แผนการ สอน สุขศึกษา และ พลศึกษา ป 2 อจท

ปีการศึกษา

ชั้น

กลุ่มสาระ

ชั่วโมง 20

แผนการสอนโดย ครูภัทรวรรธน์ เหงี่ยมสุวรรณและครูสุจิตรา บุญธรรม

ครูผู้สอน ครูภัทรวรรธน์ เหงี่ยมสุวรรณและครูสุจิตรา บุญธรรม

กําหนดการรายชั่วโมง

แผนการ สอน สุขศึกษา และ พลศึกษา ป 2 อจท
กำหนดการเรียนรู้รายชั่วโมง รายวิชาสุขศึกษา (ป.2)

คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้

แผนการ สอน สุขศึกษา และ พลศึกษา ป 2 อจท
คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ สุขศึกษา ป.2 ภาคเรียนที่ 2_2565

แผนการ สอน สุขศึกษา และ พลศึกษา ป 2 อจท
ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สุขศึกษา (นักเรียน) ป.2 ภาคเรียนที่ 2_2565

ครูภัทรวรรธน์ เหงี่ยมสุวรรณและครูสุจิตรา บุญธรรม
สุขศึกษาและพลศึกษา

แผนการจดั การเรียนการสอน

กล่มุ สาระการเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา
รายวชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา รหสั วชิ า พ 12101

ช้ันประถมศึกษาปี 2 ปี การศึกษา 2563

ครูผู้สอน
นางสาววิไล วนาพงศากลุ ตาแหน่ง ครูผ้ชู ่วย
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จงั หวดั พะเยา
สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สานักงานการศึกษา

ข้ันพื้นฐานกระทรวงศึกษาธกิ าร

1

2

คาอธิบายรายวิชา

พ 12101 สุขศึกษาและพลศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง

ศึกษาเก่ียวกับอวัยวะภายในร่างกายท่ีสาคัญ ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ บทบาทหน้าที่ของสมาชิก
ในครอบครัว พฤตกิ รรมทางเพศ การเคลอ่ื นไหวร่างกายเบ้อื งตน้ และกิจกรรมทางกาย การออกกาลงั กายและกิจกรรม
ประกอบจงั หวะ สนุกกบั การเล่นเกมเบ็ดเตล็ด การสร้างเสริมสุขภาพที่ดี การดูแลตนเองเบ้ืองตน้ เม่ือเจ็บป่ วย และ
บาดเจ็บ ยาสามญั ประจาบา้ น สารเสพตดิ และสารอนั ตรายใกลต้ วั การป้องกนั อบุ ตั เิ หตุและอคั คีภยั

โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนไดท้ ากิจกรรมกลุ่ม ได้อภิปรายแสดงความคิดเห็น และ
สนทนาเพ่ือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการแสดงบทบาทสมมุติหน้าช้ันเรียน เล่าประสบการณ์ การวิเคราะห์
สถานการณ์ การวาดภาพ การปฏิบตั ิกิจกรรมทางกายท้ังเดี่ยวและกลุ่ม รู้จกั การประเมินตนเอง และประเมินเพื่อน
ในช้นั เรียน เปิ ดกวา้ งใหผ้ ูเ้ รียนไดแ้ สดงความคิดเห็น และรู้จกั สรุปความรู้เป็นแผนภาพความคิด และมีการบูรณาการ
กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อนื่ เพอื่ ให้ผูเ้ รียนไดร้ บั ความรู้ท่ีหลากหลาย

เห็นคณุ ค่าและประโยชน์ของการเคล่ือนไหว การเลน่ เกมและการออกกาลงั กาย มนี ้าใจนกั กีฬาและมีความ
สนุกสนานในการเล่นเกม และปฏิบตั ิกิจกรรมประกอบจงั หวะ เห็นความสาคญั ของการดูแลสุขภาพเพื่อนาไปเป็น
แนวทางการปฏบิ ตั ิตนในชีวิตประจาวนั ได้

รหัสตวั ชีว้ ัด
พ 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3
พ 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4
พ 3.1 ป.2/1, ป.2/2
พ 3.2 ป.2/1, ป.2/2
พ 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5
พ 5.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5
รวมท้งั หมด 21 ตวั ช้ีวดั

1

โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เวลา 3 ช่ัวโมง

เร่ือง อวยั วะภายในร่างกาย

สาระท่ี 1การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

มาตรฐานการเรียนรู้ พ 1.1 ป.2/1, ป.2/2

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี เรื่อง เวลา
1
1 สมองหัวใจ 1
2 ปอดตบั ไต 1
3
3 กระเพาะอาหารลาไส้
เวลา
รวม 1
1
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เวลา 3 ช่ัวโมง 1
3
เร่ืองธรรมชาติของมนุษย์
สาระท่ี 1 การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ เวลา
1
มาตรฐานการเรียนรู้ พ 1.1 ป.2/3 1
1
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี เรื่อง 3

4 ช่วงวยั ต่างๆของมนุษย์ (1)

5 ช่วงวยั ตา่ งๆของมนุษย์ (2)

6 ธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์
รวม

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เวลา 3 ชั่วโมง

เร่ืองบทบาทหนา้ ทีข่ องสมาชิกในครอบครวั

สาระที่ 2ชีวิตและครอบครัว

มาตรฐานการเรียนรู้ พ 2.1 ป.2/1 เรื่อง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี

7 บทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง
8 บทบาทหนา้ ทข่ี องพอ่ แม่
9 บทบาทหนา้ ทข่ี องพ่นี อ้ งและญาติ

รวม

2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เวลา 6 ชั่วโมง

เรื่อง พฤตกิ รรมทางเพศ

สาระที่ 2ชีวติ และครอบครวั

มาตรฐานการเรียนรู้ พ 2.1 ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4

แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง เวลา

ที่

10 พฤตกิ รรมเพศชาย 1

11 พฤติกรรมเพศหญงิ 1

12 ความภาคภูมใิ จในเพศของตนเอง 1

13 มารยาททางสงั คม 1

14 เพ่ือนของฉัน 1

15 การปฏบิ ตั ติ นเป็นเพอ่ื นทีด่ ี 1

รวม 6

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เวลา 16 ชั่วโมง

เร่ือง การเคล่อื นไหวร่างกายเบ้ืองตน้

สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 ป.2/1

แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง เวลา

ที่

16 การเคลื่อนไหวร่างกายในชีวติ ประจาวนั (1) 1

17 การเคล่ือนไหวร่างกายในชีวติ ประจาวนั (2) 1

18 หลกั การเคล่ือนไหวร่างกายเบ้อื งตน้ 1

19 การยนื บิดตวั และการยืนเขยง่ ปลายเทา้ 1

20 การยืนทรงตวั ขาเดียวและการกม้ แตะ 1

21 การดึงและการผลกั 1

22 การกระโดดเขยง่ 1

23 การกระโดด 1

24 กา้ วชิดกา้ ว 1

25 การว่ิงซิกแซ็กหรือวง่ิ สลบั ฟันปลา 1

26 การขวา้ ง 1

27 การคีบ 1

28 การตี 1

29 การเหวีย่ ง 1

3

แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง เวลา

ที่ 1
1
30 กิจกรรมทีใ่ ชก้ ารเคลอื่ นไหวร่างกาย 16

31 ความปลอดภยั และประโยชน์ในการทากิจกรรมการเคลื่อนไหว เวลา

รวม 1
1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เวลา 9 ชั่วโมง 1
1
เร่ือง กิจกรรมการออกกาลงั กาย 1
1
สาระที่ 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล 1
1
มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.2 ป.2/1 1
9
แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง

ที่

32 การออกกาลงั กาย

33 การออกกาลงั กายรูปแบบตา่ งๆ

34 การออกกาลงั กายทาให้กลา้ มเน้ือแข็งแรง

35 ทา่ กายบริหารกิจกรรมเขา้ จงั หวะ

36 การว่ิงเร็วการกระโดดสูงการกระโดดไกล

37 การเดินว่ิงเหยาะๆถีบรถจกั รยานว่ายน้า

38 ประโยชน์ของการออกกาลงั กาย

39 การอบอุ่นร่างกาย (1)

40 การอบอุ่นร่างกาย (2)

รวม

4

โครงสร้างรายวชิ าพน้ื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา
ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง

ลาดับท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ตวั ชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน

1 อวยั วะภายในร่างกาย พ 1.1 ป.2/1, ป.2/2 อวยั วะภายในร่างกายมีหนา้ ที่ 3

แตกต่างกนั เพ่อื ให้สามารถดารงชีวติ

และเจริญเติบโตตามปกติ ดงั น้นั จึง

ตอ้ งดแู ลอวยั วะภายในทกุ ส่วน

อยา่ งถูกตอ้ ง

2 ธรรมชาตขิ องมนุษย์ พ 1.1 ป.2/3 การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมชาติ 3

ของชีวิตมนุษยท์ ่ีหลกี เลยี่ งไม่ได้

แต่เราสามารถใชช้ ีวิตอยา่ งมีความสุข

ไดด้ ว้ ยการดแู ลสุขภาพร่างกายและ

จิตใจอยู่เสมอ

3 บทบาทหนา้ ที่ของ พ 2.1 ป.2/1 การปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ที่ 3
สมาชิกในครอบครวั ของตนเอง จะทาใหค้ รอบครวั

มคี วามสุข เกิดความรักและ

ความสามคั คกี นั

4 พฤตกิ รรมทางเพศ พ 2.1 ป.2/2, ป.2/3, 1. เพศหญิงและเพศชายตอ้ ง 6

ป.2/4 ปฏบิ ตั ติ นใหเ้ หมาะสมกบั เพศ

เพ่อื ให้อยรู่ ่วมกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ ง

ปกตสิ ุข

2. ทกุ คนตอ้ งมเี พ่อื นไวพ้ ูดคุย ซกั ถาม

เร่ืองราวตา่ ง ๆ และคอยช่วยเหลอื กนั

การปฏบิ ตั ิตนเป็นเพ่อื นทดี่ ีจะทาให้

อยรู่ ่วมกบั เพือ่ นไดอ้ ยา่ งมีความสุข

5 การเคลอื่ นไหวร่างกาย พ 3.1 ป.2/1 การเคลอื่ นไหวทากิจกรรมตา่ ง ๆ 16

เบ้ืองตน้ ดว้ ยท่าทางทถ่ี ูกตอ้ ง เหมาะสม

จะทาให้ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมไดด้ ีและ

เกิดความปลอดภยั

5

บันทกึ การออกแบบการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2

หน่วยที่ 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกาย เวลา 3 ช่ัวโมง

ผ้สู อน นางสาววิไล วนาพงศากลุ

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

ตวั ชีว้ ดั
ป.2/1 อธิบายลกั ษณะและหนา้ ทขี่ องอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธิบายวธิ ีดแู ลรักษาอวยั วะภายใน

สาระสาคญั
อวยั วะต่าง ๆ ภายในร่างกายลว้ นมีความสาคญั ทกุ อวยั วะ เพราะแตล่ ะอวยั วะทาหนา้ ท่เี ฉพาะ

แตกต่างกนั การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายในอยา่ งถกู วธิ ี จะทาใหอ้ วยั วะทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
สาระการเรียนรู้

อวยั วะภายในร่างกาย
1. สมอง
2. หัวใจ
3. ปอด
4. ตบั
5. ไต
6. กระเพาะอาหาร
7. ลาไส้

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้
และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการคิด

ชิน้ งานหรือภาระงาน
ชิ้นงานที่ 1 เรื่อง อวยั วะภายในร่างกายทสี่ าคญั

6

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ให้นกั เรียนดภู าพอวยั วะภายใน และร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั หนา้ ทแ่ี ละวธิ ี

ดูแลรักษาอวยั วะภายใน ดงั น้ี สมอง หัวใจ ปอด ตบั ไต กระเพาะอาหาร ลาไส้
2. ให้นกั เรียนจาแนกลกั ษณะหนา้ ท่ีและวิธีดูแลรักษาอวยั วะภายใน ดงั น้ี สมอง หัวใจ ปอด

ตบั ไต กระเพาะอาหาร ลาไส้
3. ให้นกั เรียนสรุปเก่ียวกบั หนา้ ทแ่ี ละวธิ ีดูแลรักษาอวยั วะภายในเป็นแผนภาพความคดิ
4. ให้นกั เรียนเล่นเกม ฉนั คอื ใคร
5. ให้นกั เรียนวาดภาพระบายสีอวยั วะภายในร่างกายทน่ี กั เรียนสนใจมา 1 อวยั วะ

แลว้ ตอบคาถาม
6. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี อวยั วะตา่ ง ๆ ภายในร่างกายมคี วามสาคญั จึงควรดูแล

รกั ษาอยา่ งถกู วธิ ีและต่อเน่ือง
7. ใหน้ กั เรียนทาช้ินงานที่ 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกายทสี่ าคญั

ส่ือการเรียนรู้
1. ภาพอวยั วะภายใน
2. เกมฉันคอื ใคร
3. บตั รคา
4. ช้ินงานท่ี 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกายท่สี าคญั

การประเมนิ ผล

1. การประเมนิ ผลตัวชี้วดั

ช้ินงานที่ 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกายทส่ี าคญั

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1
32

นกั เรียนเขียนชื่อ นกั เรียนเขียนชื่อ นกั เรียนเขยี นช่ือ นกั เรียนเขยี นชื่อ นกั เรียนเขยี นช่ือ

อวยั วะภายใน อวยั วะภายใน อวยั วะภายใน อวยั วะภายใน อวยั วะภายใน

ร่างกายลงในช่อง ร่างกายลงในช่อง ร่างกายลงในช่อง ร่างกายลงในช่อง ร่างกายลงในช่อง

กายไดถ้ กู ตอ้ ง กายไดส้ มั พนั ธก์ บั กายไดส้ มั พนั ธ์กบั กายไดส้ ัมพนั ธ์กบั กายโดยอาศยั จาก

หัวขอ้ ทก่ี าหนด หัวขอ้ ทกี่ าหนด หัวขอ้ ทก่ี าหนด ที่ครูยกตวั อยา่ ง

และแตกต่างจากท่ี และแตกตา่ งจากท่ี โดยดดั แปลงจากท่ี และตอ้ งไดร้ ับ

ครูยกตวั อยา่ งและ ครูยกตวั อยา่ ง ครูยกตวั อยา่ ง คาแนะนาจาก

สามารถให้ เพอ่ื น

คาแนะนากบั ผอู้ นื่

ได้

7

2. การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ใฝ่ เรียนรู้
ตัวชี้วัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลอื กใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็ น
องค์ความรู้ และสามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้

พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3)
ศึกษาคน้ ควา้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศึกษาคน้ ควา้
4.2.1 ศึกษาคน้ ควา้ หา ไมศ่ กึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้จากหนังสือ หาความรู้จากหนงั สือ หาความรู้จากหนงั สือ
ความรู้จากหนงั สือ หาความรู้ เอกสาร สิ่งพิมพ์ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ เอกสาร สิ่งพิมพ์
เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ ส่ือเทคโนโลยี สื่อเทคโนโลยี ส่ือเทคโนโลยี
หรือจากแหลง่ เรียนรู้อ่ืน แหล่งเรียนรู้อนื่ แหล่งเรียนรู้อื่น
สื่อเทคโนโลยี มีการบนั ทกึ ความรู้ มีการบนั ทกึ ความรู้
แลกเปลี่ยนความรู้
ตา่ ง ๆ แหล่งเรียนรู้ กบั ผอู้ ื่น

ท้งั ภายในและ

ภายนอกโรงเรียน

และเลือกใชส้ ื่อได้

อยา่ งเหมาะสม

4.2.2 บนั ทกึ ความรู้

วเิ คราะห์ ตรวจสอบ

จากสิ่งท่ีเรียนรู้

สรุปเป็นองคค์ วามรู้

4.2.3 แลกเปล่ียนเรียนรู้

ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ

และนาไปใช้

ในชีวิตประจาวนั

8

แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน ไดค้ ะแนน

ชื่อ ______________________ นามสกุล________________ เลขท่ี________ ช้นั ________ _________

คะแนน

คาชีแ้ จง ให้นักเรียนทาเครื่องหมาย × ทับข้อที่ถกู ต้อง

1. กิจกรรมใดช่วยพฒั นาสมองดีที่สุด

1 ทาความสะอาดบา้ น 2 ปลูกตน้ ไม้ 3 ต่อจิกซอว์

2. การสูบบุหร่ีส่งผลเสียต่ออวยั วะใดมากท่ีสุด

1 ปอด 2 ตบั 3 ไต

3. การออกกาลงั กายส่งผลดีตอ่ อวยั วะใดมากทีส่ ุด

1 กระเพาะอาหาร 2 หัวใจ 3 ลาไส้

4. การกระทาในขอ้ ใดเป็นอนั ตรายต่อตบั

1 การรับประทานอาหารรสจดั 2 การพกั ผอ่ นไม่เพยี งพอ 3 การด่ืมสุรา

5. การเค้ียวอาหารไม่ละเอยี ดจะส่งผลอยา่ งไร

1 กระเพาะอาหารทางานหนกั 2 ลาไส้ไม่ผลิตน้ายอ่ ย 3 ไตไมท่ างาน

6. อวยั วะใดทาหนา้ ทีค่ วบคุมการทางานของร่างกาย

1 ลาไส้เล็ก 2 สมอง 3 ตบั

7. หัวใจของเราทาหนา้ ท่สี าคญั อยา่ งไร

1 ยอ่ ยอาหาร 2 ฟอกอากาศ 3 สูบฉีดเลือดไปเล้ียงร่างกาย

8. อวยั วะภายในร่างกายขอ้ ใดมีขนาดใหญ่ท่สี ุด

1 ตบั 2 หวั ใจ 3 กระเพาะอาหาร

9. อวยั วะใดทาหนา้ ที่กรองของเสียออกจากร่างกาย

1 ไต 2 ลาไส้เล็ก 3 กระเพาะอาหาร

10. อวยั วะใดไม่มีหนา้ ทใ่ี นการยอ่ ยอาหาร 3 ลาไสเ้ ล็ก
1 กระเพาะอาหาร 2 ลาไส้ใหญ่

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลงั เรียน
1. 3 2. 1 3. 2 4. 3 5. 1
6. 2 7. 3 8. 1 9. 1 10. 2

9

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2
รายวิชาสุขศึกษา 2
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลา 3 ชั่วโมง
รหัสวิชา พ12101
หน่วยท่ี 1 เรื่อง อวยั วะภายในร่างกาย เวลา 1 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง สมอง หวั ใจ

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

ตวั ชีว้ ดั
ป.2/1 อธิบายลกั ษณะและหนา้ ที่ของอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธิบายวิธีดแู ลรักษาอวยั วะภายใน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชีว้ ัด
1. อธิบายลกั ษณะหนา้ ท่ี และวิธีดูแลรกั ษาอวยั วะภายใน : สมอง หัวใจ (K)
2. เขียนแผนภาพลกั ษณะหนา้ ทีแ่ ละวิธีดูแลรักษาอวยั วะภายใน : สมอง หัวใจ (P)
3. เห็นความสาคญั ของอวยั วะภายใน : สมอง หัวใจ (A)

สาระสาคญั
สมองและหัวใจเป็นอวยั วะภายในร่างกายทส่ี าคญั มีลกั ษณะ หนา้ ท่ี และวิธีดูแลรักษาทแี่ ตกต่างกนั

การดูแลรักษาอยา่ งถูกวิธี จะทาให้สมองและหัวใจทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
สาระการเรียนรู้

1. อวยั วะภายนอก
2. อวยั วะภายในร่างกาย

2.1 สมอง
2.2 หวั ใจ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ท่ี 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้
และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
ความสามารถในการคิด

10

ชิน้ งานหรือภาระงาน
- แผนภาพหนา้ ทแ่ี ละวิธีดแู ลรกั ษาสมองและหัวใจ

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา

1. ครูสุ่มเลือกตวั แทนนกั เรียน ออกมาหนา้ ช้นั เรียน 1 คน จากน้นั ครูร่วมสนทนากบั นกั เรียนวา่
“ร่างกายของคนเราประกอบดว้ ยอวยั วะต่าง ๆ ที่ทาหนา้ ทส่ี าคญั เพอื่ ให้ร่างกายมชี ีวติ อยแู่ ละเจริญเตบิ โต”

ใหน้ กั เรียนสังเกตเพอ่ื นที่อยหู่ นา้ ช้นั เรียน ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- นกั เรียนมองเห็นอวยั วะอะไรของเพอ่ื นบา้ ง
- อวยั วะเหลา่ น้ีทาหนา้ ทีอ่ ะไรบา้ ง
- อวยั วะเหลา่ น้ีสามารถจบั ตอ้ งไดห้ รือไม่
- อวยั วะเหล่าน้ีอยภู่ ายในหรือภายนอกร่างกาย
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้ว่า อวยั วะทีส่ ามารถมองเห็น และจบั ตอ้ งได้
อยภู่ ายนอกร่างกาย เช่น ศรี ษะ หู ตา จมูก ปาก แขน ขา มอื และเทา้ เรียกว่า อวยั วะภายนอก
ข้นั สอน
2. ใหน้ กั เรียนดูภาพอวยั วะภายใน แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ภาพโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ในภาพมีอวยั วะอะไรบา้ ง
- ตามปกตอิ วยั วะเหล่าน้ีเราสามารถจบั ตอ้ งไดห้ รือไม่
- อวยั วะเหล่าน้ีอยภู่ ายนอกหรือภายในร่างกาย
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้วา่ อวยั วะที่ไม่สามารถมองเห็น เพราะอยภู่ ายในร่างกาย เช่น
สมอง หัวใจ ปอด ตบั ไต กระเพาะอาหาร และลาไส้ เรียกว่า อวยั วะภายใน
3. ให้นกั เรียนดูภาพอวยั วะภายในสมอง แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ภาพโดยครูใช้
คาถาม ดงั น้ี
- ในภาพคอื อวยั วะอะไร
- มลี กั ษณะอยา่ งไร
- อวยั วะดงั กล่าวอยบู่ ริเวณใดของร่างกาย
ครูอธิบายเกี่ยวกบั หนา้ ที่และวธิ ีดูแลรักษาสมอง ดงั น้ี
หน้าทสี่ าคญั ของสมอง
1) ควบคมุ การทางานของร่างกาย เช่น การเคล่ือนไหว การมองเห็น การดมกลิ่น เป็นตน้
2) ทางานเก่ียวขอ้ งกบั การรบั รู้ความรู้สึกท้งั หมด อารมณ์ ความจา การคิด และการเรียนรู้
ตา่ ง ๆ
การดแู ลรักษา
1) ป้องกนั ไมใ่ หส้ มองไดร้ ับความกระทบกระเทือน
2) ฝึกทากิจกรรมที่ใชก้ ารคดิ เป็นประจา เช่น อา่ นหนงั สือ ต่อจิกซอว์ เล่นเกม เพอ่ื พฒั นาสมอง
เป็ นตน้

11

3) รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตอ่ สมอง เช่น วติ ามิน บี1 บี 6 และ บี12
4) นอนหลบั พกั ผอ่ นให้เพียงพอ และอยใู่ นท่ที ี่มีอากาศถา่ ยเทสะดวก
4. ใหน้ กั เรียนดูภาพอวยั วะภายในหัวใจ แลว้ ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ภาพโดยครูใช้
คาถาม ดงั น้ี
- ในภาพคืออวยั วะอะไร
- อวยั วะดงั กล่าวอยบู่ ริเวณใดของร่างกาย
ครูอธิบายเกี่ยวกบั หนา้ ทีแ่ ละวธิ ีดูแลรกั ษาหัวใจ ดงั น้ี
หวั ใจมขี นาดเท่ากาป้ันมอื ของตนเอง มี 4 ห้อง คอื หอ้ งบน 2 หอ้ ง ซ้ายและขวา หอ้ งล่าง 2 หอ้ ง ซ้าย
และขวา
มีหน้าท่ีสาคญั คือ สูบฉีดเลอื ดไปเล้ียงส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย
มีวธิ ดี แู ลรักษา ดงั น้ี
1) ควรหมน่ั ออกกาลงั กายเพ่ือให้เลือดสูบฉีดเป็นประจา เช่น ว่ิง เดิน ว่ายน้า
2) ควรรับประทานอาหารทช่ี ่วยบารุงเลอื ด บารุงหัวใจป้องกนั ไขมนั เกาะหลอดเลอื ด เช่น ตบั ไข่
แดง ผกั ผลไม้
3) ไมค่ วรรับประทานอาหารทีม่ รี สหวานและไขมนั สูง
4) หากหวั ใจทางานผดิ ปกตหิ รือเหนื่อยง่ายให้รีบพบแพทย์
5. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม ฉนั คือใคร โดยมีวธิ ีการเลน่ ดงั น้ี
นกั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั แต่ละกลมุ่ ต้งั ชื่อกลมุ่ ของตนเอง
ครูบนั ทึกชื่อกลมุ่ ลงบนกระดานเรียงตามลาดบั ที่
ครูแจกบตั รคาให้นกั เรียนกล่มุ ละ 1 ชุด ดงั น้ี

สมอง หวั ใจ

ครูอ่านขอ้ ความต่อไปน้ีทีละประโยค
1) ฉันมขี นาดเท่ากาป้ันมือของตนเอง
2) ฉนั มีลกั ษณะเป็นกอ้ นเน้ือเหลวสีขาวอมเหลอื ง
3) ฉนั มรี อยหยกั
4) ฉันถูกหุม้ อยใู่ นกะโหลกศีรษะ
5) ฉันอยบู่ ริเวณส่วนกลางของทรวงอก ระหว่างปอดท้งั สองขา้ ง
6) ฉันมีหนา้ ทคี่ วบคุมการทางานของร่างกาย
7) ฉนั มีหนา้ ท่สี ูบฉีดเลือดไปเล้ียงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
8) ฉันทางานเก่ียวขอ้ งกบั การรบั รู้ความรู้สึก
9) การดแู ลฉันควรหมน่ั ออกกาลงั กาย
10) ฉันไมช่ อบอาหารทมี่ ีไขมนั สูง

12

11) การดูแลฉันควรรบั ประทานอาหารจาพวก ตบั และไขแ่ ดง ผกั ผลไม้
12) ฉันจะไดร้ บั การพฒั นา ถา้ ไดฝ้ ึกกิจกรรมทีใ่ ชก้ ารคิดบ่อย ๆ
เม่ือครูอา่ นขอ้ ความจบทลี ะประโยค ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั พจิ ารณาว่าประโยคน้นั กล่าวถงึ
อวยั วะใด สมอง หรือหัวใจ ถา้ คิดว่าเป็นสมอง ใหย้ กบตั รคาสมองข้ึน ถา้ คดิ ว่าเป็นหวั ใจ
ให้ยกบตั รคาหัวใจข้นึ
ครูบนั ทกึ คะแนนให้กลุม่ ที่ตอบถกู ลงบนกระดาน เม่อื ทายหมดทกุ ประโยค กลุ่มใดไดค้ ะแนนมาก
ท่ีสุด เป็นกลมุ่ ท่ชี นะ
6. ครูเขียนแผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

ลกั ษณะ/หนา้ ที่

สมอง

วธิ ีดแู ลรกั ษา

ลกั ษณะ/หนา้ ท่ี

หัวใจ

วิธีดแู ลรกั ษา

จากน้นั ครูเขียนขอ้ ความลงบนกระดาน ดงั น้ี
- สูบฉีดเลือดไปเล้ียงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- ทางานเก่ียวขอ้ งกบั การรับรู้ความรู้สึก
- ควบคมุ การทางานของร่างกาย
- หมน่ั ออกกาลงั กายเป็นประจา
- ป้องกนั ไมใ่ ห้ไดร้ บั ความกระทบกระเทือน
- รบั ประทานอาหารทีช่ ่วยบารุงเลอื ด
- ไม่ควรรบั ประทานอาหารทีม่ ีไขมนั สูง
- ฝึกทากิจกรรมทใี่ ชค้ วามคดิ เป็นประจา

13

ครูและนกั เรียนอ่านขอ้ ความบนกระดาน 1 รอบ
ใหน้ กั เรียนพิจารณาขอ้ ความบนกระดานว่าเกี่ยวขอ้ งกบั อวยั วะ สมอง หรือหวั ใจ จากน้นั นาขอ้ ความ
บนกระดานไปสรุปเป็นแผนภาพความคิด บนกระดานทค่ี รูเขยี นไว้
7. ครูถามนกั เรียนทีละคนเก่ียวกบั วิธีดูแลรักษาสมองและหัวใจ ของตนเองในแต่ละวนั ดงั น้ี

- ในแต่ละวนั นกั เรียนไดด้ แู ลรกั ษาสมองและหวั ใจอยา่ งไรบา้ ง
8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั หนา้ ทีแ่ ละวิธีดแู ลรกั ษาสมอง และหวั ใจ โดย
ครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- สมองและหัวใจ มีหนา้ ท่ตี ่างกนั อยา่ งไร
- ถา้ เราดูแลรกั ษาสมองและหัวใจอยา่ งถกู วธิ ีแลว้ จะเป็นอยา่ งไร

ข้นั สรุป
9. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี สมองและหัวใจเป็นอวยั วะภายในร่างกายที่สาคญั ท่มี ี

ลกั ษณะหนา้ ทแ่ี ละวธิ ีดแู ลรักษาทแ่ี ตกต่างกนั จึงควรดแู ลรักษาอยา่ งถูกวิธี เพอื่ ให้ทางานอยา่ งเป็นปกติ

สื่อการเรียนรู้

1. ภาพอวยั วะภายใน

2. เกมฉนั คือใคร

3. บตั รคา

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล

1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม

1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

2. เคร่ืองมือ

2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่

3. เกณฑ์การประเมนิ

3.1 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน

ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไม่ผ่าน

3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่

คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก

คะแนน 7-8 ระดบั ดี

คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง

14

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2
รายวชิ าสุขศึกษา 2
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลา 3 ชั่วโมง
รหสั วิชา พ12101
หน่วยที่ 1 เรื่อง อวยั วะภายในร่างกาย เวลา 1 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปอด ตบั ไต

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

ตัวชีว้ ดั
ป.2/1 อธิบายลกั ษณะและหนา้ ที่ของอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธิบายวิธีดูแลรักษาอวยั วะภายใน

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ชี้วดั
1. อธิบายลกั ษณะหนา้ ท่ี และวิธีดแู ลรักษาอวยั วะภายใน : ปอด ตบั ไต (K)
2. เขียนแผนภาพลกั ษณะหนา้ ที่และวธิ ีดูแลรกั ษาอวยั วะภายใน : ปอด ตบั ไต (P)
3. เห็นความสาคญั ของอวยั วะภายใน : ปอด ตบั ไต (A)

สาระสาคญั
ปอด ตบั และไตเป็นอวยั วะภายในร่างกายทีส่ าคญั มลี กั ษณะ หนา้ ที่ และวิธีดแู ลรกั ษาท่ี

แตกตา่ งกนั การดแู ลรักษาอยา่ งถกู วิธี จะทาใหป้ อด ตบั และไตทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
สาระการเรียนรู้

อวยั วะภายในร่างกาย
1. ปอด
2. ตบั
3. ไต

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

ดว้ ยการเลอื กใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้
และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการคดิ

15

ชิ้นงานหรือภาระงาน
- แผนภาพหนา้ ทีแ่ ละวธิ ีดแู ลรกั ษา ปอด ตบั และไต

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นา

1. ให้นกั เรียนดูภาพอวยั วะภายใน จากน้นั ส่งตวั แทนออกมาช้ีพร้อมบอกช่ืออวยั วะภายในต่าง ๆ
ตวั อยา่ งเช่น สมอง หัวใจ ปอด ตบั ไต กระเพาะอาหาร ลาไส้
ข้นั สอน

2. ครูและเพอ่ื นคนอน่ื ๆ ร่วมกนั พจิ ารณาว่าช้ีและบอกชื่อไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ จากน้นั ครูช้ีที่อวยั วะ
ปอด ตบั และไต ทีละอวยั วะ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั อวยั วะ ปอด ตบั และไต
โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

ครูชี้ทปี่ อด
- ในภาพคืออวยั วะอะไร
- มีลกั ษณะอยา่ งไร
- อวยั วะดงั กล่าวอยสู่ ่วนใดของร่างกาย

ครูอธิบายเกี่ยวกบั หนา้ ท่แี ละวธิ ีดูแลรกั ษาปอด ดงั น้ี
หนา้ ทส่ี าคญั ของปอด
ทางานเกี่ยวขอ้ งกบั การหายใจ โดยแลกเปล่ียนแก๊สออกซิเจนกบั แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์
ฟอกเลอื ดเสียใหเ้ ป็นเลอื ดดี เพ่อื ส่งตอ่ ให้หัวใจใชส้ ูบฉีดเลือดไปเล้ยี งอวยั วะตา่ ง ๆ ทวั่ ร่างกาย
การดแู ลรกั ษา

1) อยูใ่ นทท่ี มี่ ีอากาศบริสุทธ์ิ
2) หลกี เล่ียงบริเวณท่ีมีฝ่นุ ละออง ควนั พษิ
3) ออกกาลงั กายเป็นประจา
ครูชีท้ ่ตี ับ
- ในภาพคืออวยั วะอะไร
- มลี กั ษณะอยา่ งไร
- อวยั วะดงั กล่าวอยสู่ ่วนใดของร่างกาย
ครูอธิบายเก่ียวกบั หนา้ ท่แี ละวิธีดแู ลรกั ษาตบั ดงั น้ี
หนา้ ทีส่ าคญั ของตบั
1) สร้างน้าดี เพื่อช่วยในการยอ่ ยอาหาร
2) ขบั และกาจดั สารพิษในร่างกายเมอื่ มมี ากเกินไป
3) เกบ็ สารองอาหารและสะสมวติ ามนิ
การดูแลรกั ษา
1) รับประทานอาหารทีม่ ีประโยชน์ ไมม่ สี ารเคมเี จือปน
2) ด่ืมน้าสะอาดเป็นประจา ไมด่ ื่มสุราหรือของมนึ เมา และเครื่องด่มื ชูกาลงั หรือน้าอดั ลม

16

3) ออกกาลงั กายและพกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ
4) ไม่รบั ประทานยาเกินขนาดทร่ี ะบุไวใ้ นฉลากยา เพราะสารเคมีในยาจะไปสะสมในตบั
ครูชี้ท่ไี ต
- ในภาพคืออวยั วะอะไร
- มีลกั ษณะอยา่ งไร
- อวยั วะดงั กล่าวอยสู่ ่วนใดของร่างกาย
ครูอธิบายเก่ียวกบั หนา้ ท่ีและวธิ ีดแู ลรักษาไต ดงั น้ี
หนา้ ท่ีสาคญั ของไต
1) กรองของเสียออกจากเลือด และขบั ออกมาพร้อมกบั น้าในรูปของปัสสาวะ
2) ดดู ซึมสารอาหารทเ่ี ป็นประโยชน์กลบั เขา้ สู่ร่างกาย
การดแู ลรักษา
1) ด่ืมน้าสะอาดวนั ละ 6 - 8 แกว้
2) หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจดั
3) ไมก่ ล้นั ปัสสาวะเป็นเวลานาน
4) ออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอและพกั ผอ่ นให้เพียงพอ
3. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
- ถา้ ตอ้ งการใหป้ อดทางานไดเ้ ต็มทน่ี กั เรียนควรอยใู่ นสถานที่ใดและไม่ควรอยใู่ นสถานทใ่ี ด
- การออกกาลงั กายเป็นประจา ส่งผลดีกบั อวยั วะใดบา้ ง
4.ใหน้ กั เรียนเล่นเกม ฉนั คอื ใคร โดยมวี ธิ ีการเล่น ดงั น้ี
นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั แตล่ ะกลมุ่ ต้งั ชื่อกลมุ่ ของตนเอง ครู
บนั ทกึ ชื่อกลมุ่ ลงบนกระดาน เรียงตามลาดบั ที่
ครูแจกบตั รคา ใหน้ กั เรียนกลมุ่ ละ 1 ชุด ดงั น้ี

ปอด ตบั ไต

ครูอ่านขอ้ ความต่อไปน้ี ทลี ะประโยค
1) ฉันคลา้ ยฟองน้า ขนาดใหญ่ และยดื หยนุ่
2) ฉนั เป็นอวยั วะท่ีใหญ่ทีส่ ุดของร่างกาย
3) ฉนั มลี กั ษณะเป็นกลีบ มีสีน้าตาลออกแดงคล้า
4) ฉันไม่ชอบฝุ่นละอองและควนั พษิ เพราะส่ิงเหลา่ น้ีทาร้ายฉัน
5) ฉนั ชอบอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ไม่มีสารเคมีเจือปน
6) ฉันอยบู่ ริเวณช่องทอ้ งส่วนบนสุดคอ่ นไปทางขวา
7) ฉนั อยใู่ นโพรงอก มี 2 ขา้ ง คือขา้ งซ้ายและขา้ งขวา
8) ฉนั อยภู่ ายในช่องทอ้ งดา้ นหลงั

17

9) การออกกาลงั กายเป็นประจาจะช่วยใหฉ้ ันแข็งแรง
10) ฉนั มีลกั ษณะคลา้ ยเมล็ดถวั่ แดง มี 2 ขา้ ง
11) ฉนั ทางานเกี่ยวขอ้ งกบั การหายใจ
12) ฉนั มีหนา้ ที่กรองของเสียออกจากเลือด และขบั ออกมาพร้อมกบั น้าในรูปของปัสสาวะ
13) ฉันจะแขง็ แรงถา้ ไดอ้ ยใู่ นทที่ ่มี อี ากาศบริสุทธ์ิ
14) ฉันชอบแก๊สออกซิเจน
15) ฉันไม่ชอบอาหารรสเคม็
16) ฉนั มีหนา้ ทสี่ าคญั ในการสร้างน้าดีเพื่อใชใ้ นการยอ่ ยอาหาร
17) ฉันมหี นา้ ทีส่ ะสมแร่ธาตแุ ละวิตามนิ ตา่ ง ๆ ให้แกร่ ่างกาย
18) ฉันจะอ่อนแอทกุ คร้ังเมอื่ พบกบั สุราและของมนึ เมา
19) ฉนั ชอบให้ด่ืมน้าสะอาดวนั ละ 6-8 แกว้
เมือ่ ครูอา่ นขอ้ ความจบทลี ะประโยค ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั พจิ ารณาว่าประโยคน้นั กล่าวถึง
อวยั วะ ปอด ตบั หรือไต ถา้ คิดวา่ เป็นปอด ให้ยกบตั รคา ปอด ข้ึน ถา้ คิดวา่ เป็นตบั ให้ยกบตั รคา ตบั ข้นึ ถา้
คดิ วา่ เป็นไต ใหย้ กบตั รคา ไต ข้ึน
ครูบนั ทึกคะแนนใหก้ ลุ่มทีต่ อบถกู ลงบนกระดาน เมื่อทายหมดทกุ ประโยค กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนมากท่ีสุด เป็น
กลมุ่ ที่ชนะ
5. ครูเขียนแผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

ลกั ษณะ/หนา้ ที่

ปอด

วธิ ีดแู ลรกั ษา

ลกั ษณะ/หนา้ ท่ี

ตบั

วิธีดแู ลรักษา

18

ลกั ษณะ/หนา้ ที่

ไต

วิธีดแู ลรกั ษา

ครูเขยี นขอ้ ความลงบนกระดาน ดงั น้ี
- ฟอกเลอื ดเสียให้เป็นเลอื ดดี
- รับประทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ไมม่ ีสารเคมีเจือปน
- เก่ียวขอ้ งกบั การหายใจ
- ไม่กล้นั ปัสสาวะเป็นเวลานาน
- เก็บสารองอาหารและสะสมวติ ามิน
- ไมด่ ่ืมสุราหรือของมนึ เมา
- อย่ใู นที่ท่ีมอี ากาศบริสุทธ์ิ
- ไมด่ ื่มน้าอดั ลมหรือเครื่องดื่มชูกาลงั
- กรองของเสียออกจากเลอื ด
- หลีกเลย่ี งบริเวณทมี่ ฝี ่นุ ละออง
- ดูดซึมสารอาหารท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ ร่างกาย
- สร้างน้าดี เพ่ือช่วยยอ่ ยอาหาร
- ดื่มน้าสะอาดวนั ละ 8 - 10 แกว้
- ออกกาลงั กายเป็นประจา
- หลกี เลี่ยงอาหารรสเค็มจดั

ครูและนกั เรียนอ่านขอ้ ความบนกระดาน 1 รอบ
ใหน้ กั เรียนพิจารณาขอ้ ความบนกระดานว่าเก่ียวขอ้ งกบั อวยั วะใด ปอด ตบั หรือไต จากน้นั นา
ขอ้ ความบนกระดานไปสรุปเป็นแผนภาพความคิด บนกระดานท่คี รูเขียนไว้
6. ครูถามนกั เรียนทีละคนเกี่ยวกบั วธิ ีดูแลรกั ษาปอด ตบั และไต ของตนเองในแต่ละวนั ดงั น้ี

- ในแตล่ ะวนั นกั เรียนไดด้ ูแลรักษา ปอด (ตบั ,ไต) อยา่ งไรบา้ ง
7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั หนา้ ท่แี ละวธิ ีดูแลรักษาปอด ตบั และไต โดย
ครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

- ปอด ตบั และไต มีหนา้ ทตี่ า่ งกนั อยา่ งไร

19

- ถา้ เราดแู ลรักษาปอด ตบั และไต อยา่ งถกู วธิ ีแลว้ จะเป็นอยา่ งไร
ข้นั สรุป

8. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ปอด ตบั และไต เป็นอวยั วะภายในร่างกายทส่ี าคญั ท่ีมี
ลกั ษณะหนา้ ที่และวธิ ีดแู ลรกั ษาท่แี ตกตา่ งกนั จึงควรดูแลรกั ษาอยา่ งถูกวิธี เพ่อื ให้ทางานเป็นปกติ
ส่ือการเรียนรู้

1. ภาพอวยั วะภายใน
2. เกมฉันคอื ใคร
3. บตั รคา
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง

20

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2รหสั
รายวิชาสุขศึกษา 2
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลา 3 ช่ัวโมง
วิชา พ12101
หน่วยที่ 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกาย เวลา 1 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง กระเพาะอาหาร ลาไส้

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์

ตัวชีว้ ัด
ป.2/1 อธิบายลกั ษณะและหนา้ ทีข่ องอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธิบายวิธีดแู ลรักษาอวยั วะภายใน

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วัด
1. อธิบายลกั ษณะหนา้ ที่ และวิธีดูแลรกั ษาอวยั วะภายใน : กระเพาะอาหาร ลาไส้ (K)
2. เขียนแผนภาพลกั ษณะหนา้ ท่ีและวิธีดูแลรักษาอวยั วะภายใน : กระเพาะอาหาร ลาไส้ (P)
3. เห็นความสาคญั ของอวยั วะภายใน : กระเพาะอาหาร ลาไส้ (A)

สาระสาคญั
กระเพาะอาหาร และลาไส้ เป็นอวยั วะภายในร่างกายท่สี าคญั มลี กั ษณะ หนา้ ที่ และวธิ ีดแู ลรักษาท่ี

แตกตา่ งกนั การดแู ลรักษาอยา่ งถกู วธิ ี จะทาให้กระเพาะอาหารและลาไส้ทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
สาระการเรียนรู้

อวยั วะภายใน
1. กระเพาะอาหาร
2. ลาไส้

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ใฝ่ เรียนรู้
ตวั ช้ีวดั ที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน

ดว้ ยการเลือกใชส้ ่ืออยา่ งเหมาะสมบนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้
และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
ความสามารถในการคิด

21

ชิ้นงานหรือภาระงาน
ช้ินงานที่ 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกายท่สี าคญั

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นา

1. ใหน้ กั เรียนดูภาพอวยั วะภายใน จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรู้เก่ียวกบั หนา้ ที่ท่ี
สาคญั ของอวยั วะภายใน สมอง หัวใจ ปอด ตบั และไต โดยครูช้ีภาพอวยั วะภายในเหลา่ น้ี
ทลี ะอวยั วะ แลว้ ใชค้ าถาม ดงั น้ี

ครูชีท้ ี่สมอง
- ภาพน้ีคืออวยั วะอะไร
- มีหนา้ ทีส่ าคญั อยา่ งไร

ครูชี้ทหี่ ัวใจ
- ภาพน้ีคอื อวยั วะอะไร
- มีหนา้ ทส่ี าคญั อยา่ งไร
ครูชี้ที่ปอด
- ภาพน้ีคืออวยั วะอะไร
- มีหนา้ ที่สาคญั อยา่ งไร
ครูชี้ทตี่ ับ
- ภาพน้ีคอื อวยั วะอะไร
- มีหนา้ ท่สี าคญั อยา่ งไร
ครูชีท้ ่ีไต
- ภาพน้ีคืออวยั วะอะไร
- มหี นา้ ทส่ี าคญั อยา่ งไร
ข้นั สอน
2. ครูช้ีทอ่ี วยั วะ กระเพาะอาหารและลาไส้ ทีละอวยั วะ แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั อวยั วะ กระเพาะอาหารและลาไส้ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

- อวยั วะใดในภาพท่ีนกั เรียนยงั ไม่ไดเ้ รียนรู้
- ในภาพคอื อวยั วะอะไร
- มลี กั ษณะอยา่ งไร
- อวยั วะดงั กลา่ วอยสู่ ่วนใดของร่างกาย
ครูอธิบายเก่ียวกบั หนา้ ท่แี ละวิธีดูแลรกั ษากระเพาะอาหาร ดงั น้ี
กระเพาะอาหาร มีลกั ษณะเป็นถุงกลา้ มเน้ือ มสี ่วนปลายงอ มคี วามเหนียวและยืดตวั ได้
หนา้ ทส่ี าคญั ของกระเพาะอาหาร
1) รบั อาหารที่เค้ยี วจากฟันและทาการยอ่ ยอาหารกบั น้ายอ่ ย
2) ดดู ซึมน้าและสารอาหารไปเล้ยี งส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย

22

การดูแลรักษา
1) รับประทานอาหารใหต้ รงเวลา
2) เค้ียวอาหารใหล้ ะเอียด
3) ไม่รับประทานอาหารรสจดั
4) ทาจิตใจใหร้ ่าเริงแจ่มใสอยเู่ สมอ
5) นอนหลบั พกั ผ่อนและออกกาลงั กายอยา่ งเพยี งพอ

ครูชีท้ ลี่ าไส้
- ในภาพคอื อวยั วะอะไร
- มีลกั ษณะอยา่ งไร
- อวยั วะดงั กล่าวอยสู่ ่วนใดของร่างกาย

ครูอธิบายเกี่ยวกบั หนา้ ท่แี ละวิธีดแู ลรักษาลาไส้ ดงั น้ี
ลาไส้ มี 2 ประเภท คอื
ลาไส้เลก็ เป็นลาไสท้ ่ีมคี วามยาวมากขดกนั อยภู่ ายในช่องทอ้ ง
หนา้ ทส่ี าคญั ยอ่ ยอาหารและดูดซึมสารอาหารกลบั เขา้ สู่ร่างกาย
ลาไส้ใหญ่ เป็นลาไสท้ ีม่ ีขนาดใหญ่อยตู่ ่อจากลาไส้เลก็
หนา้ ทีส่ าคญั

1) ลาไสใ้ หญไ่ ม่มีการยอ่ ยอาหารแต่จะทาหนา้ ทด่ี ดู ซึมน้าและแร่ธาตุจากเสน้ ใยและ
กากอาหารทม่ี าจากลาไสเ้ ลก็

2) ขบั ถ่ายกากอาหารออกมาเป็นอุจจาระผ่านทางทวารหนกั
การดูแลรกั ษาลาไส้

1) รับประทานอาหารทย่ี อ่ ยงา่ ย เช่น ผกั ผลไม้ เน้ือปลา และดมื่ น้าสะอาดอยา่ งนอ้ ย
วนั ละ 6 - 8 แกว้

2) เค้ยี วอาหารใหล้ ะเอยี ดก่อนกลนื โดยเฉพาะอาหารประเภทเน้ือสตั ว์
3) ออกกาลงั กายเป็นประจา
4) นอนหลบั พกั ผอ่ นให้เป็นเวลา และเพยี งพอกบั ความตอ้ งการของร่างกาย
5) ทาจิตใจใหร้ ่าเริงแจ่มใสอยเู่ สมอ อารมณด์ ีไม่โกรธงา่ ย
3. ให้นกั เรียนทายปัญหา ใช่ หรือ ไมใ่ ช่ โดยครูใชค้ าถามตอ่ ไปน้ี
1) สมองมหี นา้ ท่คี วบคุมการทางานของร่างกายใช่หรือไม่
2) หวั ใจทาหนา้ ที่เก่ียวขอ้ งกบั การหายใจใช่หรือไม่
3) หวั ใจมีหนา้ ทีส่ ูบฉีดเลือดไปเล้ียงส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายใช่หรือไม่
4) ปอดมหี นา้ ทีฟ่ อกเลือดเสียใหเ้ ป็นเลอื ดดีใช่หรือไม่
5) ไตมหี นา้ ทีส่ ร้างความร้อนใหแ้ ก่ร่างกายใช่หรือไม่
6) ตบั มหี นา้ ทเี่ ก็บสารองอาหารและสะสมวติ ามนิ ใช่หรือไม่
7) กระเพาะอาหารมหี นา้ ที่ดดู ซึมน้าและสารอาหารไปเล้ียงส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย
ใช่หรือไม่

23

8) สาไส้เลก็ มีหนา้ ทีย่ อ่ ยอาหารและดดู ซึมสารอาหารกลบั เขา้ สู่ร่างกายใช่หรือไม่
9) ลาไส้ใหญม่ หี นา้ ทขี่ บั ถ่ายกากอาหารออกมาเป็นอจุ จาระผา่ นทางทวารหนกั
ใช่หรือไม่
4. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม ฉันคือใคร โดยมวี ิธีการเล่น ดงั น้ี

นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็น 5 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แต่ละกลุ่มต้งั ชื่อกลมุ่ ของตนเอง ครูบนั ทึกช่ือ
กลมุ่ ลงบนกระดาน เรียงตามลาดบั ที่

ครูแจกบตั รคาให้นกั เรียนกลุ่มละ 1 ชุด ดงั น้ี

กระเพาะอาหาร ลาไส้ ลาไสเ้ ลก็ ลาไสใ้ หญ่

ครูอา่ นขอ้ ความตอ่ ไปน้ี ทีละประโยค
1) ฉันมคี วามยาวมากขดกนั อยภู่ ายในช่องทอ้ ง
2) ฉันมขี นาดใหญ่อยตู่ ่อจากลาไส้เล็ก
3) ฉันมีลกั ษณะเป็นถงุ กลา้ มเน้ือ มสี ่วนปลายงอ
4) ฉนั มีความเหนียวและยืดตวั ไดม้ าก
5) ฉันมีหนา้ ที่ยอ่ ยอาหารและดูดซึมสารอาหารกลบั เขา้ สู่ร่างกาย
6) ฉนั มหี นา้ ท่รี บั อาหารที่เค้ียวจากฟันและทาการยอ่ ยอาหารกบั น้ายอ่ ย
7) ฉนั ทาหนา้ ท่ีดูดซึมน้าและแร่ธาตุจากกากอาหารท่ีมาจากลาไสเ้ ลก็
8) ฉนั ทาหนา้ ที่ดดู ซึมน้าและสารอาหารไปเล้ยี งส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย
9) ฉนั ทาหนา้ ที่ขบั ถา่ ยกากอาหารออกมาทางอจุ จาระผา่ นทางทวารหนกั
10) ฉันไมช่ อบอาหารรสจดั
11) ฉันจะทางานไดเ้ ป็นปกติถา้ รบั ประทานอาหารให้ตรงเวลา
12) ฉนั ชอบอาหารท่ียอ่ ยงา่ ย
13) ฉันจะทางานไดด้ ีถา้ ไดร้ ับน้าดื่มสะอาดวนั ละ 6 - 8 แกว้
14) การออกกาลงั กายเป็นประจาจะช่วยให้ฉันทางานไดเ้ ป็นปกติ
15) การเค้ียวอาหารใหล้ ะเอยี ดจะช่วยให้ฉันทางานหนกั นอ้ ยลง
16) ฉนั ชอบคนท่รี บั ประทานอาหารตรงเวลา
เม่ือครูอ่านขอ้ ความจบทีละประโยค ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั พจิ ารณาว่าประโยคน้นั กลา่ วถงึ
อวยั วะกระเพาะอาหาร หรือลาไส้ ถา้ คิดวา่ เป็นอวยั วะกระเพาะอาหาร ให้ยกบตั รคา
กระเพาะอาหาร ข้ึน ถา้ คิดวา่ เป็นอวยั วะลาไส้ ใหย้ กบตั รคา ลาไส้ ข้นึ และถา้ คดิ ว่าเป็นลาไสเ้ ลก็
หรือลาไส้ใหญก่ ใ็ ห้ยกบตั รคาน้นั ข้ึน ครูบนั ทกึ คะแนนให้กลุ่มที่ตอบถกู ลงบนกระดาน เมื่อทายหมดทกุ
ประโยค กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนมากทีส่ ุด เป็นกลมุ่ ทชี่ นะ
5. ครูเขียนแผนภาพบนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง

24

ลักษณะ/หน้าท่ี
กระเพาะอาหาร

วิธดี แู ลรักษา

ลาไส้

ลาไส้เลก็ ลาไส้ใหญ่

ลักษณะ/หน้าท่ี ลักษณะ/หน้าท่ี

วธิ ีดูแลรักษา

ให้ผแู้ ทนนกั เรียนอา่ นขอ้ ความ ดงั น้ี
- ทาการยอ่ ยอาหารกบั น้ายอ่ ย
- ดดู ซึมน้าและแร่ธาตุจากกากอาหารท่ีมาจากลาไส้เลก็
- ยอ่ ยอาหารและดูดซึมสารอาหารกลบั เขา้ สู่ร่างกาย
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
- รบั ประทานอาหารทย่ี อ่ ยงา่ ย
- ดดู ซึมน้าและอาหารไปเล้ียงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- ขบั ถา่ ยกากอาหารออกมาเป็นอุจจาระผ่านทางทวารหนกั
- เค้ียวอาหารใหล้ ะเอียด

25

- ด่ืมน้าสะอาดอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 8 - 10 แกว้
- ไมร่ ับประทานอาหารรสจดั
- ทาจิตใจให้ร่าเริงอยู่เสมอ
- นอนหลบั พกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ
- ออกกาลงั กายเป็นประจา
- ทาจิตใจให้แจม่ ใส อารมณด์ ีอยเู่ สมอ
จากน้นั ให้นกั เรียนพิจารณาขอ้ ความทอ่ี ่านว่าเก่ียวขอ้ งกบั อวยั วะกระเพาะอาหาร หรือลาไส้ แลว้ นา
ขอ้ ความไปสรุปเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดานท่คี รูเขียนไว้
6. ครูถามนกั เรียนทลี ะคนเก่ียวกบั วิธีดแู ลรักษากระเพาะอาหารและลาไสข้ องตนเองใน
แตล่ ะวนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ในแต่ละวนั นกั เรียนไดด้ แู ลรกั ษากระเพาะอาหาร (ลาไส)้ อยา่ งไรบา้ ง
7. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั หนา้ ท่แี ละวธิ ีดูแลรกั ษา
กระเพาะอาหารและลาไส้ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- กระเพาะอาหารและลาไส้ มีหนา้ ทตี่ า่ งกนั อยา่ งไร
- ถา้ เราดูแลรักษากระเพาะอาหารและลาไส้ อยา่ งถูกวิธีแลว้ จะเป็นอยา่ งไร
ข้นั สรุป
8.นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี กระเพาะอาหารและลาไสเ้ ป็นอวยั วะภายในร่างกายท่ี
สาคญั ท่ีมลี กั ษณะหนา้ ที่และวธิ ีดแู ลรักษาที่แตกตา่ งกนั จึงควรดูแลรกั ษาอยา่ งถกู วิธีเพื่อให้ทางานอยา่ งเป็น
ปกติ
9. ให้นกั เรียนทาช้ินงานท่ี 1 เรื่อง อวยั วะภายในร่างกายที่สาคญั

ส่ือการเรียนรู้
1. ภาพอวยั วะภายใน
2. เกมฉนั คอื ใคร
3. บตั รคา
4. ชิ้นงานที่ 1 เรื่อง อวยั วะภายในร่างกายทสี่ าคญั

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
1.3 ตรวจช้ินงานท่ี 1
2. เครื่องมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม

26

3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรุง

การประเมินชิ้นงานท่ี 1 เร่ือง อวยั วะภายในร่างกายท่สี าคญั

เกณฑ์การประเมิน 4 ระดบั คะแนน 2 1
3 นกั เรียนเขียนชื่อ
อวยั วะภายใน
นกั เรียนเขียนช่ือ นกั เรียนเขยี นช่ืออวยั วะภายใน นกั เรียนเขียนชื่อ นกั เรียนเขียนช่ือ ร่างกายลงในชอ่ ง
กายโดยอาศยั จากท่ี
อวยั วะภายใน ร่างกายลงในชอ่ งกายได้ อวยั วะภายใน อวยั วะภายใน ครูยกตวั อยา่ งและ
ตอ้ งไดร้ ับคาแนะนา
ร่างกายลงในช่อง สัมพนั ธ์กบั หัวขอ้ ทก่ี าหนด ร่างกายลงในชอ่ ง ร่างกายลงในช่อง จากเพ่อื น

กายไดถ้ ูกตอ้ ง และแตกตา่ งจากทคี่ รู กายไดส้ มั พนั ธ์กบั กายไดส้ มั พนั ธก์ บั

ยกตวั อยา่ งและสามารถให้ หวั ขอ้ ทก่ี าหนดและ หัวขอ้ ที่กาหนดโดย

คาแนะนากบั ผอู้ ืน่ ได้ แตกตา่ งจากทค่ี รู ดดั แปลงจากที่ครู

ยกตวั อย่าง ยกตวั อยา่ ง

27

บนั ทึกการออกแบบการเรียนรู้ท่ี 2

กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2

หน่วยท่ี 2 เรื่อง ธรรมชาติของมนุษย์ เวลา 3 ช่ัวโมง

ผ้สู อน นางสาววไิ ล วนาพงศากลุ

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

ตวั ชีว้ ดั
พ 1.1 ป.2/3 อธิบายธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์

สาระสาคญั
มนุษยจ์ ะมกี ารเจริญเตบิ โตไปตามช่วงวยั ตา่ ง ๆ ซ่ึงทกุ คนจะมีธรรมชาติของชีวติ เหมือนกนั คอื เกิด

แก่ เจบ็ และตาย
สาระการเรียนรู้

1. ช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์
2. การเกิด แก่ เจ็บ ตาย
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
มีวนิ ัย
ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียน

และสังคม

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

ชิน้ งานหรือภาระงาน
ชิ้นงานท่ี 2 เร่ือง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. ใหน้ กั เรียนสารวจสมาชิกในครอบครัวของตนเองว่าอยใู่ นช่วงวยั ใดบา้ ง
2. ใหน้ กั เรียนวาดภาพสมาชิกในครอบครัวลงในแผนภาพช่วงอายตุ ่าง ๆ
3. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกมช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์
4. ใหน้ กั เรียนวาดภาพช่วงวยั ต่าง ๆ ลงในแผนภาพให้ครบทกุ วยั
5. ใหน้ กั เรียนสังเกตภาพธรรมชาตขิ องชีวิตมนุษย์ และร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น
6. ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์
7. ให้นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ีการเกิดและการเจริญเตบิ โตจนกระทงั่ ถึงวยั

28

สูงอายุ รวมท้งั การแก่ การเจบ็ ป่ วยและการตายท่ีเกิดข้นึ ไดก้ บั ทกุ วยั ถือเป็นธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษยท์ ไี่ ม่
สามารถหลกี เลยี่ งได้ แต่เราสามารถใหช้ ีวติ ให้มีความสุขไดโ้ ดยการรู้จกั ดแู ลเอาใจใส่สุขภาพท้งั ร่างกายและ
จิตใจอยเู่ สมอในทุกช่วงวยั ของชีวติ มนุษย์

8. ให้นกั เรียนทาชิ้นงานท่ี 2 เรื่อง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย

สื่อการเรียนรู้
1. ภาพธรรมชาติของชีวิตมนุษย์
2. เกมธรรมชาติของชีวติ มนุษย์
3. บตั รคา
4. ช้ินงานที่ 2 เรื่อง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย
5. แบบสารวจสมาชิกในครอบครัว
6. บตั รภาพช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์
7. เกมช่วงวยั ต่าง ๆ

การประเมนิ ผล

1. การประเมนิ ผลตัวชี้วัด

ชิ้นงานท่ี 2 เร่ือง การเกิด แก่ เจบ็ ตาย

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32 นกั เรียนโยงเสน้
จบั คขู่ อ้ ความได้
นกั เรียนโยงเสน้ นกั เรียนโยงเสน้ นกั เรียนโยงเส้น นกั เรียนโยงเสน้ ถูกตอ้ ง โดยตอ้ ง
ให้เพอ่ื นแนะนา
จบั คขู่ อ้ ความได้ จบั คู่ขอ้ ความได้ จบั คู่ขอ้ ความได้ จบั คู่ขอ้ ความได้ เทา่ น้นั

อยา่ งถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง และ ถกู ตอ้ ง แต่ ถกู ตอ้ ง โดยตอ้ ง

สามารถให้ ไมส่ ามารถแนะนา อาศยั คาแนะนา

คาแนะนากบั เพ่อื นได้ จากเพอ่ื นบา้ ง

เพือ่ นได้

29

2. การประเมินผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
มีวินยั
ตวั ชีว้ ัดที่ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว โรงเรียน
และสังคม

พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม (3)

3.1.1 ปฏบิ ตั ิตนตาม ไมป่ ฏิบตั ิตาม ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง
ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบียบ
ระเบียบ ขอ้ บงั คบั กฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ
ของครอบครัว ระเบียบ ครอบครัวและโรงเรียน ครอบครัวและโรงเรียน ครอบครัวและโรงเรียน
โรงเรียน และสังคม ขอ้ บงั คบั ของ โดยตอ้ งมกี ารเตอื นเป็น โดยตอ้ งมกี ารเตอื น ไดด้ ว้ ยตนเอง
ไมล่ ะเมดิ สิทธิ ครอบครัวและ ส่วนใหญ่ เป็ นบางคร้ ัง
ของผอู้ นื่ โรงเรียน

3.1.2 ตรงต่อเวลาในการ

ปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่าง ๆ

ในชีวิตประจาวนั

และรับผิดชอบ

ในการทางาน

30

แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน ไดค้ ะแนน

_________

คะแนน

ช่ือ ______________________ นามสกลุ ________________ เลขท่ี________ ช้นั ________

คาชี้แจง ให้นกั เรียนทาเคร่ืองหมาย × ทับข้อที่ถกู ต้อง

1. การออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอจะช่วยป้องกนั ธรรมชาติของชีวติ มนุษยใ์ นขอ้ ใด

1 การแก่ 2 การเจ็บ 3 การตาย

2. วยั สูงอายมุ ลี กั ษณะอยา่ งไร

1 เจริญเตบิ โตรวดเร็ว 2 เคลือ่ นไหวไดค้ ลอ่ งแคลว่ 3 ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเร่ิมเส่ือม

3. มีอารมณร์ ุนแรงออ่ นไหวงา่ ย และติดเพ่อื นเป็นลกั ษณะเด่นของวยั ใด

1 วยั กอ่ นเรียน 2 วยั ผูใ้ หญ่ 3 วยั รุ่น

4. วยั ใดจดั เป็นช่วงบ้นั ปลายของชีวิต

1 วยั สูงอายุ 2 วยั ผูใ้ หญ่ 3 วยั ทารก

5. ธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษยส์ ิ้นสุดเม่อื ใด

1 ตาย 2 เจ็บ 3 แก่

6. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเก่ียวกบั ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์

1 หยดุ ลงทก่ี ารแก่ 2 เร่ิมตน้ จากการเกิด 3 การเจ็บป่ วยเกิดข้ึนกบั วยั สูงอายเุ ท่าน้นั

7. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะเดน่ ของวยั เรียน

1 คดิ เรื่องการสร้างครอบครวั 2 เร่ิมมคี วามเสื่อมของร่างกาย 3 ร่างกายผอมและสูงข้ึน

8. ถา้ นกั เรียนมีพสี่ าวอายุ 15 ปี พสี่ าวจะอยใู่ นวยั ใด

1 วยั รุ่น 2 วยั เรียน 3 วยั ผูใ้ หญ่

9. ขณะน้ีนกั เรียนอยใู่ นช่วงวยั ใด

1 วยั ทารก 2 วยั เรียน 3 วยั รุ่น

10. ขอ้ ใดเป็นสาเหตขุ องการเจบ็
1 ออกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอ
2 รบั ประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์
3 ไมด่ แู ลรักษาความสะอาดร่างกาย

เฉลยแบ3 บทไดมส่ดอแู ลบรกกั่อษนาเรคียวนามส- ะหอลางัดเรร่าียงนกาย
1. 2 2. 3 3. 3 4. 1 5. 1
6. 2 7. 3 8. 1 9. 2 10. 3

31

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2รหสั
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสุขศึกษา 2
วชิ า พ12101 เวลา 3 ช่ัวโมง
หน่วยที่ 2 เรื่อง ธรรมชาตขิ องมนุษย์ เวลา 1 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง ธรรมชาติของมนุษย์

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

ตวั ชีว้ ดั
ป.2/3 อธิบายธรรมชาติของชีวิตมนุษย์

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชี้วดั
1. อธิบายช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์ (K)
2. เรียงลาดบั ช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์ (P)
3. เห็นประโยชน์ของการเรียนรู้ช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์ (A)

สาระสาคญั
มนุษยม์ กี ารเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงวยั ต่าง ๆ

สาระการเรียนรู้
ช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
มีวนิ ยั
ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียน
และสังคม

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

ชิ้นงานหรือภาระงาน
- แบบสารวจสมาชิกในครอบครัว

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นา 1. ครูใหน้ กั เรียนทาแบบสารวจสมาชิกในครอบครัวลงในแบบสารวจท่คี รูแจกให้ โดยใหน้ กั เรียน
ทาแบบสารวจสมาชิกในครอบครัว โดยระบุสมาชิกในครอบครัว อายขุ องแต่ละคน แต่ยงั ไม่ตอ้ งลง
รายละเอียดในช่องช่วงวยั

32

ดงั ตวั อยา่ ง

แบบสารวจสมาชิกในครอบครัว
ช่ือ ..............................................................

สมาชิกในครอบครัว อายุ (ปี ) ช่วงวยั

2. ครูสุ่มเลือกผแู้ ทนนกั เรียนออกมานาเสนอแบบสารวจใหเ้ พอ่ื นดหู นา้ ช้นั โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
- สมาชิกในครอบครัวของนกั เรียนมีใครบา้ ง
- แตล่ ะคนมอี ายเุ ทา่ ไร
- สมาชิกในครอบครวั ของนกั เรียนแต่ละคนมีลกั ษณะท่าทางอยา่ งไรบา้ ง

ข้นั สอน
3. ครูนาภาพช่วงวยั ต่าง ๆ ของชีวติ มนุษยม์ าใหน้ กั เรียนศกึ ษา แลว้ ร่วมกนั แสดง

ความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ครอบครัวของนกั เรียนคนใด มคี นทีอ่ ยใู่ นช่วงวยั ทารกบา้ ง
- สมาชิกคนใดในครอบครวั ของนกั เรียนท่อี ยใู่ นช่วงวยั ทารกบา้ ง และมีอายเุ ท่าไร
- ครอบครัวของนกั เรียนคนใด มคี นทอ่ี ยใู่ นช่วงวยั กอ่ นเรียนบา้ ง
- สมาชิกคนใดในครอบครวั ของนกั เรียนทีอ่ ยใู่ นช่วงวยั ก่อนเรียนบา้ ง และมีอายเุ ท่าไร
- ครอบครัวของนกั เรียนคนใด มคี นที่อยใู่ นช่วงวยั เรียนบา้ ง
- สมาชิกคนใดในครอบครัวของนกั เรียนท่ีอยใู่ นช่วงวยั เรียนบา้ ง และมอี ายเุ ทา่ ไร
- ครอบครัวของนกั เรียนคนใดมีคนทีอ่ ยใู่ นช่วงวยั รุ่นบา้ ง
- สมาชิกคนใดในครอบครัวของนกั เรียนที่อยู่ในช่วงวยั รุ่นบา้ ง และมอี ายเุ ท่าไร
- ครอบครัวของนกั เรียนคนใด มคี นท่อี ยใู่ นช่วงวยั ผูใ้ หญบ่ า้ ง
- สมาชิกคนใดในครอบครัวของนกั เรียนที่อยใู่ นช่วงวยั ผูใ้ หญบ่ า้ ง และมอี ายเุ ท่าใด
- ครอบครวั ของนกั เรียนคนใด มีคนทอ่ี ยใู่ นช่วงวยั สูงอายุบา้ ง

33

- สมาชิกคนใดในครอบครัวของนกั เรียน ท่ีอยใู่ นช่วงวยั สูงอายบุ า้ ง และมอี ายเุ ทา่ ไร
4. ใหน้ กั เรียนดแู บบสารวจสมาชิกในครอบครัวของตนเอง แลว้ พจิ ารณาว่าสมาชิกในครอบครัวแต่
ละคน เป็นคนช่วงวยั ใด จากน้นั ใหน้ กั เรียนบนั ทึกช่วงวยั ของสมาชิกในครอบครัว ลงในแบบสารวจแลว้
ส่งครู เพอ่ื ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
5. ให้นกั เรียนวาดภาพสมาชิกในครอบครัวของตนเองลงในแผนภาพ ดงั ตวั อยา่ ง

ภาพ ภาพ ภาพ
วยั ทารก วยั เรียน วยั ผูใ้ หญ่

วยั ทารก วยั ก่อนเรียน วยั เรียน วยั รุ่น วยั ผูใ้ หญ่ วยั สูงอายุ

6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- มนุษยม์ กี ่ีช่วงวยั อะไรบา้ ง

ข้นั สรุป
7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี มนุษยม์ กี ารเปล่ยี นแปลงไปตามช่วงวยั ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ วยั

ทารก วยั กอ่ นเรียน วยั เรียน วยั รุ่น วยั ผูใ้ หญ่ และวยั สูงอายุ

ส่ือการเรียนรู้
1. แบบสารวจสมาชิกในครอบครวั
2. บตั รภาพช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล
สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2. เครื่องมือ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

34

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2รหัส
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสุขศึกษา 2
วชิ า พ12101 เวลา 3 ช่ัวโมง
หน่วยท่ี 2 เรื่อง ธรรมชาตขิ องมนุษย์ เวลา 1 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง ช่วงวัยต่าง ๆ ของมนุษย์ (2)

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์

ตัวชี้วดั
ป.2/3 อธิบายธรรมชาตขิ องชีวิตมนุษย์

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สู่ตวั ชีว้ ดั
1. อธิบายช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์ (K)
2. วาดภาพช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์ (P)
3. เห็นประโยชนข์ องการเรียนรู้ช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์ (A)

สาระสาคญั
มนุษยม์ กี ารเปล่ียนแปลงไปตามช่วงวยั ต่าง ๆ ท้งั ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ สงั คมและสตปิ ัญญาสาระ

การเรียนรู้
ช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มีวนิ ยั
ตวั ช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียน
และสงั คม

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

ชิน้ งานหรือภาระงาน
- ภาพวาดช่วงวยั ต่าง ๆ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นา

1. ใหน้ กั เรียนทบทวนความรู้เก่ียวกบั ช่วงวยั ตา่ ง ๆ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ช่วงวยั ตา่ ง ๆ ของมนุษย์ มกี ่ีช่วงวยั อะไรบา้ ง

35

- แต่ละช่วงวยั มีอายรุ ะหว่างเทา่ ไร
- นกั เรียนอยใู่ นช่วงวยั ใด
ข้นั สอน
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ศึกษาความรู้เก่ียวกบั ช่วงวยั ของชีวติ มนุษยแ์ ละการเจริญเติบโตของ
ร่างกายเพ่ิมเตมิ ดงั น้ี
วัยทารก คอื ช่วงอายตุ ้งั แต่แรกเกิด ถึง 1 ปี เป็นช่วงวยั ทีต่ อ้ งไดร้ ับการดูแลท้งั หมด มพี ฒั นาการที่
รวดเร็วมาก ในช่วง 1 ปี แรก สามารถรบั รู้ในสิ่งหรือเร่ืองท่งี ่าย ๆ เริ่มรู้จกั สารวจ คน้ หาและปรับตวั ให้เขา้ กบั
สภาพแวดลอ้ ม
หลงั จากไดร้ ับความรู้เก่ียวกบั วยั ทารกแลว้ นักเรียนร่วมกนั แสดงความเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

- นกั เรียนคนใดมนี อ้ งในวยั น้ีบา้ ง
- นอ้ งของนกั เรียนมลี กั ษณะเช่นน้ีหรือไม่ อยา่ งไร
วัยก่อนเรียน คอื วยั เด็กเลก็ ก่อนเขา้ เรียน จะอยใู่ นช่วงอายรุ ะหวา่ ง 1 - 6 ปี เด็กจะพดู ได้ มกี าร
เจริญเตบิ โตมาก เดิน ว่ิงไดค้ ลอ่ งแคล่ว มคี วามกระตือรือร้น ช่วยเหลอื ตนเองไดใ้ นบางเรื่อง อยากลองทาสิ่ง
ตา่ ง ๆ ท่อี ยใู่ กลต้ วั อยากรู้อยากเห็น
หลงั จากไดร้ บั ความรู้เก่ียวกบั วยั กอ่ นเรียนแลว้ นักเรียนร่วมกนั แสดงความเห็น โดยครูใชค้ าถาม
ดงั น้ี
- นกั เรียนคนใดมนี อ้ งในวยั น้ีบา้ ง
- นอ้ งของนกั เรียนมลี กั ษณะเช่นน้ีหรือไม่ อยา่ งไร
วยั เรียน คอื อายรุ ะหว่าง 6 - 12 ปี สามารถดแู ลตนเองไดเ้ กือบท้งั หมด เริ่มมีการเปล่ยี นแปลง
ทางดา้ นร่างกาย น้าหนกั และส่วนสูงเพม่ิ ข้ึน จึงทาให้เด็กในวยั น้ีมีรูปร่างผอมและสูงข้นึ
หลงั จากไดร้ บั ความรู้เกี่ยวกบั วยั เรียนแลว้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
* นกั เรียนมลี กั ษณะเช่นน้ีหรือไม่
วยั รุ่น คอื ช่วงอายตุ ้งั แต่ 12 - 20 ปี แบง่ เป็น 2 ช่วง ดงั น้ี
1) วัยรุ่นตอนต้น หรือช่วงเขา้ สู่วยั รุ่น อายรุ ะหวา่ ง 12 - 15 ปี ผชู้ ายมีเสียงหา้ วกงั วานข้ึน ส่วน
เดก็ หญิงจะเร่ิมมีสะโพกผายและมหี นา้ อกใหญข่ ้นึ
2) วยั รุ่นตอนปลาย อายรุ ะหว่าง 16 - 20 ปี มีอารมณร์ ุนแรงข้ึน อ่อนไหวง่าย ติดเพือ่ น ชอบอยู่
รวมกนั เป็นกล่มุ และตอ้ งการการยอมรบั จากผอู้ ื่น
หลงั จากไดร้ บั ความรู้เก่ียวกบั วยั รุ่นแลว้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- นกั เรียนคนใดมพี ่ีในวยั น้ีบา้ ง
- พ่ขี องนกั เรียนอยู่ในช่วงวยั รุ่นตอนตน้ หรือวยั รุ่นตอนปลาย
- พขี่ องนกั เรียนมีลกั ษณะเช่นน้ีหรือไม่
วยั ผ้ใู หญ่ อายรุ ะหวา่ ง 20 - 60 ปี มรี ่างกายเจริญเติบโตเตม็ ทีแ่ ละมีความมนั่ คงในหนา้ ที่
การงาน และเม่ือเขา้ สู่วยั ผใู้ หญต่ อนปลาย คือ อายปุ ระมาณ 40 ปี ข้ึนไป จะเรียกวยั น้ีวา่ วยั ทอง ซ่ึงวยั น้ี
จะมกี ารเปลยี่ นแปลงฮอร์โมนในร่างกาย ทาให้เกิดปัญหาสุขภาพได้

36

หลงั จากไดร้ บั ความรู้เกี่ยวกบั วยั ผูใ้ หญแ่ ลว้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- นกั เรียนคนใดมีคนในวยั น้ีอยใู่ นครอบครัวบา้ ง
- คนวยั น้ีในครอบครวั ของนกั เรียนมลี กั ษณะเช่นน้ีหรือไม่

วยั สูงอายุ เป็นช่วงบ้นั ปลายของชีวติ มอี ายตุ ้งั แต่ 60 ปี ข้นึ ไป ร่างกายจะไมม่ กี ารเจริญเตบิ โต อวยั วะ
ตา่ ง ๆ ทางานไมป่ กติ มีความเสื่อมของร่างกายทางดา้ นต่าง ๆ

หลงั จากไดร้ ับความรู้เก่ียวกบั วยั สูงอายแุ ลว้ นกั เรียนร่วมกนั แสดงความเห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- นกั เรียนคนใดมคี นในวยั น้ีอยใู่ นครอบครัวบา้ ง
- คนวยั น้ีในครอบครวั ของนกั เรียนมลี กั ษณะเช่นน้ีหรือไม่

3. ใหน้ กั เรียนทายปัญหา ใช่หรือไมใ่ ช่ โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี
3.1 ช่วงวยั ท่ตี อ้ งไดร้ บั การดแู ลท้งั หมด คือ วยั ทารก ใช่หรือไม่
3.2 วยั ก่อนเรียน มอี ายรุ ะหวา่ ง 6 - 12 ปี ใช่หรือไม่
3.3 วยั เรียนเป็นวยั ท่มี กี ารเปล่ยี นแปลงทางดา้ นร่างกาย น้าหนกั และส่วนสูงจะเพิ่มมากข้ึน

ใช่หรือไม่
3.4 วยั รุ่นตอนตน้ อายรุ ะหวา่ ง 12 - 15 ปี ใช่หรือไม่
3.5 วยั ที่มอี ารมณร์ ุนแรง อ่อนไหวง่ายและตดิ เพื่อน คอื วยั รุ่นตอนปลายใช่หรือไม่
3.6 วยั ทอง คอื วยั สูงอายใุ ช่หรือไม่
3.7 วยั ทม่ี กี ารเจริญเตบิ โตมากท่ีสุด คือ วยั สูงอายใุ ช่หรือไม่

4. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม ช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยครูวางควา่ บตั รคาลงบนโตะ๊ นกั เรียน
คนละ 1 ใบ ห้ามนกั เรียนเปิ ดจนกวา่ จะไดย้ นิ สัญญาณ

วยั ทารก วยั ก่อนเรียน วยั เรียน

วยั รุ่น วยั ผูใ้ หญ่ วยั สูงอายุ

วิธีการเล่น
1) เม่ือครูใหส้ ัญญาณนกั เรียนเปิ ดบตั รคา
2) เมอื่ เห็นบตั รคาของตนเองแลว้ ให้ตามหาเพ่ือนที่มีบตั รคาช่วงวยั ต่าง ๆ ใหค้ รบทุกช่วงวยั
3) กลมุ่ ใดรวบรวมเพ่ือนครบทุกช่วงวยั แลว้ ยนื เรียงแถว ช่วงวยั ต่าง ๆ ตามลาดบั ใหถ้ ูกตอ้ ง
4) เม่อื เรียงถูกตอ้ งครบทุกช่วงวยั แลว้ ส่งเสียงร้องเย่! กล่มุ ใดท่ีรวบรวมช่วงวยั ต่าง ๆ

ไดค้ รบถว้ น และเรียงลาดบั ไดถ้ ูกตอ้ งก่อน เป็นกลมุ่ ทช่ี นะ
5. ให้ผแู้ ทนนกั เรียน 6 คน ออกมาวาดภาพช่วงวยั ตา่ ง ๆ ลงในแผนภาพให้ครบทกุ วยั

37

ดงั ตวั อยา่ ง

วยั ทารก วยั กอ่ นเรียน วยั เรียน วยั รุ่น วยั ผูใ้ หญ่ วยั สูงอายุ

6. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยครูใชค้ าถามดงั น้ี
- นกั เรียนเคยผ่านช่วงวยั ใดมาบา้ ง
- เม่ือนกั เรียนผ่านวยั เรียนไปแลว้ จะตอ้ งไปอยใู่ นช่วงวยั ใดบา้ ง
- ถา้ นกั เรียนมอี ายทุ ีย่ นื ยาว จะหลีกเล่ยี งการผา่ นช่วงวยั ใดช่วงวยั หน่ึงไดห้ รือไม่

ข้นั สรุป
7. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี มนุษยม์ กี ารเปล่ียนแปลงไปตามช่วงวยั ต่าง ๆ ตาม

ธรรมชาตขิ องชีวติ ซ่ึงทกุ คนไมส่ ามารถหลกี เลีย่ งได้
ส่ือการเรียนรู้

1. ภาพช่วงวยั ตา่ ง ๆ
2. เกมช่วงวยั ต่าง ๆ ของมนุษย์
3. บตั รคา
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล
1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม

ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง

38

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2รหัส
รายวชิ าสุขศึกษา 2
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลา 3 ชั่วโมง
วชิ า พ12101
หน่วยท่ี 2 เรื่อง ธรรมชาติของมนุษย์ เวลา 1 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง ธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์

ตัวชี้วัด
ป.2/3 อธิบายธรรมชาติของชีวติ มนุษย์

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชีว้ ดั
1. อธิบายธรรมชาตขิ องชีวิตมนุษยต์ ้งั แตเ่ กิดจนตาย (K)
2. เขียนแผนภาพธรรมชาตขิ องชีวิตมนุษยต์ ้งั แตเ่ กิดจนตาย (P)
3. เห็นประโยชน์ของการเรียนรู้ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ (A)

สาระสาคญั
มนุษยม์ กี ารเปลย่ี นแปลงไปตามธรรมชาตขิ องชีวิต ไดแ้ ก่ การเกิด การแก่ การเจบ็ และการตาย

สาระการเรียนรู้
ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

มีวินัย
ตวั ช้ีวดั ที่ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียน

และสงั คม
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
ชิ้นงานหรือภาระงาน

ช้ินงานที่ 2 เร่ือง การเกิด แก่ เจบ็ ตาย
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั นา
1. ใหน้ กั เรียนดูภาพธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์ จากน้ัน ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาภาพ

39

ธรรมชาตขิ องชีวิตมนุษย์ โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี
- ในภาพมีอะไรบา้ ง
- ในชีวติ ประจาวนั นกั เรียนเคยเห็นคนในภาพเหลา่ น้ีหรือไม่
- นกั เรียนเคยเห็นคนเหมือนในภาพทใี่ ดบา้ ง

ข้นั สอน
2. ให้นกั เรียนดูภาพการเกิด จากน้นั ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การเกิด ดงั น้ี
- ภาพน้ีคอื อะไร
- นกั เรียนเคยเห็นเดก็ ที่เกิดใหมห่ รือไม่ เคยเห็นท่ใี ดบา้ ง
- ครอบครัวของนกั เรียนคนใดมีเดก็ ทารกเกิดใหมบ่ า้ ง
- เด็กทารกคนน้นั เก่ียวขอ้ งกบั นกั เรียนอยา่ งไร
- นกั เรียนรู้หรือไมว่ ่าเด็กทารกเกิดมาจากไหน
- นกั เรียนรู้หรือไมว่ ่า แม่ตอ้ งอมุ้ ทอ้ งลูกนานกเ่ี ดือน จึงจะคลอดออกมาเป็นทารก
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั การเกิด ว่ามนุษยเ์ ริ่มตน้ จากการเกิด โดยอยูใ่ นครรภข์ อง

แม่ ไดร้ ับอาหารจากแมท่ าให้เจริญเติบโตนานประมาณ 9 เดือน จึงคลอดออกมาเป็นทารก
3. ใหน้ กั เรียนดูภาพการแก่ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การแก่ ดงั น้ี
- ภาพน้ีคืออะไร
- นกั เรียนเคยเห็นคนแก่หรือผสู้ ูงอายหุ รือไม่ เคยเห็นทีใ่ ดบา้ ง
- ครอบครวั ของนกั เรียนคนใดมคี นแก่หรือผูส้ ูงอายบุ า้ ง
- คนแกห่ รือผสู้ ูงอายเุ หลา่ น้นั เก่ียวขอ้ งกบั นกั เรียนอยา่ งไร
- ลกั ษณะของคนแก่ มอี ะไรบา้ ง
- นกั เรียนรู้หรือไม่ว่าก่อนจะเป็นคนแกห่ รือผสู้ ูงอายุ คนเหล่าน้นั เคยผ่านช่วงวยั ใดมาบา้ ง
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั การแกว่ า่ เมอื่ เราเกิดเป็นทารกจะมีการเจริญเติบโต

เป็นไปตามวยั คอื จากวยั ทารกเป็นวยั ก่อนเรียน วยั เรียน วยั รุ่น วยั ผูใ้ หญ่ จนถึงวยั สูงอายหุ รือคนแก่
4. ใหน้ กั เรียนดภู าพการเจบ็ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การเจบ็ ดงั น้ี
- ภาพน้ีคอื อะไร
- นกั เรียนเคยเจบ็ ป่ วยหรือไม่
- นกั เรียนเคยเจบ็ ป่ วยเป็นอะไร
- สาเหตุทีน่ กั เรียนเจบ็ ป่ วยมีอะไรบา้ ง
- เมื่อนกั เรียนเจบ็ ป่ วยควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร
- นอกจากนกั เรียนแลว้ ในครอบครวั มีใครเคยเจบ็ ป่ วยบา้ ง
- เมื่อคนเราเจ็บป่ วยแลว้ ไมไ่ ดร้ บั การรกั ษาท่ถี ูกตอ้ งจะเป็นอยา่ งไร
ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั การเจ็บวา่ การเจบ็ เกิดข้ึนไดก้ บั ทุกช่วงวยั และเกิดจาก

หลายสาเหตุ เช่น การไมร่ ักษาความสะอาดของร่างกาย ขาดการออกกาลงั กาย หรือพกั ผ่อน

40

ไมเ่ พยี งพอ เม่ือร่างกายเกิดการเจ็บป่ วย และไม่ไดร้ ับการรักษาท่ีถกู ตอ้ งอาจเป็นสาเหตขุ องการเสียชีวิตใน
ทีส่ ุด

5. ให้นกั เรียนดูภาพการตาย จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การตาย ดงั น้ี
- ภาพน้ีคืออะไร
- นกั เรียนเคยพบเห็นการจดั งานศพหรือไม่ เคยเห็นที่ใดบา้ ง
- งานศพจะจดั ข้ึนไดเ้ มอ่ื ใด
- เพราะอะไรคนเราถึงตายหรือเสียชีวิต

ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เก่ียวกบั การตายว่า การตายเป็นการสิ้นสุดชีวติ ตามธรรมชาติของ
มนุษย์ ซ่ึงเกิดไดก้ บั ทกุ ช่วงวยั อาจมีหลายสาเหตุ เช่น ความเส่ือมโทรมของร่างกายจากการใชง้ านมาเป็น
เวลานาน การเจบ็ ดว้ ยโรคต่าง ๆ หรืออุบตั ิเหตุ

6. ให้นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาภาพธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์ โดยเรียงลาดบั จากซ้ายไปขวา เริ่มที่
การเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย โดยครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ ภาพที่นกั เรียนเห็น เราเรียกวา่ ธรรมชาติของ
ชีวติ มนุษย์

7. ให้นกั เรียนทายปัญหา ใช่ หรือ ไม่ใช่ โดยครูใชค้ าถามต่อไปน้ี
1) มนุษยเ์ ริ่มตน้ ท่กี ารเกิดใช่หรือไม่
2) คนแก่ไม่เคยผ่านช่วงวยั ทารกใช่หรือไม่
3) คนแก่คือคนวยั สูงอายใุ ช่หรือไม่
4) การเจ็บเกิดข้ึนเฉพาะวยั สูงอายใุ ช่หรือไม่
5) การไมอ่ อกกาลงั กายเป็นสาเหตุของการเจ็บป่ วยใช่หรือไม่
6) ถา้ เกิดการเจบ็ ป่ วยแลว้ ไมไ่ ดร้ ับการรักษาทีถ่ กู ตอ้ ง อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตใช่

หรือไม่
7) เด็กทารกอยใู่ นครรภม์ ารดานานประมาณ 9 เดือนกว่าจะคลอดออกมาใช่หรือไม่
8) มนุษยส์ ิ้นสุดชีวิตดว้ ยการตายใช่หรือไม่
9) การเจบ็ ป่ วยดว้ ยโรคต่าง ๆ เป็นสาเหตุของการตายใช่หรือไม่

8. ให้นกั เรียนเล่นเกม ธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์ โดยมวี ิธีการเล่น ดงั น้ี
8.1 นกั เรียนแบง่ กล่มุ ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กนั ครูแบง่ กระดานออกเป็น

2 ส่วน แตล่ ะส่วนวางบตั รคาลงบนพ้นื ดงั น้ี

การเกิด การแก่ การเจบ็ การตาย

8.2 นกั เรียนยนื เรียงแถวเป็นแถวตอนเรียงหน่ึง หันหนา้ เขา้ หากระดาน ให้ตรงกบั กระดาน
แตล่ ะส่วนทค่ี รูแบง่ ไว้ ระยะห่างจากกระดาน 3 เมตร

8.3 เม่ือครูให้สญั ญาณ นกั เรียนทอ่ี ยหู่ ัวแถวของแต่ละแถววง่ิ ไปหยบิ บตั รคาที่วางอยบู่ นพ้นื
ดา้ นหนา้ ตนเอง เรียงบนกระดานเป็นแผนภาพธรรมชาติของชีวิตมนุษย์

41

8.4 ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง กอ่ นคละบตั รคาแลว้ วางไวบ้ นพ้นื ดงั เดิม
8.5 นกั เรียนคนที่สองของแถว วิง่ มาทาเช่นเดียวกบั นกั เรียนหัวแถว ทาเช่นน้ีไป
เรื่อย ๆ กลมุ่ ใดท่ีสมาชิกเรียงไดถ้ ูกตอ้ งครบทุกคนก่อน เป็นกลมุ่ ทีช่ นะ
9. ใหน้ กั เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ในครอบครัวของนกั เรียนเคยพบกบั เหตกุ ารณ์ใดในธรรมชาติของชีวติ บา้ ง
- นกั เรียนไดป้ ระโยชน์อะไรจากการเรียนรู้เรื่อง ธรรมชาตขิ องชีวติ มนุษย์
10. ครูและนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ โดยครูใชค้ าถาม
ดงั น้ี
- คนทกุ คนเร่ิมตน้ จากอะไร และสิ้นสุดอยา่ งไร
- ทุกคนสามารถหลกี เลี่ยงการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย ไดห้ รือไม่
ข้นั สรุป
11. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ทุกคนเร่ิมตน้ จากการเกิด เจริญเตบิ โตตามวยั จนกระทง่ั
แก่ และสิ้นสุดท่ีการตาย ซ่ึงเป็นไปตามธรรมชาติของชีวิตมนุษยท์ ่ีทกุ คนหลีกเลี่ยงไมไ่ ด้
12. ให้นกั เรียนทาชิ้นงานท่ี 2 เรื่อง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย

ส่ือการเรียนรู้
1. ภาพธรรมชาติของชีวติ มนุษย์
2. เกมวงจรชีวิตของมนุษย์
3. บตั รคา
4. ชิ้นงานท่ี 2 เรื่อง การเกิด แก่ เจบ็ ตาย

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล
1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่
1.3 ตรวจชิ้นงานท่ี 2
2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่าน

42

3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
คะแนน 9-10 ระดบั ดีมาก
คะแนน 7-8 ระดบั ดี
คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรุง

การประเมินช้ินงานท่ี 2 เร่ือง การเกิด แก่ เจบ็ ตาย

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1
32 นกั เรียนโยงเสน้
จบั คขู่ อ้ ความได้
นกั เรียนโยงเสน้ นกั เรียนโยงเส้น นกั เรียนโยงเส้น นกั เรียนโยงเสน้ ถกู ตอ้ ง โดยตอ้ ง
ใหเ้ พ่ือนแนะนา
จบั ค่ขู อ้ ความได้ จบั คู่ขอ้ ความได้ จบั คู่ขอ้ ความได้ จบั คขู่ อ้ ความได้ เท่าน้นั

อยา่ งถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง และ ถูกตอ้ ง แต่ ถูกตอ้ ง โดยตอ้ ง

สามารถให้ ไม่สามารถแนะนา อาศยั คาแนะนา

คาแนะนากบั เพอื่ นได้ จากเพอ่ื นบา้ ง

เพือ่ นได้

43

บันทกึ การออกแบบการเรียนรู้ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2
กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เวลา 3 ช่ัวโมง
หน่วยที่ 3 เร่ือง บทบาทหน้าทข่ี องสมาชิกในครอบครัว
ผ้สู อน นางสาววไิ ล วนาพงศากลุ

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 2.1 เขา้ ใจและเห็นคณุ ค่าตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมีทกั ษะในการดาเนินชีวติ

ตวั ชี้วัด
ป.2/1 ระบบุ ทบาทหนา้ ที่ของตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั

สาระสาคญั
ครอบครวั ประกอบไปดว้ ยสมาชิกที่มบี ทบาทและหนา้ ท่แี ตกต่างกนั แต่มีจดุ มงุ่ หมายเดียวกนั คอื ทา

ให้ครอบครวั มีความอบอนุ่ และทกุ คนอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมคี วามสุข
สาระการเรียนรู้

1. บทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง
2. บทบาทหนา้ ทข่ี องพอ่
3. บทบาทหนา้ ที่ของแม่
4. บทบาทหนา้ ทีข่ องพนี่ อ้ ง
5. บทบาทหนา้ ท่ขี องญาติ
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
มุ่งม่ันในการทางาน
ตวั ช้ีวดั ท่ี 6.1 ต้งั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทีก่ ารงาน
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ชิน้ งานหรือภาระงาน
ช้ินงานท่ี 3 เรื่อง บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครัว

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. ใหน้ กั เรียนดภู าพสมาชิกในครอบครวั แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
2. ให้นกั เรียนวิเคราะหส์ ถานการณต์ วั อยา่ งแลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น
3. ให้นกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั บทบาทหนา้ ท่ีของตนเองในฐานะท่เี ป็นสมาชิกใน

ครอบครวั เป็นแผนภาพความคิด
4. ใหน้ กั เรียนวาดภาพระบายสี การปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ท่ีโดยยึดหลกั ปรัชญา

44

เศรษฐกิจพอเพียงลงในช่องวา่ ง แลว้ ตอบคาถาม

5. ให้นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 3 คน แสดงบทบาทสมมุติครอบครัวอบอนุ่ โดยแสดง

บทบาทหนา้ ที่ของพ่อแม่ และลูก

6. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปบทบาทหนา้ ท่ีของพ่อและแม่

7. ให้นกั เรียนวิเคราะหแ์ ละร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นจากสถานการณ์ตวั อยา่ ง

8. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปบทบาทหนา้ ทีข่ องพี่นอ้ ง และบทบาทหนา้ ท่ขี องญาตเิ ป็น

แผนภาพความคดิ

9. ให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ ร่วมกนั แสดงบทบาทสมมุติ บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในครอบครัว

10. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ีครอบครวั ประกอบดว้ ยสมาชิกและบทบาทหนา้ ท่ี คนใน

ครอบครัวควรมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทแี่ ละรักใคร่ปรองดองกนั

11. ให้นกั เรียนทาช้ินงานที่ 3 เรื่อง บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในครอบครวั

ส่ือการเรียนรู้

1. ภาพสมาชิกในครอบครวั

2. สถานการณ์ตวั อยา่ ง

3. ชิ้นงานที่ 3 เร่ือง บทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิกในครอบครวั

4. ภาพพ่อแม่ของครู

การประเมนิ ผล

1. การประเมนิ ผลตัวชี้วัด

ช้ินงานท่ี 3 เรื่อง บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในครอบครัว

เกณฑ์การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 2 1
3

นกั เรียนบอกการ นกั เรียนบอกการ นกั เรียนบอกการปฏบิ ตั ิ นกั เรียนบอกการ นกั เรียนบอกการ

ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ตนตามบทบาทหนา้ ที่ ปฏบิ ตั ติ นตาม ปฏิบตั ิตนตาม

บทบาทหนา้ ที่ของ บทบาทหนา้ ท่ขี อง ของสมาชิกใน บทบาทหนา้ ทข่ี อง บทบาทหนา้ ที่

สมาชิกใน สมาชิกใน ครอบครัวที่ดีไดส้ ัมพนั ธ์ สมาชิกใน ของสมาชิกใน

ครอบครวั ท่ดี ีได้ ครอบครัวทดี่ ีได้ กบั หัวขอ้ ครอบครัวที่ดีได้ ครอบครวั ทด่ี ีได้

สมั พนั ธก์ บั หัวขอ้ ทก่ี าหนดและแตกต่าง สมั พนั ธ์กบั หวั ขอ้ สัมพนั ธ์กบั

ที่กาหนดและ จากทค่ี รูยกตวั อยา่ ง แต่ ท่กี าหนด ตามท่ี หวั ขอ้

แตกต่างจากที่ครู ไมส่ ามารถแนะนาให้ ครูยกตวั อยา่ ง แต่ ท่กี าหนด โดย

ยกตวั อยา่ ง และ ผอู้ ื่นปฏิบตั ิตามได้ มีการดดั แปลงให้ อาศยั จากที่ครู

สามารถแนะนาให้ แตกตา่ ง ยกตวั อยา่ ง

ผอู้ น่ื ปฏิบตั ิตามได้

45

2. การประเมินผลคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

มุ่งมน่ั ในการทางาน

ตัวชีว้ ัดที่ 6.1 ต้งั ใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ัติหน้าทีก่ ารงาน

พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3)

6.1.1 เอาใจใส่ตอ่ การ ไม่ต้งั ใจ เอาใจใส่ตอ่ การ ต้งั ใจและรับผิดชอบ ต้งั ใจและรบั ผิดชอบ

ปฏิบตั ิหน้าท่ี ปฏิบตั ิหน้าท่ี ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี

ท่ีไดร้ ับมอบหมาย การงาน มอบหมาย ที่ไดร้ บั มอบหมาย ที่ไดร้ ับมอบหมาย

6.1.2 ต้งั ใจและ ให้สาเร็จ ให้สาเร็จ มีการ

รับผิดชอบ ปรับปรุงการทางาน

ในการทางาน ให้ดีข้ึน

ให้สาเร็จ

6.1.3 ปรบั ปรุงและ

พฒั นาการทางาน

ดว้ ยตนเอง

46

แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน ไดค้ ะแนน

_________

ชื่อ ______________________ นามสกุล________________ เลขท่ี________ ช้นั ________ คะแนน

คาชี้แจง ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย × ทบั ข้อทีถ่ กู ต้อง

1. บทบาทหนา้ ทส่ี าคญั ของแมค่ ือขอ้ ใด

1 ทางานบา้ นตา่ ง ๆ 2 หาเล้ียงครอบครัว 3 เป็นหวั หนา้ ครอบครวั

2. ขอ้ ใดปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ทีไ่ ดถ้ ูกตอ้ ง

1 ลูกเป็นผนู้ าครอบครวั คอยปกป้องดแู ลทุกคนในครอบครัว

2 พอ่ เล่นการพนนั เพอื่ หารายไดใ้ หค้ รอบครัว

3 แมด่ แู ลทาความสะอาดบา้ นให้เรียบร้อย

3. ใครปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ของตนเองไดด้ ีทส่ี ุด

1 แม่ดโู ทรทศั น์ 2 ลกู ไปเลน่ กบั เพ่อื น 3 พอ่ ซ่อมเกา้ อ้ที ชี่ ารุด

4. พ่ีกบั นอ้ งควรปฏิบตั ิต่อกนั อยา่ งไร

1 พี่ชอบแยง่ ของเลน่ นอ้ งเป็นประจา

2 มคี วามสามคั คีไมท่ ะเลาะกนั

3 ต่างคนต่างอยไู่ มย่ งุ่ เกี่ยวกนั

5. คุณธรรมในขอ้ ใดมีความสาคญั ทส่ี ุดในการอยรู่ ่วมกนั ในครอบครัว

1 รกั ความเป็นไทย

2 มีจิตสาธารณะ

3 มคี วามสามคั คี เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน -

6. การปฏบิ ตั ิตนตามบทบาทหนา้ ทขี่ องตนเองมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร หลังเรียน

1 ครอบครัวมคี วามสุข 1. 1 2. 3

2 สร้างรายไดใ้ หก้ บั ครอบครวั มากข้นึ 3. 3 4. 2
3 สมาชิกในครอบครวั มรี ่างกายแข็งแรง 5. 3 6. 1

7. ลกั ษณะของญาติทีด่ ีเป็นอยา่ งไร 7. 1 8. 2

1 ไมม่ ุ่งร้าย และไมเ่ บยี ดเบียนบุคคลในครอบครวั 9. 3 10. 3

2 เอารดั เอาเปรียบทุกคนในครอบครวั

3 ชกั ชวนบตุ รหลานไปทาสิ่งทไี่ มด่ ี

8. นกั เรียนจะช่วยทางานบา้ นไดอ้ ยา่ งไร

1 ทางานตามที่พอ่ แม่ส่ัง 2 ทางานเทา่ ทจี่ ะทาได้ 3 ทางานบา้ นท่ีเราชอบ

9. การต้งั ใจศึกษาเล่าเรียนเป็นบทบาทหนา้ ที่ของใคร

1 พอ่ และแม่ 2 ญาติ 3 ลกู

10. ใครคือสมาชิกในครอบครวั

1 พอ่ และแม่ 2 นอ้ งและแม่ 3 ทกุ คนในบา้ น

47

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7

กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันประถมศึกษาปี ที่ รหสั วิชา

พ12101 รายวชิ าสุขศึกษา 2

หน่วยที่ 3 เร่ือง บทบาทหน้าท่ีของสมาชิกในครอบครัว เวลา 3 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง บทบาทหน้าที่ของตนเอง เวลา 1 ช่ัวโมง

มาตรฐานการเรียนรู้
พ 2.1 เขา้ ใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมีทกั ษะในการดาเนินชีวติ

ตัวชี้วดั
ป.2/1 ระบุบทบาทหนา้ ทีข่ องตนเองและสมาชกิ ในครอบครัว

จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตัวชีว้ ดั
1. อธิบายบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง (K)
2. เขียนแผนภาพบทบาทหนา้ ทีข่ องตนเองในฐานะที่เป็นสมาชิกของครอบครัว (P)
3. เห็นความสาคญั ของการปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง (A)

สาระสาคญั
นกั เรียนเป็นสมาชิกของครอบครัว จึงมีหนา้ ท่ที าให้ครอบครวั มีความสุขโดยการปฏบิ ตั ติ นตาม

บทบาทหนา้ ที่ของตนเอง
สาระการเรียนรู้

บทบาทหนา้ ที่ของตนเอง
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

มุ่งมัน่ ในการทางาน
ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ทก่ี ารงาน
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ชิ้นงานหรือภาระงาน

ช้ินงานที่ 3 เรื่อง บทบาทหนา้ ที่ของสมาชิกในครอบครวั

48