วิดีโอ YouTubeการศึกษาวิชาเคมี จะประกอบด้วยการศึกษาเนื้อหา ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่กัน เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเนื้อหามากยิ่งขึ้น โดยการทำปฏิบัติการจะช่วยสนับสนุนการเรียนรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ด้าน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์มากมายแก่ผู้เรียน การทำปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการเคมีอาจมีสภาวะที่เสี่ยงต่ออันตราย ผู้ทำปฏิบัติการจึงควร ตระหนักถึงความปลอดภัยต่อตนเองและทรัพย์สินในห้องปฏิบัติการ โดยในห้องปฏิบัติการควรมี อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยอย่างเพียงพอแก่การใช้งาน มีข้อแนะนำแก่ผู้ทำปฏิบัติการด้วยความ ระมัดระวัง และมีความพร้อมที่จะแก้ไขอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งข้อเสนอแนะและข้อควรปฏิบัติ ในการใช้ห้องปฏิบัติการเคมี มีดังนี้ ข้อควรปฏิบัติเมื่ออยู่ในห้องปฏิบัติการ 1. ควรใส่เครื่องแต่งกายให้รัดกุม และเหมาะสม ไม่ควรใส่เสื้อผ้าหลวมหรือคับเกินไป 2. หากผมยาวให้มัดผมให้เรียบร้อย 3. ควรสวมเสื้อปฏิบัติการทุกครั้งเมื่อทำการทดลองและถอดเสื้อปฏิบัติการออกเมื่อเสร็จสิ้นการทดลอง ไม่ควรสวมเสื้อปฏิบัติการเดินไปมาทั่วทั้งตึก 4. ควรให้ใส่รองเท้าที่ปิดมิดชิด 5. กรณีเมื่อต้องปฏิบัติงานกับสารเคมีอันตรายควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม (Personal protective equipment) เช่น 6. ควรช่วยรักษา ความสะอาดและความเป็นระเบียบของห้องปฏิบัติการ 7. กรณีเกิดเหตุการณ์หรือกลิ่นผิดปกติในห้องปฏิบัติการควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่นักวิทยาศาสตร์หรืออาจารย์ทราบโดยทันที 8. การใช้เครื่องมือทุกชิ้น นักศึกษาต้องทราบวิธีการใช้งานที่ถูกต้องก่อนปฏิบัติงานจริง การทำความสะอาดบริเวณที่ปนเปื้อนสารเคมี สารเคมีที่ใช้ในการทำปฏิบัติการจะมีสมบัติและอันตรายแตกต่างกันผู้ทำปฏิบัติการจึงควรมี ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำความสะอาดบริเวณที่อาจมีการปนเปื้อนของสารเคมีเพื่อป้องกัน อันตรายจากสารเคมีนั้น ซึ่งข้อแนะนำในการทำความสะอาดบริเวณที่ปนเปื้อนสารเคมีมีดังนี้ 1. สารที่เป็นของแข็งควรใช้แปรงกวาดสารรวมกันตักสารใส่กระดาษแข็งแล้วนำไปทำลาย 2. สารละลายกรดควรใช้น้ำล้างบริเวณที่มีสารละลายหกเพื่อทำให้กรดเจือจางและใช้สารละลาย โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนตเจือจางล้างเพื่อทำลายสภาพกรด แล้วล้างด้วยน้ำอีกครั้ง 3. สารละลายเบส ควรใช้น้ำล้างบริเวณที่มีสารละลายหกและซับน้ำให้แห้ง เนื่องจาก สารละลายเบสที่หกบนพื้นจะทำให้พื้นบริเวณนั้นลื่น จึงควรทำความสะอาดลักษณะดังกล่าว หลายๆ ครั้ง และถ้ายังไม่หายลื่นอาจต้องใช้ทรายโรย แล้วเก็บกวาดทรายออก 4. สารที่เป็นน้ำมัน ควรใช้ผงซักฟองล้างสารที่เป็นน้ำมันและไขมันจนหมดคราบน้ำมัน และพื้นบริเวณนั้นหายลื่น หรือทำความสะอาดโดยใช้ทรายโรยเพื่อซับน้ำมันให้หมดไป 5. สารที่ระเหยง่าย ควรใช้ผ้าเช็ดบริเวณที่สารหยดหลายๆ ครั้งจนแห้ง และในขณะเช็ดถู ต้องมีการป้องกันไม่ให้สารนั้นสัมผัสผิวหนัง หรือสูดไอของสารเข้าร่างกาย 6. สารปรอท กวาดสารปรอทรวมกัน แล้วใช้เครื่องดูดเก็บรวบรวมไว้ ในกรณีที่บริเวณ ที่สารปรอทหกมีรอยแตกหรือรอยร้าวจะทำให้มีสารปรอทแทรกเข้าไปอยู่ข้างใน จึงต้องปิดรอย แตกหรือรอยร้าวนั้นด้วยการทาขี้ผึ้งทับรอยดังกล่าวเพื่อป้องกันการระเหยของปรอท หรืออาจใช้ ผงกำมะถันโรยบนปรอทเพื่อให้เกิดสารประกอบซัลไฟด์แล้วเก็บกวาดอีกครั้งหนึ่ง ความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ 1.1 ความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมี การทำงานเกี่ยวข้องกับสารเคมีโดยมีผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการขาดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและผู้ร่วมงานนอกจากนั้น อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อทรัพย์สินของสถานประกอบกิจการรวมทั้งก่อปัญหาทางสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกสถานประกอบกิจการสารเคมีสามารถทำอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานได้ หากผู้ปฏิบัติงานได้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายอาจเกิดอันตรายได้โดยทันที เช่น มีอาการปวดศีรษะ คลื่นใส้ อาเจียน หายใจลำบาก ผิวหนังไหม้ เป็นต้น และเมื่อร่างกายได้รับสารเคมีสะสมเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้เกิดอาการแบบเรื้อรัง เช่น ระบบประสาทถูกทำลาย ปอดถูกทำลาย เป็นมะเร็ง เป็นต้น สัญลักษณ์แสดงความเป็นอันตรายมีหลายระบบ ในที่นี้จะกล่าวถึง 2
ระบบ ที่ มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ Globally Harmonized System of Classifi cation and Labelling of Chemicals (GHS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สากล และ National Fire Protection Association Hazard Identifi cation System (NFPA) เป็นระบบที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา 1.1.2 ข้อควรปฏิบัติในการทําปฏิบัติการเคมี
การทําปฏิบัติการเคมีให้เกิดความปลอดภัยนอกจากต้องทราบข้อมูลของสารเคมีที่ใช้แล้ว ผู้ทําปฏิบัติการควรทราบเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเบื้องต้นทั้งก่อน ระหว่าง และหลังทําปฏิบัติการ ดังต่อไปนี้ ขณะทําปฏิบัติการ 2) ข้อปฏิบัติในการใช้สารเคมี 2.1 อ่านชื่อสารเคมีบนฉลากให้แน่ใจก่อนนําสารเคมีไปใช้ 2.2 การเคลื่อนย้าย การแบ่ง และการถ่ายเทสารเคมีต้องทําด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งสารอันตราย และควรใช้อุปกรณ์เสริม เพื่อป้องกันความเสียหายของฉลากเนื่องจากการสัมผัสสารเคมี 2.3 การทําปฏิกิริยาของสารในหลอดทดลอง ต้องหันปากหลอดทดลองออกจากตัวเอง และผู้อื่นเสมอ 2.4 ห้ามชิมหรือสูดดมสารเคมีโดยตรง 2.5 การเจือจางกรด ห้ามเทน้ําลงกรดแต่ให้เทกรดลงน้ํา 2.6 ไม่เทสารเคมีที่เหลือจากการเทหรือตักออกจากขวดสารเคมีแล้วกลับเข้าขวดอย่างเด็ดขาด 2.7 เมื่อสารเคมีหกในปริมาณเล็กน้อยให้กวาดหรือเช็ด แล้วทิ้งลงในภาชนะสําหรับทิ้ง สารที่เตรียมไว้ หากหกในปริมาณมากให้แจ้งครูผู้สอน หลังทําปฏิบัติการ 1) ทําความสะอาดอุปกรณ์ และวางหรือเก็บในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้ รวมทั้งทําความสะอาดโต๊ะทําปฏิบัติการ 2) ก่อนออกจากห้องปฏิบัติการให้ถอดอุปกรณ์ป้องกันอันตราย 1.1.3 การกําจัดสารเคมี 1.2 อุบัติเหตุจากสารเคมี 1. ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนสารเคมีออก และซับสารเคมีออกให้มากที่สุด 2. กรณีเป็นสารเคมีที่ละลายน้ําได้ ให้ล้างสารเคมีด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านปริมาณมาก 3. กรณีเป็นสารเคมีที่ไม่ละลายน้ํา ให้ล้างด้วยน้ำสบู่ 4. หากทราบว่าสารเคมีที่สัมผัสร่างกายคือสารใด ให้ปฏิบัติตามข้อกําหนดในเอกสารความ ปลอดภัยของสารเคมี
- การปฐมพยาบาลเมื่อสูดดมเเก๊สพิษ 1. ออกจากบริเวณที่มีเเก๊สพิษทันที 2. นำผู้ป่วย ออกจากบริเวณที่เกิดเหตุไปยังที่มีอากาศบริสุทธิ์ 3. ประเมินการหายใจและการเต้นของหัวใจ ถ้าไม่มีให้ผายปอดและนวดหัวใจ
สัญลักษณ์อันตรายจากสารเคมี สัญลักษณ์แสดงอันตรายจะแบ่งออกตามประเภทของอันตราย โดยใช้รูปภาพสีดำเป็น สัญลักษณ์แสดงอันตรายบนพื้นสี่เหลี่ยมจัตุรัส การกำจัดของเสียจากห้องปฏิบัติการ ข้อมูลอยู่ไฟล์ด้านล่างนะคะ |