ข้อดี ข้อเสีย ของการออกกำลัง กาย

เราทุกคนทราบดีว่าการออกกำลังกายนั้นดีกับร่างกายอย่างไร การออกกำลังกายอย่างพอดีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง รูปร่างได้สัดส่วน แต่ถ้าเราออกกำลังกายมากไปล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรา 

1. เกิดการบาดเจ็บของร่างกาย

การออกกำลังกายที่หนักเกินไป จะส่งให้เอ็น กล้ามเนื้อ และข้อต่อต่าง ๆ ถูกใช้งานอย่างหนัก ส่งผลทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ เช่น เอ็นอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งเมื่อเกิดการบาดเจ็บเราไม่ควรฝืนออกกำลังกายต่อ ควรหยุดพักให้ร่างกายฟื้นตัวแล้วจึงเริ่มออกกำลังกาย

2. รบกวนการนอนหลับ

ในบางรายอาจจะมีอาการนอนไม่หลับ จิตใจว้าวุ่น ไม่สงบ เนื่องจากการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา

3. ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง

การออกกำลังกายที่พอดีจะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น ในทางกลับกัน หากออกกำลังกายมากเกินไปจะส่งผลในทางตรงกันข้าม อาจจะทำให้เราป่วยง่าย ดังนั้นเราจึงควรเดินทางสายกลาง ทำทุกอย่างแต่พอดี

4. เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว

ใคร ๆ ก็บอกว่า ออกกำลังกายช่วยให้หัวใจแข็งแรง ซึ่งนั่นก็ถูกแล้ว ถ้าเราออกกำลังกายอย่างเหมาะสม แต่ถ้าออกกำลังกายหนักเกินไปล่ะก็อาจจะทำร้ายหัวใจของเราแทน เพราะหัวใจของเรานั้นก็ไม่ต่างกับกล้ามเนื้ออื่น ๆ ในร่างกาย ถ้าใช้งานอย่างหนักเกินไป ก็สามารถเกิดการบาดเจ็บและอ่อนแรงได้ ส่งผลให้เกิดภาวะล้มเหลวได้เลย

ออกกำลังกายเท่าไหร่ จึงจะพอดี?

การออกกำลังกายแบบคาดิโอ ควรทำอยู่ที่ 150 นาทีต่อสัปดาห์

ตัวอย่างเช่น ออกกำลังกาย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์นั่นเอง แต่ถ้าหากคุณออกกำลังกายระดับที่หนักมาก แนะนำว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว

**อย่างไรก็ตาม คนแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน เช่น อายุ น้ำหนัก รูปร่าง ดังนั้น เราแนะนำว่า ควรปรึกษา เทรนเนอร์ หรือผู้ที่เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้เราออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยกับคุณ

เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ให้ประโยชน์กับปอด หัวใจและกล้ามเนื้อ ข้อแนะนำในการวิ่งคือ ควรยืดกล้ามเนื้อก่อนที่จะวิ่งเพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ และควรวิ่งอย่างน้อย 20 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์

เดิน

เป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด เป็นการออกกำลังแบบแอโรบิกเช่นเดียวกับการวิ่ง การเดินถ้าก้าวขายาวๆ ก็จะได้การยืดกล้ามเนื้อ และหากเดินเร็วขึ้นก็จะได้กำลังกล้ามเนื้อขา ข้อแนะนำคือควรเดินเร็วๆ วันละ 30 นาทีให้ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ สามารถแบ่งช่วงเดินได้นะคะ คืออาจจะแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 10 นาทีค่ะ แต่ละช่วงไม่ควรต่ำกว่า 10นาทีนะคะและต้องเดินเร็วๆ ไม่ใช่เดินเล่น เดินทอดน่องนะคะ จะไม่ได้ผลอะไรค่ะ

ขี่จักรยาน

เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ใช้กล้ามเนื้อขาเพิ่มขึ้น ให้ประโยชน์กับปอด หัวใจและกล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับการวิ่ง แต่ได้น้อยกว่าการวิ่งค่ะ

แร็คเก็ตสปอร์ต

ได้แก่แบดมินตัน เทนนิส สควอช เป็นการออกกำลังกายที่ผสมระวห่างแอโรบิกกับแอนแอโรบิค คือมีหยุดเป็นช่วงๆ ได้ประโยชน์กับหอดและหัวใจ ความแข็งแรงกล้ามเนื้อ แต่มีโอกาสบาดเจ็บเนื่องจากมีการกระแทกลงน้ำหนัก การบิดข้อต่อต่างๆ คนที่อายุมากไม่ควรเล่นกีฬาประเภทนี้ทุกวัน

กอล์ฟ

เป็นการออกกำลังระดับเบาถึงปานกลาง ซึ่งการออกกำลังกายด้วยการเล่นกอล์ฟเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับคนสูงอายุ แต่หากเป็นคนวัยกลางคนลงมาถึงวัยรุ่น การเล่นกอล์ฟอย่างเดียวไม่เพียงพอค่ะ ข้อควรระวังในการเล่นกอล์ฟคือกล้ามเนื้อต้องแข็งแรงและยืดเหยียดดีพอสมควร

พิลาทิส

เป็นการออกกำลังกายที่เน้นเรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วงลำตัวทั้งหมด เน้นเรื่องการวางท่าทางที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมีแหล่งฝึกพิลาทิสจำนวนมาก สามารถฝึกได้ด้วยตนเองค่ะ

ชี่กง ไทชิ

ถือว่าเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เพราะมีความต่อเนื่อง และได้ความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังได้ฝึกความสมดุลของร่างกายและสมาธิ ปัจจุบันการออกกำลังกายประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

โยคะ

เป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก และเป็นการออกกำลังกายที่ดี ได้ความยืดคลายกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสูง มีข้อควรระวังคือคนสูงอายุควรได้รับการฝึกจากขั้นพื้นฐานอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจได้รับการบาดเจ็บได้

การว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และจิตใจแจ่มใส แต่อะไรที่มากเกินไปนักก็คงจะมีข้อเสีย อยู่ด้วย การเล่นน้ำอยู่ครั้งละเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะ ทำให้เกิดผลเสียได้หลายอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าศึกษา ให้ทราบไว้ เพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเรา

การออกกำลังกายตอนเช้าที่เชื่อว่าจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า กับการออกกำลังกายตอนเย็นที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สาวๆ หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วแบบไหนจะดีกว่ากันระหว่างการออกกำลังตอนเช้าและการออกกำลังตอนเย็น วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันค่ะ

 

ข้อดีของการออกกำลังตอนเช้า

 

ข้อดี ข้อเสีย ของการออกกำลัง กาย

 

มีหลายคนทีเดียวที่เลือกจะตื่นเช้าเพื่อมาออกกำลังกาย เพราะสามารถกำหนดเวลาที่แน่นอนได้ พร้อมกับการออกกำลังกายตอนเช้านั้นช่วยให้ร่างกายได้รับอากาศบริสุทธิ์ แสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้านั้นช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตวิตามิน D ได้ด้วย แต่นอกจากนี้แล้วยังมีข้อดีอื่นๆ อีกตามนี้ค่ะ

1. ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ

การออกกำลังกายตอนเช้านั้นช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน และนั่นจึงเป็นสาเหตุว่าใครที่กำลังเข้าสู่ช่วงลดน้ำหนัก จึงควรจะออกกำลังกายตอนเช้ามากกว่าตอนเย็นค่ะ

2. ช่วยให้ร่างกายสดชื่น

คนที่ออกกำลังกายช่วงเช้า หากออกกำลังนอกบ้านก็สามารถรับอากาศบริสุทธิ์มากกว่าตอนเย็น เนื่องจากในตอนเช้านั้นมลพิษยังไม่เยอะมาก ประกอบกับการออกกำลังตอนเช้านั้นช่วยกระตุ้นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นไปจนตลอดทั้งวันได้ค่ะ

 

ข้อเสียของการออกกำลังตอนเช้า

 

ข้อดี ข้อเสีย ของการออกกำลัง กาย

 

ไม่ใช่ว่าการออกกำลังตอนเช้านั้นจะมีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะข้อเสียก็มีเหมือนกันค่ะ ลองไปดูกันว่าข้อเสียของการออกกำลังตอนเช้านั้นมีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้หลีกเลี่ยงได้ค่ะ

 

1. เสี่ยงแก่การบาดเจ็บได้ง่ายกว่า

ด้วยอากาศในตอนเช้านั้นมีความเย็นค่ะ ทำให้หากเราไม่อบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังมากพอ ก็มีโอกาสเสี่ยงแก่การบาดเจ็บได้มากกว่าการออกกำลังกายตอนเย็น เพราะฉะนั้นหากกลัวว่าร่างกายจะบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ต้องให้เวลาในการวอร์มอัพอบอุ่นร่างกายให้มากพอค่ะ

2. ร่างกายยังไม่พร้อมกับการออกกำลัง

หลายคนทีเดียวที่พอตื่นขึ้นปุ๊ปก็รีบไปออกกำลังทันทีเพราะกลัวจะไม่ทันเวลา แต่การที่เราเพิ่งตื่นนั้นทำให้ร่างกายยังไม่พร้อมกับการออกแรงค่ะ ทางที่ดีเราควรเข้านอนให้เร็วเเพื่อที่จะได้ตื่นเช้าก่อนเวลาออกกำลังกายสัก 10 – 20 นาที ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการออกกำลังค่ะ

 

ข้อดีของการออกกำลังตอนเย็น

 

สาวๆ บางคนก็ไม่สะดวกออกกำลังกายตอนเช้า เพราะต้องเร่งรีบออกจากบ้านเพื่อไปทำงานให้ทัน หลายคนจึงเปลี่ยนมาเป็นการออกกำลังกายตอนเย็นแทน เราลองมาดูกันว่าการออกกำลังกายตอนเย็นนั้นมีข้อดีอะไรบ้างค่ะ

 

1. ออกกำลังได้เต็มที่โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเวลา

การออกกำลังกายในตอนเช้านั้นบางครั้งก็สร้างความลำบากให้กับเราได้ เนื่องจากต้องรีบตื่น รีบออกกำลังกายให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปทำงานให้ทันเวลา หากวันไหนที่เราตื่นสาย ก็อาจเป็นเหตุที่จะไม่ได้ออกกำลังกายในวันนั้นค่ะ หากเปลี่ยนเป็นการออกกำลังกายตอนเย็นเราก็จะมีเวลาออกกำลังได้อย่างเต็มที่มากกว่าค่ะ

 

2. ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการออกกำลัง

เนื่องจากการออกกำลังในตอนเช้านั้นเสี่ยงกับการบาดเจ็บมากกว่าหากไม่อบอุ่นร่างกายให้ดีพอ การเลี่ยงมาออกกำลังกายตอนเย็นจึงช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการออกกำลังได้มากกว่าค่ะ

 

ข้อเสียของการออกกำลังตอนเย็น

 

การออกกำลังตอนเย็นนั้นช่วยให้เราไม่ต้องรีบตื่นก็จริง แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ่างเหมือนกัน ซึ่งข้อเสียของการออกกำลังตอนเย็นนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

 

1. เผาผลาญไขมันได้น้อยกว่า

หากเทียบกับการออกกำลังกายตอนเช้าที่ช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันได้นั้น การออกกำลังตอนเย็นถือว่ายังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรค่ะ เนื่องจากในตอนเย็นนั้น ร่างกายจะมีพลังงานสะสมมากว่า ทำให้ร่างกายกว่าจะเผาผลาญพลังงานได้จึงต้องใช้เวลานานกว่าค่ะ

 

2. ส่งผลกระทบให้นอนไม่หลับ

เนื่องจากการออกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า การออกกำลังกายตอนเย็นจึงมีส่วนอย่างมากในการรบกวนให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ค่ะ เพราะเราจะรู้สึกสดชื่นหลังจากออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกว่าง่วงหรืออยากหลับค่ะ

 

ไม่ว่าจะออกช่วงไหนล้วนดีทั้งนั้น อยู่ที่ความพร้อมของร่างกายเราเป็นส่วนใหญ่ เเต่ที่สำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีของท่านสมาชิกอย่างยั่งยืน  ออกกำลังกายให้ครบทุกประเภท ทั้ง การออกกำลังกายเพื่อหัวใจที่แข็งแรง ​(Cardio) กล้ามเนื้อแข็งแรง (Strength) และ มีความยืดหยุ่นของร่างกาย (Flexibility)