รี ไฟแนนซ์ รถยนต์ ให้ผ่อนน้อยลง

หากเอ่ยถึงคำว่า “รีไฟแนนซ์” ทุกคนคงเข้าใจดีว่า คือ การขอสินเชื่อก้อนใหม่มาโปะสินเชื่อก้อนเก่า เพื่อลดดอกเบี้ยให้ต่ำลงและระยะเวลาผ่อนชำระลดลงด้วย


สังเกตเห็นว่าเวลาขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ในช่วงปีแรกๆ (เช่น 1 – 3 ปีแรก) สถาบันการเงินจะเสนอโปรโมชันเพื่อจูงใจผู้ขอกู้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำและเป็นแบบคงที่ แต่หลังจากหมดช่วงโปรโมชัน ผู้ขอกู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นแบบลอยตัว ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น


การรีไฟแนนซ์ ทำได้ทั้งขอสินเชื่อก้อนใหม่จากสถาบันการเงินเดิม หรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแห่งใหม่มาจ่ายเงินกู้ก้อนเดิม เช่น ปี 2558 ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน A และปี 2562 ต้องการรีไฟแนนซ์


กรณีที่ 1 : ขอสินเชื่อก้อนใหม่กับสถาบันการเงิน A เพื่อจ่ายเงินกู้ก้อนเดิม

กรณีที่ 2 : ขอสินเชื่อก้อนใหม่กับสถาบันการเงิน B เพื่อจ่ายเงินกู้ก้อนเดิมของสถาบันการเงิน A

รี ไฟแนนซ์ รถยนต์ ให้ผ่อนน้อยลง

สำหรับการรีไฟแนนซ์ ทำได้ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย รีไฟแนนซ์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ บัตรเครดิต เป็นต้น  ดังนั้น ก่อนรีไฟแนนซ์ก็ต้องคำนวณว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่


ในขั้นแรกต้องเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงว่าจะช่วยให้ประหยัดได้มากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรีไฟแนนซ์หรือไม่ เช่น ค่าจดจำนองหลักประกัน ค่าใช้จ่ายในการประเมินมูลค่าหลักประกัน   ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำประกัน ค่าปรับให้แก่เจ้าหนี้เดิมในกรณีที่ยุติการกู้ก่อนระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา


หากพบว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงหรือเสียเวลามาก แต่ช่วยประหยัดเงินได้น้อยก็ไม่ต้องทำการรีไฟแนนซ์


ตัวอย่าง การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น และดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ เพื่อประเมินเบื้องต้นก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย รีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือบัตรเครดิต


นาย ก ได้กู้เงินซื้อบ้านจากธนาคาร A เป็นเงิน 2,200,000 บาท โดยกู้มาแล้ว 3 ปี ขณะที่เงินต้น คงเหลือ 2,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยที่จ่ายอยู่เดิม คือ 7% โดยนาย ก กำลังตัดสินใจว่าจะรีไฟแนนซ์ ไปธนาคาร B ซึ่งจะคิดดอกเบี้ยคงที่ 3% เป็นเวลา 3 ปี หลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (ให้สันนิษฐานว่าหลังจากหมดโปรโมชันแล้ว จะใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งเท่ากับอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินเดิม)

รี ไฟแนนซ์ รถยนต์ ให้ผ่อนน้อยลง

ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้

ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์

ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยที่

                                    ประหยัดได้ x จำนวนปีที่ได้

                                    โปรโมชัน

ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ = อัตราดอกเบี้ยที่อยู่สถาบัน

                                    การเงินเดิม – อัตรา

                                    ดอกเบี้ยสถาบันการเงินที่

                                    จะรีไฟแนนซ์

จำนวนปีที่ได้โปรโมชัน = จำนวนปีที่สถาบันการเงิน

                                     แห่งใหม่ให้ดอกเบี้ยต่ำ

                                     กว่าสถาบันการเงินเดิม

คำนวณได้ดังนี้

ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ (ประมาณ)

= 2,000,000 x (7 – 3) x 3

                100

= 240,000 บาท

ดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ประมาณ 240,000 บาท

ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้แก่หน่วยงานราชการ

  • ค่าจดจำนองหลักประกัน (1% ของวงเงินจำนอง แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
  • ค่าอากรแสตมป์ (0.05% ของวงเงินกู้ แต่ไม่เกิน 10,000 บาท)

ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้แก่สถาบันการเงินแห่งใหม่

  • ค่าประเมินหลักประกัน

คำนวณได้ดังนี้

ค่าจดจำนองบ้าน

= 2,000,000 x 1

           100

= 20,000 บาท

ค่าอากรแสตมป์

= 2,000,000 x 0.05

            100

= 1,000 บาท

ค่าประเมินหลักประกัน (ประมาณ)

=3,000 บาท

รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 + 1,000 + 3,000 = 24,000 บาท

เมื่อคำนวณแล้วการรีไฟแนนซ์จะประหยัดเงินได้ประมาณ 240,000 - 24,000 = 216,000 บาท

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ การคำนวณเป็นเพียงตัวอย่าง ควรสอบถามรายละเอียดจากสถาบันการเงินแต่ละแห่งก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์

รี ไฟแนนซ์ รถยนต์ ให้ผ่อนน้อยลง

ปัจจุบัน มีตารางสูตรคำนวณ ซึ่งสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีให้บริการ เพียงแค่กรอกข้อมูลก็สามารถเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็ว         


ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย รีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือบัตรเครดิต ในเบื้องต้นต้องเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายตลอดอายุสินเชื่อเดิม กับสินเชื่อใหม่ที่จะรีไฟแนนซ์ว่าอันไหนต่ำกว่ากัน นอกจากนี้ให้ดูเงื่อนไขอื่นๆ ประกอบ เช่น การรีไฟแนนซ์รถยนต์หรือบ้าน ให้ดูจำนวนเงินผ่อนต่องวด ระยะเวลาการผ่อน หรือเงื่อนไขบางอย่างจากสถาบันการเงิน


ถัดมา ให้ดูค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมของการรีไฟแนนซ์ที่จะต้องจ่ายทั้งหมดว่าเป็นเท่าไหร่ รวมถึงเงื่อนไขการไถ่ถอนสินเชื่อเดิมว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าผิดเงื่อนไขจะต้องเสียค่าปรับด้วย


มาถึงข้อควรดูก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัย รีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือบัตรเครดิต คือ การวิเคราะห์ ด้วยการนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาเปรียบเทียบกับจำนวนดอกเบี้ยทั้งหมดที่จะประหยัดได้ ถ้าดูแล้วเกิดความคุ้มค่าก็ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อทำการรีไฟแนนซ์ตามขั้นตอน อาจลองยื่นเอกสารกับสถาบันการเงินเป้าหมายสัก 3 – 4 แห่ง แล้วเลือกรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินที่ให้วงเงินสูงที่สุด ภายใต้เงื่อนไขการผ่อนชำระและค่าธรรมเนียมที่ใกล้เคียงกัน


แน่นอนการรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัยหรือรีไฟแนนซ์รถยนต์ ทำเพื่อให้เปิดประโยชน์สูงสุด นั่นคือ ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจดำเนินการจะมีรายละเอียด ข้อมูล รวมถึงการเปรียบเทียบ ซึ่งต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วน ถ้าวิเคราะห์ว่ารีไฟแนนซ์แล้วคุ้มค่าก็ต้องทำ แต่ถ้าไม่คุ้มค่าและเสียเวลาก็ใช้สินเชื่อเดิมต่อไป