัลขี่โซ่จะส่งเสียงที่ดังกว่ารถที่ใช้สายพาน

ประเภทของเกียร์มอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันมีด้วยกันอยู่หลายแบบ แต่มอเตอร์ไซค์ขนาดกลางถึงขนาดเล็กรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะใช้ระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT (Continuously Variable Transmission) กันเกือบหมดแล้ว ด้วยความประหยัด ขับง่าย คล่องตัว อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ให้ปวดหัวจึงทำให้ระบบ CVT ได้รับความนิยมมากกว่าเกียร์ประเภทอื่นๆ 

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

แต่นอกจากระบบ CVT ที่หลายๆ คนคุ้นหูกันดีแล้วนั้น ก็ยังมีเกียร์แบบอื่นๆ อีก เราไปดูกันครับว่า ประเภทของเกียร์มอเตอร์ไซค์นั้นมีอะไรกันบ้าง

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

ประเภทของเกียร์มอเตอร์ไซค์

ระบบเกียร์ที่นิยมใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ 

1. แบบใช้คลัตช์ แบบนี้จะต้องกำคลัตช์มือที่แฮนด์ด้านซ้ายทุกครั้งที่เข้าเกียร์ เริ่มตั้งแต่ออกตัวก็ต้องเลี้ยงคลัตช์เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับ แบบนี้คล้ายกับในรถยนต์เกียร์ธรรมดา และวิธีการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์อาจดูสับสนสำหรับผู้เริ่มขับใหม่ เพราะการตบคันเกียร์ที่เท้าซ้ายจะเป็นลักษณะเกียร์ที่ 1 จะตบลงก่อน ในเกียร์ที่ 2 จะงัดขึ้นบนโดยจะรู้สึกว่าจังหวะคันเกียร์จะผ่านช่วงเกียร์ว่างแล้วค่อยขึ้นมาตำแหน่งเกียร์ 2 และใช้วิธีการงัดขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเกียร์สุดท้าย

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ระบบเกียร์มีคลัตช์มือ เช่น BMW HP4, Honda CBR 150R, Kawasaki Z250, Duciti, triumph เป็นต้น

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

และเมื่อต้องการลดเกียร์ลงตามความเร็วก็จะต้องตบคันเกียร์ลงตามลำดับไล่จากเกียร์สูงสุดลงมาเรื่อยๆ จนถึงเกียร์ว่าง หรือส่วนมากจะตบลงมาที่เกียร์ 1 ก่อน แล้วงัดขึ้นเบาๆ ให้อยู่ระหว่างเกียร์ 1 กับเกียร์ 2 นั่นคือตำแหน่งเกียร์ว่างพอดี

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

2. แบบไม่ใช้คลัตช์ แบ่งหลักการทำงานได้เป็น 2 ระบบ

2.1 คลัตช์เปียก จะมีชุดคลัตช์หลายๆ แผ่นแช่น้ำมันเกียร์อยู่ภายในเรือนเกียร์ เมื่อต้องการเข้าเกียร์ 1 สามารถตบคันเกียร์ลงได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คลัตช์ที่แฮนด์ซ้าย (ซึ่งไม่ได้ติดตั้งมาให้) และเมื่อต้องการเข้าเกียร์ 2, 3, 4 ก็ตบลงไปเรื่อยๆ จนถึงจังหวะเกียร์สุดท้าย หากต้องการจะลดเกียร์ลงตามความเร็ว ก็ใช้เท้าตบคันเกียร์ในส่วนด้านหลัง หรือบางคนถนัดใช้เท้างัดคันเกียร์ด้านหน้าขึ้นก็ย่อมได้ จนถึงจังหวะเกียร์ว่าง แต่ในรถรุ่นใหม่ๆ จะเป็นระบบเกียร์วนนั่นคือ เมื่อผู้ขี่ต้องการลดความเร็วลงจนจอดสนิท โดยที่ค้างตำแหน่งเกียร์สุดท้ายเอาไว้ เมื่อรถหยุดสนิทจะสามารถตบคันเกียร์ด้านหน้าลง ระบบเกียร์จะกลับเป็นเกียร์ว่างให้ทันที่ (รถต้องจอดสนิทเท่านั้น)

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา
    

2.2 ระบบ Continuously Variable Transmission หรือที่เราเรียกกันว่า CVT ระบบนี้ผู้ขี่จะไม่ต้องเข้าเกียร์ กำคลัตช์ เพียงแค่บิดคันเร่งเท่านั้น รถจะไต่ระดับความเร็วตามที่เราบิดคันเร่ง เมื่อต้องการลดความเร็ว ระบบเกียร์ CVT ก็จะลดอัตราแปรผันให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงเพียงแค่ควบคุมคันเร่ง บังคับรถ และเบรกเท่านั้น ซึ่งเกียร์แบบ CVT นี้จะมีระบบความปลอดภัยมาให้คือ ก่อนสตาร์ตรถจะต้องกำเบรกที่แฮนด์ก่อน (ก้านเบรกที่แฮนด์ซ้าย)

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

มอเตอร์ไซค์ เกียร์ออโต้ กับ เกียร์ธรรมดา

สำหรับมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันที่เป็นคลัตช์เปียกหรือระบบเกียร์วน ก็จะมี Honda Wave, Suzuki Smash, Yamaha Spark เป็นต้น ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ระบบเกียร์ CVT ตัวอย่างเช่น Honda Scoopy-i, Yamaha Fino, Suzuki Nex, Vespa เป็นต้น 

จะเห็นได้ว่า มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันนั้นมีความสะดวกต่อการใช้งาน มีความคล่องตัวมากขึ้น ขับขี่ง่าย และประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย ใครสะดวก หรือถนัดกับเกียร์แบบไหนก็เลือกกันได้ตามใจชอบเลยนะครับ