แก้ไข ภาษาอังกฤษ คือ edit ครับ เราอ่านแบบไทยๆ ตามตามตัวเลยว่า อีดิด และสามารถสื่อสารกันได้ในองค์กรณ์ของเรา แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้อ่านแบบนี้นะเออ Show
แก้ไข ภาษาอังกฤษแก้ไข ภาษาอังกฤษ มีคำอ่านที่ถูกต้องตามหลักภาษาดังนี้
คำนี้เน้นเสียงพยางค์หน้านะครับ คำว่า edit จะใช้ในแวดวงของหนังสือ หรือภาพยนต์ ซึ่งการแก้ไข ณ ที่นี้หมายถึง การตรวจทาน และแก้ไขในเรื่องเนื้อหาทั้งภาพและเสียง ว่าอันไหนควรตัดออก อันไหนควรเพิ่มเติม ซึ่งเราจะเรียกว่า เป็นบรรณาธิการ หลายๆ คนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นกับคำว่า Make sure / Ensure และ Make it a point / Make a point of ในภาษาอังกฤษ ว่ามีความหมายอย่างไรและจะอยู่ในรูปแบบของประโยคแบบไหน วันนี้พี่ๆ SI-English จึงนำบทความนี้มาให้น้องๆ ได้อ่านกันจะได้ใช้สำนวนภาษาอังกฤษนี้ให้ถูกต้อง Make Sure และ Ensureสำหรับคำแรกอย่าง Make Sure หรือ Ensure มีความหมายว่าตรวจสอบให้แน่ใจ ทำให้แน่ใจ ความหมายอาจจะคล้ายๆ กัน แต่ในระดับภาษารวมทั้งการนำมาใช้งานนั้นมีความแตกต่างกัน โดยคำว่า Ensure เป็นคำที่ทางการมากกว่า Make Sure คำแรกจึงถูกนำมาใช้งานด้านบทความมากกว่า หรืองานที่มีความเกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจและการสื่อสารที่เป็นทางการ ส่วนคำว่า Make Sure จะใช้พูดมากกว่าการเขียนในบทความ ตัวอย่างการใช้Make Sure : I left early to make sure I could get to the airport on time. แปลว่า ฉันออกไปก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไปสนามบินได้ทันเวลา Ensure : I left early to ensure I could get to the airport on time. แปลว่า ฉันออกไปก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไปสนามบินได้ทันเวลา Make Sure : Please make sure we have enough copies of the report for everyone in the meeting. แปลว่า โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรามีสำเนารายงานเพียงพอสำหรับทุกคนในที่ประชุม Ensure : Please ensure we have enough copies of the report for everyone in the meeting. แปลว่า โปรดตรวจสอบว่าเรามีสำเนารายงานเพียงพอสำหรับทุกคนในที่ประชุมMake Sure : Please make sure we have enough copies of the report for everyone in the meeting. แปลว่า โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรามีสำเนารายงานเพียงพอสำหรับทุกคนในที่ประชุม Ensure : Please ensure we have enough copies of the report for everyone in the meeting. แปลว่า โปรดตรวจสอบว่าเรามีสำเนารายงานเพียงพอสำหรับทุกคนในที่ประชุม Make it a point และ Make a point ofคำว่า Make it a point หมายความว่า แนะนำ ตั้งใจ ทำให้เป็นประเด็น หรือทำบางสิ่งบางอย่างให้เป็นจุดสนใจ โดยสำนวน Make it a point นั้นจะต้องตามด้วย to+verb เสมอ ส่วนสำนวน Make a point of จะไม่ค่อยได้นำมาใช้บ่อยนัก แม้ว่าจะมีความหมายเดียวกับ Make it a point แต่จะอยู่ในรูปประโยคที่แตกต่างกัน โดยที่ Make a point of จะตามด้วย verb เติม ing ตัวอย่างการใช้Make it a point : She made a point of inviting the entire family to the party. แปลว่า เธอได้ให้คำแนะนำในการเชิญทั้งครอบครัวเข้าร่วมงานเลี้ยง Make a point of : She deliberately invited everyone because others might think badly of her if she excluded some people from the invitation. แปลว่า เธอตั้งใจเชิญทุกคนเพราะมันบางคนอาจจะคิดไม่ดีต่อเธอ ถ้าหากเธอละเว้นใครสักคนจากการเชิญ Make it a point : I make it a point to treat all my employees fairly. แปลว่า ฉันตั้งใจจะดูแลพนักงานทุกด้วยความยุติธรรม Make a point of : I consciously and deliberately take this action. แปลว่า ฉันรู้ตัวและจงใจที่จะทำแบบนี้ สำหรับน้องๆ ที่สนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษใน สหราชอาณาจักรไอร์แลนด์ แคนาดาสหรัฐอเมริกาออสเตรเลียนิวซีแลนด์ไซปรัสและมอลต้า สามารถ ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาจากพี่ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศของ SI-English ได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปค่ะ
July 27, 2019 4683 วันนี้เรามาเรียนรู้คำและประโยคที่ใช้บ่อยสุดๆ ในจดหมายดีกว่าค่ะ กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ไหม?รับฟรี eBook คำศัพท์ TOEIC 1,099 คำ ที่พบบ่อย (สุ่ม 50 คน/วัน แจก!!! Email บทเรียนภาษาอังกฤษทุกวัน 1 ปี) ข้าพเจ้ายินยอมให้ส่งไฟล์หนังสือ และใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์การตลาด ส่ง eBook เข้า SMS Loading... Thank you!You have successfully joined our subscriber list. 1. Dear …..,– ขึ้นต้นจดหมายด้วยคำทักทาย เช่น Dear Anna, (ถึงคุณแอนนา) 2. Hi ….,– ขึ้นต้นจดหมายแบบเป็นกันเอง เช่น Hi Tom, (สวัสดีทอม)3. To Whom It May Concern:– ถึงองค์กรหนึ่ง อย่างเป็นทางการ โดยที่เราไม่ทราบชื่อ (ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง)4. On behalf of– ส่ง e-mail ในนามของใครสักคน เราจะใช้คำว่า On behalf of (ในนามของ) เช่น I’m sending this email on behalf of Somsri. (ผมส่งอีเมล์หาคุณในนามของสมศรี)5. Regarding the email you sent yesterday.– เป็นการเท้าความถึงเมื่อวาน เพื่อให้ทราบว่าทำไมถึงส่ง e-mail มาวันนี้6.The details are as follows: (รายละเอียดตามนี้เลยครับ)– เป็นการบอกลายละเอียดที่เราต้องการพูดถึง อาจจะระบุเป็นข้อๆ เพื่อให้ผู้รับทราบ7. I am writing to enquire about … (ผมเขียนจดหมายนี้เพื่อสอบถามเกี่ยวกับ…)– เป็นการขึ้นต้น e-mail เพื่อให้ผู้รับทราบถึงสิ่งที่ผู้เขียนต้องการรู้8. Kindly (ได้โปรดตรวจสอบ..)– ส่วนมากจะมากับคำว่า Please เพื่อให้ประโยคดูน่าฟัง และ สุภาพ เช่นPlease kindly revise again. (โปรดแก้ไขงานด้วย)9. Thank you for your cooperation. (ขอบคุณนะครับสำหรับความร่วมมือ)– การเขียนลงท้ายจดหมายด้วยการขอบคุณ เช่นThank you for your interest. (ขอบคุณที่ให้ความสนใจ)Thank you for your patience. (ขอบคุณที่อดทนรอ)Cheers! (ขอบใจนะ)10. Look forward to +Ving (ตั้งหน้าตั้งตารอคอย…)– ประโยคนี้จะเขียนท้ายจดหมาย เช่นI am looking forward to hearing a good news from you. ก็คือ (ตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะฟังข่าวดีจากคุณนะ)อ่านต่อ “รวมวัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษ และวิธีการอ่านที่ถูกต้อง” อ่านต่อ “ภาษาอังกฤษในจดหมายและอีเมล์” อ่านต่อ “รวมประโยคปิดการสนทนาภาษาอังกฤษ” Share กำลังฝึกภาษาอังกฤษอยู่ไหม?รับฟรี eBook คำศัพท์ TOEIC 1,099 คำ ที่พบบ่อย (สุ่ม 50 คน/วัน แจก!!! Email บทเรียนภาษาอังกฤษทุกวัน 1 ปี) ข้าพเจ้ายินยอมให้ส่งไฟล์หนังสือ และใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์การตลาด ส่ง eBook เข้า SMS Loading... Thank you!You have successfully joined our subscriber list. Previous articleความแตกต่างระหว่าง Job กับ Work Next articleEnglish in a beauty Salon ภาษาอังกฤษในร้านเสริมสวย Engnow |