Show
ทุกวันนี้เราไม่สามารถจะปฎิเสธได้เลยว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หลาย ๆ อย่างได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของเราไปแล้วไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, โน้ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์ ลามไปจนถึงสมาร์ทโฮมแล้ว ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันสามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้หมด ทำให้เราสามารถควบคุมทุกอย่างได้จากอุปกรณ์ที่อยู่ในมือเรา ซึ่งในวันนี้เราขอมาพูดถึง “สมาร์ทวอทช์” หรือ “นาฬิกาอัจฉริยะ” ค่ะ อุปกรณ์ตัวจิ๋วน้องใหม่ที่จะติดข้อมือคุณไปในทุกที่ตลอดเวลาทำให้คุณไม่พลาดทุกข้อความ, อีเมล์, สายโทรเข้า หรือเหตุการณ์สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของคุณ และมันยังเป็นผู้ดูแลสุขภาพที่ดีให้กับคุณได้ด้วยค่ะ สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนนาฬิกาข้อมือแบบเดิม ๆ ที่ทำได้แค่บอกเวลากับวันที่ เปลี่ยนเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ ซึ่งจะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณได้เพื่อรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ มาแสดงผลที่ข้อมือของคุณ มีการเพิ่มเซ็นเซอร์เพื่อตรวจวัดค่าต่างๆ และมีการติดตามสุขภาพ มีการนับจำนวนก้าว มีการคำนวณแคลอรี่ มีการบันทึกอัตราการเต้นของชีพจร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ คุณสามารถนำข้อมูลมาวิเคาะห์ เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลสุขภาพของคุณให้ดีขึ้น นอกจากนี้สมาร์ทวอทช์ยังเป็นผู้ช่วยด้านการออกกำลังกายที่ดีอีกด้วย ในบางรุ่นมันก็เปรียบเสมือนคุณมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาคอยเทรนให้เลย ในปัจจุบันตลาดของสมาร์ทวอทช์ก็มีการแข่งขันกันสูงมาก ซึ่งมีให้เลือกมากมาย หลายรุ่นหลายแบรนด์และหลายระดับราคาค่ะ อาทิเช่น Realme Watch, Samsung Watch, OPPO Watch, Garmin Watch, Xiaomi Watch และ Apple Watch ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป ในบางรุ่นอาจเน้นการใช้งานทั่วไป บางรุ่นก็เน้นการออกกังกาย หรือบางรุ่นเน้นฟังก์ชันที่หลากหลาย ซึ่งแน่นอนพอมันมีตัวเลือกเยอะ ๆ แบบนี้ มันก็เลือกได้ยากใช่มั๊ยล่ะคะ ฉะนั้นเพื่อความง่ายในการตัดสินใจของคุณ ในบทความนี้เราได้เลือก สมาร์ทวอทช์ รุ่นยอดนิยมราคาไม่เกิน 5,000 บาท มารีวิวค่ะ ราคาของสมาร์ทวอทช์ในตลาดปัจจุบัน !สำหรับราคาของสมาร์ทวอทช์ในท้องตลาดปัจจุบันนั้นค่อยข้างแปรผัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันในการใช้งาน และความทนทานค่ะ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยอย่าง Xiaomi Mi Band 4 Smart Watch หรือ Huawei Honor Band 5 ไปจนถึงหลักหมื่นอย่าง Apple Watch Series 6 หรือ Garmin Fenix 6X Pro Solar เป็นต้น แต่ในบทความนี้เราได้คัดเลือก สมาร์ทวอทช์รุ่นที่ดีที่สุด โดยมีราคาไม่เกิน 5,000 บาท มาให้คุณเลือก ซึ่งจะมีแบรนด์ไหน ? รุ่นอะไร ? และจะมีราคาเท่าไหร่บ้าง ? ตามไปดูกันเลยค่ะ รีวิว สมาร์ทวอทช์ Samsung Galaxy Fitรูปภาพจาก samsung.comราคา 1,880 บาท* Samsung Galaxy Fit เป็นสมาร์ทแบนด์อัจฉริยะ ที่ดีไซน์มาโดยเน้นความกระชับ คล่องตัว แต่ยังสวมใส่สบาย เพื่อให้ตอบโจทย์กับการออกกำลังกาย และการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะ โดยรุ่นนี้ใช้หน้าจอ กระจก 3D Curved Glass เป็นจอภาพ AMOLED ขนาด 0.95 นิ้ว ความละเอียด 120 x 240 พิกเซล ขนาดเล็ก กะทัดรัด และบางเบา ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบาย ในด้านการติดตามต่าง ๆ Galaxy Fit จะติดตามกิจกรรมประจำวันของคุณทั้งหมด ทั้ง ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ แบบออปติคอล การนับก้าว ระยะเดินทาง การคำนวณแคลอรี่ และการนอนหลับของคุณ รวมไปถึงคุณสมบัติด้านออกกำลังกายก็ครอบคลุมครับ นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือน และสามารถตอบกลับข้อความได้ด้วย ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Huawei Watch Fit new สมาร์ทวอทช์รูปภาพจาก consumer.huawei.comราคา 2,499 บาท* Huawei Watch Fit new สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้หลายโอกาส สามารถใส่ไปการออกกำลังกาย หรือใส่ในชีวิตประจำวันก็ได้ครับ แสดงผลบนหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.64 นิ้ว ช่วยมอบภาพที่คมชัด ตัวเรือนดีไซน์เรียบหรู ใช้วัสดุโพลีเมอร์ที่มีความยืดหยุ่น ทำให้มีความทนทาน และมีน้ำหนักเบา โดยหนักเพียง 21 ก. (ไม่รวมสาย) เท่านั้น ส่วนสายเป็นสายซิลิโคนที่เบาสบายและมีให้เลือกหลากสีสันตามสไตล์ของคุณ ในด้านการติดตามสุขภาพ มีทั้ง วัดอัตราการเต้นหัวใจ, วัดออกซิเจนในเลือด (SpO2), ติดตามรอบประจำเดือนของคุณผู้หญิง, TruSleep 2.0 ติดตามการนอนหลับ, TruRelax ตรวจสอบความเครียด และอื่น ๆ ที่คอยดูแลสุขภาพของคุณ พร้อมกันนี้ยังมีโหมดออกกำลังกายมากถึง 97 โหมด ทำให้มันสามารถรองรับการออกกำลังกายทุก ๆ แบบของคุณได้ และให้คุณฟิตไปกับเทรนเนอร์ส่วนตัว โดยโหมดแนะนำการออกกำลังกายแบบแอนิเมชัน ให้เลือกเล่นอีก 12 รูปแบบ และอีก 44 ท่ามาตรฐาน ช่วยให้คุณออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว สมาร์ทวอทช์ Xiaomi Amazfit Verge Lite GPSรูปภาพจาก amazfit.comราคา 2,509 บาท* Amazfit Verge Lite เป็นสมาร์ทวอทช์ อีกตัวจากค่าย Xiaomi ที่เป็นจอสี ตัวเรือนเป็นทรงกลม ขนาด 1.3 นิ้ว ดูสวยงาม วัสดุทำจากพลาสติกเสริมแรง (reinforced plastic) สายนาฬิกาเป็นซิลิโคนที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ มีน้ำหน้กโดยรวมประมาณ 46 กรัม มาในดีไซน์ที่เรียบง่าย ดูหรูหรา สามารถสวมใสได้ในทุก ๆ สถานการณ์ ใช้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิเซล ซึ่งถือว่ามีความละเอียดมากหากเทียบกับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน และยังมีแบตเตอรี่ขนากใหญ่ ทำให้รุ่นนี้มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 20 วัน เลยทีเดียว ในด้านของฟังก์ชันต่าง ๆ รุ่นนี้ก็มีครบครัน การติดตาม (การนับก้าว, ติดตามการนอน, คำนวณแคลอรี่, ระยะความสูง, ระยะเดินทาง) การนับการเต้นของหัวใจสามารถตรวจสอบชีพจร แจ้งเตือนจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ (ตื่นเต้น, ดีใจ, ตกใจ หรือเครียด) ได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นยังมีโหมดกีฬาให้เลือกเล่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เดิน, วิ่งกลางแจ้ง, วิ่งลู่ไฟฟ้า หรือปั่นจักรยานกลางแจ้ง เป็นต้น และยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย แถมคุณยังสามารถควบคุมเพลงที่คุณกำลังฟังอยู่จากมือถือ ผ่านทางนาฬิกา Xiaomi Amazfit Verge Lite Smart watch ได้อีกด้วย ถือเป็นรุ่นที่มีดีไซน์สวย มีประสิทธิภาพ และราคาไม่สูงมาก เหมาะสำหรับทุก ๆ คน หากคุณสนใจสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่น ๆ ของค่าย Xiaomi คุณสามารถดูข้อมูลได้ที่ สมาร์ทวอทช์ xiaomi รุ่นไหนดีที่สุด
รีวิว Amazfit T-Rex Smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะรูปภาพจาก amazfit.comราคา 2,799 บาท* Amazfit T-Rex เป็นสมาร์ทวอทช์หรือนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นยอดนิยม มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบสุดเท่ ดูหรูหรา พรีเมี่ยม สามารถใส่ออกงานได้สบาย ๆ และมาในราคาที่ประหยัดมาก รุ่นนี้ใช้หน้าจอทรงกลมขนาด 1.3 นิ้ว เป็นจอแสดงผลภาพ AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล เป็นระบบสัมผัส กระจก Corning Gorilla 3 ที่แข็งแรงทนทาน มาพร้อมการป้องกันรอยขีดข่วยและรอยนิ้วมือ วัสดุตัวเรือนเป็นโพลีเมอร์ ซึ่งมีความแข็งแรง และทนทานสูง เหมาะกับทุกกิจกรรม สวมใส่สบายด้วยน้ำหนักรวมเพียง 58 กรัม เท่านั้น สำหรับฟังก์ชันการใช้งานรุ่นนี้มีครบทุกด้าน มีระบบเซ็นเซอร์ทั้ง วัดระยะ, วัดแสง, วัดหัวใจแบบออปติคอล, ไจโรสโคป, ตรวจจับการเคลื่อนไหว และมาตรวัดความดันอากาศ ส่วนการติดตามก็มีทั้งการนับก้าว, ติดตามการนอน, การคำนวณแคลอรี่, จับระยะความสูง และจับระยะเดินทาง ส่วนการการแจ้งเตือนก็มีครบ รองรับ GPS สามารถป้องกันกันน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร สำหรับรุ่นนี้ให้ความจุแบตเตอรี่มาที่ 390 แอมป์ ใช้เวลาชาร์จ ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่สามารถใช้งานทั่ว ๆ ไปได้นานถึง 20 วัน สำหรับเจ้า Amazfit T-Rex ถือเป็น Smartwatch ที่มีดีไซน์เท่มาก ๆ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้งาน ในราคาเท่านี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
รีวิว Huawei Watch GT 2e (46 มม.) สมาร์ทวอซ์ สำหรับคนรักสุขภาพรูปภาพจาก consumer.huawei.comราคา 2,990 บาท* GT 2e เป็นสมาร์ทวอซอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งานครับ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ในด้านออกกำลังกายมาให้แบบครบครัน มาพร้อมใช้หน้าจอทัชสกรีน พาแนล AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ที่ให้ความคมชัด สีสันสดใส สามารถอ่านค่าต่าง ๆ ได้ง่าย ตัวเรื่อนได้ดีไซน์มาให้ดูเรียบหรู เหมือนกับนาฬิกาจริง ๆ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย สวมใส่ได้ทุกโอกาส โดยส่วนใหญ่มาจากโลหะ และพลาสติกที่มีคุณภาพ ช่วยช่วยเพิ่มความทนทาน แต่ยังคงมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย และให้สัมผัสการสวมใส่สุดพรีเมี่ยม โดยรุ่นนี้ป้องกันน้ำได้ที่ 5ATM ช่วยให้คุณสวมใส่ทำกิจกรรมทางน้ำได้อย่างมั่นใจ ตอบโจทย์ทุก ๆ กิจกรรมของคุณได้เป็นอย่างดี ทำงานบนชิป Kirin A1 ที่มีความรวดเร็ว พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยดูแลสุขภาพครบครัน มีทั้ง โหมดการออกกำลังกายแบบกำหนดเองถึง 85 โหมด โหมดออกกำลังกายระดับมืออาชีพ 15 โหมด การบอกข้อมูลการออกกำลังกายที่คุณจำเป็นต้องรู้ เซ็นเซอร์ต่าง ๆ ทั้ง TruSeen วัดอัตราการเต้นของหัวใจ SpO2 วัดระดับออกซิเจนในเลือด เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์วัดความดันอากาศ และอื่น ๆ และมีคุณสมบัติด้านการติดตาม ทั้ง การนับก้าว การนอนหลับ การคำนวณแคลอรี่ การจับระยะการเดินทาง และนับการเต้นของหัวใจ ถือเป็นสมาร์ทวอซที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี แถมรุ่นนี้ยังมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม และฟังก์ชันที่ครบครัน หากกำลังมองหารุ่นที่มีความคุ้มค่าราคาไม่แพงอยู่ต้องรุ่นนี้เลยครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Xiaomi Mi Watch สมาร์ทวอทช์รูปภาพจาก mi.comราคา 3,490 บาท* มาต่อกันที่นาฬิกาอัจฉริยะจากค่าย Xiaomi หรือ Mi โดยตรง Mi Watch สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดที่ได้เพิ่งตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย ดูพรีเมี่ยม บางและเบา โดยมีน้ำหนักไม่รวมสายเพียง 32 กรัม เท่านั้น ตัวเรือนเป็นทรงกลม ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ สามารถกันน้ำได้ในระดับมาตรฐาน 5ATM หน้าปัดขนาดใหญ่ 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล เป็นหน้าจอสี AMOLED ซึ่งให้สีสันที่สวยงาม คมชัด ดูดีเลยที่เดียว หน้าจอครอบทับด้วย Gorilla Glass 3 เพิ่มความแข็งแรง ทนทานต่อใช้งาน สำหรับฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ รุ่นนี้ก็มีมาให้ครบทั้ง โหมดการออกกำลังกาย ซึ่งมีให้เลือกมากถึง 117 โหมด มาพร้อม GPS ในตัว ในส่วนของเซ็นเซอร์ก็มีทั้ง เซ็นเซอร์ตรวจวัดหัวใจ แบบออปติคอล, เซ็นเซอร์ไจโรสโคป, เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และเซ็นเซอร์มาตรวัดความดันอากาศ ส่วนคุณสมบัติการติดตามก็จะมีทั้งการนับก้าว, ติดตามการนอน, การคำนวณแคลอรี่ และติดตามระยะเดินทาง ซึ่งช่วยดูแลสุขภาพของคุณอย่างใกล้ชิด และก็ยังมีการแจ้งเตือนที่ทำงานได้เป็นอย่างดี สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อรับการแจ้งเตือนผ่านหน้าปัด ช่วยให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับแบตเตอรี่รุ่นให้ความจุมาที่ 420 แอมป์ สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 16 วัน เลยทีเดียว หากคุณต้องการสมาร์ทวอทช์ที่มีดีไซน์สวย ๆ ฟังก์ชันครบ ๆ และสามารถสวมใส่ไปได้ในทุกสถานการณ์ รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ
รีวิว สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Fitbit Inspire HRราคา 3,790 บาท* Fitbit Inspire HR เป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่สามารถติดตามการทำงานของร่างกายเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย ดูไม่มีอะไร แต่ฟังก์ชันที่ให้มานั้นจัดเต็มมาก ไม่ว่าจะเป็น ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดและติดตามก้าวเดิน แคลอรี่, วิเคราะห์ผลการนอนและการออกกำลังกาย, วัดระดับคาร์ดิโอฟิตเนส, ก้าวและระยะทางตามเวลาจริง, ช่วงการหายใจที่แนะนำ, ว่ายน้ำ + ติดตามว่ายน้ำ โหมดและกิจกรรมออกกำลังกายให้เลือกกว่า 15 ชนิด และอื่น ๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมที่หลากหลาย ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย มันจึงสามารถใส่ร่วมกับทุกชุดของคุณได้อย่างไม่มีปัญหา (ดูภาพนอกแบบผ่านๆ แอบมีความคล้ายกับ Huawei Honor Band 5 โดยมีให้เลือกซื้ออยู่ 4 สี ได้แก่ สีขาว ดำ ชมพู และเลือดหมู ซึ่งสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถือเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่เหมาะกับทุกคน
รีวิว Huawei Watch GT2 (42 มม.) สมาร์ทวอทช์ ดีไซน์เรียบง่ายสุดคลาสสิกรูปภาพจาก consumer.huawei.comราคา 3,980 บาท* Huawei Watch GT2 (42 มม.) สมาร์ทวอทช์ยอดนิยม มาพร้อมกับดีไซส์เรียบหรู พรีเมี่ยม มีให้เลือก 2 ขนาด คือ GT2 46 มม.และ GT2 42 มม. สำหรับรุ่น 42 มม. จะมีแยกย่อยออกเป็น 3 รุ่นด้วยกันครับ ได้แก่ Sport Edition, Classic Edition และ Elite Edition ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีสไตล์ที่ต่างกัน สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เหมาะทั้งผู้ชายและผู้หญิง ด้วยขนาดที่กำลังดี ไม่ใหญ่จนเกินไป มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีน AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด HD มีการแสดงผลที่ชัดเจน ตัวเรื่อนผลิตจากโลหะและพลาสติกที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มความทนทาน ให้คุณสวมใส่ได้อย่างมั่นใจ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม ซึ่งทำงานด้วยชิป Kirin A1 ที่รวดเร็ว พร้อมฟีเจอร์การดูแลสุขภาพครบครัน ทั้ง TruSeen วัดอัตราการเต้นหัวใจ SpO2 วัดระดับออกซิเจนในเลือด TruSleep ติดตามการนอน และ TruRelax ช่วยวัดระดับของความเครียด รวมถึงโปรแกรมออกกำลังกาย 15 รายการ และโหมดเทรนนิ่ง 13 รายการ พร้อมมี GPS ที่รวดเร็ว และแม่นยำ โดยสิ่งที่ต่างไปจากรุ่นพี่ 46 มม. คือ รุ่นนี้มีการตัดลำโพงในตัวออกไป ทำให้ไม่สามารถใช้ฟังเพลง หรือใช้รับสายโทรศัพท์เพื่อคุยคุยได้เหมือนรุ่นพี่ แต่จะทำได้เพียงแค่การแจ้งเตือนเท่านั้น และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็จะถูกลดลงมาเหลือเพียง 7 วัน ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ต่างกับรุ่นพี่ (46 มม.) เลยครับ ดังนั้นใครที่ชอบฟังก์ชันของรุ่นท๊อป แต่รู้สึกว่าใหญ่จนเกินไป รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
รีวิว สมาร์ทวอทช์ Garmin Vivosmart 4รูปภาพจาก garmin.co.thราคา 3,990 บาท* สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Garmin Vivosmart 4 รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่สวยงาม มีความบางเฉียบ ทำให้มีน้ำหนักเบา สามารถสวมใสได้ในทุก ๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะสวมใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไป หรือสวมใส่ไปออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส ก็ดูเข้ากับทุกชุด สำหรับรุ่นนี้มีความสามารถเด่น ๆ คือ การวัดอัตราการเต้นหัวใจด้วยเทคโนโลยี Garmin Elevate การวัดระดับออกซิเจนในเลือด การตรวจวัดวิเคราะห์พลังงานที่เราใช้ตลอดทั้งวัน มีโปรไฟล์กิจกรรมออกกำลังกาย คุณสมบัติการฝึก การวางแผนและการวิเคราะห์ และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมการแจ้งเตือนด้านสุขภาพต่าง ๆ เหมาะมาก ๆ สำหรับสายออกกำลังกาย หากคุณสนใจสมาร์ทวอทช์ Garmin รุ่นอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลได้ที่ รีวิว สมาร์ทวอทช์ Garmin รุ่นไหนดีที่สุด
รีวิว สมาร์ทวอทช์ ระดับท็อป Huawei Watch GT 3 (46 มม.)รูปภาพจาก consumer.huawei.comราคา 7,490 บาท* Huawei Watch GT 3 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่มีดีไซน์การออกแบบมาเหมือนกับนาฬิกาจริงมาก ๆ ครับ เรียบหรู ดูพรีเมี่ยมแบบสุด ๆ ช่วยให้คุณสวมใส่ได้ทุกโอกาส ทุก ๆ กิจกรรม ไม่ว่าคุณจะใส่ไปออกกำลังกาย ใส่ไปทำงาน หรือใส่ไปเที่ยวก็ได้ครับ มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.43 นิ้วตัวเรือนออกแบบมาให้มีความหรูหราและดูโฉบเฉี่ยว ฟิลลิ่งการสวมใส่เหมือนกับเราใส่นาฬิกาจริง ๆ ด้านข้างขวามีปุ่ม 2 กดให้ใช้งาน ตัวเรือนโครงสร้างที่ผลิตมาจากสแตนเลส สตีล และพลาสติก ช่วยให้ความทนทาน และมีมาตรฐานการกันน้ำระดับ 5ATM ให้คุณใช้งานได้อย่างยาวนาน รองรับทุก ๆ กิจกรรมของคุณ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ และเซนเซอร์ต่าง ๆ มากมาย ตามสไตล์ของรุ่นท็อปครับ มีทั้ง โหมดออกกำลังกายกว่า 100+ โหมด วัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจด้วย TruSeen 5.0+ และ 8 โฟโตไดโอด วัดค่า SpO2 ตลอดวัน วัดอุณหภูมิผิวหนัง ยกระดับการวิ่ง ด้วย AI Running Coach ผู้ช่วย AI ส่วนตัว มีข้อมูลการวัดผลจากตัวชี้วัด เพื่อช่วยในการประเมินการวิ่ง และความเครียดระหว่างการฝึกซ้อมของคุณ ความถี่ในการฝึกซ้อม ระดับการฟื้นตัว และระดับการฟื้นตัวอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย ช่วยมอบคำแนะนำการฝึกซ้อมอย่างมืออาชีพ ทำให้การออกกำลังกายของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ระบบนำทาง Route Back และมีการรองรับระบบดาวเทียว GPS, Beidou, GLONASS, Galileo และ QZSS ซึ่งจะให้ทั้งประสิทธิภาพและการระบุตำแหน่งแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีไมค์และลำโพงในตัวด้วย ให้คุณสามารถรับสายหรือวางสายด้วยสมาร์ทวอทช์บนข้อมือ หรือจะใช้ฟังเพลงก็ได้ ถือเป็นรุ่นที่มีฟีเจอร์ครบทุกอย่างครับ ใครที่ต้องการความล้ำสมัยรุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีเลือกซื้อ สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ?1. เลือกจากความต้องการในการใช้งานด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้สมาร์ทวอทช์สามารถทำได้หลากหลายอย่างมากขึ้น ซึ่งสมาร์ทวอทช์ ราคาไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนใหญ่มักจะมีฟังก์ชันที่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง มันจึงง่ายสำหรับการเลือกค่ะ หากคุณต้องการนำไปสวมใส่ออกกำลังกายคุณก็ต้องดูฟังก์ชันการออกกำลังกาย แต่ถ้าคุณต้องการสวมใส่เพื่อให้มันดูแลสุขภาพ คุณก็ต้องเลือกรุ่นที่มีดีไซน์สวยงามและมีเซ็นเซอร์การตรวจวัดค่าต่าง ๆ ครบ เป็นต้น 2. ขนาดและดีไซน์นาฬิกาข้อมือถือเป็นแฟชั่น ซึ่งแน่นอนค่ะ มันมีทั้ง นาฬิกาข้อมือผู้หญิง และนาฬิกาข้อมือผู้ชาย ดังนั้นการเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ก็เช่นกัน คุณต้องเลือกขนาดและดีไซน์ที่เหมาะกับคุณ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดีของคุณเอง 3. เลือกตามงบประมาณของคุณแน่นอนค่ะ ถ้าหากคุณจ่ายเงินมากขึ้น ฟังก์ชันต่าง ๆ ที่มีมาให้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็อยู่ที่คุณแล้วว่า ต้องการใช้ฟังก์ชันตัวไหนบ้าง ? หากรุ่นไหนมีฟังก์ชันที่คุณไม่ต้องการ คุณสามารถตัดรุ่นนั้นทิ้งไปได้ เพื่อให้ตัวเลือกของคุณเหลือน้อยลง เพื่อที่คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ 4. ระบบการเชื่อมต่อบลูทูธ (Bluetooth) ถือเป็นการเชื่อมต่อที่สำคัญ ซึ่งใช้ในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อรับการแจ้งเตือนต่าง ๆ ซึ่งในบางรุ่นมันสามารถทำได้มากกว่าแค่รับการแจ้งเตือน นอกจากนี้สมาร์ทวอทช์บางรุ่น สามารถให้คุณโหลดเพลงเข้าไปใส่ไว้ได้ด้วย เพื่อให้คุณนำหูฟังบลูทูธ, หูฟังออกกำลังกาย หรือหูฟัง True Wireless มาเชื่อมต่อ เพื่อฟังเพลงในระหว่างที่คุณออกกำลังกายได้ นอกจากบลูทูธแล้วในบางรุ่นก็สามารถเชื่อมต่อไวไฟได้ และบางรุ่นยังสามารถรองรับ GPS ได้ด้วย หากคุณต้องการใช้งานก็อย่าตรวจสอบในจุดนี้ด้วย บทสรุปสำหรับ สมาร์ทวอทช์ หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ในกลุ่มนี้ จะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น มีฟังก์ชันที่มากขึ้น และก็ยังมีการแสดงผลที่ดีขึ้นด้วยหากเปรียบเทียบกับกลุ่มสมาร์ทวอทช์ราคาไม่เกิน 2,000 บาท หากถามถึงความคุ้มค่าเราคงไม่สามารถตอบคุณได้ค่ะ ซึ่งคุณต้องพิจารณาและตัดสินด้วยตนเอง เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ มีรุ่นไหนที่ถูกใจบ้างรึเปล่า ? สำหรับทั้งหมดที่กล่าวมารุ่นที่ดูคุ้มค่าที่สุดเราขอยกให้กับ Huawei Watch GT 2e ซึ่งแม้ว่ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นเก่าแล้ว แต่นั่นก็คือข้อดีค่ะ เพราะมันทำให้ราคาลดลงมากแต่ฟังก์ชันไม่ได้ลดไปไหนเลย และยังมีดีไซน์ที่สวยงามอีกด้วย สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรีวิว นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ครั้งนี้ มันจะเป็นประโยชน์สำหรับประกอบการซื้อ Smart Watch ของคุณไม่มากก็น้อยนะคะ |